10 ต.ค. 2023 เวลา 14:17 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 19

หลินชง หัวเสือดาว (2) หอพยัคฆ์ขาว
เกาหยาเน่ยนับแต่วันที่กระโดดกำแพงหนีหลินชงในวันนั้นแล้ว ก็ซึมเศร้าหนักกว่าเดิม แต่ก็ไม่กล้าฟ้องต่อเกาไท่เว่ย วันๆ นอนป่วยซมอยู่ในห้อง มีแต่หัวนกเขาเหี่ยวฟู่อันและลู่หวีโห้วมาเยี่ยม
ลู่เชียนถามว่า “หยาเน่ย ทำไมจึงไม่ร่าเริงเอาเสียเลย”
เกาหยาเน่ยว่า “บอกตามตรง นับแต่ผิดหวังกับเมียของหลินชงถึงสองครั้ง แถมถูกหลินชงเล่นงานเสียกลัวลาน โรคของข้าก็หนักขึ้นทุกวัน ดูท่าข้าคงอยู่ได้อีกไม่เกินสามเดือนหกเดือนแค่นั้น”
ทั้งสองปลอบว่า “หยาเน่ยโปรดวางใจ ไว้เป็นภาระพวกข้าสองคน เป็นตายอย่างไรก็ต้องช่วยให้ท่านสมหวังกับนาง เว้นแต่นางจะชิงผูกคอตายไปเสียก่อนเท่านั้น”
ขณะที่คุยกันอยู่นั้น พ่อบ้านของจวนก็มาเยี่ยมไข้ และเห็นอาการของหยาเน่ยนั้น...
不痒不痛,浑身上或寒或热;
没撩没乱,满腹中又饱又饥。
白昼忘餐,黄昏废寝。
对爷娘怎诉心中恨,见相识难遮脸上羞。
ไม่คันไม่ปวด หนาวร้อนทั่วกาย
ไม่ทรงไม่ทรุด อิ่มหิวทั่วอุทร
กลางวันลืมกิน กลางคืนลืมนอน
เจอบิดามารดร คับแค้นเหลือระบาย
เจอหน้าสหาย ซ่อนความอายไม่อยู่
พอพ่อบ้านเยี่ยมไข้แล้วกลับออกมาจากห้อง ทั้งสองคนยุดเอาพ่อบ้านไปยังมุมลับแล้วบอกว่า
“หากจะให้หยาเน่ยหายป่วย มีแต่ต้องรายงานท่านไท่เว่ย หาวิธีเล่นงานหลินชงให้ถึงแก่ชีวิตแล้วชิงเอาเมียมาให้หยาเน่ย มิเช่นนั้น หยาเน่ยคงถึงคราวตายเป็นแน่”
พ่อบ้านว่า “เรื่องนี้ไม่ยาก เย็นนี้ผู้เฒ่าก็เพียงรายงานแก่ท่านไท่เว่ยให้ทราบ”
ทั้งสองว่า “พวกข้ามีแผน รอท่านนัดมา”
เย็นนั้น พ่อบ้านก็รายงานต่อเกาไท่เว่ยว่า
“อาการของหยาเน่ยหาใช่ป่วยจากโรคใดอื่น หากแต่ป่วยด้วยเมียหลินชง”
เกาฉิวว่า “ไปเจอเมียเขามากี่ครั้ง”
พ่อบ้านว่า “นับแต่วันที่ยี่สิบแปดเดือนก่อนที่ศาลเจ้าเยว่ นับมาถึงนี่ได้เดือนกว่า”
เกาฉิวว่า “เป็นเพราะเมียเขา จะเล่นงานเขาอย่างไรดี ข้าตรองดูแล้ว หากคิดเสียดายหลินชง ก็ต้องทิ้งชีวิตลูกข้า เพียงแต่จะเอาอย่างไรดี”
พ่อบ้านว่า “ลู่หวีโห้วกับฟู่อันมีอุบาย”
เกาฉิวว่า “เช่นนั้น ก็ตามสองคนนั้นมาหารือ”
พ่อบ้านตามลู่เชียน ฟู่อันมาเข้าพบ เกาฉิวถามว่า
“เรื่องของหยาเน่ยน้อย เจ้าทั้งสองมีแผนการอย่างไร หากช่วยลูกข้าได้ ข้าจะเลื่อนตำแหน่งเจ้าทั้งสอง”
ลู่หวีโห้วจึงแจงอุบายว่าควรทำเช่นนี้ เช่นนี้ …
เกาฉิวฟังแล้วก็ชมว่า “แผนดี พรุ่งนี้พวกเจ้าก็ไปจัดการแทนข้า”
กล่าวฝ่ายหลินชงสังสรรค์กับหลู่จื้อเซินอยู่ทุกวัน เรื่องข้างต้นก็ไม่ใส่ใจแล้ว ในวันนั้น ทั้งคู่เดินอยู่ปากซอยมุ่งไปลานประลอง มีชายสวมชุดเกราะเก่าๆ มือถือมีดวิเศษ ปักป้ายบอกขายอยู่ริมทาง ปากพูดเหมือนบ่นกับตัวเอง
“ไม่มีใครตาถึงคู่ควรกับมีดวิเศษของข้าเล่มนี้”
หลินชงมัวแต่คุยกับจื้อเซิน เดินผ่านไปโดยไม่ได้สนใจ
ชายนั้นเดินตามหลังมา กล่าวอีกว่า
“มีดดีวิเศษ เสียดายไม่มีใครตาถึง”
หลินชงกำลังคุยอย่างออกรส ไม่ได้ยิน
ชายนั้นตามติดมา กล่าวให้ได้ยินอีกว่า
“ทั่วทั้งตงจิงอันกว้างใหญ่ ไม่มีใครเลยที่รู้จักอาวุธ”
ได้ผล หลินชงสะดุด หันหน้ามา
ชายผู้นั้นชักมีดขึ้นมาสะท้อนแสงแยงตาเล่น
ถึงเวลาคราวเคราะห์มาเยือน หลินชงเสียงกร้าวว่า “เอามาดู” แล้วรับมีดมาชมด้วยกันกับจื้อเซิน
清光夺目,冷气侵人。
远看如玉沼春冰,近看似琼台瑞雪。
花纹密布,如丰城狱内飞来;
紫气横空,似楚昭梦中收得。
太阿巨阙应难比,莫邪干将亦等闲。
ประกายแยงตาเห็น
ยะเยียบเย็นทรวงทิ่มแทง
ลึกล้ำบึงน้ำแข็ง
หิมะทอแสงหยกดี
ลวดลายแลลี้ลับ
คลับคล้ายจากเฟิงเฉิงวี่
ฉาบฟ้าอาบรัศมี
สมที่ฉู่เจากงฝันปอง
ไท่เออ จวี้เชว่ มิเทียบเคียง
ม่อเหย กันเจี้ยง เป็นของเล่นไป
(ตำนานว่ากระบี่หลงเฉวียน 龙泉 ไท่เออ 太阿 สองเล่มถูกฝังไว้ที่ เฟิงเฉิงวี่ 丰城狱)
(ไท่เออ จวี้เชว่ ม่อเหย(เย๋) กันเจี้ยง 太阿 巨厥 莫邪 干将 กระบี่วิเศษในตำนานทั้งสี่)
(ฉู่เจากง 楚昭公 ได้กระบี่ดีในฝัน อู๋อ๋องมาตีเมืองชิงไป แต่ในที่สุดฉู่อ๋องสามารถกู้เมืองกลับมาได้)
หลินชงแลตะลึงหลุดปากว่า “มีดดี ท่านขายเท่าไร”
ชายนั้นตอบ “ราคาเผื่อต่อสามพันก้วน ราคาจริงสองพันก้วน”
หลินชงว่า “สองพันก้วนแม้สมราคา แต่ไม่มีใครตาถึง หากท่านให้หนึ่งพันก้วน ข้าก็จะซื้อ”
“ข้าก็ร้อนเงิน ท่านก็อยากได้ ลดให้ห้าร้อย คิดหนึ่งพันห้าร้อยก้วน”
หลินชงยืนกราน “พันเดียว ข้าถึงซื้อ”
ชายนั้นถอนหายใจ “ทองคำกลายเป็นเศษเหล็ก เอาก็เอา อีกสลึงก็ลดไม่ได้แล้วนะ”
“เช่นนั้นก็ตามข้าไปเอาเงินที่บ้าน” แล้วหันมาบอกจื้อเซิน “ศิษย์พี่ ไปรอที่ร้านน้ำชาก่อน ผู้น้องค่อยตามไป”
“ส่าเจียกลับก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่”
หลินชงไปถึงบ้านนำเงินมอบให้ชายนั้นแล้วถามว่า “มีดเล่มนี้ ท่านได้มาจากไหน”
“เป็นของตกทอดมาจากบรรพบุรุษ แต่บ้านข้ามีปัญหา จึงต้องนำออกขาย”
“บรรพบุรุษของท่านคือใคร” หลินชงใคร่รู้เพราะมีดดีเช่นนี้ เจ้าของไม่ควรใช่คนสามัญ
“บอกออกไป ก็ขายหน้าวงศ์ตระกูล”
หลินชงจึงไม่ซักต่อ
หลินชงพอใจมีดเล่มนี้มาก เฝ้าชื่นชมได้ทั้งวันพลางคิดว่า
“มีดอันยอดเยี่ยม ในจวนท่านเกาไท่เว่ยก็มีมีดวิเศษอยู่เล่มหนึ่งแต่ไม่ยอมให้ใครชม ข้าเคยขอกี่ครั้งท่านก็ไม่ให้ วันนี้ข้าได้มีดเล่มนี้มา คงค่อยหาโอกาสขอเทียบดู”
หลินชงชื่นชมมีดอีกได้ตลอดเย็น ค่ำลงก็เอามีดแขวนไว้ข้างฝา ฟ้าไม่ทันแจ้งก็มายืนดูอีก
วันถัดมาตกเวลาสาย มีทหารรับใช้สองนายมาหา
“ท่านครูฝึกหลิน ไท่เว่ยมีบัญชา ทราบว่าท่านซื้อมีดดีมาเล่มหนึ่ง จึงขอเชิญท่านนำมีดมาเปรียบดู ไท่เว่ยรอท่านอยู่ที่จวน”
หลินชงจึงกล่าวว่า “ใครกันช่างปากสว่างชิงรายงานเสียแล้ว”
หลินชงถือมีดเดินตามมาถามว่า
“ข้าไม่เคยเห็นพวกเจ้าในจวน”
“ผู้น้อยเพิ่งเข้าประจำการใหม่”
พอถึงจวนเข้าไปในห้องโถงแล้วหลินชงก็หยุดรอ ทหารรับใช้ทั้งสองจึงว่า
“ไท่เว่ยอยู่ที่หอด้านหลัง”
พอเลี้ยวบังตามาถึงหอหลังก็ยังไม่เห็นไท่เว่ย หลินชงจึงหยุดรอ
“ไท่เว่ยรอท่านอยู่ด้านใน เชิญท่านครูฝึกตามเข้ามา”
เดินผ่านมาอีกสามประตูถึงบริเวณหนึ่งมีลูกกรงสีเขียว ทั้งสองนำหลินชงมาถึงหน้าหอก็บอกว่า “ท่านครูฝึกโปรดรอสักครู่ ผู้น้อยเข้าไปรายงานท่านไท่เว่ยก่อน”
หลินชงถือมีดยืนรออยู่ที่ระเบียงเป็นครู่ใหญ่ไม่เห็นใครกลับออกมา จึงเอะใจชะโงกม่านเข้าไปดูก็เห็นป้ายชื่อหอสี่อักษรเขียนว่า “หอ ว่าการ พยัคฆ์ ขาว 白虎节堂”
“โถงว่าการแห่งนี้เป็นที่ประชุมข้อราชการทหารอันสำคัญ ไม่อาจละเมิดโดยพลการ”
หลินชงฉุกคิดได้รีบหันหลังจะกลับ ก็พลันได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา สักครู่ก็เห็นตัวว่าเป็นเกาไท่เว่ย
เกาไท่เว่ยเห็นหลินชงยืนถือมีดอยู่จึงถามว่า
“หลินชง ข้าไม่ได้เรียกเจ้า ทำไมจึงเข้าหอว่าการพยัคฆ์ขาวโดยพลการ เจ้ารู้ข้อกฎหมายดีอยู่ไม่ใช่หรือ ในมือเจ้ายังถือมีดจะมาลอบฆ่าข้าหรืออย่างไร มีคนรายงานข้าว่า สองสามวันก่อน เจ้าก็ถือมีดดักรออยู่หน้าจวน ท่าทีคิดร้าย”
หลินชงก้มคำนับ “ไท่เว่ยไม่ได้เรียกพบ ไฉนเลยผู้น้อยจะกล้ามา มีทหารรับใช้สองนายนำผู้น้อยมาที่นี่บอกว่าท่านให้ผู้น้อยนำมีดมาเปรียบ”
“ทหารสองคนนั่น อยู่ที่ไหน”
“ทั้งสองเข้าไปในหอ”
“เหลวไหล ทหารรับใช้หรือจะกล้าเข้าไปในหอ
ทหาร จับตัวเจ้านี่ไว้”
ทหารยี่สิบนายออกมาจากปีกสองข้างอาคารกรูเข้าจับหลินชงเหมือนอินทรีโฉบเหยื่อ
เกาไท่เว่ยว่า “เจ้าเป็นครูฝึกทหารราชองครักษ์ กลับไม่รู้ข้อกฎหมาย บังอาจถือมีดบุกรุกหอว่าการหมายสังหารข้า”
เกาไท่เว่ยจึงสั่งให้กุมตัวหลินชงพร้อมมีดไปชำระความยังศาลไคเฟิง
ตอนก่อนหน้า : ไท่สุ้ยบุปผา
ตอนถัดไป : หนังสือหย่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา