17 ธ.ค. 2023 เวลา 05:04 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด”

“อายุที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้เราตัดใจยอมทิ้งความฝัน แต่เป็นเพราะเราเริ่มต้องการความมั่นคงและความสุขสงบ เราเริ่มปฏิเสธความทรมานใจซึ่งเป็นสารกันบูดของความฝัน ลืมไปเสียสนิทว่า ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นอาจเป็นการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้“
ผู้เขียนเป็นอาจารย์ที่คอยแนะนำเรื่องต่างๆ ให้แก่ลูกศิษย์ ไม่ว่าจะเป็นการสอบ การตัดใจ การเรียนรู้สิ่งต่างๆ การมีความรัก
เล่มที่ 32
เนื้อหาเน้นไปที่การสอนบทเรียนชีวิตต่างๆ ให้วัยรุ่นได้รับรู้ก่อนที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต แม้เราจะไม่ใช่วัยรุ่นแล้วก็สามารถอ่านได้ เพราะบางบทผู้เขียนจะคอยตั้งคำถามให้ผู้อ่านคิดว่าหากเป็นตัวเราจะเลือกแบบไหนจะทำแบบไหน มันจึงทำให้เป็นบทเรียนชีวิตที่นำมาใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย
เช่น การที่ผู้เขียนบอกว่า ลูกศิษย์ที่มาปรึกษาผู้เขียนถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกตั้งเป้าหมายให้ชีวิตลอยทะยานไปถึงเป้าหมายเหมือนธนู กลุ่มที่สองใช้ชีวิตอ้อยอิ่งเหมือนกระดาษที่ล่องลอยไปกับกระแสน้ำ ผู้เขียนบอกว่าไม่ว่าจะอยู่กลุ่มไหน ผู้เขียนเชื่อว่าการยอมรับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์อย่างยืดหยุ่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
แล้วผู้เขียนก็ย้อนถามผู้อ่านให้คิดว่าเราอยู่กลุ่มใด พร้อมทั้งแนะนำให้เราถามตัวเองว่า “ฉันต้องการอะไร ฉันทำอะไรแล้วมีความสุข ฉันทำอะไรได้ดีที่สุด ฉันเป็นใคร” ให้เราทบทวนตัวเองอยู่เสมอ แล้วจะได้คำตอบให้กับชีวิตตัวเอง
ผมชอบคำคมของผู้เขียนที่มีอยู่ในเล่มมากมาย ซึ่งผู้เขียนก็บอกว่าการเขียนบทความได้ดีของผู้เขียนนั้นก็มาจากการฝึกเขียนบ่อยๆ และบอกว่าการเขียนบทความได้ดีนี้จำเป็นสำหรับทุกคน เราควรจะฝึกเขียนบ่อยๆ เพราะทักษะนี้จะต่อยอดความสามารถด้านอื่นของเราเอง
คำคมของผู้เขียนที่ผมชอบ เช่น
”กำลังท้อแท้อยู่ใช่ไหม ขณะที่เพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันเริ่มทยอยประสบความสำเร็จ มีเพียงคุณเท่านั้นที่ยังดูเลื่อนลอยอยู่ใช่ไหม…ดอกไม้แต่ละชนิดผลิบานในฤดูกาลของมันเอง ตอนนี้อาจยังไม่ถึงช่วงเวลาของคุณ อาจสายไปหน่อยเมื่อเทียบกับคนอื่น แต่ถ้าฤดูนั้นมาถึง คุณจะงดงามไม่แพ้ดอกไม้ชนิดอื่น ดังนั้นในช่วงเวลาที่ต้องรอคอย จงเตรียมตัวให้พร้อม“
“เวลาประมาณ 15 นาที ในช่วงที่รอเพื่อน รอขึ้นรถไฟใต้ดิน....เป็นช่วงเวลาที่ก้ำกึ่งไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี แต่ถ้าปล่อยผ่านไปเฉยๆก็รู้สึกเบื่อ คำถามคือ คุณใช้เวลาเหล่านี้ทำอะไร …ผมคิดว่าการนำเศษเวลามาใช้ประโยชน์ น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจัดการเวลา อย่ารอให้มีเวลามากเพียงพอ แต่ต้องนำเศษเวลาที่พอมีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด…หากเอาแต่คิดว่าถ้ามีเวลาแล้วค่อยทำ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย อย่านำความขี้เกียจมาเป็นข้ออ้าง รั้งรอที่จะทำหรือเลื่อนเวลาออกไป“
“ความสามารถในการข่มใจต่อปัจจุบันเพื่อนาคต เป็นหลักสำคัญที่ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ…โปรดจำไว้ว่าถ้าวันนี้ไม่รู้จักข่มใจ พรุ่งนี้ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ”
อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในเล่มมีปริมาณค่อนข้างเยอะ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ผมรู้สึกว่าไม่ได้อะไรจากการอ่านมากเท่าไหร่ เพราะเน้นการสอนวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา เป็นการนำชีวิตส่วนตัวของผู้เขียนมาเล่าพร้อมกับแนะนำวัยรุ่นให้ใช้ชีวิตตามที่ผู้เขียนเห็นว่าควรทำอย่างไรในช่วงเวลานั้นซะมากกว่า
เนื้อหาช่วงหลังเน้นความคิดเห็นของผู้เขียนที่อยากให้วัยรุ่นที่เป็นนักศึกษาได้อะไรจากการศึกษาในมหาลัยมากกว่าความรู้ เน้นสอนการใช้ชีวิต วิธีคิด ให้นักศึกษาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี จึงอาจจะไม่โดนใจผมสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะไกลตัวเราไปแล้ว
ผมจะนำคำแนะนำของผู้เขียนที่ชอบไปใช้ เช่น “การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็เป็นอีกช่องทางที่ทำให้เราสั่งสมประสบการณ์ได้ดีไม่แพ้การอ่านหนังสือ เพราะการพูดคุยกับคนที่ผ่านเหตุการณ์นั้นมาจริงๆ หรือมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเรา จะช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์และทำให้เราได้เห็นโลกกว้าง”
สรุปให้ 3 ดาว ⭐️⭐️⭐️
ผู้เขียน : คิมรันโด
ผู้แปล : วิทิยา จันทร์พันธ์
สำนักพิมพ์ : springbooks
หมวด : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง
จำนวนหน้า : 247 หน้า ปกอ่อน
ขนาดรูปเล่ม : 146 x 210 x 15 มม.
น้ำหนัก : 330 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : 2 สี
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
พิมพ์ครั้งที่ 51 : 2566
ISBN : 9786161851385
หนังสือราคา 245 บาท มี 247 หน้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา