Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
•
ติดตาม
24 ต.ค. 2023 เวลา 10:52 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอน โลกที่ตาเปล่ามองไม่เห็น
เมื่อเมอร์คิวเรียสได้รับรู้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับสถานะของแอนนาแล้วเขาจึงรีบมุ่งหน้าเดินทางกลับเดลฟท์ทันที คนแรกที่เขาอยากบอกข้อมูลใหม่นี้ก็คือแวนลิวเวนฮอค โชคดีที่แคลส์นัดให้เขารับประทานอาหารเย็นกับแวนลิวเวนฮอควันนี้พอดี
ภายในบ้านของแวนลิวเวนฮอคถูกจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย เมอร์คิวเรียสมองเห็นอุปกรณ์แปลกๆหลายอย่างวางอยู่ซึ่งเขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เดาว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่แวนลิวเวนฮอคใช้ทดลองอะไรบางอย่าง
แวนลิวเวนฮอค ภาพจาก wikipedia
แวนลิวเวนฮอคแนะนำให้เขารู้จักภรรยาชื่อคอร์เนลเลีย สวาลเมียส ซึ่งเขาเพิ่งแต่งงานกับเธอเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง ผู้หญิงอีกคนหนึ่งเป็นลูกสาวชื่อมาเรีย อายุสิบสี่ปี เธอเป็นลูกที่เกิดจากบาบาราซึ่งเป็นภรรยาคนแรก
หากจะเปรียบเทียบจุดเด่นระหว่างแมกดาเลนาและมาเรียแล้วล่ะก็ ความงามของแมดาเลนาจะเป็นที่สะดุดตาของผู้ชายได้มากกว่า แต่ความงามของมาเรียนั้นทำให้ผู้ชายที่อยู่ใกล้เธอรู้สึกกระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวาได้มากกว่า
“อาจารย์เมอร์คิวเรียสครับ ระหว่างที่แม่ครัวกำลังเตรียมอาหารยังไม่เสร็จ ผมมีอะไรจะอวดอาจารย์ครับ มันเป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจอย่างมาก เชิญอาจารย์ตามผมมาครับ” เมอร์คิวเรียสสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงของผู้พูดเต็มเปี่ยมด้วยความสุข
แวนลิวเวนฮอคหยิบอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งบนโต๊ะ รูปร่างเหมือนไม้พายเรือด้ามจิ๋ว ตัวพายมีขนาดกว้างหนึ่งนิ้วยาวสองนิ้ว แวนลิวเวนฮอคยื่นให้เมอร์คิวเรียสดูพร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดให้ฟัง
“อาจารย์ครับ ดูจากภายนอกจะเห็นว่ามันเป็นอุปกรณ์เล็กๆชิ้นหนึ่ง แต่การทำงานของมันไม่ธรรมดาแน่นอน มันจะทำให้ตามนุษย์อย่างเราสามารถเห็นโลกอีกแบบหนึ่งซึ่งไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน เพียงแค่เรามองผ่านรูเล็กๆตรงกลางแผ่น หากอาจารย์ ไม่เชื่อก็ทดลองดูได้เลยครับ” แวนลิวเวนฮอคพูดอย่างหนักแน่น
กล้องขยายของแวนลิวเวนฮอค ภาพจาก quora.com
อุปกรณ์ของแวนลิวเวนฮอคทำจากแผ่นทองเหลืองสองแผ่นประกบกัน ระหว่างแผ่นทองเหลืองมีรูกลมขนาดเล็กรูหนึ่ง ในรูนี้มีแก้วใสทรงกลมขนาดจิ๋วทำหน้าที่เป็นเลนส์ขยายสามารถขยายได้ถึงสองร้อยเท่า ที่ด้านหนึ่งของแผ่นทองเหลืองมีตัวยึดสองตัวเพื่อยึดแท่งโลหะกลมยาวที่มีเกลียวยาวตลอดแท่ง สามารถปรับให้แท่งกลมขึ้นลงได้ และสามารถล็อคให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้ ปลายบนของแท่งกลมเป็นปลายแหลมเหมือนเข็มเพื่อเป็นจุดเล็งตำแหน่งวัตถุ
แวนลิวเวนฮอคหยิบแผ่นกระจกกลมเล็กๆมาอันหนึ่ง มีตัวหมัดที่ตายแล้ววางอยู่ข้างบน เขาวางแผ่นกระจกไว้ตรงขอบหน้าต่างใกล้แสงไฟจากตะเกียง
“ขอให้อาจารย์ใช้แว่นขยายของผมอันนี้ส่องไปที่เจ้าหมัดตัวจิ๋ว แล้วมองผ่านรูเล็กๆตรงกลางครับ”
เมอร์คิวเรียสทำตามที่แวนลิวเวนฮอคแนะนำ
“โอ้พระเจ้า! เจ้าหมัดตอนนี้มันใหญ่เท่าวัวเลยครับ เหลือเชื่อจริงๆ” เมอร์คิวเรียสส่งเสียงพูดอันดังด้วยความตื่นเต้น แล้วหันหน้ามองไปที่แวนลิวเวนฮอคซึ่งอมยิ้มอย่างภูมิใจในสิ่งประดิษฐ์ของตน
“ท่านสร้างเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้อย่างไรครับ? มันอัศจรรย์จริงๆ”
“ตอนผมอายุประมาณสิบสี่สิบห้าปี ผมเป็นเด็กฝึกงานที่ร้านขายเสื้อผ้าในกรุงอัมสเตอร์ดัม เจ้าของร้านสอนให้ผมรู้จักการใช้แว่นขยายส่องดูเนื้อผ้าเพื่อตรวจดูคุณภาพของการทอ ผมจึงนำประสบการณ์นี้มาปรับปรุงคุณภาพของเลนส์ขยายจนสามารถมองเห็นอะไรต่อมิอะไรได้มากกว่าที่เราจะมองเห็นแต่เส้นด้าย”
เมอร์คิวเรียสฟังอย่างตั้งใจ จากนั้นหันหน้ากลับมาส่องดูตัวหมัดอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เขาตั้งใจดูอวัยวะของตัวหมัดซึ่งมีรายละเอียดไม่แพ้สัตว์ใหญ่อย่างช้างม้าวัวควายเลย
แวนลิวเวนฮอคหยิบซองใส่เอกสารอันหนึ่งออกมาจากตู้หนังสือ เขาหยิบแผ่นภาพวาดในซองออกมาอวดเมอร์คิวเรียส
“ภาพวาดเหล่านี้ผมวาดออกมาจากสายตาที่ผมเห็นผ่านเจ้ากล้องอันนี้ครับ”
ภาพวาดโดยแวนลิวเวนฮอค จาก wikipedia
“โอ้โห! มันเป็นภาพที่มีรายละเอียดของสัตว์ตัวเล็กๆชนิดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน นับเป็นบุญตาของผมเลยครับ ภาพเหล่านี้ถือว่ามีคุณค่ามากเลยครับ”
“ผมอยากให้อาจารย์ได้เห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านี้อีก สิ่งที่อยู่กับเราอย่างใกล้ชิดโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย”
“ท่านพูดเสียจนผมชักอยากรู้แล้วสิครับว่าผมจะได้เห็นอะไร”
แวนลิวเวนฮอคยื่นไม้จิ้มฟันให้เมอร์คิวเรียส
“ผมมั่นใจว่าอาจารย์ดูแลรักษาฟันมาอย่างดี ผมอยากให้อาจารย์ลองเอาไม้จิ้มฟันแหย่ที่ซอกฟันสักสองสามครั้งครับ”
เมอร์คิวเรียสลองทำตามแล้วส่งไม้จิ้มฟันคืน แวนลิวเวนฮอคนำไม้จิ้มฟันปาดลงไปบนถาดแก้วที่ใสสะอาด
“ผมขอเชิญอาจารย์ลองใช้กล้องส่องดูที่ถาดแก้วแล้วดูสิว่าอาจารย์จะเห็นอะไร”
เมอร์คิวเรียสหยิบกล้องมาส่องดูที่ถาดแก้วตามที่แวนลิวเวนฮอคบอก
“โอ้โห! ท่านครับผมเห็นสัตว์ประหลาดตัวเล็กๆเคลื่อนไหวยั้วเยี้ยไปมาดูน่าขยะแขยงจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันอยู่ในซอกฟันของผม”
“พวกมันเป็นสัตว์ขนาดจิ๋วครับ ผมตั้งชื่อมันว่า’จุลชีพ’ พวกมันมีหลายตระกูลทีเดียว มันดำรงอยู่ในทุกหนทุกแห่งครับ ถ้าเราตักเอาน้ำจากบ่อที่น้ำนิ่งๆ แล้วส่องกล้องดูเราจะเห็นว่าพวกมันมีอยู่นับล้านตัวเลย”
“ผมเห็นว่าเรื่องนี้ควรที่จะเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับรู้ว่าโลกเรายังมีสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ผมสงสัยว่าทำไมเรื่องใหญ่อย่างนี้ผมกลับไม่เคยได้ยินได้ฟังจากที่ไหนมาก่อนเลยครับ”
แวนลิวเวนฮอคตอบเมอร์คิวเรียสด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า
“ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลไม่ได้กล่าวถึงสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วนี้ ผมขอถามอาจารย์ว่าท่านโนอาห์ได้พยายามนำสัตว์ขึ้นเรือเป็นคู่ๆใช่หรือไม่ครับ? ถ้าคำตอบคือใช่ แต่สำหรับผม ผมคิดว่าท่านโนอาห์ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นกับสัตว์ทุกประเภทเลย ผมสังเกตุเห็นเจ้าสัตว์ตัวจิ๋วเหล่านี้สามารถเพิ่มจำนวนได้ด้วยการแบ่งตัวโดยไม่ต้องมีการผสมพันธุ์เลย”
“ผมคิดว่าที่พระคัมภีร์ ไม่ได้กล่าวถึงพวกมันก็เพราะนั่นเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าในขณะนั้น แต่ปัจจุบันนี้พระองค์คงจะทรงอยากให้มีการเปิดเผยสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา ดังนั้นผมคิดว่าท่านควรเผยแพร่ภาพวาดเหล่านี้ให้สาธารณชนได้รับรู้นะครับ ซึ่งมันจะสร้างประโยชน์แก่คนจำนวนมาก”
“อาจารย์ลองฟังความคิดของผมดูนะครับ ภายในปากของผมอันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วเหล่านี้ ช่องปากของผมเป็นเสมือนโลกของมัน พวกมันต่างก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกอื่นที่อยู่นอกช่องปาก
บางทีพวกมันอาจต้องใช้เวลาเดินทางหลายวันเพื่อข้ามฝั่งจากกระพุ้งแก้มด้านซ้ายมายังฝั่งกระพุ้งแก้มด้านขวา อันมีมหาสมุทรน้ำลายขวางอยู่ พวกมันต่างไม่รู้เลยว่านอกปากยังมีโลกใบใหม่รอมันอยู่
มนุษย์เราต่างคิดว่าโลกใบนี้เป็นอย่างที่ตาเห็น หารู้ไม่ว่าในมิติที่เล็กมากๆ มันเปรียบได้กับโลกอีกโลกหนึ่งที่รอให้มนุษย์สำรวจ
น่าเสียดายที่เจ้าสิ่งมีชีวิตจิ๋วเหล่านี้มันไม่มีประสาทรับรู้เหมือนมนุษย์ พวกมันบางชนิดดูคล้ายหนอนหรือบางชนิดดูคล้ายเมล็ดอะไรสักอย่างที่เคลื่อนไหวไปมา
เมื่อผมแปลงฟันด้วยเกลือ ผมได้ฆ่าพวกสัตว์ตัวจิ๋วไปเป็นจำนวนมาก ทุกครั้งที่ผมแปลงฟันผมจึงรู้สึกว่าผมเหมือนเป็นฆาตกรทั้งๆที่ผมไม่ตั้งใจที่จะฆ่ามัน ผมสงสัยว่าผมจะต้องสำนึกบาปอันนี้หรือไม่?
ดูๆไปผมเหมือนมีอำนาจอันยิ่งใหญ่ในช่องปากของผมที่จะชี้เป็นชี้ตายให้กับเหล่าสัตว์ตัวจิ๋ว แต่ผมไม่สามารถเลือกได้ว่าจะให้ตัวไหนรอดตายหรือไม่รอดตาย”
เมอร์คิวเรียสได้แต่รับฟังโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆออกจากปาก เมอร์คิวเรียสคิดว่าบางทีอาจต้องแก้ข้อความในพระคัมภีร์เพื่อเพิ่มรายชื่อของเจ้าสัตว์ตัวจิ๋วเหล่านี้
จบตอนที่ 44
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากกดติดตามเพจ สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
และให้คอมเมนต์ด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกท่าน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
นวนิยายแปล
นวนิยาย
หนังสือ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องเล่า ไขคดีปริศนาเมืองเดลฟท์( Death in Delft) ผลงานเกรแฮม แบรก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย