5 พ.ค. เวลา 02:00 • ธุรกิจ

การวางแผนงานด้วยแผนภูมิแกนต์ (Gantt Chart)

ในการทำโครงการต่างๆ หลังจากที่กำหนดแผนการทำงาน (Action Plan) ผู้ที่บริหารโครงการจำเป็นต้องกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน เพื่อที่จะนำไปจัดสรรทรัพยากร ควบคุม และ ติดตามความก้าวหน้าของโครงการ หากผู้บริหารโครงการ กำหนดเวลาในแผนการทำงานได้เป็นอย่างดี จะช่วยให้โครงการดำเนินการไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และ ลดความเสี่ยงผิดนัดส่งมอบงาน ซึ่งมีรายละเอียดและเทคนิคดังต่อไปนี้
แผนภูมิแกนต์ถูกคิดค้นโดย Henry L. Gantt นักวิศวกรและนักบริหารชาวอเมริกันในปี ค.ศ. 1917 แผนภูมิแกนต์ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการโครงการต่างๆ ในทุกประเภทอุตสาหกรรม
แผนภูมิแกนต์ (Gantt Chart) คือ แผนภูมิที่ใช้แสดงลำดับและระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรืองานต่างๆ ภายในโครงการ แผนภูมิแกนต์มีองค์ประกอบหลัก 3 อย่างคือ
1. แกนนอน แสดงถึงระยะเวลาในการทำงานตลอดโครงการ โดยแบ่งออกเป็นช่วงๆ เช่น วัน เดือน หรือปี
2. แกนตั้ง แสดงถึงงานหรือกิจกรรมที่ต้องทำ โดยอาจระบุชื่องานหรือกิจกรรม รหัสงาน หรือผู้รับผิดชอบงาน
3. แท่งกราฟวางตัวในแนวนอน แสดงถึงระยะเวลาในการทำงานของงานหรือกิจกรรมแต่ละงาน โดยความยาวของแท่งกราฟเป็นสัดส่วนโดยตรงกับระยะเวลาในการทำงาน ซึ่งสามารถแสดงด้วยสัญลักษณ์เพื่อเป็นตัวแทนข้อมูลต่างๆ ดังนี้
3.1 เส้นประเส้นกำหนดเวลา (Deadline)
3.2 เส้นทึบเส้นความคืบหน้า (Progress)
3.3 เส้นขีดเส้นความล่าช้า (Delay)
3.4 เส้นลูกศรเส้นความเชื่อมโยง (Dependency)
นอกจากนี้ แผนภูมิแกนต์อาจมีการระบุข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น
  • วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดงาน
  • ลำดับของงาน
  • ความสัมพันธ์ระหว่างงาน
  • งบประมาณ
  • ทรัพยากร
แผนภูมิแกนต์มีประโยชน์ในการวางแผนและติดตามความคืบหน้าของโครงการ โดยช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถมองเห็นภาพรวมของโครงการทั้งหมดได้อย่างชัดเจน แผนภูมิแกนต์ยังช่วยให้สามารถระบุกิจกรรมหรืองานที่ต้องเร่งรัดหรือเลื่อนได้ ช่วยในการติดตามความคืบหน้าของโครงการ และ ช่วยในการระบุถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการ
การสร้างแผนภูมิแกนต์ สามารถทำได้โดยแบ่งออกเป็นขั้นตอน ดังนี้
  • 1.
    กำหนดขอบเขตของโครงการ
  • 2.
    ระบุกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ
  • 3.
    ประมาณระยะเวลาในการทำงานของแต่ละกิจกรรม
  • 4.
    กำหนดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่างๆ
  • 5.
    สร้างแผนภูมิแกนต์
เทคนิคการสร้างแผนภูมิแกนต์ ดังนี้
  • ใช้สีสันและสัญลักษณ์ให้เหมาะสม สีสันและสัญลักษณ์จะช่วยให้แผนภูมิดูสวยงามและเข้าใจง่ายขึ้น แต่ไม่ควรใช้สีสันและสัญลักษณ์มากเกินไปจนทำให้แผนภูมิดูรกและเข้าใจยาก
  • อัปเดตข้อมูลให้ทันสมัย แผนภูมิควรได้รับการอัปเดตข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ชมสามารถติดตามความคืบหน้าของข้อมูลได้
  • สร้างแผนภูมิโดยใช้ซอฟต์แวร์แผนภูมิแกนต์หรือเครื่องมือวาดภาพ เช่น Microsoft Project, Microsoft Excel, Express Project, SmartDraw และ Trello เป็นต้น
  • ใช้คำอธิบายประกอบ คำอธิบายประกอบจะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจข้อมูลในแผนภูมิได้ดีขึ้น ควรใช้คำอธิบายประกอบที่กระชับ เข้าใจง่าย และ ตรงประเด็น
ตัวอย่างแผนภูมิแกนต์
สารตั้งต้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน เพราะคำว่า "ไม่รู้" ทำคนเสีย "น้ำตา" มามากแล้ว
ถ้าเนื้อหาถูกใจ ช่วยกดติดตาม กดไลท์ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจ
แลกเปลี่ยนความเห็น ติชม สอบถาม แนะนำเนื้อหาได้นะครับ
#สารตั้งต้น #GanttChart
โฆษณา