6 ต.ค. 2023 เวลา 09:39 • ความคิดเห็น

เตือนภัย!! มิจฉาชีพรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ "อาชีพในฝัน"

[หลากเรื่องเล่า เคล้าประสบการณ์] {21} เตือนภัย!! มิจฉาชีพรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ "อาชีพในฝัน"
6 ตุลาคม 2566 (GMT +07.00)
มิจฉาชีพสมัยนี้มาในหลากหลายรูปแบบน่าดู ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ...
  • โทรมาเรื่องบัตรเครดิตบอกว่าค้างชำระบัตรเครดิต หรือมาแจ้งว่า พวกเราถูกนำเลขประชาชนไปเปิดบัตร
  • โทรมาและแอบอ้างว่าเป็นตำรวจ (มีทั้งแบบรู้ชื่อเรา ๆ เลยก็มี แล้วมาถาม ๆ ว่าเคยไปที่นั่นที่นี่ไหม)
  • โทรมาทวงหนี้ (คือมาถามถึงชื่อคนอีกคน ว่าพวกเรารู้จักหรือเปล่า)
  • Line (ไลน์) ที่จู่ ๆ ก็แอดมาแล้วพูดจาเหมือนโกรธมาจากไหนไม่รู้ แล้วทำให้อีกฝ่ายสงสัย
  • Scammer (พวกหลอกลวง ต้มตุ๋น) มักจะมาจากช่องทางออนไลน์ มีทั้งหลอกให้รัก หรือหลอกให้ช่วยเหลือ พอได้เงินแล้วก็จากไป มีทั้งการ hack (เจาะเข้าระบบคนอื่น) เพื่อปลอมตัวเป็นเขา และทำทีว่าเดือดร้อน ต้องการให้เพื่อน ๆ ช่วย เลยส่งข้อความส่วนตัวไป หรือแม้แต่การโฆษณาออนไลน์ถึงงานต่าง ๆ ที่ได้เงินง่าย ๆ ทำที่บ้านก็ได้เงิน (และอื่น ๆ)
ล่าสุด ผู้เขียนที่สุดจะมั่นใจในความรอบคอบของตัวเองอย่างเปี่ยมล้นนั้น ก็เกือบจะหลงกลพวกมิจฉาชีพพวกนี้ไปแล้ว...ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวไว้ข้างต้น ผู้เขียนไม่เคยหลงกลเลย (และแทบไม่เสียเวลาคุยด้วยซ้ำ...และยิ่งพวกที่โทรมาแล้วเป็นเสียงจากระบบพูดมาเลย ผู้เขียนก็ตัดสายทันที...เรียกได้ว่าไม่ยอมเสียเวลาไปมากกว่านี้จริง ๆ)...แต่แล้ว...วันหนึ่ง ผู้เขียนก็ได้เห็นประกาศรับสมัครนักพากย์ผ่านทาง Facebook (ซึ่งอันที่จริงก็เห็นมาก่อนหน้านั้นแล้ว 2-3 วัน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก จนวันนั้นแหละที่เริ่มสนใจ)
พอกดเข้าไปดูในเพจ ก็เห็นยอด Like อยู่ที่ประมาณ 2,200 คน พอเข้าไปส่องดูโพสต์ต่าง ๆ ก็...ดูดีประมาณนึง แม้ไม่ค่อยมีคอมเมนต์และมีคนแชร์ แต่ก็ดูไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักสำหรับยอดไลก์ประมาณนี้...มีรูปภาพแบบการตลาดมาเต็ม แล้วก็มีรูปห้องอัดเสียง และมีรูปคนอยู่ในห้องอัดเสียง...
ผู้เขียนก็คิดแล้วคิดอีก แต่เนื่องจาก "งานนักพากย์" เป็นหนึ่งในงานที่เคยเป็นความใฝ่ฝันในสมัยเด็กของผู้เขียน (ซึ่งสมัยนั้นเคยสมัครกับทีวีช่องดังช่องหนึ่งที่เชื่อถือได้ แต่พอตอนประกาศผลก็เงียบไปเลย ไม่ประกาศในเว็บเหมือนที่ผ่านมา...เหมือนเขามีคนที่ตั้งใจให้ผ่านเข้ารอบไปอยู่แล้ว) แล้วพอเห็นโฆษณาซ้ำ ๆ หลายครั้ง (ตามที่ระบบคัดเลือกโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ Facebook คัดมาให้) ผู้เขียนก็ตัดสินใจลองทักแชตเขาไปค่ะ
จากในภาพด้านบน เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นในวันที่ 2ต.ค.66 ที่ผู้เขียนกดคีย์ลัดในระบบ โดยกดคำว่า "สนใจสมัคร" ไป...พอกดแล้ว ทางนั้นก็แนะนำตัว (ชื่อจริง...ที่ไม่รู้ว่าจริงไหม) และส่งไลน์มาให้แอด พร้อมกับแจ้งเลขลงทะเบียนทันทีเลย (ผู้เขียนยังไม่ได้กรอกประวัติอะไรทั้งสิ้นนะคะ แต่เขาแจ้งเลขลงทะเบียนไว้ก่อน แล้วให้แอดไลน์ไปแจ้งเลขนั้นต่อในช่องทางนั้น)
ทว่า...ถ้าสังเกตดี ๆ ผู้เขียนจะเงียบ (คือยังสองจิตสองใจอยู่) แต่แอดมินทางนั้นก็พิมพ์มาอีกครั้งตามที่เขียนว่า "Tues 14:06" นั่นคือวันอังคารที่ 3ต.ค.66 ค่ะ...ผู้เขียนเลยตอบไปว่า กำลังหาข้อมูลบริษัท...ซึ่งผู้เขียนก็กำลังหาข้อมูล แต่ก็ไม่เจออะไรเลย...และวันพุธที่ 4ต.ค.66 แอดมินก็ส่งมาตามผู้เขียนอีกรอบ (ตามที่แสดงในภาพว่า "Wed 17:48)
วันต่อมา...ผู้เขียนก็เลย...เอาก็เอา ลองแอดไลน์ดูก่อนก็ได้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป
พอแอดไลน์ไปแล้ว ข้อความต้อนรับอัตโนมัติก็ขึ้นมาเลย...ผู้เขียนก็เลยลองไปเซิร์ชข้อมูลเลขทะเบียนธุรกิจเลยค่ะ
เฮ้ย...พอลองเซิร์ชหาดูแล้ว...มันมีเลขทะเบียนบริษัทนี้อยู่จริง ๆ ด้วย!? แถมชื่อบริษัทก็ตรงเป๊ะ เลขทะเบียนก็เป๊ะไปอีก...นี่ก็หาจากเว็บทางการอย่างเว็บของ "กรมพัฒนาธุรกิจการค้า"...มันก็...พอเชื่อได้หรือเปล่านะ..?
ทีนี้ ผู้เขียนก็เลยลองคุยและสอบถามทั่วไปต่อดูค่ะ ตามด้านล่างนี้เลย
อืม...มันยังไง ๆ อยู่นะ ทำไมถามแบบรวดเร็วมาก (เรื่องลงทะเบียนทดสอบเสียง) แถมตอนผู้เขียนถามไปว่า มีตำแหน่งอะไรบ้าง ก็เลี่ยงไม่ยอมตอบอีก (ที่ผู้เขียนถาม เพราะตัวผู้เขียนโดนตกเข้ามาถึงการแอดไลน์เพราะคำว่า "นักพากย์" แต่ถ้าท่านผู้อ่านย้อนกลับไปดูในภาพที่ 2 ก็จะเห็นว่าเป็นตำแหน่ง "Announcer" ซึ่งไม่รู้ว่าหมายถึงผู้ประกาศข่าว หรืออะไร)
แต่ก็นะ เนื่องจากผู้เขียนเองก็เห็นว่ามันเป็นโอกาส ก็เลยอยากลองดู ถึงเจ้าหน้าที่จะตอบคำถามไม่ครบก็ไม่เป็นไร ลองบอกไปเลยละกันว่าจะลงทะเบียน...ทีนี้...ก็...เป็นตามภาพด้านล่างนี้เลยค่ะ
จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่(ปลอม ๆ)คนนี้ (และทีมงาน หรืออาจจะระบบ) ทำได้ดีก็คือ การไม่ถามถึงเลขบัตรประชาชน หรือวันเดือนปีเกิด (เพราะข้อมูลสองอย่างนี้ สมัยนี้มันสำคัญมาก ไม่ใช่แบบสมัยก่อนที่จะไปตั้งวันเดือนปีเกิดเป็นรหัสอะไรง่าย ๆ แบบนั้นอีกแล้ว) แต่ผู้เขียนก็ยังรู้สึกตะหงิด ๆ แบบแปลก ๆ อย่างแรกคือ การขอเบอร์โทรศัพท์ ผู้เขียนว่ามันเป็นอะไรที่ส่วนบุคคลมาก ๆ เพราะเบอร์โทรศัพท์สามารถใช้ในการรับ OTP เพื่อยืนยันด้านธุรกรรมการเงิน และอื่น ๆ อีกมากมาย (เป็นข้อมูลที่สำคัญประมาณนึงเลย)
และยังโชคดี ที่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกเอะใจ นั่นก็คือ "ชื่อไลน์" ค่ะ...คือ ชื่อไลน์มันไม่ตรงกับชื่อบริษัท มันจะเฉ ๆ ไปนิดนึง อย่างเช่น ชื่อบริษัท(สมมติ)คือ @AmBlogger ไลน์(สมมติ)คือ @AmBloger คือมันจะมีความคล้ายกันมาก ต่างกันที่ตัวอักษรเพียงตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งชื่อจริง ๆ ตัวอักษรที่ต่างกันคือ D กับ G ค่ะ (ของจริง บริษัทจะใช้ตัว D ในนั้น แต่ในไลน์ที่เจ้ามิจฉาชีพนี่ทำคือใช้ตัว G)
ผู้เขียนก็เลยลองถามไปตามภาพด้านบนนั่นแหละค่ะ ว่าทำไมถึงชื่อต่างกัน...แล้วระหว่างที่รอคำตอบ ผู้เขียนก็เข้าไปดูในเพจอีกครั้งค่ะ...และพบว่า...
เพจนั้น มีคนเข้าไปคอมเมนต์แล้วนี่นา!? พอดีวันก่อนหน้านั้นผู้เขียนเข้าไปดูแล้วมันไม่มีคอมเมนต์ ก็เลยไม่คาดคิดว่าจะมีคอมเมนต์โผล่มาอีก...คือ...มันก็เป็นแค่คอมเมนต์ของคนสองคนนะ แต่ผู้เขียนกลับรู้สึกว่า...มันน่าจะใช่แล้วละ...มิจฉาชีพนั่นแหละ เพราะพวกรับนักพากย์อะไรต่าง ๆ น่าจะงานยุ่งมากจนไม่มาตื๊อให้คนลงทะเบียนหรือเปล่า? แถมยังไม่เคยฟังเสียงผู้สมัครคนนั้นมาก่อนเลยด้วยนะ เอาอะไรมาตื๊อล่ะ?? บวกกับการตอบคำถามที่ตอบไม่ครบบ้าง เลี่ยงไม่ตอบบ้าง...
และชื่อไอดีไลน์ที่ดูแล้วไม่น่าจะพิมพ์ผิดได้ ก็ทำให้รู้สึกจริง ๆ ว่า...มิจฉาชีพแน่ ๆ (แต่พอผู้เขียนเซิร์ชชื่อบริษัท ไลน์มันก็ไม่เด้งอ่ะค่ะ เหมือนบริษัทของจริงที่ถูกแอบอ้างไม่ได้ใช้ไลน์ หรือไม่ก็ใช้ชื่ออื่น หรือถ้าร้ายสุดคือ ตั้งบริษัทมาเพื่อเป็นมิจฉาชีพโดยเฉพาะ)
โชคดีที่ผู้เขียนใช้ไลน์จาก iPad ในการแอดเขาไป ผู้เขียนเลยใช้วิธีบล็อกลบ หลังจากนั้น ใช้เครื่องไลน์ไอดีหลัก เปลี่ยนเบอร์โทรให้เป็นเบอร์ที่ iPad ใช้สำรองข้อมูลไว้ แล้วก็จัดการล็อกอินเบอร์ซ้ำ ให้ไลน์จาก iPad หายไป (ที่แอดด้วย iPad เพราะไม่ค่อยแน่ใจ เลยใช้ไอดีรองแอดไปก่อน...และมันเป็นการตัดสินใจที่ถูกจริง ๆ) หลังจากนั้น ไลน์ iPad ผู้เขียนจะหายไปเลยค่ะ คนที่เคยแอดเพื่อนก็จะหายไปหมดเช่นกัน (ต้องแอดใหม่) คือ จะเหมือนได้ไลน์ใหม่มาเลย (ข้อมูลเดิมที่มีอยู่มีแค่ภาพโปรไฟล์และสติ๊กเกอร์ไลน์เท่านั้น)
และโชคดีอีกอย่างคือ พอผู้เขียนถามเรื่องชื่อไลน์กับเจ้ามิจฉาชีพนี่ไป ผู้เขียนก็เอาไปปรึกษาคนใกล้ชิด 3 คน (ที่อยู่ในวัยเดียวกันหมด) แล้วก็แบบ ไม่น่าไว้ใจจริง ๆ (แล้วก็เห็นคอมเมนต์ในเพจที่เพิ่มเข้ามา...และแอดมินอาจจะยังกดลบไม่ทันด้วย)
ผู้เขียนได้ขอให้คนใกล้ตัวช่วยกัน report (รายงาน) เพจนี้ ว่าเป็นพวกหลอกลวง ซึ่งแก๊งนี้ก็เก่งนะคะ ที่ใช้วิธีให้แอดไลน์มา เพื่อที่ Facebook จะได้จับไม่ได้...ก็กดรายงานไปรวมทั้งสิ้น 6 เครื่อง ไม่รู้จะมีผลอะไรบ้างไหม แต่อยากให้มีผล ไม่อยากให้ใครโดนหลอกอีก (แม้ว่า หากเพจนี้ถูกปิดไป พวกนี้ก็ไปสร้างเพจใหม่อยู่ดีก็ตาม)...คือ...มันแย่มากเลยนะ
พวกเรากว่าจะหาเงินได้แต่ละบาท บางคนลำบากยากเข็ญต้องใช้แรงงานกลางแดดกลางฝน บางคนก็ใช้สมองจนเครียดเกิดความดัน เป็นโรคซึมเศร้า...แต่คนพวกนี้กลับใช้วิธีหลอกลวงคนอื่น...ทำไมไม่เอาความฉลาดและความคิดสร้างสรรค์ในการสรรหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อหลอกคน ไปใช้เป็นความรู้ในการหางานสุจริตแทนล่ะ??
(AmmyMemory)
พอผู้เขียนเจอกับตัวเอง และเกือบจะหลงกล คือมันทั้งเสียความรู้สึก ทั้งเจ็บใจที่คนพวกนี้มันหาเงินบนความทุกข์ของคนอื่น หาเงินจากความกลัวของคนอื่น และหาเงินจากความฝันของคนอื่น...ผู้เขียนอยากขอความร่วมมือท่านผู้อ่านทุกท่าน แชร์เรื่องนี้ให้คนใกล้ตัวให้มากที่สุดนะคะ จะเป็นการแชร์ลิงก์นี้ แชร์จากลิงก์ใน Facebook หรือจะบอกปากต่อปากก็ได้ อย่าให้มีใครที่หลวมตัวหลงกลคนพวกนี้อีก และหากจะให้ข้อมูลส่วนตัวของตัวเองให้คิดให้ดี คิดอีกครั้ง และคิดอีกรอบนะคะ
ป.ล.ใครอยากได้ชื่อเพจ ให้ติดต่อหลังไมค์ได้เลยนะคะ (หวังว่าเพจนั้นจะถูกลบไปแล้วนะ)
(ติดตามเพจ Facebook คลิกที่ภาพ)
#AmmyMemory
โฆษณา