12 ต.ค. 2023 เวลา 10:45 • การศึกษา

การศึกษาป.โทที่ UK - "Dissertation" (Part 2)

[หลากเรื่องเล่า เคล้าประสบการณ์] {5} การศึกษาป.โทที่ UK - "Dissertation" (Part 2)
การศึกษาป.โทที่ UK
Dissertation - Part 2
17 ตุลาคม 2558 (GMT +07.00)
(Revised version: 13 มกราคม 2560)
(วันที่โพสต์ อิงตามโพสต์ต้นฉบับในบล็อก AmmyMemory.blogspot.com)
Supervisor - เปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษา
ต้องบอกว่า การเขียน Dissertation นั้น สิ่งที่สำคัญมาก ๆ อย่างหนึ่งคือการพบปะพูดคุยกับ supervisor ค่ะ (ไม่เว้นแม้แต่คนที่มั่นใจสุด ๆ ก็ยังต้องไปพบเช่นกัน)...Supervisor ในที่นี้ เปรียบเสมือนอ.ที่ปรึกษาเฉพาะการเขียน Dissertation ของเรา ๆ เลยค่ะ และเท่าที่ผู้เขียนทราบมา แม้แต่การเรียนป.โทในไทยที่ต้องเขียนสารนิพนธ์ ก็ต้องมีที่ปรึกษาเช่นกัน (เพราะฉะนั้น น่าจะมีที่ปรึกษาเป็นสากลเนอะ?)
สำหรับ Supervisor ของผู้เขียนนั้น เป็นคนที่ผู้เขียนลำบากตรากตรำ(ใช้ลูกตื๊อ)กว่าจะได้มาซึ่งอาจารย์ที่คาดหวังค่ะ T^T...อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งคิดอะไรในแง่ลบเกี่ยวกับอาจารย์ท่านอื่น ๆ นะคะ ไม่มีอาจารย์ท่านไหนที่ไม่ดีหรอกค่ะ เพียงแต่สไตล์การสอนหรือการให้คำแนะนำอาจจะแตกต่างกันออกไปก็เท่านั้น...
สำหรับผู้เขียนนะคะ ตามปกติแล้ว ม.ที่ผู้เขียนอยู่จะมีเจ้าหน้าที่มหา'ลัยเป็นผู้จัดสรรอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านที่นักศึกษาต้องการวิจัยค่ะ อย่างเช่น ถ้าหัวข้อวิจัยใน Dissertation มีเกี่ยวกับ Social Media หรือสื่อออนไลน์ต่าง ๆ อาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้หรือเคยค้นคว้าวิจัยเกี่ยวเนื่องกับทางด้านนี้มาก่อนก็จะได้รับมอบหมายให้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาแก่นักศึกษาคนนั้นค่ะ
(ต้องเป็นกรณีที่อาจารย์คนนั้นยังมีโควตาเหลือสำหรับการเป็นที่ปรึกษาด้วยนะคะ เพราะได้ยินมาว่า หากรับเกินโควตา อาจารย์ท่านนั้นก็จะไม่ได้รับค่าเหนื่อยแต่อย่างใดเลยค่ะ)
ในตอนแรกนั้น อาจารย์ที่ได้กลายมาเป็นที่ปรึกษาของผู้เขียน เป็นอาจารย์ผู้ชายท่านหนึ่งค่ะ ซึ่งในตอนแรก ผู้เขียนไม่ได้คิดอะไรเลยมากไปกว่า 'เคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนนะ?' ด้วยความที่ผู้เขียนคุ้น ๆ ว่า ใช่ชื่อนี้หรือเปล่านะ ที่เป็นคนเข้มงวดกวดขันกับการให้คะแนนมากจนเกินไป?? แต่สงสัยได้ไม่นานนักก็ได้คำตอบค่ะ เพราะพี่สาวที่รู้จักที่นั่นท่านหนึ่งได้ถามผู้เขียนว่าได้ใครเป็นที่ปรึกษา และพอผู้เขียนบอกชื่ออาจารย์ท่านนั้นเท่านั้นล่ะค่ะ
เธอก็บอกกับผู้เขียนเลยค่ะ ว่าอาจารย์ท่านนั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันในแวดวงนักเรียนไทยด้วยกัน ด้วยความที่อาจารย์ท่านเป็นผู้ที่ง่าย ๆ สบาย ๆ และค่อนข้างโอเคกับงานแทบทุกส่วนทันที (อาจจะมีคอมเม้นท์น้อยไปสักหน่อย) ซึ่งพี่คนนั้นก็ย้ำมาค่ะ ว่าอาจารย์ท่านไม่ได้เลวร้าย แต่อาจจะไม่เหมาะกับนักเรียนที่ไม่ Active เพราะว่าอาจารย์จะมีสไตล์ในการให้คำปรึกษาแบบไม่ใช่เชิงกระตุ้นให้รีบทำงาน แต่จะต้องอาศัยความรับผิดชอบของนักเรียนเองเป็นส่วนหลัก ๆ ค่ะ...
ดังนั้น ด้วยความที่ผู้เขียนแม้จะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบเป็นทุนเดิม(แอบอวยตัวเองเล็กน้อย ฮิฮิ) แต่ผู้เขียนต้องการ feedback เยอะ ๆ และบวกกับการที่มีคนรอบข้างมาไซโค(แถมยุขึ้นซะด้วย อิอิ)
ผู้เขียนจึงตัดสินใจขอเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาค่ะ...ทว่า...การจะเปลี่ยนที่ปรึกษาได้นั้น ก็ต้องมีอาจารย์ในดวงใจที่อยากจะเปลี่ยนซะก่อน...ผู้เขียนจึงนึกถึงอาจารย์ผู้หญิงท่านหนึ่งซึ่งเคยสอนผู้เขียนในวิชาหนึ่งค่ะ ผู้เขียนรู้สึกว่า อาจารย์ท่านนี้ เธอเป็นคนที่ค่อนข้างแอคทีฟ กระตือรือร้น(มากกว่าตัวผู้เขียนแน่ ๆ) ด้วยดีกรีสาวออสเตรเลียที่มาเรียนและเพิ่งส่งตัวจบดร.ไปทั้ง ๆ ที่อายุต่างกับผู้เขียนเพียง 2 ปี!!...
แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ นี่ไม่ใช่เหตุผลหรอก อันที่จริงคือ ผู้เขียนรู้สึกว่า ถ้าเป็นอาจารย์ท่านนี้ ที่ไม่ใช่คน UK แต่เป็นคนจากประเทศออสเตรเลีย น่าจะเข้ากับคนชาติอื่น ๆ ง่ายกว่า (เพราะผู้เขียนเคยมีโอกาสได้ไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียเป็นเวลา 1 เดือน จึงค่อนข้างรู้สึกดึกับชาวออสเตรเลียที่อยู่ในประเทศที่เป็นแหล่งรวมของผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์)
และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ผู้เขียนค่อนข้างประทับใจกับการสอนของอาจารย์ท่านนี้ ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย กระตือรือร้นในการสอน เข้าใจความเงียบและไม่ค่อยโต้ตอบกันในห้องเรียนของชาวเอเชียอย่างเรา ๆ ซึ่งตอนแรก ๆ ผู้เขียนก็ไม่กล้าตอบหรือแสดงความเห็นมากนัก เพราะภาษาอังกฤษก็กระท่อนกระแท่น พูดไปก็อายพวกยุโรป
ส่วนเรื่องสำเนียง...อย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ...แต่...ตอนหลังผู้เขียนก็เริ่มตอบในห้อง โดยเริ่มจากตอบในคลาสเรียนของอาจารย์ท่านนี้นี่ล่ะค่ะ ซึ่งนี่ก็ทำให้ผู้เขียนยิ่งประทับใจอาจารย์ท่านนี้มากขึ้นด้วย ^^
ก่อนที่ผู้เขียนจะไปขอเปลี่ยน Supervisor นั้น เพื่อความชัวร์ ผู้เขียนเลยติดต่อไปที่อาจารย์ผู้หญิงท่านดังกล่าวก่อนค่ะ (ที่นี่มักจะใช้ Email ในการติดต่อนัดหมายกันค่ะ) โดยติดต่อไปว่าจะขอนัดให้ดู Proposal ได้ไหม? เมื่ออาจารย์โอเคแล้ว ผู้เขียนก็ได้เข้าพบอ.เป็นครั้งแรกค่ะ (หมายถึงเป็นการพบกันครั้งแรกในเรื่องวิจัย) และเมื่อได้พบกันครั้งแรกแล้ว อาจารย์ก็ได้ให้คำแนะนำที่ทำให้ค่อนข้างประทับใจค่ะ
อย่างเช่น บางจุดที่อาจารย์อ่านแล้วรู้สึกว่ามันน้อยไป อ.ก็จะถามกลับมา ว่ามีอะไรอีกไหมที่อยากจะรู้ (การวิจัยเป็นเสมือนการตั้งคำถามแล้วค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง) คอยถามว่า แน่ใจใช่ไหมว่าที่อยากจะรู้มีแค่ที่ระบุในนี้?
พอผู้เขียนคิดว่าแน่ใจ ก็ตอบไป แต่อ.ก็จะยกตัวอย่างที่เพิ่มขึ้น บอกไอเดียของอ.ที่คิดว่าน่าสนใจ แล้วผู้วิจัย(อย่างผู้เขียน)ล่ะ สนใจไหม? อะไรประมาณนี้ค่ะ กล่าวง่าย ๆ คือ ตอนที่ผู้เขียนรู้สึกว่าไอเดียตันแล้วจริง ๆ อ.ก็จะเสนอความคิดใหม่ขึ้นมาค่ะ (น่าสนใจด้วย รู้สึกว่าพลาดจริง และก็งานเพิ่มขึ้นตามไปด้วยค่ะ!) สรุปเลยก็คือ ประทับใจค่ะ ณ วินาทีนั้นมีแค่ความคิดที่ว่า 'Supervisor ฉันต้องเป็นคนนี้เท่านั้น!!! ย้ากกก' (ไอ 'ย้าก' นี่ไม่ใช่ล่ะ อิอิ)
สุดท้าย ผู้เขียนเลยลองไปขอกับพนักงานมหา'ลัยคนที่ใจดีและดูจะเข้าอกเข้าใจนักเรียนต่างชาติ...แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าเธอเป็นคนชาติไหน...แต่ดูจากชื่อแล้ว ก็น่าจะคนอังกฤษล่ะค่ะ...เพราะที่นี่มักจะมีชื่อแปลก ๆ อย่างเช่น ชื่อไคลฟ์ (แทนที่จะชื่อคลิฟแบบธรรมดา ๆ) หรือชื่อ นาตาเลีย (ตอนแรกดูตัวสะกดผิด นึกว่านาตาลีอยู่นาน) หรืออย่างชื่อ แครอไลน์ (นึกว่าแครอลีน)
ชื่อ คริสปิน ผู้เขียนก็รู้สึกว่าไม่ธรรมดา (ชื่อผู้ชายนะคะ)...ผู้เขียนก็ได้ไปขอเปลี่ยนค่ะ โดยการเปลี่ยนนั้น นศ.ส่วนหนึ่งก็มีขอเปลี่ยน Supervisor โดยการเปลี่ยน หากจะขอเปลี่ยนหลังจากที่ไปพบกับอ.มาแล้ว ออกจะดูหักหาญน้ำใจกันไปสักหน่อยค่ะ (แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนขอเปลี่ยนเวลานั้นนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่อ.ดุเกินไปหรือเข้มงวดเกินไป เป็นต้น)
โดยการขอเปลี่ยนของผู้เขียนนั้น ก็ดำเนินการอยู่หลายวันใช้ได้เลยค่ะ เนื่องจากคิวไม่ลงล็อคบ้าง และมีพนักงานมหา'ลัยบางท่านที่ออกจะดุสักหน่อย เลยดึงดันจะไม่ยอมให้เปลี่ยนน่ะค่ะ...แต่สุดท้าย พนักงานหา'ลัยที่ใจดีคนนั้น ก็ช่วยพูดให้ อีกทั้งตัวผู้เขียนก็ไปพูดกับอ.ท่านนั้นอีกครั้งว่าอยากจะให้อ.เป็นที่ปรึกษาด้วยน่ะค่ะ...ต้องบอกว่า หากแสดงความตั้งใจจริงและความจริงใจ คนที่เข้าใจนักเรียนก็น่าจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ค่ะ
ส่งท้าย
หัวข้อ Dissertation ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง...ยังมีต่อค่ะ อิอิ เช่นเคยค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
อ่านบทความฉบับเต็ม
(ติดตามเพจ Facebook คลิกที่ภาพ)
#AmmyMemory #การเขียนDissertation #Dissertation #UK #เล่าประสบการณ์ #supervisor #หลากเรื่องเล่าเคล้าประสบการณ์
โฆษณา