28 ม.ค. เวลา 02:00 • การตลาด

การสร้างตราสินค้าแบบองค์กรและส่วนบุคคล

การสร้างตราสินค้าถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ นอกจากจะสร้างการจดจำให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ เอกลักษณ์ขององค์กรได้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน ในยุคโซเชียลอย่างสมัยนี้ การสร้างตราสินค้าส่วนบุคคล กำลังทวีความสำคัญมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากจำนวน คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เช่น อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูปเบอร์ และ ติ๊กต๊อกเกอร์ มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องศึกษาและแยกแยะวิธีการสร้างตราสินค้าทั้ง 2 แบบให้เข้าใจ
การสร้างตราสินค้าแบบองค์กรและส่วนบุคคล ต่างก็มีวิธีและเป้าหมายที่ต่างกัน โดยการสร้างตราสินค้าแบบองค์กร มุ่งเน้นไปที่การสร้างความรับรู้และความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย โดยผ่านการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ต่างๆ เช่น โลโก้ สินค้า บริการ เว็บไซต์ สื่อโฆษณาต่างๆ เป็นต้น ในขณะที่การสร้างตราสินค้าแบบส่วนบุคคล มุ่งเน้นไปที่การสร้างภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของตนเองให้โดดเด่นและน่าจดจำ โดยผ่านการสื่อสารและการแสดงออกต่างๆ เช่น การแต่งกาย บุคลิกภาพ ทักษะ ผลงาน เป็นต้น
1. การสร้างตราสินค้าแบบองค์กร สามารถทำได้โดยผ่านขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
1.1 กำหนดเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมาย องค์กรต้องกำหนดเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อย่างชัดเจน เพื่อให้การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ต่างๆ มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
1.2 พัฒนาอัตลักษณ์แบรนด์ องค์กรต้องพัฒนาอัตลักษณ์แบรนด์ที่สะท้อนถึงคุณค่า ความเชื่อ และจุดยืนขององค์กร โดยอัตลักษณ์แบรนด์ควรครอบคลุมถึงองค์ประกอบต่างๆ เช่น โลโก้ สินค้า บริการ เว็บไซต์ สื่อโฆษณา เป็นต้น
1.3 สื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย องค์กรต้องสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้และจดจำแบรนด์
1.4 ระยะเวลาเป็น ระยะยาว
ตัวอย่างการสร้างตราสินค้าแบบองค์กร เช่น การสร้างตราสินค้าของ Apple เน้นไปที่ด้านนวัตกรรม ความทันสมัย และการออกแบบที่สวยงาม การสร้างตราสินค้าของ Nike เน้นไปที่ด้านความสปอร์ต ความแข็งแรง และแรงบันดาลใจ
2. การสร้างตราสินค้าแบบส่วนบุคคล สามารถทำได้โดยผ่านขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
2.1 กำหนดเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมาย บุคคลต้องกำหนดเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ส่วนบุคคลอย่างชัดเจน เพื่อให้การสื่อสารและการแสดงออกต่างๆ มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
2.2 พัฒนาบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ บุคคลต้องพัฒนาบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ของตนเองให้โดดเด่นและน่าจดจำ โดยบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ควรสะท้อนถึงทักษะ ประสบการณ์ และคุณค่าของบุคคล
2.3 สื่อสารและแสดงออก บุคคลต้องสื่อสารและแสดงออกให้สอดคล้องกับบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ของตนเอง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้และจดจำ
2.4 ระยะเวลาเป็นได้ทั้ง ระยะสั้นหรือระยะยาว
ตัวอย่างการสร้างตราสินค้าส่วนบุคคล เช่น การสร้างตราสินค้าของ Elon Musk เน้นไปที่ด้านความเป็นผู้นำ ความทะเยอทะยาน และนวัตกรรม การสร้างตราสินค้าของ Michelle Obama เน้นไปที่ด้านความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ และความเป็นตัวแทนของผู้หญิง
ทั้งนี้ การสร้างตราสินค้าแบบองค์กรและส่วนบุคคล ต่างก็มีความสำคัญและมีผลต่อความสำเร็จขององค์กรหรือบุคคล การสร้างตราสินค้าที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยสร้างความแตกต่างและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
สารตั้งต้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน เพราะคำว่า "ไม่รู้" ทำคนเสีย "น้ำตา" มามากแล้ว
ถ้าเนื้อหาถูกใจ ช่วยกดติดตาม กดไลท์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ
แลกเปลี่ยนความเห็น ติชม สอบถาม แนะนำเนื้อหาได้นะครับ
#สารตั้งต้น #CorporateBranding #PersonalBranding

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา