Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สารตั้งต้น
•
ติดตาม
21 เม.ย. เวลา 02:00 • ธุรกิจ
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
ทั้งชีวิตส่วนตัว หรือ การทำงาน สามารถเกิดสิ่งที่ตาดไม่ถึง ที่จะส่งผลร้ายให้กับตัวเราได้ หรือก็คือความเสี่ยงนั้นเอง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึง ความเป็นคนตาย ดังนั้น การจัดการความเสี่ยง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะละเลยไม่ได้ โดยการจัดการความเสี่ยงที่ถูกวิธี ก็จะช่วยให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาวได้อีกด้วย
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) คือ กระบวนการที่ใช้ในการระบุ วิเคราะห์ ประเมิน และควบคุมความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือโครงการ เพื่อให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ความเสี่ยง คือ เหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบในทางลบต่อองค์กรหรือโครงการ หากความเสี่ยงเกิดขึ้นจริง อาจทำให้องค์กรหรือโครงการต้องสูญเสียทรัพยากร เงินทุน ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความอยู่รอด
การบริหารความเสี่ยงมีขั้นตอนหลัก 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. การระบุความเสี่ยง (Risk Identification) คือ การระบุเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือโครงการ เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดจากปัจจัยภายในหรือภายนอกองค์กร เช่น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบ ภัยธรรมชาติ หรือความผิดพลาดของมนุษย์
2. การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analysis) คือ การระบุโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ความเสี่ยง (Probability) และผลกระทบของเหตุการณ์ความเสี่ยงหากเกิดขึ้นจริง (Impact) การวิเคราะห์ความเสี่ยงสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) หรือการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis)
3. การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) คือ การรวมโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ความเสี่ยงและผลกระทบของเหตุการณ์ความเสี่ยงเข้าด้วยกัน เพื่อประเมินระดับความเสี่ยงของเหตุการณ์นั้นๆ ระดับความเสี่ยงอาจแบ่งออกเป็นระดับต่ำ ระดับปานกลาง หรือระดับสูง โดยอาจใช้วิธีการต่างๆ เช่น การใช้ตารางความเสี่ยง (Risk Matrix) การใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เป็นต้น
4. การตอบสนองต่อความเสี่ยง (Risk Response) คือ การวางแผนและดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงหรือรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น วิธีการตอบสนองต่อความเสี่ยงมี 5 กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง ได้แก่
4.1 การหลีกเลี่ยง (Avoidance) กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง ลองจินตนาการว่ามันเหมือนกับการนำทางบนเส้นทางบนภูเขาที่อันตราย คุณมองเห็นส่วนที่พังทลายอยู่ข้างหน้าและตัดสินใจใช้เส้นทางที่ปลอดภัยกว่า แม้จะนานกว่าก็ตาม
4.2 การกำจัด (Eliminate) กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นไปที่การขจัดแหล่งที่มาของความเสี่ยงทั้งหมด คิดว่ามันเหมือนกับการกำจัดวัชพืชในสวน คุณถอนวัชพืชที่รุกรานออกเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันสำลักต้นไม้ที่คุณปลูกไว้
4.3 การโอน (Transfer) ลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการโอนความรับผิดชอบหรือภาระความเสี่ยงไปยังบุคคลอื่น เหมือนกับการแชร์น้ำหนักของกระเป๋าเป้อันหนักหน่วงกับเพื่อน ทำให้การเดินทางของคุณทั้งคู่ง่ายขึ้น
1
4.4 การบรรเทาผลกระทบ (Mitigation) กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการลดโอกาสหรือผลกระทบของความเสี่ยงผ่านมาตรการเชิงรุก ลองจินตนาการว่ามันเหมือนกับการเสริมกำลังปราสาทของคุณจากการถูกโจมตี ถ้าคุณสร้างกำแพงที่แข็งแกร่ง ฝึกฝนยามของคุณ และสะสมเสบียงเพื่อลดความเสียหายหากศัตรูเข้ามา
4.5 การยอมรับ (Acceptance) กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการยอมรับว่าความเสี่ยงบางอย่างเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และการเตรียมการจัดการกับผลที่ตามมา ให้คิดว่ามันเหมือนกับการเผชิญกับวันที่ฝนตก คุณยอมรับว่ามันอาจเกิดขึ้น แต่คุณก็ต้องเตรียมร่มและเสื้อกันฝนเพื่อไม่ให้ตัวเปียก
โปรดจำไว้ว่า กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ดีที่สุดมักจะเกี่ยวข้องกับแนวทางเหล่านี้ผสมผสานกัน เลือกเครื่องมือที่เหมาะกับสถานการณ์เฉพาะที่สุดและปรับแผนของคุณตามความจำเป็น ด้วยความวิธีการเชิงรุกและ ติดตามข้อมูล คุณสามารถนำทางผ่านทะเลแห่งความเสี่ยงที่ไม่แน่นอนได้อย่างมั่นใจ!
5. การติดตามและทบทวน (Monitoring and Review) คือ การติดตามและทบทวนความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าความเสี่ยงได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิผลมีดังนี้
●
รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด (Get Buy-in from All Stakeholders) การบริหารความเสี่ยงควรเป็นความพยายามร่วมกัน ให้ทุกคนที่จะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงในกระบวนการนี้มีส่วนร่วม
●
มีความยืดหยุ่น (Flexible) สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เสมอไป เตรียมพร้อมที่จะปรับแนวทางการบริหารความเสี่ยงของคุณตามความจำเป็น
●
ดำเนินการเชิงรุก (Proactive) อย่ารอให้ความเสี่ยงเกิดขึ้นก่อนที่จะดำเนินการ
●
สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Communicate Effectively) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนเข้าใจความเสี่ยงและแผนการจัดการความเสี่ยงเหล่านั้น
●
บันทึกทุกอย่าง (Document Everything) ติดตามการประเมินความเสี่ยง การตอบสนอง และการติดตามกิจกรรมของคุณ
ตัวอย่างที่ดีของการบริหารความเสี่ยง เช่น
ตัวอย่างที่ 1 - สายการบิน
วิธีที่สายการบินจัดการความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ สายการบินใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น:
การระบุอันตราย: สายการบินระบุอย่างรอบคอบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ เช่น นกชน เครื่องยนต์ขัดข้อง และ ข้อผิดพลาดของนักบิน
การประเมินความเสี่ยง: สายการบินประเมินโอกาสและความรุนแรงของอันตรายแต่ละอย่าง
การลดความเสี่ยง: สายการบินดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยง เช่น การใช้เรดาร์ตรวจจับนก การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เป็นประจำ และ การฝึกอบรมนักบินเพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
การรายงานและการวิเคราะห์เหตุการณ์: สายการบินติดตามเหตุการณ์และอุบัติเหตุทั้งหมด และ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุวิธีปรับปรุงแนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยง
ด้วยการใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ สายการบินจึงสามารถปรับปรุงบันทึกด้านความปลอดภัยได้อย่างมีนัยสำคัญ
ตัวอย่างที่ 2 - ภารกิจ Apollo 11
ภารกิจ Apollo 11 โดย NASA ระบุและลดความเสี่ยงต่างๆ มากมายตลอดการวางแผนและปฏิบัติภารกิจ
การระบุอันตรายและการลดความเสี่ยง:
●
ไฟไหม้ (Fire) โศกนาฏกรรมไฟไหม้ยานอวกาศอะพอลโล 1 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการออกแบบยานอวกาศและขั้นตอนต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ในอนาคต
●
เครื่องยนต์ขัดข้อง (Engine Failure) ระบบเครื่องยนต์สำรองได้รับการออกแบบเพื่อให้แน่ใจว่าภารกิจสามารถดำเนินต่อไปได้แม้ว่าเครื่องยนต์ตัวใดตัวหนึ่งจะล้มเหลวก็ตาม
●
การกลับเข้ามาโลกของยานอวกาศ (Spacecraft Re-entry) แผงป้องกันความร้อนและวิถีกลับเข้ามาได้รับการออกแบบอย่างระมัดระวังเพื่อให้ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงของชั้นบรรยากาศของโลก
ด้วยการระบุและจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ในเชิงรุก NASA สามารถบรรลุเป้าหมายในการลงจอดมนุษย์บนดวงจันทร์ได้
การบริหารความเสี่ยงเป็นกระบวนการที่สำคัญสำหรับทุกองค์กรและโครงการ เพราะช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยลดผลกระทบจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
สารตั้งต้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน เพราะคำว่า "ไม่รู้" ทำคนเสีย "น้ำตา" มามากแล้ว
ถ้าเนื้อหาถูกใจ ช่วยกดติดตาม กดไลท์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ
แลกเปลี่ยนความเห็น ติชม สอบถาม แนะนำเนื้อหาได้นะครับ
#สารตั้งต้น #RiskManagement #Avoidance #Eliminate #Transfer #Mitigation #Acceptance
ความรู้รอบตัว
ธุรกิจ
แนวคิด
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
การสร้างแนวคิดทางธุรกิจ (Business Idea Generation)
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย