17 ต.ค. 2023 เวลา 00:00 • หนังสือ

ฮ.KA-32

เล่าเรื่อง ฮ.KA-32
เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ที่ถนนกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ ช่วงเช้ามืดของวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔ คนจำนวนมากได้เห็นภาพเฮลิคอปเตอร์สีส้มบินผ่าควันไฟสีดำเหนือเปลวเพลิงที่ยังคงโหมลุกไหม้อยู่ด้านล่างเป็นครั้งแรก
เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เป็นอากาศยานปีกหมุนที่ใช้ในการดับเพลิงและกู้ภัย เรียกกันว่า ฮ.ปภ.KA-32 ตามชื่อรุ่นของเฮลิคอปเตอร์ซึ่งผลิตในรัสเซีย
ฮ.ปภ.KA-32 เป็นอากาศยานปีกหมุนที่มีใบพัด ๒ ชั้น ไม่มีใบพัดด้านหลัง จึงทำให้สามารถเข้าเข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นท่ีแคบได้ดี มีเคร่ืองยนต์กำลังสูง ๒ เคร่ือง ความเร็วสูงสุด ๒๖๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะการบินไกล ๖๕๐ กิโลเมตร สามารถยกน้ําหนักภายนอกได้ ๕,๐๐๐ กิโลกรัม
มีถังบรรจุน้ำภายใน ๓,๐๐๐ ลิตร ใช้เวลาบินสูบน้ำจากแหล่งน้ำในเวลา ๑ นาที และยังสามารถใช้กระเช้าตักน้ำ (bucket) ได้ด้วย มีรอกไฟฟ้าติดตัวเครื่องเพื่อใช้ในการโรยตัวจากอากาศยานลงสู่พื้นหรือดึงขึ้นจากพื้นสู่อากาศยานสำหรับทีมกู้ภัย และมีปืนสำหรับฉีดน้ำอยู่ด้านหน้าตัวเครื่องเพื่อใช้ในการดับเพลิงในที่สูง
เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มีใช้กันอยู่ในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์
ฮ.ปภ. KA-32 ได้เริ่มประจำการอยู่ ณ กองพันซ่อมเครื่องบินทหารบก จังหวัดลพบุรี จํานวน ๒ ลํา เมื่อปลายปี ๒๕๖๒ โดยใช้นักบินของกองทัพบกเป็นนักบินประจำเครื่องตาม MOU ที่กองทัพบกทำร่วมกับ ปภ. ไว้
ในปัจจุบัน ปภ.มี ฮ.ปภ.KA-32 ประจำการจำนวน ๔ ลำ จากแผนที่กำหนดกรอบไว้ ๖ ลำ และมีนักบินเฮลิคอปเตอร์บรรจุเป็นของ ปภ.เองแล้วจำนวน ๗ คน สังกัดส่วนบริหารอากาศยาน โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์หญิงคนแรกของไทยซึ่งเคยบินกับภาคเอกชนมาก่อนจะมาอยู่กับ ปภ.
เช้าตรู่ของวันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ปลัดกระทรวงได้แจ้งให้ ปภ.ติดตามสถานการณ์ หากเกินกำลังพื้นที่และถ้าจำเป็นก็ให้ ปภ.พิจารณานำ ฮ.ปภ.KA-32 มาปฏิบัติการช่วยดับเพลิง
จึงมีสั่งการเพื่อเตรียมรับสถานการณ์โดยให้ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย ปภ.ประสานและติดตามกับจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ต่างๆ และตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทีมนักบิน ฮ.KA-32 ที่ประจำการอยู่ลพบุรีจำนวน ๒ ลำ ตรวจความพร้อมของเครื่องและนักบินและให้ออกเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ในทันที
ในขณะเดียวกันให้ทีม ปภ.ส่วนกลางประสานสถานที่จอด ฮ.ที่ใกล้และสะดวกกับการปฏิบัติภารกิจที่สมุทรปราการ เพื่อเป็นฐานเติมน้ำมันและโฟมที่ใช้ผสมดับเพลิง ซึ่งได้รับอนุญาตจาก สนามบินสุวรรณภูมิให้ใช้พื้นที่เป็นจุดระดมทรัพยากรและเป็นที่ส่งกำลังบำรุงให้กับ ฮ.KA-32 และได้มอบหมายให้อีกทีมทำหน้าที่ประสานศูนย์เขต ปภ. หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อเตรียมโฟมสำรองไว้เพราะประเมินสถานการณ์ไว้ว่าอาจจะต้องใช้ปริมาณมากพอสมควร
เมื่อเฮลิคอปเตอร์มาถึง และได้รับฟังสรุปสถานการณ์จากทีมภาคพื้นดินแล้ว ในช่วงบ่ายโมงเศษจึงได้นำเครื่องขึ้นบินสำรวจพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อประเมินสถานการณ์และความปลอดภัยในการบินอีกครั้ง เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย มีความร้อน และกลุ่มควันหนาแน่น และการบินทิ้งโฟมจะต้องบินต่ำ จึงต้องคำนึงความปลอดภัยเป็นหลัก
เมื่อได้รับรายงาน เเละคำยืนยันความพร้อมในการบินปฏิบัติภารกิจจากนักบินจึงได้อนุมัติให้ทำการขึ้นบินเที่ยวแรก
ในเวลา ๑๕.๓๐ การขึ้นบินเที่ยวแรกของ KA-32 เพื่อโปรยโฟมดับเพลิง ไม่ประสบผลสำเร็จแม้เพลิงจะลดลงแต่ยังคงกลับมาปะทุใหม่ ทางทีมนักบินแจ้งขออนุมัติขึ้นบินอีกครั้ง จึงได้หารือและตัดสินใจปรับแผนร่วมกันเปลี่ยนวิธีเป็นการทิ้งน้ำ ๓,๐๐๐ ลิตร ผสมโฟม ๓๐๐ ลิตร เทแบบเต็มพื้นที่ซึ่งปรากฎว่าได้ผล ทำให้คุมเพลิงไม่ให้ปะทุ และลดอุณหภูมิความร้อนในพื้นที่ไฟไหม้ ทำให้การปฏิบัติการภาคพื้นดินคืบหน้าไปได้อย่างดี จนสามารถดับเพลิงในที่สุด
ฮ.ปภ.KA-32 นอกจากปฏิบัติการสนับสนุนการดับเพลิงที่โรงงานหมิงตี้แล้ว ยังภารกิจในการดับไฟป่าทางภาคเหนือในพื้นที่ที่ทีมภาคพื้นดินเข้าถึงยาก ลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย และล่าสุดในปี ๒๕๖๖ คือภารกิจการดับไฟป่าที่นครนายก
เล่าเรื่องโดย นาย Bt
ตุลาคม ๒๕๖๖

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา