15 พ.ย. 2023 เวลา 12:08 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 39

เจ็ดดาวร่วงรังโจร (4) โลกบาลหนี
ซ่งเจียงตะบึงม้าจากบ้านเฉาไก้มาถึงที่ว่าการอำเภอ ลงม้าแล้วรีบมายังร้านน้ำชาก็เห็นเหอเทายืนรออยู่หน้าร้านแล้ว
ซ่งเจียงว่า “กวนฉารอนาน พอดีมีธุระกับญาติที่หมู่บ้านจึงเสียเวลาไปหน่อย เชิญท่านกวนฉาเข้าอำเภอ”
ทั้งสองเข้ามาในที่ว่าการ นายอำเภอสือเหวินปินกำลังว่าการอยู่ ซ่งเจียงจึงนำเหอเทาเข้าไปรายงานว่า
“มีหนังสือจากทางเมืองจี้โจว เป็นราชการด่วนเรื่องจับโจร จึงให้มือปราบเหอกวนฉาเป็นผู้ถือมา”
1
นายอำเภอรับหนังสือมาเปิดดูแล้วก็สะดุ้งว่า “ท่านราชครูส่งคนมารอคำตอบเรื่องนี้ด้วย โจรพวกนี้ต้องรีบส่งคนออกไปจับ”
ซ่งเจียงว่า “ไปเวลากลางวันเกรงว่าจะแหวกหญ้าให้งูตื่น ควรส่งคนไปเวลากลางคืนคงจับเฉาเป่าเจิ้งได้ อีกหกคนก็คงได้เบาะแสเอง”
1
นายอำเภอสือว่า “เฉาเป่าเจิ้งบ้านตงซีผู้นี้เห็นว่าเป็นคนดี เหตุใดจึงลดตัวมาทำเรื่องเช่นนี้” จึงเรียกสองนายกองคือ จูถงและเหลยเหิงมาสั่งการ
จูถงและเหลยเหิงรับคำสั่งแล้ว ก็ออกจากที่ว่าการพร้อมรองนายอำเภอ มายังที่ทำการกองปราบจัดเตรียมทหารร้อยกว่านาย พร้อมทั้งเหอเทาและหวีโห้วทั้งสองนายที่จะเป็นพยานชี้ตัว พอตกค่ำก็ยกขบวนกันออกมาทางประตูเมืองตะวันออกรีบรุดมายังบ้านเฉาไก้
ขบวนมาถึงหมู่บ้านตงซีเวลายามหนึ่ง ตั้งหลักกันที่ศาลเจ้าแม่กวนอิม
จูถงว่า “ข้างหน้านี้ก็คือบ้านเฉาไก้ มีทางเข้าออกทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน หากเราบุกเพียงด้านเดียว บุกด้านหน้าก็คงหนีกันด้านหลัง บุกด้านหลังคงหนีออกด้านหน้า ข้ารู้จักเฉาไก้ดี แต่อีกหกคนยังไม่รู้แต่ดูท่าจะไม่ใช่คนดีสักเท่าไร หากจนตรอกเสี่ยงตายออกมาพร้อมกับพวกลูกบ้าน พวกเราอาจรับมือไม่อยู่
ข้าคิดว่าพวกเราควรส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม 声东击西 ทำให้พวกด้านในพะว้าพะวังก่อนค่อยลงมือ เหลยเหิงกับข้าจะแบ่งกำลังกันคนละครึ่งดักทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รอพวกที่นำกำลังไปซุ่มที่ประตูหลังก่อน พอพร้อมก็เป่าปากให้สัญญาณ พวกทางประตูหน้าก็บุกเข้าไป เจอใครจับให้หมด”
เหลยเหิงว่า “ที่ว่ามานั้นถูกต้อง นายกองจูกับท่านรองนายอำเภอบุกเข้าด้านหน้า ข้าจะไปสกัดทางด้านหลังเอง”
จูถงว่า “น้องเรา ท่านคงไม่รู้ว่าทางเข้าออกบ้านเฉาไก้นั้นมีสามเส้นทาง ยามปกติข้าเคยเข้าไปเห็นกับตามาก่อน ตรงจุดที่ข้าจะไปนั้น ข้าจำทางได้ดี ไม่ต้องจุดไฟก็ไปถูก แต่ถ้าท่านไปโดยไม่รู้จุดที่แน่นอนอาจทำให้พวกด้านในแตกตื่นกันเสียก่อน”
รองนายอำเภอว่า “นายกองจูพูดถูก เช่นนั้นท่านก็แบ่งกำลังไปครึ่งหนึ่ง”
จูถงว่า “ข้าพาไปสามสิบคนก็พอ” แล้วจูถงก็แบ่งพลธนูสิบนาย ทหารท้องถิ่นยี่สิบนายแยกทางไป
รองนายอำเภอขึ้นม้า เหลยเหิงให้มือธนูทหารม้าอยู่แถวหลังคุ้มกันรองนายอำเภอ ให้ทหารท้องถิ่นเดินเท้าตั้งแถวด้านหน้า จุดคบไฟสว่างไสว เดินเป็นขบวนตรงมายังบ้านเฉาไก้
ก่อนถึงหน้าบ้านราวครึ่งลี้ สังเกตเห็นเปลวเพลิงลุกไหม้กลางบ้าน ควันดำคละคลุ้ง ส่องฟ้าแดงฉาน เดินหน้าอีกราวสิบก้าว ก็เห็นเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอีกรอบบ้านทั้งหน้าหลังหลายสิบแห่ง เหลยเหิงให้ทหารโห่ร้องดังลั่นแล้วนำหน้าเหล่าทหารพังประตูหน้าเข้าไปด้านใน เห็นแสงเพลิงสว่างดังกลางวัน แต่ไม่เห็นมีใครสักคน ได้ยินแต่เสียงร้องตะโกนจากด้านหลังให้ช่วยจับคน
แท้จริงแล้ว ทั้งจูถงและเหลยเหิงต่างมีเจตนาจะปล่อยให้เฉาไก้กับพวกหลบหนีไปทางประตูหลัง แต่จูถงชิงโอกาสไปเสียก่อน เหลยเหิงต้องบุกเข้าทางประตูหน้าจึงให้ทหารส่งเสียงโห่ร้องให้ด้านในรู้ตัวก่อนหวังว่าจะหลบหนีทัน
เมื่อจูถงมาถึงหลังบ้าน เฉาไก้ยังเก็บของไม่เสร็จ พอคนมาบอกว่าทหารมากันแล้ว เฉาไก้ก็สั่งให้จุดไฟเผาบ้านเสียหลายจุด เฉาไก้กับกงซุนเสิ้งนำลูกบ้านสิบกว่าคนร้องคำรามแล้วกรูออกทางหลังบ้านตะโกนว่า “ใครขวางข้าตาย ใครหลบข้ารอด”
จูถงหลบอยู่ในเงามืดตะโกนมาว่า “เป่าเจิ้งอย่าเพิ่งไป จูถงมารอท่านนานแล้ว” แต่เฉาไก้ไม่สนใจ ลุยหน้าไปพร้อมกับกงซุนเสิ้ง จูถงจึงต้องเปิดทางให้เฉาไก้หนี เฉาไก้ตะโกนบอกให้กงซุนเสิ้งพาพวกหนีไปก่อน ส่วนตนเองอยู่รั้งท้ายคอยคุ้มกัน
1
จูถงนำพลธนูเข้าบ้านทางประตูหลังแกล้งตะโกนบอกให้พวกที่อยู่ประตูหน้าดักจับโจรด้านนั้นไว้ เหลยเหิงจึงกลับออกทางประตูหน้า สั่งให้พลธนูทหารม้าแยกกันออกค้นหา เหลยเหิงยืนเหลียวซ้ายแลขวาอยู่กลางแสงเพลิง จูถงทิ้งเหล่าทหารไว้ในบ้าน กลับออกหลังบ้านตามเฉาไก้ไปโดยลำพัง
เฉาไก้เห็นจูถงไล่หลังมาก็หนีพลางตะโกนพลางว่า “นายกองจู ท่านจะมาไล่ตามข้าทำไม”
จูถงเห็นด้านหลังไม่มีใครตามมาจึงกล้าบอกว่า “เป่าเจิ้ง ท่านยังไม่รู้ว่าข้าหวังดี กลัวเหลยเหิงจะไม่ยอมช่วยท่าน จึงหลอกให้บุกเข้าด้านหน้า ส่วนข้ามารอท่านที่หลังบ้านก็เพื่อจะเปิดทางปล่อยท่านหนี ท่านไม่ต้องไปที่อื่น ตรงไปขอพึ่งเขาเหลียงซานเถิด”
เฉาไก้ว่า “ขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิต วันหน้าจะแทนคุณ”
捕盗如何与盗通,官赃应与盗赃同。
莫疑官府能为盗,自有皇天不肯容。
มาจับโจรไยปล่อยโจรหนีพ้น
ขุนนางปล้นกับโจรปล้นคงมิต่าง
สิ้นสงสัยขุนนางช่วยโจรอำพราง
เหลือแต่ทางฟ้าเบื้องบนไม่ยินยอม
พลันได้ยินเสียงเหลยเหิงตะโกนมาจากด้านหลังว่า “อย่าปล่อยให้หนีไป”
จูถงเร่งเฉาไก้ว่า “เป่าเจิ้ง ไม่ต้องห่วง ท่านรีบหนีไป ข้าจะล่อเขาไปทางอื่น” แล้วก็หันกลับมาตะโกนว่า “มีโจรสามคนหนีไปทางตะวันออก นายกองเหลยท่านรีบตามไปทางนั้น” เหลยเหิงจึงนำทหารไล่ตามไปทางตะวันออก
จูถงกวดตามหลังเฉาไก้มาเพื่อคอยระวังหลังให้ พอเริ่มมองไม่เห็นเงาเฉาไก้แล้วก็แกล้งทำเป็นก้าวพลาดหกล้มอยู่บนพื้น พวกทหารที่ตามมาข้างหลังจึงเข้ามาช่วยพยุง
จูถงว่า “ทางมันมืด มองไม่เห็น เลยลื่นล้มไม่รู้โดนอะไรที่น่องซ้าย”
รองนายอำเภอว่า “ตัวหัวหน้าโจรหนีไปได้เสียแล้ว ทีนี้จะทำอย่างไร” แล้วเร่งให้ทหารออกตาม
ทหารทำทีออกตามรอบหนึ่งแล้วกลับมารายงานว่า “ทางมันมืด ไม่รู้หนีไปทางไหนแล้ว”
ทางด้านเหลยเหิงออกตามไปอีกทางเสียแรงเปล่ากลับมาเช่นกัน ใจก็คิดว่า “จูถงสนิทกับเฉาไก้ คงตั้งใจปล่อยให้หนีไป ข้าก็ไม่อยากเล่นบทคนร้าย ตั้งใจจะปล่อยเขาไปเช่นกัน ตอนนี้ก็หนีไปได้แล้ว เพียงแต่ไม่ได้แสดงน้ำใจให้เห็น เฉาไก้ก็ไม่ใช่คนที่จะทำเป็นแหย่เล่นได้เสียด้วย”
เวลายามสี่ รองนายอำเภอกับสองนายกองกลับมาถึงหน้าหมู่บ้านมือเปล่า เหอเทาเห็นแยกกันไปตามสี่ห้าทางแต่จับใครไม่ได้เลยก็ได้แต่คิดว่าแย่แล้ว “แล้วจะกลับไปจี้โจวรายงานท่านเจ้าเมืองอย่างไรได้” รองนายอำเภอก็ได้แต่สั่งให้จับเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งพากลับไปยังอำเภอ
ทางด้านนายอำเภอรอฟังข่าวทั้งคืนไม่ได้หลับนอน พอฟังว่าโจรหนีไปได้ จับมาแต่เพื่อนบ้าน ก็ให้นำตัวมาสอบสวนทันที
1
พวกเพื่อนบ้านเหล่านั้นต่างตอบว่า “พวกข้าน้อยแม้จะเป็นเพื่อนบ้านเฉาเป่าเจิ้ง แต่บ้านก็มีท้องนาคั่นห่างกันหลายลี้ ทางบ้านเขาก็มีนักเลงเล่นอาวุธไปมาอยู่เสมอ จะไปทราบได้อย่างไรว่าเขาไปก่อเรื่องเช่นนี้ หากท่านอยากได้รายละเอียด คงต้องถามบ่าวในบ้านท่านเฉาดู”
นายอำเภอว่า “บ่าวพวกนั้นมิหนีตามกันไปหมดแล้วหรือ”
เพื่อนบ้านตอบว่า “คนที่ไม่ยอมตามไปด้วย ยังมีอยู่หลายคน”
1
นายอำเภอจึงให้เจ้าหน้าที่ไปตามจับที่บ้านตงซี ไม่ถึงสองชั่วโมงดีได้ตัวมาสองคน จับกลับมาสอบสวน ตอนแรกก็ไม่ยอมรับแต่ทนการลงทัณฑ์ไม่ไหวจึงรับสารภาพว่า
“พวกที่มาร่วมชุมนุมกันหกคนนั้น ข้าน้อยรู้จักเพียงคนเดียวคือ ครูสอนหนังสือในหมู่บ้าน อู๋เสวียจิว อีกสองคนที่พำนักอยู่ที่บ้านคนหนึ่งชื่อ กงซุนเสิ้ง เป็นนักพรต อีกคนตัวดำสูงใหญ่แซ่หลิว ยังมีอีกสามคนที่อาจารย์อู๋พามา ข้าน้อยไม่รู้จัก รู้เพียงว่าเป็นพี่น้องกันสามคนแซ่หย่วน เป็นชาวประมงอยู่หมู่บ้านสือเจี๋ย”
นายอำเภอให้ทำหนังสือรับสารภาพ แล้วส่งตัวคนทั้งสองให้เหอกวนฉา พร้อมทำหนังสือตอบไปยังเจ้าเมืองจี้โจว ส่วนซ่งเจียงก็ทำหน้าที่ส่งตัวพวกเพื่อนบ้านกลับไป
ทางด้านเหอเทานำตัวลูกบ้านเฉาไก้ทั้งสองมาถึงเมืองจี้โจวรายงานต่อเจ้าเมืองแล้ว เจ้าเมืองก็ให้เบิกตัวไป๋เสิ้งออกมาสอบสวนอีกรอบ
ไป๋เสิ้งว่า “สามคนที่แซ่หย่วนนั้น คนหนึ่งคือ ไท่สุ้ยบนดินหยวนเสี่ยวเอ้อ คนหนึ่งคือ เจ้ายี่บั่นชีพหยวนเสียวอู่ คนหนึ่งคือ ยมบาลตัวเป็นหยวนเสี่ยวชี ทั้งสามอาศัยอยู่หมู่บ้านทะเลสาบสือเจี๋ย”
นายอำเภอว่า “ยังมีอีกสามคนชื่ออะไร”
“คนหนึ่งคือ ดาวสัพพัญญูอู๋ย่ง คนหนึ่งคือ มังกรดั้นเมฆกงซุนเสิ้ง คนหนึ่งคือ ผีผมแดงหลิวถัง”
เมื่อได้เบาะแสแล้ว เจ้าเมืองก็ให้นำตัวไป๋เสิ้งกลับไปคุมขังดังเก่า แล้วสั่งการให้เหอเทานำคนไปจับโจรยังหมู่บ้านสือเจี๋ย
เหอเทารับคำสั่งแล้วนำความมาหารือในห้องลับ ที่ประชุมมีความเห็นว่า “หมู่บ้านสือเจี๋ยนั้นเป็นหนองบึง ติดต่อกับเขาเหลียงซาน ภูมิประเทศเต็มไปด้วยพงอ้อแขม เวิ้งว้างกว้างขวาง ร่องน้ำสาขาก็มีจำนวนมาก หากไม่มีเรือและกำลังทหารจำนวนมากแล้วไม่อาจล้อมจับโจรได้โดยง่าย”
เหอเทานำความขึ้นรายงานท่านเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงสั่งการให้นายตรวจ 巡检 อีกนายหนึ่ง คัดเลือกทหารห้าร้อยนายสมทบกำลังกับหน่วยกองปราบเข้าร่วมทำการจับกุม
ตอนก่อนหน้า : ซ่งเจียงส่งข่าว
ตอนถัดไป : เลือดนองบึงสือเจี๋ย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา