Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
•
ติดตาม
25 ต.ค. 2023 เวลา 06:41 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอน ล่าคนร้ายจากแผนที่
ลีเวนส์กับเพื่อนได้กลับมาช่วยกันค้นหาคนร้ายอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้มีการวางแผนกำหนดเส้นทางการค้นหาอย่างรอบคอบจนมั่นใจว่าหากคนร้ายออกจากที่ซ่อนมาเดินบนถนนภายในสิบนาทีจะไม่สามารถรอดสายตาทีมงานไปได้
เมอร์คิวเรียสคิดว่าคนร้ายน่าจะยังซ่อนตัวอยู่ในเมือง และซ่อนตัวไม่ห่างจากบ่อน้ำเกินกว่าพันก้าว และต้องมีระยะห่างจากชุมชนมากพอที่จะไม่ให้ใครได้ยินเสียง
หมอชันสูตรเคยบอกเมอร์คิวเรียสว่าเกอร์ทรูย์ดเสียชีวิตไม่นานก่อนที่ศพถูกพบ ในครั้งนั้นลีเวนส์กับเพื่อนได้ออกค้นหาเกอร์ทรูย์ดทันทีที่รู้ว่าเกอร์ทรูย์ดหายตัวไป ดังนั้นเมอร์คิวเรียสจึงมั่นใจว่าเกอร์ทรูย์ดยังมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ลีเวนส์ออกค้นหา
ถ้าหากตอนนั้นคนร้ายและเกอร์ทรูย์ดยังอยู่ในเมืองเธอก็น่าจะได้ยินเสียงตะโกนหา แต่ทำไมทีมค้นหาถึงไม่ได้ยินเสียงเกอร์ทรูย์ดขานตอบล่ะ? หรือเป็นเพราะเธอถูกคนร้ายปิดปากไว้ไม่ให้ส่งเสียง? คนร้ายน่าจะเตรียมตัวมาอย่างดี นอกจากนี้จากการชันสูตรศพก็ไม่พบร่องรอยฟกช้ำที่ข้อมือข้อเท้าจากการถูกมัดด้วยเชือกหรือโซ่
เมื่อเมอร์คิวเรียสเดินทางไปถึงศาลาว่าการแคลส์ได้เชิญเขาไปพบแวนลิวเวนฮอคซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงในเดลฟท์
เมอร์คิวเรียสได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เขาได้ไปพบมา ซึ่งแวนลิวเวนฮอคตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
เมื่อเมอร์คิวเรียสเล่าจบแวนลิวเวนฮอคหันไปพูดกับแคลส์ว่า
"แคลส์ รบกวนคุณไปเอาแผนที่เมืองให้ผมด่วนเลย ขอฉบับที่ชัดๆ ด้วย"
แคลส์รับทราบแล้วรีบไปที่ตู้เอกสารเลือกหยิบแผนที่ฉบับที่ตนเองใช้งานเป็นประจำออกมาแล้วรีบกลับไปหาแวนลิวเวนฮอคทันที
แคลส์คลี่แผนที่ออกแล้วหยิบของหนักๆ มาทับที่มุมทั้งสี่
แวน ลิวเวนฮอคหยิบกระดาษขนาดเท่าแผนที่มาทาบแล้วกดกระดาษให้แนบกับแผนที่
"ยังใช้ไม่ได้" แวนลิวเวนฮอคบ่นพึมพำ
จากนั้นเขาหยิบกระดาษอีกแผ่นมาทาบเพิ่ม แต่เขาก็ยังส่ายหน้าแสดงความไม่พอใจ ต่อมาเขาหยิบทั้งแผนที่และกระดาษไปทาบที่หน้าต่างขอร้องให้แคลส์และเมอร์คิวเรียสช่วยกันกดมุมทั้งสี่ของแผนที่และกระดาษ เขาถอยหลังออกไปสองก้าว มองไปที่แผนที่ พยักหน้าแสดงความพอใจ จากนั้นเขาได้หยิบปากกาคัดลอกแนวคลอง แนวถนนและสถานที่สำคัญลงบนกระดาษ
"แคลส์ เมื่อผมคัดลอกเสร็จ ผมจะให้คุณใช้กระดาษแผ่นนี้เป็นต้นฉบับแล้วเอาไปให้ช่างไม้แกะสลักลงบนแผ่นไม้เพราะผมต้องการเอารายละเอียดนี้มาใช้งานอีก"
แคลส์พยักหน้ารับทราบ
"แคลส์...ผมมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องให้คุณทำอย่างเร่งด่วน ผมอยากให้คุณออกไปเดินนับก้าวจากที่นี่ถึงโบสถ์นิวเคิอร์ก"
แคลส์พยักหน้ารับทราบแล้วรีบเดินออกไป
ระหว่างที่รอแวนลิวเวนฮอคได้วัดระยะห่างสถานที่สำคัญแล้วจดลงบนกระดาษ เมื่อแคลส์กลับมาพร้อมกับข้อมูล แคลส์บอกว่าเขาได้นับก้าวทั้งตอนไปและตอนกลับแต่ได้ค่าตัวเลขไม่ตรงกัน
"ไม่ต้องกังวล มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันอาจเป็นเพราะขากลับคุณอาจเหนื่อยจึงก้าวขาช่วงสั้นกว่าตอนขาไป ผมจะเลือกตัวเลขที่มากกว่ามาใช้งาน โดยผมจะสร้างวงกลมลงบนแผนที่"
เมอร์คิวเรียสอดสงสัยไม่ได้ว่าแวนลิวเวนฮอกจะทำไปเพื่ออะไร
"อาจารย์ครับ จากที่อาจารย์ประเมินว่าเด็กอาจถูกซ่อนตัวห่างจากบ่อไม่เกินพันก้าว ส่วนคนงานที่ค้นหาต่างมั่นใจว่าจะสามารถหาที่ซ่อนตัวได้นั้น ผมเองไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก เพราะเดลฟท์มีถนนย่อยหลายสาย" แวนลิวเวนฮอคหยุดพูดครู่หนึ่งเพื่อใข้ความคิด จากนั้นจึงพูดต่อไปว่า
"ตอนนี้ผมรู้ว่าระยะจากที่นี่ไปโบสถ์นิวเคิร์กมีกี่ก้าว ดังนั้นผมสามารถสร้างวงกลมรัศมีพันก้าวจากบ่อน้ำได้" แวน ลิวเวนฮอกพูดจบก็ลงมือจับปากกาวาดวงกลมลงบนแผนที่ เมื่อวาดวงกลมเสร็จ แวน ลิวเวนฮอคถามเมอร์คิวเรียสว่า
"ผมอยากรู้ว่าแมกดาเลน่า คูจเปอร์หายตัวไปกี่วัน? ถึงจะเริ่มมีการออกค้นหา และแม่ของแมกดาเลน่ากับเพื่อนบ้านออกค้นหากันอย่างไร?"
"ตัวแม่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมค้นหาเท่าใด แต่เพื่อนบ้านได้มีการออกตามหาด้านทิศใต้และด้านทิศตะวันอออกซึ่งเต็มไปด้วยคลอง จากนั้นก็ได้เดินหาตั้งแต่ย่านอูสเต็นด์ไปจนถึงใจกลางเมือง" เมอร์คิวเรียสตอบ
"ดูจากแผนที่แล้วจะเห็นว่าการค้นหายังคงอยู่ภายในวงกลมทางด้านทิศตะวันออก และตอนนี้เรามีข้อมูลว่าครอบครัวเซตเตนได้ออกค้นหาแอนนาย่านโมลสแลนจนถึงย่านอูสเต็นด์ซึ่งมีระยะใกล้เคียงกับระยะจากอูสเต็นด์ถึงสุดเขตเมืองทางทิศตะวันออก และใกล้เคียงกับระยะจากอูเดอร์เดลฟท์จนสุดเขตเมืองทางทิศตะวันตก ผมอาจประมาณได้ว่าระยะทางจากสะพานทางทิศตะวันตกถึงย่านโมสแลนก็มีระยะทางพันก้าวเช่นกัน" พูดจบแวนลิวเวนฮอคก็วาดวงกลมวงที่สองซึ่งมีพื้นที่ทับซ้อนกับวงกลมวงที่หนึ่ง
"ถ้าหากคนร้ายสวมเสื้อคลุมหนังทำไมจึงไม่มีใครสังเกตเห็นขณะที่พาแอนนาไปด้วยกัน?" เมอร์คิวเรียสถามขึ้นมาลอยๆ
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน และมันก็ไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะค้นหาคำตอบ แต่เป็นหน้าที่ของอาจารย์ต่างหาก" แวนลิวเวนฮอคพูดเหน็บแนม
"เป็นไปได้ไหมครับที่คนร้ายอาจเป็นคนงานของคุณแวนเสตเตน?" แคลส์ออกความเห็น
ความเห็นของแคลส์ประเด็นนี้เมอร์คิวเรียสก็คิดอยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้พูดออกมา แต่ปรากฏว่าแวน ลิวเวนฮอคไม่เห็นด้วย
"มันไม่น่าเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครสังเกตเห็นตัวผู้ร้ายหากมันปรากฏตัว ถ้าผมเห็นแคลส์บนถนนโดยผมรู้จักแคลส์อยู่แล้วว่าเป็นลูกน้องนายกเทศมนตรี หากภายหลังมีใครถามผมว่าผมได้พบแคลส์หรือเปล่า? ผมก็สามารถจำได้ว่าผมได้พบแคลส์ หากคนร้ายเป็นลูกจ้างของแวนเซตเตนจริง พวกคนใช้ก็ต้องรู้จักแม้ว่าพวกเขาจะแต่งตัวคล้ายๆ กันก็ตาม" แวน ลิวเวนฮอคอธิบาย
เมอร์คิวเรียสฟังความเห็นของแวนลิวเวนฮอคจนเพลิน ชายคนนี้ช่างเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงอย่างร้ายกาจ
"ผมว่าสาวใช้อาจกำลังโกหกพวกเรา เธออาจพาเด็กรับใช้ไปที่อื่น" แคลส์ออกความเห็นเพิ่มเติม
"เรามีคำให้การของคนครัวว่าเมื่อสาวใช้พาเด็กรับใช้กลับเข้ามาแล้วก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกอีก ถ้าหากสาวใช้พาเด็กไปที่อื่นเด็กที่ไปด้วยน่าจะรู้ว่าสาวใช้พาไปที่ไหน" แวนลิวเวนฮอคอธิบาย
เมอร์คิวเรียสมองแผนที่อีกครั้งแล้วกล่าวว่า
"ดูจากสถานที่ในรัศมีพันก้าวแล้ว เรายังไม่เห็นความเชื่อมโยง ผมคิดว่าคนร้ายน่าจะมีเวลาเพียงสองสามนาทีในการเดินไปซ่อนตัว ถ้าอย่างนั้นรัศมีวงกลมน่าจะลดลงเหลือเพียงห้าร้อยก้าว"
แวนลิวเวนฮอคได้ฟังข้อคิดเห็นของเมอร์คิวเรียสแล้วจึงได้เขียนวงกลมขึ้นมาใหม่ทำให้พื้นที่วงกลมสองวงทับซ้อนกันลดลง ซึ่งกินพื้นที่ตั้งแต่อาคารคลังแสงซึ่งอยู่ทางทิศใต้ยาวไปจนถึงแบสชั่นทางทิศตะวันออก และแถวโมสแลนทางทิศเหนือ
เมอร์คิวเรียสขอให้แวนลิวเวนฮอควาดวงกลมเพิ่มอีกหนึ่งวงบริเวณที่คาดว่าแมกดาเลนาถูกลักพาตัวไปปรากฏว่าโมลสแลนและบาสชั่นตกอยู่ในพื้นที่วงกลมนี้แต่ไม่ครอบคลุมถึงบ้านเกอร์ทรูย์ดซึ่งอยู่ด้านตะวันตก
"จากวงกลมวงใหม่นี้ คนร้ายน่าจะซ่อนตัวที่ไหนได้บ้าง ที่จะไม่มีใครเห็นและได้ยิน" เมอร์คิวเรียสถามแวนลิวเวนฮอค
"หนทางเดียวที่จะรู้คือออกไปดูของจริงกันดีกว่า" แวนลิวเวนฮอคพูดจบก็รีบหยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินออกไปทันที
แวนลิวเวนฮอคเป็นคนที่เดินเร็วมากจนเมอร์คิวเรียสและแคลส์เดินตามแทบไม่ทัน เขาเดินตัดผ่านตัวตลาด เป้าหมายที่เขาจะไปนั้นไม่อาจคาดเดาได้
แวนลิวเวนฮอคหยุดเดินเมื่อถึงสะพานที่ข้ามไปยังชุมชนที่ทำเกี่ยวกับสิ่งทอ แวนลิวเวนฮอคกลับหลังหันแล้วมองไปที่ตัวเมือง
"ผมคาดว่าคนร้ายและเกอร์ทรูย์ดได้ผ่านมาบริเวณนี้ การเดินจากบ่อน้ำมาที่นี่ไม่น่าจะเดินได้เร็ว" แวนลิวเวนฮอควิเคราะห์ให้ฟัง
"ผมคิดว่าคนร้ายและเด็กอาจจะมุ่งหน้าไปทางตะวันตก" เมอร์คิวเรียสออกความเห็น
"แต่หากเป็นเช่นนั้นคนร้ายคงต้องทิ้งเด็กไว้ที่ซ่อนในช่วงเวลาที่เขาไปลักเด็กอีกคนหนึ่ง เส้นทางที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างโล่งไม่ค่อยมีบ้านเรือน ดังนั้นหากมีเพื่อนบ้านของลีเวนส์สักคนหนึ่งมองมาที่ถนนเขาก็น่าจะสังเกตเห็นคนร้ายได้" แวนลิวเวนฮอคตั้งข้อสังเกต
"ผมรู้มาว่าพ่อของทรินจ์ซึ่งเคยเป็นกัปตันเรือชอบมองดูวิวจากทางหน้าต่าง ซึ่งสามารถมองเห็นถนนเส้นนี้" เมอร์คิวเรียสให้ข้อมูลเพิ่มเติม
"โป๊ะเชะเลย!" แวนลิวเวนฮอคอุทานด้วยความดีใจ
"วิธีการทางวิทยาศาสตร์กำหนดให้เราต้องตั้งสมมุติฐานที่เป็นไปได้ก่อน จากนั้นก็ทำการทดสอบสมมุติฐานเพื่อหาข้อสรุปให้ได้ว่าสมมุติฐานนั้นถูกหรือผิด แต่เราก็ต้องยอมรับว่าพระเจ้าผู้ทรงอำนาจอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ สักวันหนึ่งพระเจ้าอาจทำให้ลูกแอปเปิ้ลอาจลอยขึ้นแทนที่จะตกลงมาจากต้นไม้" แวนลิวเวนฮอคเปรียบเปรย
"แล้วสมมุติฐาน ที่ว่าคืออะไรครับ?" เมอร์คิวเรียสถาม
"คนร้ายมีสามทางเลือก ทางเลือกแรกคนร้ายล่องไปตามคลองจากตะวันตกของเมืองมุ่งไปทางเหนือ ทางเลือกสอง คนร้ายเดินทางจากด้านกำแพงเมืองทางทิศใต้มุ่งไปที่บาสชั่น และทางเลือกสาม คนร้ายเดินทางจากจุดที่เราเพิ่งมามุ่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าเป็นวันอาทิตย์แล้วหากคนร้ายเลือกทางเลือกสามคนร้ายสามารถปะปนไปกับผู้คนที่ต่างมุ่งหน้าไปโบสถ์ คนร้ายต้องพยายามไม่เปิดเผยตน อย่างไรก็ตามทางเลือกนี้เสี่ยงหากมีคนสังเกต
สำหรับทางเลือกหนึ่ง คนร้ายมีโอกาสถูกคนแถวนั้นสังเกตเห็นได้ง่าย ส่วนทางเลือกสองคนร้ายสามารถหลบเลี่ยงคนเห็นได้ดี ไม่ทราบว่าอาจารย์มีความเห็นอย่างไร?"
ขณะเมอร์คิวเรียสกำลังคิดอยู่นั้นแคลส์ได้พูดขึ้นมาก่อนว่า
"ผมไม่เห็นว่าคนร้ายจะเสี่ยงอะไรใรการที่จะเดินปนไปกับผู้คนจำนวนมาก เพราะถ้าเกอร์ทรูย์ดสะบัดมือให้หลุดจากคนร้าย หากคนร้ายพยายามตะครุบตัวเกอร์ทรูย์ดคนที่อยู่รอบตัวก็จะเห็นมันทันที" แคลส์จ้องมองมาที่เมอร์คิวเรียสราวกับจะให้เขาเห็นด้วยแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกอึดอัด
"ผมคิดว่าคนร้ายอาจเลือกไปตามแนวกำแพงทางทิศใต้และเลี้ยวตรงทางแยกแรกจากนั้นก็ไปตามถนนคู่ขนาน" เมอร์คิวเรียสออกความเห็น
แวนลิวเวนฮอคพอใจกับความเห็นของเมอร์คิวเรียสถึงกับเอ่ยปากว่า
"ความเห็นของอาจารย์นับเป็นสมมุติฐานที่ดีมากเพราะคนร้ายสามารถหลีกเลี่ยงการถูกมองเห็นจนสามารถกลับที่ซ่อนตัวได้"
จบตอนที่ 38
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากกดติดตามเพจ สุธีร์@อ่านเอาเพลิน และให้ความเห็นด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกท่าน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
หนังสือ
นวนิยายแปล
นวนิยาย
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องเล่า ไขคดีปริศนาเมืองเดลฟท์( Death in Delft) ผลงานเกรแฮม แบรก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย