24 พ.ย. 2023 เวลา 22:08 • ปรัชญา
ดงสาร

ละลายภูเขาน้ำแข็งที่แช่เย็นการพัฒนาบ้านดงสาร

การลงพื้นที่ทุกวันนี้ ผมทิ้งกรอบงานเหลือแค่กระดาษเปล่า วางทุกเครื่องมือ ผมจะถามอาจารย์และทีมว่า "มีภารกิจและเป้าหมายอะไร" งานวันนี้โจทย์สำคัญคือการตั้งกลุ่มทำงานนาปรัง ตอบความยั่งยืนเชื่อมโยงภาคีหรือตั้งวิสาหกิจชุมชน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมอายุ 60+
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ภาครัฐวาดภาพการรวมกลุ่มเป็นรูปอะไร ทำไมชาวบ้านกลัว งานกลุ่มเป็นงานเดี่ยว งานเดี่ยวเป็นงานกลุ่ม
สมชาย เครือคำ (แตงโม สกลนคร)
ผมเพิ่งเข้าใจว่าคนที่ยืนจับไมค์หน้าเวที ไม่ต้องเก่ง ไม่ต้องมีบท สิ่งที่ต้องมีคือคารมดึงดูผู้ฟัง มีแค่ทักษะจดจำงานที่ต้องทำในวันนี้ แล้วร้อยเรียงเรื่องราว เล่าเรื่องตามบรรยากาศ
ผมเริ่มต้นเล่าความลำบากการทำนาปรังแบบปักดำ จากการลงมือดำนาร่วมกับชุมชนจริง “โคลนตมลึกถึงเข่าพ่อแม่ผมกะบ่เคยพาเฮ็ด” ถูกใจชาวบ้านมาก จากนั้นผมเริ่มตั้งคำถามว่ามีเทคโนโลยีมาช่วยบางไหม ตามด้วยประเมินทักษะการแปรรูป "ข้าวเม่า" เพิ่มมูลค่า แวะฟังสถานการณ์ตลาดซื้อขายขายในชุมชน สุดท้ายทิ้งคำถาม “เราสืบทอดองค์ความรู้มายังไง แล้วจะส่งต่อยังไง” จึงเชื่อมเข้าประเด็นตั้งกลุ่ม
มีชาวบ้านพูดขึ้นว่า "บุญประทายข้าวเปลือก" พร้อมกับมีเสียงพูดคุยกันในทำนองว่าเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำนา หรือสรุปบทเรียน เริ่มตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ วิธีการผลิตแบบต่าง ๆ จนกระทั่งได้ผลผลิตดีหรือไม่ดี ช่วยกันวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนเพื่อปรับปรุงครั้งต่อไป
หลังจากปล่อยเวทีให้เกิดการพูดคุยสักพัก ผมจึงเชื่อมประเด็นการตั้งกลุ่มโดยเปรียบเทียบกลไกการจัดงานบุญประทายข้าวเปลือก พร้อมตั้งคำถามกับชุมชนว่า "ใครแบ่งหน้าที่ ใครระดมทุน ใครเชิญแขก ใครเตรียมงาน ใครทำอาหาร ใครจ้างหมอลำ ใครจ้างตำรวจมาดูแล" บทบาทหน้าที่เหล่านี้ชุมชนจัดการกันเอง
พอทุกคนเห็นภาพเดียวกัน คุณยายนั่งอยู่ด้านหน้าเริ่มชวนเพื่อนคุย แบ่งหน้าที่ว่าใครเคยทำอะไร และแล้วก็เชื่อมโยงไปเรื่องอื่นๆ มีทั้งผู้ประกอบการ ระบบการสื่อสาร ระบบดูแลช่วยเหลือกัน งานภาคีภายนอก งานดีลตลาด
การพูดคุยวางแผนยาวจนไปถึงกลกยุทธ์สร้างแรงบันดาลใจไปถึงเป้าหมาย ถ้าทำคลังเมล็ดพันธุ์ข้าว มูลค่า 45,000 บาทสำเร็จ จะจ้างหมอลำมาฉลองงานบุญประทายข้าวเปลือก
และแล้วการตั้งกลุ่มก็สำเร็จมีประธานกรรมการ ข้อตกลงต่างๆ ผมทิ้งท้ายว่า "ต่อไปนี้ถ้าหน่วยงานไหนมาพูดเรื่องกลุ่ม ให้เข้าใจว่ามีโครงสร้างคล้ายกับงานบุญ"
นี้คือจุดเริ่มต้นของการเข้าชุมชนโดยชุมชนมีส่วนร่วม ผมเปรียบให้เห็นภาพง่าย ๆ เหมือนหนุ่มสาวกำลังจีบกัน เดทแรกจะโชว์ธาตุแท้หรือจะค่อยๆ ศึกษาดูใจกันไปละ
ถือเป็นการเติมพลังในชุมชน (empowerment) กับสิ่งที่เป็นจุดแข็งอยู่แล้ว ทำให้ภูเขาน้ำแข็งที่แช่การพัฒนาละลายไปหนึ่งยอด
โฆษณา