6 ม.ค. 2024 เวลา 04:30 • นิยาย เรื่องสั้น

อากาศสดใสดีจริง...

เสียงโทรศัพท์ดังทำให้เขาสะดุ้งขณะจะเริ่มเคลิ้มหลับด้วยอากาศเป็นใจ
"ช่วยมาที่หอหน่อยสิ ขนตู้เย็นขึ้นห้องลูกบ้านน่ะ ตู้เย็นมาแล้วเหลือแค่แกะกล่องแล้วขนขึ้นไป อ้อ รีบหน่อยก็ดี ลูกบ้านรออยู่"
เสียงแม่สั่งงานยาวยืด
เสียงถอนหายใจก็ยาวไม่แพ้กันหลังวางสายแล้ว
อะไรวะเนี่ย
วันอาทิตย์อากาศน่านอนนะคร้าบบบบ
"ก็แม่เอ็งเป็นหุ้นก็จริงแต่แค่นิดเดียว เราก็ต้องออกแรงช่วยเยอะกว่าสิ"
พ่อพูดให้เขาฟังตอนที่เขาเล่าด้วยเสียงโอดครวญเรื่องต้องช่วยแบกช่วยขน ทำสารพัดจะทำ
"อ้าว แล้วงี้จะเป็นหุ้นทำไมล่ะ พวกเขาวันๆไม่เห็นทำอะไร เดินไปเดินมา นั่งอยู่ในห้องเปิดแอร์เย็น ชี้นิ้วสั่งแม่บ้านกับผมให้ทำโน่นทำนี่"
"เขาช่วยแม่เอ็งต่างหาก เขาว่าแม่เอ็งทำงานงกๆได้เงินไม่เท่าไหร่ ไม่พอยาไส้หรอก สู้มาเป็นหุ้นกันแล้วคอยดูแลตึกให้เขาดีกว่า"
เขานิ่งเงียบกับเหตุผลที่บอกมา
จริง ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหุ้นเลยด้วยซ้ำ
อาศัยว่าแม่แล้วก็ทางนั้นเป็นญาติที่ใกล้ชิดสนิทกันมาก เคยลำบากมาด้วยกันแต่เล็กแต่น้อย เพียงแต่ทางนั้นลืมตาอ้าปากได้ดีและเร็วกว่า
งานเทาๆนั่นแหละ ถึงจะเลิกไปหมดแล้วแต่ยังมีหลายคนบากหน้ามาขอให้ช่วยบ่อยไป
1
"เรื่องของเขา เราไม่ไปยุ่งด้วยหรอก มีแต่หอนี้นี่ล่ะ เขาใจดีให้ส่วนแบ่งเราตั้งครึ่งนึงเชียวนะ"
แม่พูดยิ้มๆ พ่อก็พลอยยิ้มไปด้วย มีแต่เขาที่ไม่ชอบใจนัก
นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องมาทำงานงกๆในวันนี้
อย่างไม่เต็มใจ
โรงแรมเลย์ออฟช่วงโควิด ทำเอาเขาเคว้ง ทั้งเพื่อนทั้งแฟนแยกย้ายกันไปหางานทำที่ใหม่กันเป็นแถว
เขาเองก็ร่อนใบสมัครไปหลายที่ แต่ยังไม่มีคนตอบรับ
นานเข้าเพื่อนฝูงก็หายหน้ากลับบ้านกันหมด รวมทั้งแฟนเขาด้วยที่โบกมือลากลับไปได้สัก3เดือนแล้ว
เหลือแต่เขานี่ล่ะ
"เอาไงต่อล่ะ มาช่วยที่หอเต็มเวลาก่อนไหม? ชั่วคราวก็ได้ แม่จะตีเงินเดือนให้ด้วย"
แม่ถามพร้อมนั่งเคลียร์บัญชีอย่างงกๆเงิ่นๆจนเขาทนไม่ได้ต้องมาช่วยจัดการแทน
"ก็ดีเหมือนกัน ตาแม่ไม่ค่อยจะดีแล้ว จดผิดจดถูกลูกบ้านจะว่าเอาได้"
"..."
"เอาเถอะ คิดว่าทำชั่วคราว พอมีงานใหม่แล้วค่อยว่ากัน พ่อว่าจะฝากเอ็งเข้าที่ทำงานแต่คนมันเต็มแล้ว นี่หัวหน้าพ่อเขาว่าจะหาตำแหน่งที่แผนกอื่นให้แต่ยังไม่รับปากว่าจะได้"
"..."
นอนคิดอยู่หนึ่งคืนก็รับคำไปช่วยแม่ที่หอ
"ชั่วคราวนะแม่ ถ้าได้งานแล้วผมจะกลับไปทำ"
แม่พยักหน้ารับ
เอ แต่ปกติกูก็ช่วยแม่ทำงานที่หออยู่แล้วนี่หว่า
เอาน่า ชั่วคราวเอง
มีเงินใช้ด้วย ไม่ได้ทำฟรีเหมือนเคย
ถ้าไม่ใช่ช่วงจ่ายค่าหอ งานก็จะไม่มากนัก อู้ได้สบายมาก แต่ความที่แม่เป็นคนสะอาด แม่บ้านที่เป็นลูกมือเลยต้องออกแรงมากหน่อย แล้วยังลามไปถึงช่างประจำตึกที่เป็นสารพัดช่าง ก็ต้องอยู่ในระเบียบเรียบร้อยไปด้วย
"แม่เอ็งดีนะ สะอาดกับเรียบร้อยมาก ตึกก็สะอาด ลูกบ้านก็ชอบใจ น้าเลยต้องสะอาดไปด้วยไม่งั้นแม่เอ็งจะว่าเอาได้"
น้าโด่งช่างประจำตึกคุยไปทำงานไปขณะที่เขาช่วยเป็นลูกมือส่งเครื่องมือให้
"เอ็งจำแล้วก็ไปหัดทำด้วยล่ะ น้าแก่แล้ว บางทีทำงานไม่ถนัด เอ็งจะได้ลงมือจัดการแทนบ้าง อาชีพติดตัวเลยนะเว้ย ช่างอย่างน้าตอนนี้หายากนา ถ้าออกรับงานเองก็ได้ไม่น้อย แต่น้าอายุเยอะแล้ว ปีนป่ายก็ไม่ถนัดเหมือนก่อน ลูกหลานน้ามันไม่เอา ชอบทำแต่งานโรงงาน เงินเดือนหายหมด"
น้าโด่งบ่นพึมพัมแล้วให้เขาเปิดสวิทช์ไฟดูว่าใช้งานได้หรือเปล่า
รู้ว่ารายได้ไม่น้อย แต่มันไม่หรูเหมือนทำออฟฟิศหรือบริษัทใหญ่ๆน่ะ
น้าโด่งหัวเราะเบาๆราวกับล่วงรู้ความคิดของเขา เขาจึงเสหยิบฉวยเครื่องมือมาช่วยซ่อมงานต่อ
"มึงก็รู้ว่าฝรั่งแม่งทิปดี คนจีนก็เหมือนกัน คนไทยเราซะอีกที่ขี้เหนียวไม่จ่ายทิป กูเลยไม่ค่อยช่วยขนให้ เหนื่อยเปล่า สู้ไปขนให้ฝรั่งกับพี่จีนดีกว่า เออ แล้วนี่มึงจะกลับไปทำที่โรงแรมอีกหรือเปล่าวะ เห็นว่าเขาเรียกตัวกลับมาหลายคนแล้ว กูว่าจะกลับไปทำเหมือนเดิม ตำแหน่งเดิมน่ะ สบายใจดี ไม่ต้องคิดเยอะ"
งานคิดบัญชีไม่ยากแต่จุกจิก ลูกบ้านบางคนก็เค็มไม่แพ้กัน เช็ครายละเอียดสารพัด เขากับแม่เลยต้องคุยกับลูกบ้านบางคนมากหน่อย บ้างก็เหนียวหนี้ ต้องตามทวงบ่อยจนระอา
"เขาก็ต้องให้ตัวเองได้เปรียบมากที่สุด จ่ายเร็วก็ว่าไม่ฉลาด จ่ายช้าก็ว่าได้เปรียบ นิดหน่อยก็เอา เออ แล้วนี่เห็นว่าที่เดิมโทรมาตามเหรอลูก"
"ครับ"
เขาตอบสั้นๆ มือง่วนกับการทำบัญชีเช็คยอดเงินเข้า
"งวดนี้ดีนะแม่ จ่ายครบตามเวลา ไม่ต้องทวงเลย อ้อ น้าโด่งขอเบิกค่าอะไหล่ด้วยนะแม่ แล้วน้าแจ๋วว่าจะลาไปเยี่ยมบ้านกับงานกฐินด้วยสัก2-3วันครับ"
คนเป็นแม่ยิ้ม ไม่ถามต่อ
ความอยากกลับไปทำงานยังมีเยอะ ถึงแม้รู้ว่ารายได้จากทางนี้ก็ไม่น้อย แต่มันไม่ค่อยอิสระ ดูไม่หรู จะไปไหนมาไหนบางทีก็มีโทรจิกตามเพราะลูกบ้านมีปัญหาให้มาแก้ ไม่ไฟก็น้ำ ลามไปถึงแอร์กับเครื่องซักผ้า
น่าพี่ ช่วยหนูหน่อยนะคะ ตู้ซักผ้ามันกินเหรียญหนู
น้อง มีเหรียญให้แลกมั้ย
ช่างคะ แอร์ไม่เย็นเลย ช่วยมาดูให้หน่อยได้มั้ยคะ
พี่จอดแป๊บเดียวน่า เจ้าของหอเขาไม่ว่าหรอก รู้จักกันดี
ช่วยมาดูไฟที่ห้องให้หน่อยนะน้อง ติดๆดับๆ
บางทีเขาก็ต้องขี่มอเตอร์ไซค์มาที่หอเพราะลูกบ้านเข้าห้องไม่ได้ ลืมกุญแจ
พี่ยามยืนเกาหัว
เขาได้แต่ขี่รถมาเปิดห้องให้ตอน4ทุ่ม
อะไรกันนักกันหนาวะ
เขา แม่บ้านกับน้าโด่งช่วยกันย้ายตู้เย็นไปตามที่แม่บอกมา
ตู้น่ะไม่หนักเท่าไหร่แต่มันเสียหายได้ คนมากหน่อยก็เบาแรงกับช่วยกันระวังได้ดีขึ้น
ขนย้ายขึ้นลิฟท์มาจนถึงหน้าห้อง เขาก็เคาะประตูเรียก
เสียงเปิดประตูออกมาพร้อมกลิ่นบุหรี่จางๆ
แม่บ้านอุทานเบาๆเมื่อเห็นสภาพลูกบ้าน
ผู้ชายใส่กางเกงในตัวเดียวยืนเปิดประตูอ้าซ่า ทำไม้ทำมือว่าให้ขนเข้ามาได้เลย
"อ้อ รายนี้เป็นคนจีน มาอยู่กับแฟนคนไทยน่ะ เขาฟังภาษาไทยไม่ค่อยได้ แต่ไม่เรื่องมาก"
มิน่าล่ะ เคยเห็นแต่อยู่คนเดียว เดี๋ยวมีแฟนมาอยู่ด้วย
เขากับน้าโด่งจึงต้องช่วยกันขนตู้เย็นเข้าห้องให้
เรียบร้อยแล้วลูกบ้านก็ควักเงิน
สามร้อย...
คนละร้อยพอดี
แกทำท่าบอกให้เอาไปเถอะแล้วปิดประตู
ได้ทิปด้วยเว้ยกู
"น้าแจ๋วอย่าลืมบอกแฟนเขานะครับว่าให้ระวังเรื่องบุหรี่ด้วย อันตรายกับเกรงใจลูกบ้านคนอื่นน่ะครับ บางคนแพ้บุหรี่ บางคนก็ไม่ชอบ"
"น้าบอกเขาแล้วล่ะ เขาก็รับปาก แต่ไม่รู้จะได้กี่น้ำ"
ไม่รู้จิ รู้แต่กูได้ทิปด้วยเว้ย
ขนของขึ้นหอมาตั้งนานเพิ่งจะได้ทิปกับเขา
"กูบอกมึงแล้ว พวกฝรั่งพวกต่างชาติแม่งทิปดี คนไทยแม่งขี้เหนียว"
ปลายสายว่าอย่างนั้น
เขานอนคิดว่าจะเอาอย่างไรดี
ช่วยแม่ทำงานที่หอต่อไปหรือว่าไปทำงานตามเดิมดีวะ
ที่บ้านน่ะอยากให้เขาลงมาช่วยเต็มตัวเพราะแม่กับพ่อคิดการใหญ่อยากซื้อหอพักแห่งนี้ไว้เอง
"เงินน่ะพอมีแต่ยังต้องเข้าแบงค์เหมือนกัน แม่น่ะคุยกับพ่อกับแบงค์เรื่องกู้เงินแล้ว ส่วนทางเขาไม่มีปัญหา เขาโอเคอยู่"
แม่พูดพลางยิ้มไปพลาง เขาได้แต่มองและคิดตาม
มันจะคุ้มไหมหว่า
...
...
...
เขานั่งมองดูเงินเก็บเล็กผสมน้อยในกระปุกเก่าๆที่เก็บมานานจนเต็มล้น ผสมกับเงินในบัญชีที่เปิดอยู่ตรงหน้า แล้วก็เห็นแบงค์สีแดงที่เป็นค่าทิปตอนขนตู้เย็นเข้าห้องชัดเจน
เขาเอื้อมมือไปยกขึ้นมาอย่างใจลอย
เสียงปลายสายเรียกตัวเขากลับไปทำงานในตำแหน่งเดิม แต่เขาต่อรองเรื่องขอย้ายตำแหน่งที่เขารู้มาคร่าวๆว่าว่างอยู่ ซึ่งปลายสายก็รับว่าจะไปคุยกับฝ่ายบุคคลก่อน
เขาไม่ได้ต่อรองเพราะหวังแค่ตำแหน่งหรือเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่เขายังอยากรู้เรื่องธุรกิจด้านนี้ให้มากขึ้นไปอีกเพื่ออนาคต ไม่ใช่อยู่แค่ตำแหน่งเดิมไปตลอด
เสียงแม่กับพ่อนั่งคุยกันถึงอนาคตที่คาดหวังไว้แว่วๆมา
เสียงในหัวดังอื้ออึงไม่แพ้กัน
เขาได้แต่คิด
แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง
มองไกลออกไปสุดสายตา
ลมแรง
อากาศสดใสดีจริง...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา