2 พ.ย. 2023 เวลา 12:48 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 33

เจ็ดดาวร่วมธรรม (6) หยางจื้อส่งของขวัญ
เมืองเป่ยจิงต้าหมิงฝู่ เหลียงจ้งซูรวบรวมของขวัญวันเกิดครบแล้ว จึงเรียกหยางจื้อเข้าพบแจ้งว่าจะมอบหน้าที่การจัดส่งของขวัญให้แก่หยางจื้อ
หยางจื้อคำนับแล้วกล่าวว่า “เมื่อนายท่านมีบัญชา ผู้น้อยย่อมต้องปฏิบัติ มิทราบว่าจะให้จัดการอย่างไร กำหนดออกเดินทางเมื่อไร”
เหลียงจ้งซูว่า “ให้เบิกรถสิบคันสำหรับขนของ คัดเลือกทหารองครักษ์สิบนายกำกับรถแต่ละคัน รถแต่ละคันให้ปักธงเหลืองเขียนว่า ‘ของขวัญวันเกิดราชครู’ รถแต่ละคันให้จัดทหารตามขบวนอีกหนึ่งนาย กำหนดออกเดินทางในอีกสามวัน”
หยางจื้อว่า “อย่าหาว่าผู้น้อยบ่ายเบี่ยง หากทำเช่นนี้ โปรดใช้นายทหารท่านอื่นเถิด”
“ข้าตั้งใจจะส่งเสริมเจ้า จึงมอบหมายหน้าที่นี้ให้ อีกทั้งยังจะมีหนังสือกำกับไปด้วยขอให้ท่านราชครูมีบัญชาให้รางวัลเต็มที่ เหตุใดจึงปฏิเสธ”
“นายท่าน ผู้น้อยทราบว่าของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้วถูกชิงไปกลางทาง จนบัดนี้ยังจับตัวผู้ลงมือไม่ได้ มาปีนี้โจรผู้ร้ายชุกชุมขึ้น จากที่นี่ไปยังตงจิงไม่มีเส้นทางน้ำ ต้องไปทางบกเท่านั้น จุดอันตรายมี เขาจื่อจิน 紫金山 เขาสองมังกร 二龙山  เขาดอกท้อ 桃花山 เขากางร่ม 伞盖山 เนินดินเหลือง 黄泥冈 เขื่อนทรายขาว 白沙坞 ท่าเหย่หยุน 野云渡 ดงสนแดง 赤松林 แปดจุดคับขันนี้เป็นจุดดักปล้นของพวกโจร ไม่มีใครกล้าเดินทางผ่านโดยลำพัง ยิ่งมีทรัพย์สินมีค่ามากมายปานนี้ ย่อมเป็นเป้าหมายในการปล้น มีอันตรายถึงแก่ชีวิต”
เหลียงจ้งซูว่า “เกณฑ์ทหารเพิ่มไปให้มากพอ”
หยางจื้อว่า “ถึงมีทหารสักห้าร้อยก็ไม่มีประโยชน์ ทหารเหล่านี้พอเห็นโจร ก็พากันหนีก่อนแล้ว”
“เช่นนี้ ของขวัญมิต้องส่งกันแล้วหรือ”
“หากทำตามที่ผู้น้อยว่า จึงส่งของไปได้”
“จัดการอย่างไร”
หยางจื้อว่า “ตามวิธีของผู้น้อย ไม่ต้องใช้รถ ให้แบ่งของขวัญออกเป็นสิบหาบทำทีเหมือนสินค้าทั่วไปของชาวบ้าน แต่ละหาบให้ทหารองครักษ์มีฝืมือปลอมเป็นลูกหาบหาบของไป ให้ใครคนหนึ่งแต่งตัวเป็นเจ้าของสินค้าตามไปด้วย เดินทางอย่างไม่เอิกเกริก จึงใช้ได้”
เหลียงจ้งซูจึงให้หยางจื้อจัดการตามนั้น และให้คัดเลือกทหารที่จะเดินทางไปด้วยเอง
วันรุ่งขึ้น เหลียงจ้งซูก็เรียกหยางจื้อเข้าพบเพื่อแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า “ฮูหยินของข้ามีของเพิ่มเติมอีกหนึ่งหาบจะฝากไปให้บิดาพร้อมกัน แต่เกรงท่านจะไม่รู้ความจึงจะให้เซี่ยตูก่วนพี่เลี้ยง 奶公谢都管 และหวีโห้ว 虞候 อีกสองท่าน ติดตามเจ้าไปตงจิงด้วย”
หยางจื้อว่า “นายท่าน หยางจื้อคงไปไม่ได้แล้ว”
เหลียงจ้งซูว่า “ของขวัญก็จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ทำไมจึงไปไม่ได้”
หยางจื้อว่า “ของขวัญสิบหาบนี้และทหารร่วมทางอยู่ในความรับผิดชอบของผู้น้อย จะเดินทางเช้าหรือสาย ไปหรือหยุด ล้วนอยู่ในบังคับของผู้น้อย มาบัดนี้มีตูก่วนพี่เลี้ยงและหวีโห้วของฮูหยิน ซึ่งนับเป็นคนของท่านราชครู หากระหว่างทางเกิดข้อขัดแย้งกัน ผู้น้อยย่อมมิอาจขัดพวกท่านได้ อาจทำให้เสียงานใหญ่ หยางจื้อควรปฏิบัติตัวเยี่ยงไร”
เหลียงจ้งซูว่า “เรื่องนี้ไม่ยาก ข้ากำชับให้ทั้งสามต้องทำตามที่ท่านว่าก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว”
ยามห้าเช้าวันรุ่งขึ้น ขบวนส่งของขวัญตั้งขบวนประกอบด้วยหาบสมบัติสิบเอ็ดหาบ แต่ละหาบใช้ทหารองครักษ์แต่งตัวเป็นลูกหาบรวมสิบเอ็ดนาย หยางจื้อเป็นผู้นำขบวนถือดาบพอเตา ตูก่วน 都管 แต่งตัวเป็นเจ้าของสินค้า หวีโห้วทั้งสองถือดาบพอเตาเป็นผู้ติดตาม รวมสิบห้าคน ออกเดินทางมุ่งสู่ตงจิง
ยามนี้เป็นกลางเดือนห้าอากาศร้อนจัด แม้ลูกท่านหลานเธอนอนคลายร้อนอยู่ศาลาริมน้ำมีบ่าวพัดวียังแทบทนไม่ไหว ประสาอะไรกับคนเดินทาง
玉屏四下朱阑绕,簇簇游鱼戏萍藻。
簟铺八尺白虾须,头枕一枚红玛瑙。
六龙惧热不敢行,海水煎沸蓬莱岛。
公子犹嫌扇力微,行人正在红尘道。
ฉากหยกเย็นล้อมด้วยลูกกรงแดง
เป็นแห่งแห่งฝูงปลาว่ายแฝงจอกแหน
ตอกหนวดกุ้งทอเสื่อแปดฉื่อแผ่
โมราแดงแก้ร้อนทำหมอนหนุน
หกพญามังกร ร้อนเหลือ เลิกเดินทาง
เกาะเผิงไหลกลางหม้อทะเลตุ๋น
พัดอ่อนแรงไม่ถูกใจลูกเจ้าคุณ
คนสัญจรงุ่นง่านกลางทางแดง
เจ็ดวันแรกของการเดินทาง เริ่มออกเดินทางยามห้า (ราว 4:00 น.) อาศัยว่าอากาศยามเช้ายังเย็นอยู่ พอเที่ยงแดดจัดก็หยุดพัก
พอพ้นเจ็ดวัน หนทางเริ่มเปลี่ยว ผู้ร่วมทางน้อยลง หยางจื้อให้เริ่มออกเดินทางก็ต่อเมื่อฟ้าแจ้งแล้วในเวลาเฉิน 辰时 (ราว 7:00 น.) กว่าจะให้พักก็เวลาเซิน 申时 (ราว 15:00 น.)
ทหารหาบหามทั้งสิบเอ็ดนายเจอแดดร้อนทั้งวัน หาบยิ่งหาบยิ่งหนัก เจอชายป่าจะพักหลบแดดบ้าง หยางจื้อก็คอยไล่ให้เดินทาง หากไม่ฟังอย่างเบาก็ถูกด่า อย่างหนักก็ลงหวาย หวีโห้วสองนายแม้ไม่ต้องหาบหามมีแต่สะพายสัมภาระส่วนตัวก็เดินหอบรั้งหลังคอยแอบพัก จนหยางจื้อต้องลงมาต่อว่าว่า นอกจากไม่ช่วยดูแลขบวนแล้วยังถ่วงเวลาอีก
หวีโห้วทั้งสองจึงว่า “ไม่ใช่พวกข้าอยากเดินช้า แต่อากาศมันร้อนจนเดินไม่ไหว วันก่อนๆ ก็ออกเดินทางกันแต่แดดยังไม่ออก วันนี้กลับให้มาเดินกลางแดด เดินทางผิดเวล่ำเวลา”
หยางจื้อว่า “พูดเช่นนี้เหมือนผายลม วันก่อนๆ เส้นทางสบาย วันนี้เส้นทางคับขัน ต้องรอสว่าง จะเดินทางมืดๆ ได้อย่างไร”
หวีโห้วก็รั้งรอจนตูก่วนผู้เฒ่าที่รั้งท้ายสุดมาถึงแล้วฟ้องว่าหยางจื้อเป็นเพียงถีเสียกลับมาวางอำนาจ ตูก่วนว่าให้อดทนเพราะการเดินทางครั้งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของหยางจื้อ
บ่ายสามยามเซิน ขบวนก็หยุดพักยังโรงแรม พวกทหารหาบหามก็บ่นกับตูก่วนเช่นกันว่า วันก่อนๆ ก็ยังออกเดินทางแต่มืด อากาศพอเย็นสบายบ้าง นี่กลับต้องมาเดินทางกลางอากาศร้อน
เช้าวันรุ่งขึ้น เหล่าทหารพากันตื่นแต่มืด เตรียมตัวออกเดินทาง หยางจื้อลุกขึ้นมาเอาหวายลงไล่ให้กลับไปนอน พวกทหารก็เถียงว่า “ไยไม่ออกเดินทางกันแต่ยังไม่มีแดด รอแดดออกก็ร้อนจนเดินกันไม่ไหว ท่านจะไล่ตีกันไปทำไม”
หยางจื้อว่า “พวกเจ้าจะรู้อะไร” แล้วก็ไล่ให้ไปนอนรอฟ้าสว่าง
แต่เดินทางเช่นนี้กันได้อีกสิบห้าวัน จนถึงวันที่สี่เดือนหก ทั้งที่ยังไม่ทันเที่ยง อากาศก็ร้อนจัด ฟ้าแดงไร้เมฆ
祝融南来鞭火龙,火旗焰焰烧天红。
日轮当午凝不去,万国如在红炉中。
五岳翠干云彩灭,阳侯海底愁波竭。
何当一夕金风起,为我扫除天下热。
เทพจู้หยงทรงมังกรไฟล่องใต้
ธงอัคคีคลี่ไหม้ฟ้าแดงฉานฉาย
ตลอดวันยันบ่ายไม่ผ่อนคลาย
ทั่วหล้าคล้ายย้ายตั้งเตาเผาร้อน
ห้าเขาเขียวกลายแล้งไร้เมฆห่ม
เทพหยางโห้ว งมทะเลจนโหยอ่อน
ขอยามพลบพระพายสารทพัดอาทร
ช่วยปัดเป่าร้อนคลายจากแดนดิน
(เทพจู้หยง 祝融 คือ เทพอัคคี
เทพหยางโห้ว 阳侯 คือ เทพคลื่นลม
พระพายสารท 金风 ลมเย็นในฤดูสารท)
เส้นทางวันนี้เป็นเส้นทางเล็กลัดเลาะตามสันเขา ยอดเขาตระหง่านง้ำทั้งเหนือใต้ ขบวนเดินทางมาท่ามกลางอากาศร้อนจัดได้ราวยี่สิบกว่าลี้ พอเจอร่มไม้เข้าก็อยากเข้าพัก หยางจื้อถือหวายไล่หวดให้รุดหน้าต่อ “รีบไป วันนี้จะให้พักเร็วหน่อย”
เดินทางต่อไปได้อีกหน่อยจนใกล้เที่ยง ก้อนหินบนทางก็ร้อนเท้าจนเดินกันไม่ไหว พวกทหารว่า “อากาศร้อนขนาดนี้ เผาคนตายได้เลย”
หยางจื้อว่า “รีบเดิน ไปให้พ้นเนินลูกข้างหน้าแล้วค่อยว่ากัน”
เนินลูกข้างหน้านั้น ยอดเนินมีไม้ขึ้นรกชัฏ ดินเป็นสีเหลือง ข้างเขาหญ้ารก บนทางเต็มไปด้วยหิน เส้นทางอันตรายเหมือนทางเข้าซีชวนแคว้นสู่ 西川蜀道险(ทางเข้าเสฉวน)
สิบห้าคนในขบวนขึ้นมาถึงยอดเนินก็ทิ้งหาบลงไปต่อไม่ไหว พากันหลบเข้าพักใต้ร่มสน
หยางจื้อว่า “แย่แล้ว นี่ที่ไหนกัน จะพักกันตรงนี้หรือ รีบลุกขึ้นมาเดินต่อ”
พวกทหารว่า “เอามีดมาสับพวกข้าเป็นท่อนๆ ได้เลย ไปต่อไม่ไหวแล้ว”
หยางจื้อลงหวายไล่เฆี่ยน คนนี้ลุกขึ้น คนนั้นล้มนอนแทน จนหมดปัญญาจะทำอย่างไร
สองหวีโห้วกับตูก่วนผู้เฒ่าก็หอบแฮ่กๆ ขึ้นเนินมาถึง ทิ้งตัวลงนั่งใต้ร่มไม้บ้าง ตูก่วนผู้เฒ่าเห็นหยางจื้อเอาหวายเที่ยวหวดก็บอกว่า
“ถีเสีย ร้อนจนเดินไม่ไหวอย่างนี้ อย่าไปลงโทษพวกเขาเลย”
หยางจื้อว่า “ตูก่วน ท่านไม่รู้หรอกที่นี่เป็นจุดอันตรายที่พวกโจรมักออกปล้นชิง เรียกว่าเนินดินเหลือง ไม่ใช่ที่ที่จะมานั่งพัก”
สองหวีโห้วก็ว่า “ข้าเห็นท่านพูดแบบนี้มาหลายรอบแล้ว เอาแต่ขู่ให้กลัว”
ตูก่วนผู้เฒ่ากล่าวว่า “ให้พวกเขาพักกันที่นี่สักพัก รอพ้นเที่ยงแล้วค่อยไปต่อเถิด”
หยางจื้อว่า “ไม่ได้หรอก ท่านคงไม่รู้ ลงเนินนี่ไปอีกเจ็ดแปดลี้ก็ไม่มีบ้านผู้คน ที่เปลี่ยวเช่นนี้พักไม่ได้”
ตูก่วนว่า “งั้นข้าขอพักของข้า ท่านเร่งพวกนั้นไปกันก่อนก็แล้วกัน”
หยางจื้อกำหวายในมือบอกว่า “ใครไม่เดินข้าจะหวดเสียยี่สิบที”
พวกทหารว่า “ถีเสีย พวกเราหาบของหนักเป็นร้อยชั่ง ท่านนั้นเดินตัวเปล่า ท่านทำเหมือนพวกเราไม่ใช่คน”
หยางจื้อเงื้อหวายจะหวด ตูก่วนผู้เฒ่าตวาดว่า “หยางถีเสีย ช้าก่อน ข้าอยู่ที่จวนท่านราชครูพบคนมามาก ใครๆ ต่างต้องเกรงใจ ทหารเดนตายอย่างเจ้า นายท่านสงสารจึงตั้งให้เป็นถีเสีย มียศเพียงต้นคะน้าต้นเล็กๆ มีอะไรมาโอ้อวด ข้าเป็นถึงตูก่วนของนายท่าน ก็ควรฟังข้าบ้าง เอาแต่เฆี่ยนตีพวกเขา ใช้ได้อย่างไร”
หยางจื้อว่า “ตูก่วน ท่านอยู่แต่ในจวนไม่รู้หรอกว่าเส้นทางอันตรายเช่นไร”
“สื้อชวน 四川 สองกว่าง 两广 ข้าก็ไปมาแล้ว ไม่เคยเห็นคนเอาแต่ขู่เช่นเจ้า”
“ปัจจุบัน ไม่เหมือนกับยามสงบ”
“เจ้ากล้าพูดได้อย่างไรว่า แผ่นดินยุคนี้ไม่สงบ”
ก่อนที่หยางจื้อจะต่อปากคำ ก็พลันเห็นเงาคนลับๆ ล่อๆ อยู่ใต้เงาสนฝั่งตรงข้าม ลอบมองมาทางนี้ หยางจื้อว่า “ข้าพูดไว้ว่าอย่างไร มีคนร้ายมากันแล้ว”
หยางจื้อทิ้งหวายคว้าดาบวิ่งไปยังดงสน ปากตวาดไปว่า “พวกแกบังอาจ มาแอบสอดแนมสินค้าข้า”
说鬼便招鬼,说贼便招贼。
却是一家人,对面不能识。
เรียกผีผีก็มา
เรียกหาโจรโจรมาพลัน
ที่แท้พวกเดียวกัน
พบหน้ากันไยไม่รู้
หยางจื้อวิ่งมาถึงก็เห็นว่าในดงสนมีรถเข็นล้อเดียว หรือรถเจียงโจว 江州车 อยู่เจ็ดคัน มีคนนอนแก้ผ้าล่อนจ้อนนอนคลายร้อนอยู่เจ็ดคน คนมีปานแดงข้างขมับคว้าดาบลุกขึ้นก้าวมาหาหยางจื้อ คนที่เหลือร้องพร้อมกันว่า “ไอ้หยา” แล้วพากันโดดลุกขึ้น
หยางจื้อตวาดถามว่า “พวกเจ้าเป็นใคร”
เจ็ดคนนั้นถามสวนมาว่า “ท่านล่ะเป็นใคร”
หยางจื้อว่า “พวกเจ้าเป็นคนร้าย”
เจ็ดคนว่า “พูดกลับกันแล้ว พวกข้าทุนน้อยไม่มีเงินให้เจ้าหรอก”
หยางจื้อว่า “พวกเจ้าทุนน้อย งั้นข้าก็นายทุนใหญ่สิ”
เจ็ดคนถามว่า “ท่านเป็นใคร”
หยางจื้อว่า “บอกมา พวกเจ้าเป็นคนที่ไหน”
“พวกข้าพี่น้องเจ็ดคนเป็นชาวเหาโจว 濠州 จะเอาพุทราไปขายที่ตงจิงผ่านมาทางนี้ ฟังว่าที่เนินดินเหลืองนี่โจรดุ แต่ก็คิดว่า “พวกเรามีแต่พุทรา ไม่มีทรัพย์อะไรอื่น” รีบผ่านเนินให้ไวดีกว่า แต่พอขึ้นเนินมาก็ร้อนจนไปต่อไม่ไหว จึงนอนพัก รอตอนเย็น อากาศเย็นหน่อยค่อยไปกันต่อ พอได้ยินเสียงคนขึ้นเนินมา จึงให้คนไปดูเผื่อว่าเป็นคนร้าย”
หยางจื้อว่า “ที่แท้ก็คนค้าขายเหมือนกัน เมื่อครู่ข้าเห็นพวกท่านด้อมๆ มองๆ ก็คิดว่าเป็นคนร้าย จึงรีบมาดู”
เจ็ดคนว่า “เอาพุทราหน่อยไหม”
หยางจื้อว่า “ไม่จำเป็น” แล้วถือดาบเดินกลับไป
ตูก่วนเฒ่าถามว่า “มีโจรหรือ”
หยางจื้อว่า “คิดว่าคนร้าย ที่แท้ก็พวกคนขายพุทรา”
ตูก่วนว่า “ถ้าเป็นอย่างเจ้าว่าเมื่อครู่ ป่านนี้พวกนั้นคงตายกันหมดแล้ว”
หยางจื้อว่า “ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว พวกเราก็พักกันสักครู่ คลายร้อนหน่อยค่อยไปกันต่อ”
หยางจื้อปักดาบบนพื้น เดินไปนั่งพิงต้นไม้พักบ้าง
ตอนก่อนหน้า : มังกรดั้นเมฆ หนูกลางแดด
ตอนถัดไป : ชิงของขวัญด้วยปัญญา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา