14 ต.ค. 2023 เวลา 08:41 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

มนต์รักนักพากย์ (2023) - จดหมายรักถึงภาพยนตร์ไทยที่ย้อนวันวานพาให้คิดถึง

ขอบคุณมากครับ… ผมดูดีได้เพราะเสียงคุณ
เขียนบท กำกับ และอำนวยการสร้างโดย นนทรีย์ นิมิบุตร
ล่าสุดมีโอกาสได้รับชมเรื่อง "มนต์รักนักพากย์" ภาพยนตร์ไทยเรื่องใหม่ของ Netflix
หลังจากที่ได้รับชม รู้สึกว่า หนังมีอะไรให้น่าพูดถึงเยอะ และถ้าไม่เขียนรีวิวถึงเรื่องนี้ ก็คงเป็นที่น่าเสียดาย ยิ่งหากหลายท่าน พลาดรับชมเรื่องนี้ไป
[ เรื่องย่อ ]
"มานิตย์" (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ) หัวหน้าหน่วยเร่ ทีมฉายภาพยนตร์กลางแปลง กำลังปวดหัวกับยอดขายสินค้าที่ลดลง ทว่าต่อมา เขาได้พบกัน "เรืองแข" (หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ) นักพากย์หญิงที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมให้ดีขึ้น
[ ความรู้สึกหลังชม ]
- อันดับแรก อยากพูดถึง "สารอันทรงพลังถึงความรักที่มีต่อภาพยนตร์"
ไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ถึงหนังไทยที่พยายาม Tribute ถึง "วงการภาพยนตร์" ถ้าดูในฟากฮอลลีวู้ด ก็เห็นได้ทั้งจากเรื่อง The Fabelmans (2022) และ Babylon (2022) ที่เป็นหนังคุณภาพในปีที่ผ่านมา
สำหรับมนต์รักนักพากย์ หนังมาด้วยโทนเรื่องที่คล้ายกับ Babylon กล่าวคือ เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงช่วงเปลี่ยนผ่านยุคของระบบภาพยนตร์จากยุคที่มีการพากย์เสียงสดไปสู่การฉายภาพยนตร์ด้วยระบบเสียงจากต้นฉบับแทน 
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงหลายอย่างที่หลายท่านอาจไม่ทันได้เห็น อย่าง "หน่วยเร่" หรือเหล่าทีมงานที่ตระเวณไปยังพื้นที่ต่าง ๆ  เพื่อฉายหนังกลางแปลง พร้อมกับขายของไปด้วย
ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการแสดงความรักของตัวละครเอกที่มีต่อ "มิตร ชัยบัญชา" นักแสดงอันดับหนึ่งตลอดกาลของวงการภาพยนตร์ไทย หนังช่วยให้เห็นว่า "มิตร" ยิ่งใหญ่มากแค่ไหนต่อจิตใจของผู้คน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคนได้ตบเท้าเข้าสู่วงการหนัง เพื่อตามรอยดาราในดวงใจ
ระหว่างดูจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนังทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับ "ความจริงใจ และแพชชั่น" ที่ถ่ายทอดออกมา... สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เรารับรู้ได้ และเป็นสารอันทรงพลังถึงความรักที่มีต่อภาพยนตร์ไทย ซึ่งพาให้เราอยากย้อนวันวานไปในอดีตเช่นกัน 
(ฟีลลิ่งคล้ายกับหนังญี่ปุ่นเรื่อง Asakusa Kid ที่มีฉายบน Netflix)
- ในส่วนของโทนหนัง รู้สึกว่า กลิ่นอายหนังเหมือนภาพยนตร์ไทยในยุคก่อนสไตล์คุณอุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร
หนังมาด้วยโทน Road Movie เริ่มต้นด้วยแบบสบาย ๆ Introduction, เกิดเหตุการณ์ดราม่าและความขัดแย้ง (Conflict), แล้วทำการคลี่คลาย (Resolution) ในองก์สุดท้าย
โดยรวมหนังทำออกมาได้ค่อนข้างพอดี ทว่าส่วนที่ขาดก็ยังมี เช่น ประเด็น Conflict และประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้เข้มข้น เหมือนยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้เต็มหน่วย 100%
ถ้ามองสำหรับผู้ชมทั่วไป อาจไม่ได้เป็นปัญหา แต่มองเทียบกับคุณภาพในการแข่งขันระดับนานาชาติ หนังยังเติมความหนักและความสมเหตุสมผลเข้าไปได้มากกว่านี้
(อย่างไรก็ดี ถือเป็นหนังไทยที่ชอบมาก)
- สำหรับซีนประทับใจ ขอยกให้ "ฉากสุดท้ายในเรื่อง" ซึ้งและอิ่มเอมในระดับที่ทำให้น้ำตาซึมได้สบาย
- พาร์ทนักแสดง รู้สึกประทับใจทุกคน แต่ที่ต้องยกให้เป็น The Best ขอยกให้บท "มานิตย์" (เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ)
ปกติเห็นจากหนังหลาย ๆ เรื่อง คุณเวียร์แสดงได้ดีอยู่แล้ว มาในเรื่องนี้ คุณเวียร์ยังคงแสดงได้ยอดเยี่ยม ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังสมบูรณ์
- มุมกล้อง แสง สี เสียง และ Production ดีมากสไตล์ Netflix
- ชอบแต่ละเพลงที่ใส่มาในหนังมา เข้ากับบรรยากาศสุด ๆ
[ สรุป ]
อาจจะไม่ใช่หนังไทยที่สมบูรณ์ แต่เป็นหนังไทยที่อยากเชียร์ให้ได้ดูกัน
ที่ชอบที่สุด คือ รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ ให้ความรู้สึกที่หนังไทยเรื่องอื่นไม่สามารถให้ได้ เช่น "ความจริงใจ และความอิ่มเอมใจที่เป็นพลังบวกต่อผู้ชม"
ที่สำคัญ ยังเป็นตัวแทนที่ทำให้เราเห็นภาพของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยได้แจ่มชัดขึ้น
ใครสนใจดูได้บน Netflix !
ป.ล. สำหรับหนังที่มีการกล่าวถึง "มิตร ชัยบัญชา" อีกเรื่องที่ขอแนะนำ คือ October Sonata ใครสนใจแนะนำเลย มีบน Netflix เช่นกัน
ป.ล. 2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากคุยหรือติดต่อกับผมนะครับ
IG: benjireview

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา