Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
20 พ.ย. 2023 เวลา 12:40 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 41
เจ็ดดาวร่วงรังโจร (6) หลินชงล้มบัณฑิต
เฉาไก้ กงซุนเสิ้ง สามหย่วนพี่น้อง ชาวประมงสิบกว่าคนนำเรือเจ็ดลำออกจากหมู่บ้านสือเจี๋ยมาสมทบกับอู๋ย่งและหลิวถังที่ปากทางเข้าหมู่บ้านสกุลหลี่ แล้วมุ่งหน้าต่อมายังร้านอาหารของตะเข้ดอนจูกุ้ย
จูกุ้ยเห็นคนมาขอเข้าพวกกันเยอะ ก็สั่งให้ล้มแพะจัดสุราอาหารเลี้ยงต้อนรับ แล้วยิงธนูเสียงสัญญาณไปยังพงอ้อฝั่งตรงข้าม สักพักก็มีลิ่วล้อพายเรือน้อยมา จูกุ้ยเขียนหนังสือแจงรายละเอียดผู้ที่จะมาขอเข้าร่วมเป็นพวกให้นำไปรายงานยังค่ายใหญ่ คืนนั้นก็พำนักกันที่ร้านของจูกุ้ย
เช้าวันรุ่งขึ้นจูกุ้ยเตรียมเรือใหญ่ลำหนึ่งให้พวกเฉาไก้ และให้บรรดาเรือเล็กที่เฉาไก้นำมาด้วยแล่นตามกันมา จนถึงปากน้ำแห่งหนึ่ง ได้ยินเสียงฆ้องกลองบนฝั่ง มีเรือเล็กสี่ลำออกมาพบจูกุ้ย แล้วกลับลำออกนำหน้าไป
ขบวนเรือมาขึ้นฝั่งที่หาดทรายทอง 金沙滩 ลิ่วล้อสิบกว่าคนลงเขามานำทางพวกเฉาไก้เข้าด่าน โดยให้พวกครอบครัวและชาวประมงรออยู่ที่เรือเล็กริมหาดก่อน
หวางหลุนและพวกตัวนายพากันออกมาต้อนรับ
หวางหลุนว่า “ผู้น้อยหวางหลุน ได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของท่านโลกบาลเฉามานาน วันนี้ยินดียิ่งนักที่มาเยือนถึงค่ายน้อยนี้”
เฉาไก้ว่า “พวกข้าล้วนเป็นคนหยาบกระด้างไม่รู้หนังสือ วันนี้มีเรื่องจำต้องบากหน้ามาขอเป็นทหารเลวในค่ายของท่าน”
หวางหลุนว่า “อย่าได้กล่าวเช่นนั้น ขอเชิญเข้าในค่ายก่อนแล้วค่อยหารือกัน”
ทั้งหมดขึ้นเขา เข้ามายังโถงร่วมธรรม แบ่งกันนั่งเรียงแถวเป็นสองฝั่ง เฉาไก้และพวกทั้งเจ็ดนั่งเป็นแถวทางด้านขวา หวางหลุนและพวกนั่งเป็นแถวด้านซ้าย มีกลองรัวต้อนรับ หวางหลุนให้ลูกน้องลงไปพาพวกที่รออยู่ที่เรือเล็กนำไปพักยังเรือนรับรองด้านล่าง ทางค่ายใหญ่ล้มวัวตัวหนึ่ง แพะสิบตัว หมูห้าตัว จัดเลี้ยงเป็นสุราอาหารชุดใหญ่ ระหว่างอาหารเฉาไก้เล่าเรื่องราวแต่ต้นจนปลายให้ฟังโดยละเอียด
หวางหลุนฟังจบแล้วถึงกับอึ้ง พะวักพะวน แต่ไม่กล่าวอะไร ได้แต่เก็บไว้ในใจ พอตกค่ำงานเลี้ยงเลิกรา ก็ให้คนนำเฉาไก้และพวกไปพักยังเรือนรับรองนอกด่าน
入伙分明是一群,相留意气便须亲。
如何待彼为宾客,只恐身难作主人。
คนกลุ่มนี้ชี้ชัดว่ามาร่วมหมู่
จะให้อยู่ก็ควรสนิทชิดเชื้อ
ทำไฉนให้เขาคงเป็นแขกเหรื่อ
กลัวจะไม่เหลือฐานะเจ้าบ้าน
เฉาไก้ดีใจกล่าวกับพวกทั้งหกว่า “พวกเรามีโทษมหันต์ ไม่มีที่ให้หลบภัย ดีที่หัวหน้าหวางมีเมตตา บุญคุณนี้ไม่อาจลืม” แต่อู๋ย่งกลับแค่นหัวเราะ
“อาจารย์ท่านแค่นหัวเราะ รู้อะไรมาวานบอก”
“พี่ท่านเป็นคนตรง คิดว่าหวางหลุนยอมรับพวกเราไว้หรือ ท่านยังไม่รู้ความในใจเขา ท่านไม่เห็นสีหน้าของเขาหรือ”
“สีหน้าเขาเป็นอย่างไร”
อู๋ย่งว่า “พี่ท่านไม่สังเกตหรือว่า ตอนแรกเขายังดูมีใจใฝ่คบหาเราอยู่ แต่พอท่านเล่าถึงตอนพวกสามหย่วนกำจัดพวกทหารทั้งหมดปล่อยไปแต่เหอเทา สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป แม้ปากจะตอบรับแต่ใจกลับไม่ยินดี หากคิดจะรับไว้จริง คงจัดอันดับที่นั่งให้เรากันแล้ว ตู้เชียน ซ่งว่านนั้นเป็นคนหยาบไม่รู้จักรับแขก จะมีก็ครูผึกหลินชงที่เคยอยู่เมืองใหญ่เป็นครูฝึกทหารองครักษ์แต่กลับอยู่อันดับสี่ ตอนที่หวางหลุนสนทนากับพี่ท่าน ข้าเห็นท่าทางเขาไม่สงบนักคอยแอบชำเลืองมองหวางหลุน ท่าทีกระอักกระอ่วน ข้าคิดว่าพอจะยุให้ฆ่ากันเองได้อยู่”
เฉาไก้ว่า “ต้องอาศัยแผนล้ำลึกของท่านแล้ว”
เช้าวันรุ่งขึ้น มีคนมาแจ้งว่า “ครูฝึกหลินมาเยี่ยม”
อู๋ย่งบอกเฉาไก้ว่า “คนผู้นี้มาหา ต้องอุบายเราแน่”
ทั้งเจ็ดออกไปต้อนรับเชิญเข้ามาในเรือนรับรอง นั่งลงแล้วทักทายกันตามธรรมเนียม
จากนั้นอู๋ย่งก็ถามว่า “ข้าน้อยเคยได้ฟังวีรกรรมของท่านครูฝึกเมื่อครั้งอยู่ตงจิง แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีเรื่องกับเกาฉิวจนถูกใส่ความ พอเนรเทศไปยังชางโจวเกิดคดีเผาโรงฟางหญ้าก็เป็นฝีมือของเขาอีก ภายหลังไม่ทราบว่าผู้ใดแนะนำให้มาขึ้นเขาแห่งนี้”
หลินชงว่า “เรื่องที่เกาฉิวให้ร้ายข้า พูดแล้วก็ขนหัวลุก แถมยังไม่มีโอกาสได้ล้างแค้น ส่วนเรื่องที่มาพึ่งค่ายนี่ก็ได้ท่านขุนนางใหญ่ไฉ 柴大官人 เป็นผู้แนะนำ”
อู๋ย่งว่า “ท่านขุนนางใหญ่ไฉ คงเป็นผู้ที่วงนักเลงเรียกกันว่าพายุหมุนน้อยกระมัง”
“ท่านผู้นั้นแหละ”
เฉาไก้ว่า “ข้าเคยได้ฟังมาว่าท่านขุนนางใหญ่ไฉเป็นผู้มีคุณธรรมน้ำใจคบหาผู้กล้าทั่วสารทิศ เห็นว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์โจว หากได้มีโอกาสพบก็คงดีไม่น้อย”
อู๋ย่งว่า “ท่านขุนนางใหญ่ไฉมีชื่อเสียงก้องแผ่นดิน หากท่านครูฝึกไม่มีฝีมืออันสูงส่งก็คงไม่แนะนำให้ขึ้นเขามา อย่าหาว่าอู๋ย่งยกยอท่านจนเกินไป ตามเหตุผลแล้วหวางหลุนควรยกเก้าอี้หมายเลขหนึ่งให้กับท่าน จึงสมควรกับที่ท่านขุนนางใหญ่ไฉแนะนำมา อีกทั้งยังไม่ผิดลิขิตฟ้า”
หลินชงว่า “ผู้น้อยมีโทษมหันต์มาขอพึ่งท่านขุนนางใหญ่ไฉ มิใช่ท่านไม่ยอมให้หลินชงอาศัย แต่ข้าเกรงจะทำให้ท่านเดือดร้อนจึงเต็มใจขึ้นเขามา มิคาดว่าบัดนี้กลับดูเหมือนตีบตันหนทาง นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องอันดับต่ำหรอกแต่เป็นเพราะหวางหลุนเป็นคนพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ยากจะร่วมงานด้วย”
อู๋ย่งว่า “ท่านหัวหน้าหวางต้อนรับขับสู้ดูมีน้ำใจ ไยจึงว่าจิตใจคับแคบ”
หลินชงว่า “บัดนี้ฟ้าส่งพวกท่านเหล่าผู้กล้ามาร่วมงานกับค่ายเรา เหมือนต้นกล้าได้น้ำฝน ดังยกดอกบนผืนแพร แต่คนผู้นี้กลับมีจิตริษยาเกรงเหล่าผู้กล้ามาบดบังรัศมี เมื่อคืนพอพูดถึงเรื่องการลวงฆ่าเหล่าทหารหลวงแล้ว เขาก็เกิดหวั่นใจไม่อยากรับพวกท่านไว้ จึงได้ให้มาพักยังเรือนรับรองนอกด่าน”
อู๋ย่งว่า “ในเมื่อท่านหัวหน้าหวางคิดเช่นนี้ ก็อย่ารอเขาไล่เลย พวกเราไปหาที่อื่นอยู่ดีกว่า”
หลินชงว่า “เหล่าผู้กล้าท่านอย่าเพิ่งคิดตีจาก หลินชงรู้จักแยกแยะ และเกรงว่าพวกท่านจะทัอกันเสียก่อนจึงมาแจ้งให้รู้ล่วงหน้า รอดูว่าวันนี้เขาจะยังพูดจาไร้เหตุผลเหมือนเมื่อวานหรือไม่ หากพูดผิดแม้ครึ่งคำ หลินชงจะลงมือเอง”
เฉาไก้ว่า “ครูฝึกท่านมีใจรักชอบกันเช่นนี้เป็นพระคุณยิ่งนัก”
อู๋ย่งว่า “ครูฝึกท่านเห็นแก่พวกเรา ก็อาจผิดใจกับพวกพี่น้องเดิม หากยอมได้ก็ยอม หากไม่ยอมพวกเราก็พร้อมยอมถอยเอง”
หลินชงว่า “อย่าเพิ่งเลย โบราณว่า ศีลเสมอจึงเจอกัน กับพวกเดรัจฉานเหล่านี้มีค่าอันใด เหล่าผู้กล้าโปรดวางใจ” หลินชงลุกขึ้นกล่าวว่า “อีกครู่พบกัน” แล้วก็อำลาขึ้นเขาไป
如何此处不留人,休言自有留人处。
应留人者怕人留,身苦难留留客住。
เหตุใดจักไม่ให้อยู่ที่นี่
ไม่น่ามีที่ไหนให้อยู่ได้
คนมีสิทธิให้กลัวจนไม่ให้
คนไม่มีสิทธิให้เชื้อเชิญอยู่
หลังจากหลินชงอำลาไปไม่นาน ก็มีลิ่วล้อมาเชิญพวกเฉาไก้ไปยังงานเลี้ยงที่ศาลาค่ายน้ำทางทิศใต้ เฉาไก้ตอบว่า “ช่วยรายงานท่านหัวหน้าว่า สักครู่พวกเราจะตามไป” แล้วหันมาหารือกับอู๋ย่ง
อู๋ย่งว่า “พี่ท่านวางใจ วันนี้ได้มีการเปลี่ยนตัวนายส้องใหม่แน่ หากครูฝึกหลินเกิดลังเล ข้าน้อยจะอาศัยลิ้นสามนิ้วนี้ยุให้เกิดการฆ่ากันเอง พี่ท่านซ่อนอาวุธเอาไว้ให้ดี เมื่อเห็นข้าน้อยลูบเคราเป็นสัญญาณก็ลงมือทันที”
หลังยามเฉิน 辰牌 (9:00น.) ซ่งว่านขี่ม้านำลิ่วล้อหามเกี้ยวเจ็ดคันมารับไปยังค่ายน้ำ เมื่อมาถึง หวางหลุน ตู้เชียน หลินชง จูกุ้ยก็ออกมารับเข้าไปในงาน
四面水帘高卷,周回花压朱阑。
满目香风,万朵芙蓉铺绿水;
迎眸翠色,千枝荷叶绕芳塘。
华檐外阴阴柳影,锁窗前细细松声。
江山秀气满亭台,豪杰一群来聚会。
รอบศาลาม้วนผ้าม่าน ริมห้วยละหาน
บุปผาโอบกรงแดงไว้
สายลมโชยระรื่นเย็นชื่นบาน
เงาพุดตานหมื่นช่อล้อน้ำใส
เขียวมรกตแลสดชื่นตื่นตาใจ
พันใบบัวชูก้านรอบห้วยหอม
พ้นชายคาร่มรื่นครึ้มเงาหลิ่ว
นอกหน้าต่างสนพลิ้วส่งเสียงกล่อม
รอบศาลาทิวทัศน์งามน่าถนอม
เหล่าจอมยุทธจับกลุ่มร่วมชุมนุม
ระหว่างอาหาร อู๋ย่งแอบสังเกตเห็นหลินชงจับตามองหวางหลุนอยู่โดยตลอด
หลังเที่ยง หวางหลุนเรียกลิ่วล้อมาสั่งการ สักครู่ก็มีคนยกถาดใบใหญ่ใส่เงินแท่งใหญ่มาห้าแท่ง หวางหลุนถือจอกลุกขึ้นยืนกล่าวกับเฉาไก้ว่า
“ที่เหล่าท่านใคร่จะมาอยู่ร่วมด้วยนั้น เกรงว่าค่ายนี้ยังเล็กนัก เป็นเพียงบึงน้ำน้อยไหนเลยจะพอเป็นที่พำนักพญามังกร ข้าจึงขอมอบของกำนัลเล็กน้อยขอท่านได้โปรดรับไว้ เพื่อที่ท่านจะได้หาค่ายพักที่กว้างขวางกว่านี้ เมื่อนั้นผู้น้อยก็พร้อมที่จะไปสามิภักดิ์อยู่ใต้ธงของท่านเช่นกัน”
เฉาไก้ว่า “ข้าน้อยฟังว่าท่านต้อนรับผู้มีความสามารถจึงได้มาขอเข้าร่วม แต่หากท่านมิยินยอมแล้วพวกข้าก็ขอลา สำหรับเงินทองนั้นพวกข้าน้อยเองก็พอมีอยู่จึงมิอาจรับไว้ และขออำลา ณ ที่นี้”
หวางหลุนว่า “อย่าได้บ่ายเบี่ยงเลย มิใช่ค่ายเรามิอยากรับพวกท่านไว้ เพียงแต่ที่อยู่และเสบียงอัตคัด เกรงจะมีข้อบกพร่องในวันหน้า”
กล่าวมิทันจบหลินชงก็เลิกคิ้วถลึงตาตวาดมาว่า “ครั้งก่อนตอนข้าขึ้นเขามาก็บอกว่าที่อยู่และเสบียงอัตคัด วันนี้พวกท่านเฉาไก้พี่น้องมาก็อ้างเช่นนี้อีก หมายความว่าอย่างไร”
อู๋ย่งว่า “ท่านหัวหน้าอย่าเพิ่งโมโห พวกข้ามาผิดเวลาทำให้ท่านแตกสามัคคีกัน วันนี้หัวหน้าหวางมอบค่าเดินทางให้พวกเรามิได้ขับไล่ไสส่ง ท่านก็อย่าได้โกรธเลย พวกข้าขอลาก็แล้วกัน”
หลินชงว่า “วาจาซ่อนดาบในรอยยิ้ม วันนี้ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่”
หวางหลุนตวาดว่า “เดรัจฉาน เมาก็ไม่ได้เมา มาว่าร้ายข้า เจ้ามันพลิกลิ้นคืนคำ”
หลินชงโกรธจัด “เจ้าก็แค่บัณฑิตสอบตก มีปัญญาอะไรมาเป็นหัวหน้าค่าย”
อู๋ย่งว่า “พี่เฉา พวกเรามาทำให้เขาแตกกัน พวกเราไปกันเถิด”
พวกเฉาไก้ทั้งเจ็ดลุกออกจากศาลา หวางหลุนว่า “เชิญกินกันให้เสร็จก่อนเถิด”
หลินชงลุกขึ้นเตะโต๊ะกระเด็นไป ชักมีดขึ้นมาถือไว้คมมีดต้องไฟวาววับ อู๋ย่งเอามือลูบเคราเป็นสัญญาณ เฉาไก้กับหลิวถังกลับเข้ามาในศาลาทำเป็นรั้งตัวหวางหลุนไว้ตะโกนว่า “อย่าฆ่ากันเอง”
อู๋ย่งยุดตัวหลินชงไว้ว่า “ท่านหัวหน้าอย่าทำเช่นนี้”
หยวนเสี่ยวเอ้อเข้าประกบตู้เชียน หยวนเสียวอู่ประกบซ่งว่าน หยวนเสี่ยวชีประกบจูกุ้ย พวกลิ่วล้อต่างยืนตะลึง
หลินชงจับหวางหลุนไว้แล้วด่าว่า “เจ้ามันแค่บัณฑิตบ้านนอก โชคดีที่ตู้เชียนพบสถานที่นี้ ท่านขุนนางใหญ่ไฉก็ช่วยอนุเคราะห์เรื่องเงินทองและสนับสนุน วันนี้เหล่าผู้กล้ามาร่วมอุดมการณ์กลับขับไล่ลงเขา เหลียงซานป๋อนี้เป็นของเจ้าหรือ ไอ้โจรขี้อิจฉา ไม่ฆ่าเสียจะเอาไว้ทำอะไร ความสามารถก็ไม่มี ยังมีหน้ามาเป็นหัวหน้าค่าย”
ตู้เชียน ซ่งว่าน จูกุ้ยล้วนถูกประกบไม่อาจมาช่วยได้ หวางหลุนถูกเฉาไก้ หลิวถังยุดตัวไว้ ไม่อาจหนี หลินชงใช้มีดแทงปักตรงหัวใจตายคาศาลา
โบราณว่า
量大福也大,机深祸亦深。
อารีมากมีโชค ร้อยเล่ห์มากมีเคราะห์
独据梁山志可羞,嫉贤傲士少宽柔。
只将寨主为身有,却把群英作寇仇。
酒席欢时生杀气,杯盘响处落人头。
胸怀褊狭真堪恨,不肯留贤命不留。
น่าหัวร่อขอเหลียงซานไว้อยู่เอง
ใครจะเก่งใครจะดีไม่มีสน
ขอตำแหน่งนายส้องเป็นของตน
เหล่าวีรชนล้วนแล้วศัตรูตัว
ยามกินเลี้ยงรื่นเริงอยากฆ่าเข่น
เสียงจอกเป็นสัญญาณให้เด็ดหัว
คนจิตใจคับแคบน่าเกลียดกลัว
ไม่รอดตัวเพราะไม่รักษาคน
หลินชงตัดเอาหัวหวางหลุนมาถือไว้ เฉาไก้ถือมีดยืนอยู่ อู๋ย่งไปยกเก้าอี้มาตั้งแล้วเชิญหลินชงนั่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของค่าย แต่หลินชงปฏิเสธ
ตอนก่อนหน้า : เลือดนองบึงสือเจี๋ย
https://www.blockdit.com/posts/6557584f1736155e1bc61775
ตอนถัดไป : โลกบาลสถิตเหลียงซาน
https://www.blockdit.com/posts/655df898e86f85e6eab08505
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย