Blockdit Logo (Mobile)
AmmyMemory Blog
•
11 ต.ค. 2023 เวลา 00:30 • การศึกษา

การศึกษาป.โทที่ UK - "Dissertation" (Part 1)

[หลากเรื่องเล่า เคล้าประสบการณ์] {4} การศึกษาป.โทที่ UK - "Dissertation" (Part 1)
การศึกษาป.โทที่ UK
Dissertation - Part 1
17 ตุลาคม 2558 (GMT +07.00)
(Revised version: 13 มกราคม 2560)
(วันที่โพสต์ อิงตามโพสต์ต้นฉบับในบล็อก AmmyMemory.blogspot.com)
อารัมภบท
อืม...ผู้เขียนไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ว่าควรจะเขียนประสบการณ์ของตัวเองจากการไปเรียนปริญญาโทที่ประเทศสหราชอาณาจักร(UK)โดยเริ่มจากตรงไหนดี เพราะว่าแม้จะเป็นเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง (ซึ่งอาจจะน้อยสำหรับบางท่าน แต่ค่อนข้างมากสำหรับตัวผู้เขียน) แต่ก็ได้รับประสบการณ์มากมายหลากหลายจริง ๆ ค่ะ...ดังนั้น ผู้เขียนจะขอค่อย ๆ เรียบเรียงความคิด และทยอยเล่าประสบการณ์จากเรื่องที่ชัดเจนที่สุดก่อน อย่างเรื่องการทำ Dissertation ของผู้เขียนแล้วกันนะคะ
ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าโพสต์นี้ไม่ใช่ Guide ในการเขียน Dissertation โดยตรง เพราะฉะนั้น หากท่านผู้อ่านท่านใดคาดหวังว่าจะได้เทคนิคตรง ๆ อาจจะผิดหวังได้ค่ะ...แต่อย่างน้อยที่สุด ผู้เขียนก็จะขอแบ่งปันแง่มุมและประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ในพื้นที่ตรงนี้นะคะ...
สำหรับมหาวิทยาลัย UK ที่ผู้เขียนเลือกเข้าไปเรียน คือมหาวิทยาลัย Bournemouth ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอังกฤษ และอยู่ไม่ไกลมากจากเวลส์(Wales) แต่จะค่อนข้างไกลสก็อตแลนด์(Scotland)ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของ UK...
เมือง Bournemouth นี้ก็เป็นเมืองติดทะเลค่ะ ได้เห็นชายหาดอีกแบบก็แปลกดีเหมือนกัน (ช่วงฤดูหนาวจะอารมณ์ประมาณว่าใส่โค้ทหนาหนักแล้วไปเดินฝ่าลมแรงแถวหาด) ก็ไม่ใช่เมืองที่ใหญ่โตอะไร แต่ก็มีร้านรวงต่าง ๆ ค่อนข้างครบและใช้ได้ทีเดียว(ในตัวเมือง)ค่ะ ผู้เขียนก็เคยอาศัยอยู่ที่เมืองนี้อย่างสงบสุขซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ (ส่วนที่ไม่สงบสุข ไว้จะมาเขียนเล่าเป็นหัวข้ออื่น ๆ ต่อไปนะคะ~~)
เขียน Proposal
ในการเขียน Proposal นั้น เปรียบเสมือนร่างใจความสำคัญขนาดย่อมของ Dissertation ค่ะ โดยแต่ละที่และแต่ละคณะจะไม่เหมือนกัน บางคณะก็มีแบบฟอร์มเป็นคีย์คำถามสำคัญมาแล้วให้พิมพ์ตอบไปให้เรียบร้อย (ต้องพิมพ์แบบจริง ๆ จัง ๆ อธิบายให้เห็นภาพนะคะ ไม่ใช่พิมพ์เหมือนถามคำตอบคำ) แต่บางคณะก็ให้ทำราวกับเป็นเรียงความย่อม ๆ ขนาดพันสองพันกว่า words ก็มีค่ะ ซึ่งคณะของผู้เขียนนั้น โชคดีที่เป็นในกรณีของแบบฟอร์มค่ะ
การเขียนนั้น จะว่ายากก็ไม่ยาก แต่จะว่าง่ายก็ไม่เชิง เพราะเหมือนเป็นการหาแนวทางการวิจัยของตัวเองให้เจอภายในเวลาอันสั้น แต่ก็พอโอเคที่หากมีกรณีต่าง ๆ ที่ทำให้ตัว Dissertation นั้นเบนออกจากตัว Proposal หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มเติม ก็สามารถทำได้...กล่าวสรุปง่าย ๆ เลยก็คือ Proposal นี้เป็นเหมือนแนวทางในการเริ่มต้นเขียน Dissertation นั่นเองค่ะ (ซึ่งจะใช้หลัก ๆ ในช่วงเริ่มเขียนเท่านั้น)
เตรียมตัวเขียน Dissertation
สำหรับมหาวิทยาลัยใน UK นะคะ เท่าที่ผู้เขียนทราบมา บางที่ก็จะกำหนดเอาไว้ว่า จำนวน words ของการเขียน Dissertation (สำหรับป.โท) จะต้องเป็นจำนวน 15,000 words แต่บางที่ก็กำหนดเอาไว้ว่าให้เขียนถึง 20,000 words ค่ะ (ในม.ที่พี่ชายของผู้เขียนจบมา เป็นสถาบันแห่งหนึ่งทางเหนือของ UK ให้เขียน 20,000 words ค่ะ) อันที่จริง แม้แต่ม.ของผู้เขียนเอง แค่แยกแคมปัสกัน ก็ให้เขียนไม่เท่ากันแล้วค่ะ...
มหาวิทยาลัยบอร์นมัทที่ผู้เขียนจบมา จะมี 2 แคมปัส คือแคมปัสใหญ่อย่าง Talbot Campus ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมของ School of Tourism และอีกที่คือ Lansdowne Campus ซึ่งเป็น Business School ค่ะ (ผู้เขียนเรียนอยู่ที่ Talbot คณะเกี่ยวกับการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว)
ซึ่งใน School of Tourism นี้ จะจำกัด words อยู่ที่ 15,000 words โดยห้ามเกินจากนี้เด็ดขาด เพราะถ้าเกินจะโดนหักคะแนน! (ถ้ายิ่งเกินเยอะ ยิ่งหักคะแนนโหดค่ะ) ทว่า อีกแคมปัสนึงที่เป็นของเหล่านักศึกษา Business School กลับให้เขียนอย่างต่ำ 15,000 words ซะอย่างนั้นค่ะ...
ใน Dissertation ของผู้เขียนจะแบ่งเป็น 5 บทค่ะ ซึ่งที่นี่เขาอนุโลมว่าถ้าจะควบบทที่ 4 กับ 5 เข้าด้วยกันเลยก็ได้ โดยจะเรียงเป็น Introduction, Literature Review, Methodology, Findings และ Discussions ค่ะ (ซึ่ง 2 บทหลัง คนในคณะผู้เขียนส่วนใหญ่จะขอที่ปรึกษาควบเป็น Findings and Discussions ค่ะ...ผู้เขียนเองก็ไม่ยกเว้น ขอรวมเช่นกันค่ะ) ทำให้บทที่ 5 กลายเป็น Conclusions and recommendations แทนค่ะ
ส่วนใหญ่ จำนวน words ในแต่ละบท ก็ควรที่จะเป็นสัดส่วนเท่ากันกับจำนวน % คะแนนที่จะได้รับในส่วนนั้น ๆ ค่ะ อย่างเช่น ถ้าในชีทคู่มือระบุเอาไว้ว่า ในส่วนของ Literature Review จะเป็น 25% ของคะแนนรวม จำนวน words ของ Lit. Rev. ก็ควรจะเป็น 25% ของ words ทั้งหมดค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น จำนวน words ของแต่ละบท ผู้เขียนคิดว่าน่าจะไม่ต่างกันมากนักในแต่ละมหา'ลัย แต่อย่างไรก็จะขึ้นอยู่กับม.นั้น ๆ ด้วยนะคะ
และโดยปกติ ช่วงที่เขียน Dissertation จะเป็นช่วงที่เรียนทุกวิชาจบหมดแล้วค่ะ ซึ่งเหล่านักเรียนนักศึกษาก็จะมีเวลาทั้งวันเป็นเวลาหลายเดือนในการเขียน Dissertation เลยค่ะ...ก็ต้องแบ่งเวลาให้ดีเนอะ เพราะในแต่ละวัน จะสามารถโฟกัสกับงานตลอดทั้งวันก็ได้หรือจะไม่โฟกัสเลยทั้งวันก็ได้...โดยสำหรับตัวผู้เขียน จะให้เวลากับงาน 2/3 ต่อวันค่ะ และอีก 1 ส่วนก็จะเป็นช่วงพักผ่อน (ไม่รวมเวลากิจวัตรประจำวัน เช่น ทำอาหาร ซักผ้า ทำความสะอาด นู่นนี่นั่นนะคะ~~)
ส่งท้าย
หัวข้อ Dissertation ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง ยังไม่จบเพียงเท่านี้นะคะ ยังมี Part อื่น ๆ ตามมาแน่นอนค่ะ...แต่กลัวท่านผู้อ่านจะตาลายกันไปก่อน ครั้งนี้เลยขอพักไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ^^
ใน Part หน้า จะเป็นเรื่องของการเปลี่ยน Supervisor ค่ะ...ผู้เขียนก็หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะ ว่าโพสต์นี้จะมีประโยชน์แก่ผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย ขอบคุณที่เสียสละเวลาเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ พบกันใหม่โพสต์หน้าค่ะ :))
Image credit: iwriteessays.com
อ่านบทความฉบับเต็ม
(ติดตามเพจ Facebook คลิกที่ภาพ)
#AmmyMemory #การเขียนDissertation #proposal #Dissertation #UK #เล่าประสบการณ์ #หลากเรื่องเล่าเคล้าประสบการณ์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา