2 ก.พ. เวลา 13:10 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 73

ค่ายชิงเฟิง (4) ควบสามเขา
หลิวเกาเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมีแผนการ เมื่อเห็นคนที่ตนส่งไปชิงตัวซ่งเจียงคืน ล่าถอยหมดด้วยกลัวธนูของฮวาหยง ก็ตรองเอาว่า
“เมื่อเขาชิงตัวคนกลับไปแล้ว คืนนี้คงจะให้เร่งหลบหนีขึ้นเขาชิงเฟิง พรุ่งนี้จะได้มาสู้คดีกับข้าอย่างหมดกังวล ทำเป็นเพียงเรื่องความขัดแย้งระหว่างขุนนางฝ่ายพลเรือนและทหาร ถ้าข้าจะเตรียมรับมือก็คงต้องส่งคนสักยี่สิบสามสิบคนไปดักจับในระยะทางราวห้าลี้ หากโชคดีได้ตัวมา ต้องซ่อนไว้ในบ้านเงียบๆ แล้วคืนนี้ต้องส่งคนเข้าเมืองชิงโจวไปแจ้งขุนนางฝ่ายทหารให้มารับตัวไป จะให้ดีก็ควรจับตัวฮวาหยงไปเสียพร้อมกัน จะได้เล่นงานเสียทีเดียวให้ถึงแก่ชีวิต จากนั้นข้าก็จะยึดค่ายไว้ครองคนเดียว ไม่ต้องมาคอยมองหน้ามันให้หมั่นไส้”
เย็นนั้น หลิวเกาจึงส่งคนยี่สิบกว่าคนไปคอยดักจับตามทาง ผ่านไปราวสองชั่วยามก็ได้ตัวซ่งเจียงมาจริง หลิวเกาพอเห็นซ่งเจียงถูกจับมัดมาก็ว่า “ไม่ผิดจากที่คิดไว้ เอาตัวไปขังที่ตึกหลัง อย่าแพร่งพรายให้ใครรู้”
หลิวเกาทำคำฟ้องให้คนสนิทสองคนนำไปยังเมืองชิงโจวในคืนวันนั้น
เจ้าเมืองชิงโจว 青州府知府 มีแซ่สองอักษรว่า มู่หยง 慕容 มีชื่อสองอักษรว่า ยั่นต๋า 彦达 (มู่หยงยั่นต๋า 慕容彦达) เป็นพี่ชายของพระสนมมู่หยง 慕容贵妃 ในพระเจ้าฮุยจงฮ่องเต้ 徽宗天子 จึงอาศัยฐานะของน้องสาว วางอำนาจบาตรใหญ่ รีดนาทาเร้น ข่มเหงเพื่อนข้าราชสำนัก เช้าวันนั้นได้รับคำฟ้องจากหลิวเกา เปิดอ่านจบก็ตรองว่า “ฮวาหยงเป็นบุตรข้าราชสำนักผู้มีความดีความชอบสูง เหตุใดจึงมาสมคบกับโจรเขาชิงเฟิง หากไม่ใช่การใส่ความ ก็นับเป็นข้อหาฉกรรจ์” จึงเรียกผู้บัญชาการทหารเมืองชิงโจวมาเข้าพบ
ผู้บัญชาการทหาร (ตูเจียน) 都监 แซ่หวง 黄 ชื่อซิ่น 信 เป็นผู้มีฝีมือเข้มแข็งระบือไปทั่วชิงโจว มีฉายาว่า ควบสามเขา 镇三山 อันเนื่องจากมาจากเขตเมืองชิงโจวมีภูเขาที่มีชัยภูมิคับขันอยู่สามแห่ง คือ เขาชิงเฟิง 清风山 เขาสองมังกร 二龙山 และเขาดอกท้อ 桃花山 ล้วนเป็นที่ซ่องสุมเหล่าโจรร้าย หวงซิ่นคุยโวว่าตนจะกำราบเสียให้สิ้น จึงได้ฉายา ควบสามเขา
ผู้บัญชาการหวงซิ่นรับบัญชาแล้วก็มาคัดทหารห้าสิบนายแล้วชูกระบี่ส้างเหมิน 丧门剑 อันเป็นกระบี่ประจำกาย สั่งให้ออกเดินทางมายังค่ายชิงเฟิง
พอมาถึงค่ายชิงเฟิง ผู้กำกับหลิวเกาคารวะทักทายตามธรรมเนียมแล้วก็ให้นำตัวซ่งเจียงมาให้หวงซิ่นสอบสวน หวงซิ่นว่า “ไม่จำเป็นต้องถามอะไร จับใส่รถนักโทษได้เลย” แล้วให้นำผ้าแดงไปโพกหัว เอากระดาษมาทำธงเขียนว่า “หัวหน้าโจรเขาชิงเฟิง ไอ้เสือวิ่นเฉิง จางซาน 清风山贼首郓城虎张三” ซ่งเจียงเห็นแล้วก็ไม่โต้แย้งอะไร สุดแต่เขาจัดการ
หวงซิ่นถามหลิวเกาว่า “ตอนจับตัวจางซานมา ฮวาหยงรู้หรือไม่”
หลิวเกาตอบว่า “ผู้น้อยจับตัวได้เวลายามสอง แล้วซ่อนไว้ในบ้าน ฮวาหยงสำคัญว่าหนีรอดไปแล้ว จึงยังไม่ร้อนใจ”
หวงซิ่นว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ง่าย พรุ่งนี้ท่านก็จัดสุราแพะ 羊酒 สำรับหนึ่งนำไปไว้ยังที่ว่าการ แล้วซุ่มคนเอาไว้ห้าสิบคน ข้าจะไปเชิญฮวาหยงด้วยตนเอง อ้างว่าท่านเจ้าเมืองมู่หยง เห็นพวกท่านฝ่ายพลเรือนและทหารขัดแย้งกัน จึงให้ข้ามาไกล่เกลี่ย พอเขามาถึงแล้ว ท่านก็คอยดูข้า หากทิ้งจอกเป็นสัญญานก็ให้ทหารเข้าจับกุมตัวฮวาหยงไว้แล้วคุมตัวส่งเข้าเมืองพร้อมกัน”
หลิวเกาชมว่า “นายท่านหลักแหลมนัก แผนนี้ดียิ่ง เหมือน จับตะพาบในไห ล้วงไปก็ได้ตัว 瓮中捉鳖,手到拿来”
(สุราแพะ 羊酒 หมักจากเนื้อแพะและสมุนไพร เป็นสุรามงคล ใช้ในพิธีการสำคัญต่างๆ)
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อจัดแจงสุราอาหารและซุ่มคนเรียบร้อยตามแผนแล้ว หวงซิ่นก็พาผู้ติดตามสามคนมายังค่ายของฮวาหยง ทหารยามเข้าไปรายงาน ฮวาหยงว่า “จะมาทำไม” แล้วก็ออกมาต้อนรับ คารวะกันตามธรรมเนียม
ฮวาหยงถามว่า “ท่านผู้บัญชาการมีราชการอันใด มาถึงที่นี่”
หวงซิ่นว่า “ข้าได้รับบัญชามาจากท่านเจ้าเมือง ท่านทราบมาว่าผู้กำกับค่ายชิงเฟิงฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหารมีความขัดแย้งกัน แต่ไม่ทราบสาเหตุ ท่านเกรงว่าความบาดหมางนี้จะทำให้เสียราชการ จึงให้ข้านำสุราแพะมาเชิญพวกท่านไปเจรจาสันติ บัดนี้จัดเตรียมไว้แล้วยังที่ว่าการ ขอเชิญท่านขึ้นม้ามาด้วยกันกับข้าเถิด”
ฮวาหยงว่า “ฮวาหยงจะกล้าไปหลอกลวงตบตาหลิวเกาท่านได้อย่างไร ท่านน่ะเป็นผู้กำกับค่ายเอกคอยแต่จะหาเรื่องฮวาหยง ไม่คิดว่าจะทำให้ท่านเจ้าเมืองกังวลจนต้องให้ท่านผู้บัญชาการมายังค่ายนี่”
หวงซิ่นลดเสียงลงกระซิบข้างหูว่า “ท่านเจ้าเมืองทำเพื่อท่าน หากต้องสู้รบปรบมือกัน เขาเป็นขุนนางพลเรือนจะทำอะไรได้ ท่านตามข้ามาเถอะ”
ฮวาหยงว่า “ขอบพระคุณท่านผู้บัญชาการที่ให้ความเมตตา”
เมื่อทั้งสองมาถึงที่ว่าการค่ายเอก หลิวเกานั่งรออยู่แล้วในห้องโถง หวงซิ่นจึงให้นำสุราแพะมา ขณะเดียวกันนั้น ผู้ติดตามที่อยู่ด้านนอกก็แอบจูงม้าของฮวาหยงหลบไปเสีย และปิดประตูค่าย ฮวาหยงไม่รู้ว่าต้องอุบาย เห็นหวงซิ่นเป็นทหารด้วยกันจึงยังวางใจอยู่
หวงซิ่นรินเหล้าจอกหนึ่งให้หลิวเกาว่า “ท่านเจ้าเมืองฟังว่าพวกท่านฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหารมีเหตุขัดข้องหมองใจกัน มีความวิตก จึงบัญชาให้ข้าหวงซิ่นมาไกล่เกลี่ยพวกท่านทั้งสอง ขอให้เห็นแก่ภารกิจของราชสำนักเป็นสำคัญ มีเรื่องอันใดขอให้หันหน้าหารือกัน”
หลิวเกาว่า “แม้หลิวเกาไร้ความสามารถ แต่ก็พอทราบเหตุผล เรื่องที่ทำให้ท่านเจ้าเมืองต้องปริวิตกนั้น พวกข้าทั้งสองไม่ได้มีเรื่องกล่าวหาอันใดกัน เป็นเพียงเรื่องที่คนเล่าลือกันไปผิดเพี้ยน” แล้วหลิวเกาก็ดื่มเหล้าจอกนั้น
หวงซิ่นรินเหล้าจอกที่สองให้ฮวาหยงว่า “ในเมื่อผู้กำกับค่ายหลิวได้กล่าวเช่นนี้แล้ว คิดว่าคงเป็นผู้คนเล่าลือกันไปผิดเพี้ยนเอง เมื่อเป็นดังนี้ ก็เชิญท่านดื่มจอกนี้เถิด”
ฮวาหยงรับไปดื่มแล้ว หลิวเกาก็หยิบจอกใหม่รินเหล้าส่งให้หวงซิ่นว่า “ลำบากท่านผู้บัญชาการต้องมาถึงที่นี่ โปรดดื่มจอกนี้”
หวงซิ่นรับจอกไปถือไว้ ชำเลืองดูโดยรอบสังเกตคนที่ซุ่มอยู่ แล้วก็ทิ้งจอกลงพื้น ทหารห้าสิบนายออกจากที่ซ่อนกรูกันเข้าจับฮวาหยง หวงซิ่นสั่งว่า “มัดไว้”
ฮวาหยงตะโกนถามว่า “ข้ามีความผิดเรื่องใด”
หวงซิ่นหัวเราะแล้วตะคอกว่า “เจ้ายังกล้าตะโกนเอะอะ เจ้าสมคบกับพวกโจรเขาชิงเฟิงทรยศราชสำนัก เป็นความผิดใด เห็นแก่ความชอบของเจ้าที่ผ่านมา จึงไม่จับกุมเจ้าต่อหน้าครอบครัวให้ตื่นตระหนก”
ฮวาหยงว่า “ต้องมีพยานหลักฐาน”
หวงซิ่นว่า “ย่อมมีพยานให้เจ้าเห็นกับตาว่าข้าไม่ได้ใส่ความ ทหาร นำตัวเข้ามา”
เพียงพริบตา มีรถนักโทษปักธงกระดาษเข็นเข้ามา คนในรถโพกผ้าแดง พอฮวาหยงเห็นว่าเป็นซ่งเจียงก็อึ้งจนพูดไม่ออก ได้แต่มอง หวงซิ่นตะคอกว่า “นี่ไม่ควรเป็นเรื่องของข้า ผู้กล่าวหาเจ้าหลิวเกาอยู่ที่นี่”
ฮวาหยงว่า “ไม่มีปัญหา นี่คือญาติของข้าเป็นชาวอำเภอวิ่นเฉิง พวกท่านยัดเยียดให้เป็นโจร ข้าย่อมมีข้อแก้ต่าง”
หวงซิ่นว่า “เมื่อเจ้ากล่าวเช่นนี้ ก็คุมตัวเข้าเมืองไปพร้อมกัน ไปแก้ต่างเอาเอง”
ฮวาหยงขอให้ถอดเครื่องแบบของตนก่อนนำขึ้นรถนักโทษ หวงซิ่นให้จัดทหารในค่ายอีกหนึ่งร้อยนายสมทบกับทหารที่ติดตามตนมาห้าสิบนาย คุมขบวนส่งนักโทษซ่งเจียงและฮวาหยงไปยังเมืองชิงโจว
ขบวนเดินทางมาได้ราวสี่สิบลี้ มีป่าละเมาะแห่งหนึ่งขวางอยู่ด้านหน้า ทหารที่เดินนำหน้ามองเห็นเงาคนแอบซุ่มอยู่ จึงหยุดเดินทำให้ขบวนหยุดด้วยทั้งขบวน หวงซิ่นขี่ม้าอยู่กลางขบวนตะโกนถามมาว่า “หยุดทำไม”
ทหารจึงรายงานว่า “มีคนซุ่มดูอยู่ในป่า”
หวงซิ่นว่า “ไม่ต้องสนใจ เดินทางต่อไป”
พอขบวนมาถึงหน้าป่าละเมาะก็มีเสียงม้าล่อหลายสิบกระหน่ำดังขึ้น ทหารที่เกณฑ์มาจากค่ายพากันแตกตื่นตั้งท่าจะวิ่งหนี หวงซิ่นจึงตวาดสั่งให้หยุดและให้สยายแนวออกตั้งแถวปีกกา และตะโกนสั่งว่า “ผู้กำกับหลิว อยู่คุมรถนักโทษ”
หลิวเกาอยู่บนหลังม้าหน้าซีดเป็นฟักต้ม 东瓜 เอาแต่ท่องอารธนา “เจ้าพ่อช่วยทุกข์ช่วยยาก 救苦救难天尊” สวดคัมภีร์สิบหมื่นบท ขอพรสามร้อยวัด ให้มาคุ้มครองตน
หวงซิ่นชักม้าขึ้นหน้าก็เห็นว่ามีลิ่วล้อสามสี่ร้อยคน แต่ละคนกำยำ หน้าตาดุร้าย แววตาอำมหิต มีทั้งคนถืออาวุธสั้นและอาวุธยาว ล้อมขบวนของตนไว้รอบด้าน
นายโจรสามคนโจนออกมาจากแนวป่า สวมชุดน้ำเงิน ขุดเขียวและชุดแดง แต่ละคนใช้ดาบพอเตา คาดมีดที่เอว คนกลางคือพยัคฆ์ขนแพรเอี้ยนซุ่น ขนาบด้วยเสือเตี้ยหวางอิง และหนุ่มหน้ามนเจิ้งเทียนโซ่ว
นายโจรว่า “ผู้ใดผ่านทางให้หยุด จ่ายค่าผ่านทางมาสามพันตำลึงทอง ถึงจะไปได้”
หวงซิ่นตวาดลั่นจากบนหลังม้า “พวกเจ้าบังอาจ ข้า-ควบสามเขา-อยู่นี่”
สามนายโจรตะคอกกลับ “ต่อให้ควบหมื่นเขา ก็ต้องจ่ายทองคำค่าผ่านทางสามพันตำลึง หากไม่มีก็ปล่อยไปไม่ได้”
หวงซิ่นว่า “ข้าเป็นผู้บัญชาการทหาร ข้าราชสำนักชั้นผู้ใหญ่มาปฏิบัติราชการ ทำไมต้องซื้อทางจากเจ้า”
สามนายโจรหัวเราะขำ “แค่ผู้บัญชาการทหาร ต่อให้ตระกูลเจ้าเสด็จ ก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางสามพันตำลึง หากไม่มีจ่ายก็เอาราชการฝากไว้ที่นี่ มีแล้วค่อยมาไถ่”
2
หวงซิ่นโกรธจัด “โจรกำแหง ผิดธรรมเนียม” แล้วให้ทหารลั่นกลองตีม้าล่อ หวงซิ่นโผนม้ารำกระบี่เข้าหาเอี้ยนซุ่น สามนายโจรควงดาบเข้าใส่หวงซิ่นพร้อมกัน
สามนายโจรรุมรบหวงซิ่นได้สิบเพลง หวงซิ่นรับมือไม่ไหว หลิวเกาฝ่ายพลเรือน เฝ้าแต่จ้องอาราธนาหลววงพ่อโกย ไม่มีปัญญาเข้ามาช่วย หวงซิ่นกลัวพลาดท่าถูกจับเสียศักดิ์ศรี จึงชักม้าหนีกลับทางเก่า สามนายโจรเงื้อดาบไล่ตามมา หวงซิ่นไม่สนใจพวกพ้อง ควบม้าแน่บกลับตำบลชิงเฟิงไปโดยลำพัง
เหล่าทหารเห็นหวงซิ่นหันม้ากลับ ก็ส่งเสียงกันเอะอะ ทิ้งรถนักโทษ พากันเตลิดหนี เหลือไว้แต่หลิวเกาพอเห็นท่าไม่ดี จะลงแส้ม้าหนี ลิ่วล้อนายหนึ่งเข้ารั้งบังเหียนฉุดม้าล้มลง พวกลิ่วล้อที่ตามมากรูเข้าจับตัวหลิวเกา ชิงรถนักโทษได้ก็ช่วยกันทุบ ฮวาหยงพังรถของตนกระโดดออกมา กระชากจนเชือกหลุด ตรงเข้าช่วยทุบรถแก้เอาซ่งเจียงออกมา พวกลิ่วล้อถอดเอาเสื้อหลิวเกามาให้ซ่งเจียงสวม จับหลิวเกามัดมือไขว้หลัง ยึดม้าหลิวเกาและม้าลากรถทั้งสามตัวไว้ได้ส่งขึ้นเขาไปก่อน สามนายโจรกับฮวาหยงคุมตัวหลิวเกาที่ล่อนจ้อนตามขึ้นเขามา
.
ควบสามเขาหวงซิ่น 镇三山黄信 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 2 ลำดับรวมที่ 38 เป็นหัวหน้ากลุ่มสิบหกนายทัพรองกองทัพม้า ควบหัวหน้าหน่วยสอดแนมของเหลียงซาน
หวงซิ่นเป็นชาวเมืองชิงโจว ใช้กระบี่เป็นอาวุธ ตั้งชื่อกระบี่ของตนว่า กระบี่ซ่างเหมิน 丧门剑 (ในตำราพยากรณ์ ดวงชะตาใครย่างเข้าสู่ส้างเหมิน 丧门 นับเป็นคราวเคราะห์ จะพบเหตุร้ายหรือการสูญเสีย)หวงซิ่นค่อนข้างคุยโวตั้งฉายาตนว่า ควบสามเขา จะกำราบส้องโจรสามแห่งในเขตของตนให้ได้ แม้จะพอมีฝีมือแต่ขาดยุทธวิธี มิพักต้องพูดว่าฝีมือไม่อาจเทียบได้กับนายโจรเขาสองมังกร ไม่ว่าจะเป็นหลู่จื้อเซิน หยางจื้อ หรือ อู่ซง กับนายโจรเขาดอกท้อ หรือเขาชิงเฟิง พอถูกรุมรบก็ยังเอาตัวไม่รอด
ตอนก่อนหน้า : ทำคุณบูชาโทษ
ตอนถัดไป : อสนีบาต

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา