22 ต.ค. 2023 เวลา 04:05 • การตลาด

Content that Sells 💰

เทคนิคการทำ Content ✏️
จากเจ้าของ Content Shifu
1. ก่อนจะเริ่มทำ Content ต้องมีเป้าหมายว่า เขียนให้ใครอ่าน โดยแนะนำให้ทำ Persona ซึ่งคือ การสร้างภาพให้ชัดว่า คนที่อ่าน Content เป็นแบบไหน โดยใช้หลัก 5W1H ⁉️
🔸️Who: เขาเป็นใคร เพศ อายุ การศึกษา อาชีพ เป็นต้น
🔸️What: อะไรคือสิ่งที่เขาชอบ และสนใจ ไลฟ์สไตล์เป็นรูปแบบไหน งานอดิเรกคืออะไร
🔸️When: เขาเข้าถึง Content ช่วงเวลาไหนบ้าง
🔸️Where: เขาชอบดู Content จาก Platform อะไร
🔸️Why: ทำไมเขาถึงชอบ Content นี้ เช่น ดูเพื่อความบันเทิง หาคำตอบสิ่งที่ต้องการ หรือเพื่อตัดสินใจอะไร
🔸️ How: เขาชอบดู Content อย่างไร เช่น ชอบอ่าน หรือชอบดูคลิป แบบสั้นหรือแบบยาว
อีกประเด็นคือ การเขียนให้ User หรือ Buyer อ่าน
🔹️User ต้องการรู้ รายละเอียดการสินค้า / บริการ
🔹️Buyer ต้องการรู้ เงื่อนไขราคา ความคุ้มค่า
2. เขียนตามหลัก ROWEE Framework
(อ่านว่า R-O-V) 📋
R - Research หาข้อมูลว่า คนสนใจอะไร
O - Outline วางโครงของเรื้อหา
W - Write ลงมือเขียน
E - Edit ปรับแต่ง หลังเขียน version แรกเสร็จ พักสักครู่แล้วกลับมาอ่านเพื่อแก้ไขอีกครั้ง
E - Enhance เมื่อ publish แล้วต้องวัดผล และพัฒนาให้ดีขึ้น เพราะ online content หลาย platform สามารถแก้ไขได้
3. Research แบ่งเป็น ข้อมูลภายในและภายนอก 💻
🔸️ข้อมูลภายใน 🏢
ค้นหาจาก ทีมขาย หรือทีมบริการ ที่เจอลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะมีข้อมูลเชิงลึกว่า ลูกค้าสนใจอะไร ชอบสินค้าแบบไหน อยากให้พัฒนาสินค้าอะไร มีความเห็นต่อสินค้าและบริการยังไง
🔸️ข้อมูลภายนอก 🔮
ค้นหาได้จากหลาย online tools ทั้งที่ฟรี และเสียเงิน ที่ช่วยในการค้นหาข้อมูล เช่น Google Keyword Planner, Google Trend, Wisesight trend, ZOCIAL EYE, Mandala, Pantip, ChatGPT ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเรา กำลังสนใจอะไร ต้องการแก้ปัญหาอะไรอยู่ แนวโน้มเป็นแบบชั่วคราว หรือยังต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หรือกำลังจะหมดกระแสแล้ว แต่ก็ต้องคัดกรอง เลือกใข้ข้อมูลตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ ข้อมูลจากต่างประเทศก็น่าสนใจ ✈️
เพราะอาจยังไม่มีใครแปลเป็นไทย ยังมีความใหม่
4. Outline เมื่อได้ข้อมูลเพียงพอแล้ว ก็ต้องวางโครงก่อนเริ่มเขียน เพื่อเป็นการจัดระเบียบการเล่าข้อมูล และเห็นภาพว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร สามารถใช้รูปแบบการวางโครงที่เรียนมาตั้งแต่เด็กได้เลย 🖋
🔸️ชื่อบทความ: ชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะเป็นบรรทัดแรกที่คนเห็น และตัดสินใจว่าอยากอ่านต่อไหม
🔸️Introduction: การเลือกใช้ภาษาที่ไม่น่าเบื่อ ไม่เป็นทางการเกินไป แต่ยังคงความสุภาพ เหมือนคุยกับคนรู้จัก ที่กำลังนั่งเล่าเรื่องให้กันฟัง
🔸️Body: ขึ้นกับสไตล์การเขียนของแต่ละคน แต่การเว้นบรรทัด ช่องว่าง Font ขนาดตัวอักษร ความหนาบาง ที่เหมาะสม ล้วนทำให้ Content มีความน่าอ่านมากขึ้น
🔸️Summary: การสรุปด้วย Quote ดีๆ และมี Call to Action (CTA) ว่าผู้อ่านคสรทำอะไรต่อ
และส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การให้ Credit แหล่งที่มา เป็น The Must ซึ่งจะทำให้ Content ของเรามีความน่าเชื่อถือด้วย 🏆
5. Write: หลักการเขียน 🖊
3 วง ในการเขียน Content
Content ที่ดี คือ การที่เราสามารถส่งต่อข้อมูลที่เราต้องการบอก ให้เป็นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายสนใจอยากรู้ โดยอนู่ในรูปแบบที่ Algorithm ชอบ เพราะจะทำให้ กลุ่มเป้าหมายเห็น Content ของเราได้มากขึ้น ✅️
6. Edit: การปรับแก้ 🔎
นอกจากเราจะตรวจทานเองแล้ว
การให้คนอื่นช่วนรีวิวอีกรอบ
จะทำให้เห็นข้อผิดพลาดที่เรามองไม่เห็น
ซึ่งจะทำให้ Content มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
7. Enhance: การพัฒนาให้ดีขึ้น 📈
ข้อดีของ Online Platform
คือ มีระบบหลังบ้าน ช่วยแสดงการวัดผล
คนสนใจส่วนไหนเป็นพิเศษ
หลายๆ Platform เราสามารถ
แก้ไข Content เดิมได้ทันทีเลย
แต่บาง Platform ที่แก้ไขไม่ได้
ก็สามารถพัฒนา Content ใหม่ให้ดีขึ้นได้ 🌟
ยังมีรายละเอียดเกี่ยวการเขียน Content 📖
ให้ถูกหลัก SEO อย่างไร
และเทคนิคการเขียนอื่นๆอีกมากมาย
ใครรักงาน Content
ขอแนะนำว่าเป็นหนังสือที่ไม่ควรพลาด 👍

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา