6 ม.ค. เวลา 04:00 • หนังสือ

ข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากยโสธร

เมื่อเดือนตุลาคม ได้เล่าถึงโครงการ “รวมลงขันชวนกันไปทำนา” https://www.blockdit.com/posts/6529734eb64ec98fee7d70b6 ของจังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นโครงการเชิญชวนให้คนในเมืองลงขันทำนาเกษตรอินทรีย์กับกลุ่มชาวนาที่ทำเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดยโสธร
ถึงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ข้าวที่ร่วมลงขันไว้ก็ถูกส่งจากยโสธรมาถึงบ้านที่กรุงเทพ เป็นข้าวหอมมะลิอินทรีย์ขัดขาว แพคบรรจุถุงสุญญากาศถุงละ ๑ กิโลกรัม จากกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านโนนยาง ตำบลกำแมด อำเภอกุดชุม ซึ่งมีพี่บุญส่ง มาตขาว หนึ่งในปราชญ์เกษตรอินทรีย์คนสำคัญคนหนึ่งของจังหวัดเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการนำกลุ่มทำเกษตรอินทรีย์มากว่า ๓๐ ปี
ราคาของข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากยโสธร ๑ กิโลกรัมจะอยู่ที่ราคา ๕๐ บาท แต่ถ้ารวมแพคสูญญากาศด้วยจะตกประมาณ ๖๐ บาท แน่นอนว่าถ้าเทียบกับราคาของข้าวหอมมะลิทั่วไปที่ไม่ใช่ข้าว organic ที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดราคาจะสูงกว่า แต่ก็ไม่ถือว่าสูงกว่ามากจนไกลเกินเอื้อม
สาเหตุหนึ่งที่คนกังวลในการจะตัดสินใจจ่ายเงินซื้อข้าวอินทรีย์มาหุงรับประทาน ทั้งที่เป็นข้าวคุณภาพดี ไร้สารเคมีและดีต่อสุขภาพ ก็คือ มักจะคิดกันว่าข้าวอินทรีย์มีราคาแพง จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
แต่ถ้าลองมาคิดเปรียบเทียบกันโดยเฉพาะ ถ้าคิดจากปริมาณที่แต่ละคนบริโภคข้าวที่หุงเองแล้วจะยิ่งพบว่า ในภาพรวมแล้วจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายเพิ่มจะไม่สูงมากอย่างที่คิดไว้
ก่อนอื่นลองมาดูตัวเลขอัตราการบริโภคข้าวของคนไทย เมื่อตอนปี พ.ศ.๒๕๕๙ ที่ทำเรื่องเกษตรอินทรีย์อยู่ที่จังหวัดยโสธร อัตราการบริโภคข้าวของคนไทยก็ลดลงมาอยู่ที่ ๑๑๐ กิโลกรัมต่อคนต่อปี และปีต่อๆ มาก็ลดลงมาเรื่อยๆ โดยตัวเลขจากกรมการค้าภายในที่ออกข่าวมาในปี ๒๕๖๕ อัตราการบริโภคข้าวของคนไทยลดลงเหลือคนละ ๗๕ กิโลกรัมต่อปี ถ้าเป็นกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานจะเหลือเพียง ๗๒ กิโลกรัม และในกรุงเทพฯ เหลือเพียง ๕๐ กิโลกรัมต่อปีเท่านั้น
อันนี้เป็นตัวเลขเฉลี่ย เพื่อให้เห็นตัวเลขการบริโภคข้าวของตัวเราจริงๆ หรือคิดเป็นครอบครัวด้วย เลยได้ทำแอบพลิเคชั่นแบบง่ายๆ โดยใช้ glide app เพื่อช่วยคำนวณปริมาณข้าวที่ใช้บริโภคชื่อ organicrice ใครที่สนใจลองไปใช้ดูที่ https://organicrice-2566.glide.page/
ยกตัวอย่าง คน ๑ คน ทานข้าวเฉลี่ยมื้อละ ๑ จาน (คิดเป็นปริมาณข้าวสารประมาณ ๘๐ กรัม) วันหนึ่งหุงทานเอง ๒ มื้อ ใน ๑ ปีจะต้องซื้อข้าวสารประมาณ ๕๘.๔๐ หรือปัดเป็น ๖๐ กิโลกรัมต่อปี
ถ้าคำนวณจากราคาข้าวทั่วไปในท้องตลาดคิดที่กิโลกรัมละ ๔๐ บาท หมายความว่าปีหนึ่งคนๆ นี้จะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อข้าวสารตกปีละ ๒,๔๐๐ บาท (๖๐ กิโลกรัม x ๔๐ บาท)
แต่ถ้าคนๆ นี้เปลี่ยนมาทานข้าวอินทรีย์ ปีหนึ่งจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อข้าวอินทรีย์เพิ่มเป็น ๓,๖๐๐ บาท (๖๐ กิโลกรัม x ๖๐ บาท)
ความแตกต่างจะอยู่ที่ ๑,๒๐๐ บาท หรือเดือนละ ๑๐๐ บาท เท่านั้นเอง
ซึ่งจริงๆ แล้วในปัจจุบันคนจะทานข้าวนอกบ้านหรือซื้อจากร้านกันเป็นส่วนใหญ่ การหุงข้าวรับประทานเองลดลง ดังนั้นจำนวนความแตกต่างก็จะลดลงไปอีก
ในเวลาที่คนไทยบริโภคข้าวน้อยลง หากเราช่วยกันรณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยปรับเปลี่ยนมาบริโภคข้าวอินทรีย์ ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดี ก็จะเป็นการดีทั้งต่อเกษตรกรผู้ทำเกษตรอินทรีย์ที่จะได้มั่นคงในการทำเกษตรอินทรีย์ ดีต่อสิ่งแวดล้อมที่ผืนดินจะไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ไม่มีการเผาหน้าดิน และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคเอง
ข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากกุดชุม ยโสธร
โดย นาย Bt
๕ มกราคม ๒๕๖๖
ติดตามอ่านเรื่องต่างๆ และ ร่วมกด follow ได้ที่
# สองข้างทาง https://www.blockdit.com/bntham
#รอยเท้าที่ก้าวผ่าน https://www.blockdit.com/bntham2
และติดตามซีรีย์ disaster ได้ที่ https://www.blockdit.com/series/65262b5af363005c5fce7edd และ
ซีรีย์ @อำเภอ ได้ที่ https://www.blockdit.com/series/652aa201a7b7eabb6b5e1144

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา