19 ก.พ. เวลา 13:19 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 80

เนรเทศเจียงโจว (3) เสือลำบาก
ซ่งเจียงและสองผู้คุมอำลาหลี่จวิ้นเดินทางมาได้ครึ่งวัน ยามเว่ย 未牌 (14:00 น.) มาถึงตำบลหนึ่ง มีประชากรอาศัยกันหนาแน่น ตัวตลาดคึกคัก มีคนล้อมวงมุงอยู่ ซ่งเจียงแหวกฝูงคนเข้าไปดู ก็เห็นว่ามีชายผู้หนึ่งกำลังรำกระบองขายกอเอี๊ยะอยู่ พอรำกระบองจบก็ต่อด้วยหมัดมวย แคล่วคล่องจนซ่งเจียงต้องเอ่ยปากชม
ชายผู้นั้นถือถาดร้องเกริ่น 开呵 ว่า “ผู้น้อยเป็นคนต่างถิ่น มาทำมาหากินยังถิ่นนี้ ล้วนอาศัยผู้มีพระคุณ เล่าลือไปไกล ใกล้ช่วยอุดหนุน บาดเจ็บฟกช้ำต้องการพอกยาเชิญมาซื้อหา ยังไม่ใช้กอเอี๊ยะ เชิญช่วยบริจาคเศษเงินแบ่งปัน อย่าได้หันหนี”
แต่ร้องเดินขอถึงสองรอบ คนต่างยืนมุงดูเฉยๆ ไม่มีใครให้เงินเลยแม้แต่คนเดียว ซ่งเจียงจึงให้ผู้คุมส่งเงินมาให้ห้าตำลึง แล้วตะโกนเรียกชายผู้นั้นว่า “ท่านครูฝึก ข้าเป็นคนโทษ ไม่มีจะให้ได้มาก เงินห้าตำลึงนี้ เป็นน้ำใจเล็กน้อย”
ชายผู้นั้นรับเงินแล้ว ร้องขอบคุณว่า
“ตำบลเจียหยางอันลือเลื่อง ไม่มีผู้ปราดเปรื่องเชิดชูข้า ทว่าผู้มีพระคุณท่านนี้ แม้ตนเองต้องคดีเพียงผ่านทางมา กลับสมนาเงินขาวห้าตำลึง ทำให้รำลึกถึง
当年却笑郑元和,只向青楼买笑歌。
惯使不论家豪富,风流不在着衣多。
เจิ้งหยวนเหอครานั้นถูกหัวร่อ
ขับร้องเพลงบนหอพอประทัง
ความสามารถหาใช่มองความมั่งคั่ง
เสน่ห์ยังมิอาจหาจากอาภรณ์
อันเงินห้าตำลึงของท่านนี้ เปรียบเสมือนห้าสิบตำลึงจากผู้อื่น ตัวข้าขอคารวะ ใคร่ขอถามผู้มีพระคุณถึงชื่อแซ่ ให้ผู้น้อยได้เผยแผ่ให้ลือเลื่องกระเดื่องแผ่นดิน”
1
ซ่งเจียงกล่าวว่า “ท่านครูฝึก แค่เล็กๆ น้อยๆ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ”
(ตำนานรัก เจิ้งหยวนเหอ กับ หลี่ย่าเซียน 郑元和与李亚仙
เจิ้งหยวนเหอ เป็นจอหงวนเมืองอู๋ซีสมัยถัง 唐代无锡 บิดาเป็นข้าราชการมีฐานะดี ต้องการให้บุตรชายเป็นขุนนางเหมือนอย่างตน เจิ้งหยวนเหอเดินทางไปเข้าสอบยังเมืองหลวง ได้พบนางคณิกาหลี่ย่าเซียน เกิดชอบพอรักใคร่กันจึงอยู่ด้วยกัน เงินทองของเจิ้งหยวนเหอใช้หมดลง แม่เล้าจึงขับไล่ไม่ให้อยู่ด้วยกับหลี่ย่าเซียน
เจิ้งหยวนเหอไปฝึกร้องเพลงเป็นนักร้องเพลงไว้อาลัยศพ 挽歌手 มีฉายา ดอกบัวโรย 莲花落 วันหนึ่งบิดาเผอิญมาได้ฟัง เห็นว่าเป็นบุตรชายตนมาตกต่ำเพียงนี้จึงโกรธทุบตีปางตายนำไปทิ้งไว้ชานเมือง พวกขอทานมาช่วยเอาไว้ เจิ้งหยวนเหอจึงกลายเป็นขอทาน
1
วันหนึ่งหลี่ย่าเซียนมาพบเข้า จึงพาตัวกลับไปเลี้ยงดูอยู่ด้วยกันไม่สนใจแม่เล้าที่ทักท้วง ในที่สุด เจิ้งหยวนเหอสอบจอหงวนได้ ได้เป็นขุนนาง หลี่ย่าเซียนรู้ว่าอาชีพนางคณิกาของนางไม่เหมาะสมเป็นเมียขุนนางจำต้องแยกทาง บิดาของเจิ้งหยวนเหอทราบเรื่องในที่สุดก็ยอมรับนางเป็นลูกสะใภ้)
ขณะคุยกันอยู่นั้น ฝูงชนที่มุงอยู่ก็เปิดทางให้ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามาถลึงตาตะคอกใส่ว่า “ไอ้หมอนั่นรำกระบองได้หน่อยก็มาวางก้าม ข้าสั่งไว้แล้วห้ามไปสนใจ ไอ้หมอนี่เป็นใครกล้าให้เงินมัน บังอาจมาเหยียบจมูกพวกข้าที่ตำบลเจียหยาง 揭阳镇 (ตำบลเบิกตะวัน)”
ซ่งเจียงว่า “ข้าให้รางวัลเขา เกี่ยวอะไรกับท่าน”
ชายผู้นั้นคว้าซ่งเจียงไว้ตะคอกว่า “ไอ้โจรนี่กล้าย้อนข้า”
ซ่งเจียงว่า “ทำไมจะไม่กล้าย้อนเจ้า”
ชายนั้นชกใส่ซ่งเจียง ซ่งเจียงหลบได้ ชายนั้นสาวเท้าตามมา คนใช้กระบองเข้ามาด้านหลัง มือหนึ่งคว้าผ้าโพกหัวชายผู้นั้น มือหนึ่งคว้าเข็มขัดคาดเอว ม้วนตัวกระแทกใส่ชายโครงจนเซล้มลง พอจะลุกขึ้น ก็ถูกเตะหน้าหงายลงไปอีก สองผู้คุมเข้ามาห้ามคนใช้กระบองไว้
ชายคนนั้นลุกขึ้นมาได้มองมายังซ่งเจียงกับครูฝึกว่า “แน่จริงหรือไม่ เจ้าสองคนอย่าเพิ่งปอด” แล้วก็เดินหนีไปทางใต้
ซ่งเจียงถามว่า “ท่านครูฝึกแซ่อะไร เป็นคนที่ไหน”
“ผู้น้อยเป็นชาวเหอหนานเมืองลว่อหยาง 河南洛阳 แซ่เซวีย 薛 ชื่อหย่ง 永 ปู่เป็นนายทหารในสังกัดนายท่านฉงจิงเลวี่ยผู้เฒ่า 老种经略相公 แต่มีเรื่องทำผิดต่อเพื่อนร่วมงาน ไม่อาจก้าวหน้าในวงราชการ ลูกหลานจึงได้แต่อาศัยเพลงอาวุธขายยาเลี้ยงชีพ ในวงนักเลงเรียกผู้น้อยว่า เสือลำบากเซวียหย่ง 病大虫薛永 ขอเรียนถามนามท่านผู้มีพระคุณ”
(病 คือ ป่วย ลำบาก บิดาของเซวียหย่งตกอับในงานราชการทำให้ลูกหลานพลอยลำบากไม่อาจลืมตาอ้าปากได้ แม้จะมีความสามารถ จึงเปรียบเหมือนเสือลำบาก)
ซ่งเจียงว่า “ผู้น้อยแซ่ซ่ง ชื่อเจียง เป็นชาวอำเภอวิ่นเฉิง”
เซวียหย่งว่า “ท่านฝนยามแล้งซ่งกงหมิงหรอกหรือ”
ซ่งเจียงตอบ “คือข้าเอง”
เซวียหย่งคุกเข่ากราบคารวะ ซ่งเจียงพยุงให้ลุกขึ้นกล่าวว่า “ไปดื่มสามจอกแล้วคุยกันดีไหม”
เซวียหย่งว่า “ดี ผู้น้อยใคร่ไปคารวะพี่ท่านอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีโอกาส”
แล้วรีบเก็บอาวุธและยา เดินตามซ่งเจียงมายังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ สั่งอาหาร
คนที่ร้านบอกว่า “มีทั้งเนื้อทั้งเหล้า แต่ไม่กล้าขายให้พวกท่าน”
ซ่งเจียงถามว่า “ทำไมไม่ขายให้พวกเรา”
“คนที่ตีกับพวกท่านเมื่อครู่สั่งเอาไว้ หากขายให้ท่าน ร้านข้าคงถูกพังเละ พวกเราที่นี่ไม่มีใครกล้าผิดใจเขาหรอก เขาเป็นผู้มีอิทธิพลในตำบลเจียหยางนี้ พูดอะไรก็ต้องฟัง”
ซ่งเจียงว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราไปกันเถิด หมอนั่นคงกลับมาหาเรื่องแน่”
เซวียหย่งว่า “ผู้น้อยก็จะกลับไปจ่ายค่าที่พัก อีกวันสองวันจะมาพบพี่ท่านที่เจียงโจว ต้องขออำลาก่อน”
ซ่งเจียงมอบเงินให้เซวียหย่งอีกยี่สิบตำลึง แล้วแยกทางกัน
(เสือลำบากเซวียหย่ง 病大虫薛永 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 48 ลำดับรวมที่ 84 เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดรองแม่ทัพราบของเหลียงซาน ลำดับที่สิบเจ็ด)
ซ่งเจียงกับสองผู้คุมเดินออกจากร้านอาหารไปหาร้านใหม่ ร้านนั้นก็บอกว่า “คุณชายน้อย 小郎 สั่งเอาไว้แล้ว พวกเราไม่กล้าขายให้ท่านหรอก ท่านเดินหาไปก็เสียเวลาเปล่า” ซ่งเจึยงจึงไม่พูดอะไร เดินไปกี่ร้านก็พูดเหมือนกันหมด
โรงแรมที่พักก็เช่น ก็เดินหามาจนสุดถนน ก็ไม่มีใครยอมรับให้เข้าพัก ทั้งสามจึงเดินเรื่อยๆ ออกจากเมืองมาตามถนนใหญ่ ตะวันแดงค่อยๆ ลับขอบฟ้า ราตรีคืบคลานเข้ามา
暮烟迷远岫,寒雾锁长空。
群星拱皓月争辉,绿水共青山斗碧。
疏林古寺,数声钟韵悠扬;
小浦渔舟,几点残灯明灭。
枝上子规啼夜月,园中粉蝶宿花丛。
หมอกสายัณห์คลุมขุนเขาลิบลิ่ว
โอบทิวฟ้ากว้างไกลไอหมอกหนาว
แจ่มแสงจันทร์ประชันแสงหมู่ดาว
ผาวารีราวมรกตสดขจี
ระฆังวัดกลางป่าวิเวกเสียง
ตะเกียงเรือหาปลาแสงริบหรี่
ดุเหว่าร้อง ชมจันทรา ฟ้าราตรี
ท่ามมาลี ผีเสื้อพัก กลางอุทยาน
 
(粉蝶  pieridae ผีเสื้อหนอนกาฝาก)
ซ่งเจียงกับสองผู้คุมเห็นฟ้ามืดแล้ว รู้สึกกังวล ข้างหน้าก็ยังไม่เห็นหมู่บ้าน เมืองข้างหลังก็ไม่ให้พัก แต่ยังเห็นแสงตะเกียงลอดแนวป่ามาจากทางน้อยแต่ไกลโพ้น
ซ่งเจียงแลเห็นจึงว่า “ข้างหน้านั่นมีแสงไฟคงต้องมีบ้านคนอยู่ พวกเราไปขอค้างแรมกันแล้วพรุ่งนี้ก็ออกเดินทางกันเช้าหน่อย”
ผู้คุมว่า “แสงตะเกียงนั่นไม่ได้อยู่บนทางใหญ่”
ซ่งเจียงว่า “ช่วยไม่ได้ ถึงจะไม่ได้อยู่บนทางใหญ่ ก็แค่เดินไกลอีกสองสามลี้ ไม่หนักหนาเท่าไร”
ทั้งสามเดินแยกจากทางใหญ่มาได้ไม่ถึงสองลี้ ก็เห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่หลังแนวป่า ซ่งเจียงตรงเข้าไปเคาะประตูเรียก มีบ่าวออกมาถามว่า “ท่านเป็นใคร เย็นย่ำค่ำมืดมาเที่ยวเคาะประตู”
ซ่งเจียงว่า “ผู้น้อยต้องโทษเนรเทศไปเจียงโจว วันนี้เดินผิดเส้นทางหาที่พักไม่ได้ จึงใคร่ขอรบกวนค้างแรมสักคืน พรุ่งนี้ยินดีจะจ่ายค่าที่พักให้”
บ่าวว่า “เช่นนั้น ท่านรอสักครู่ ข้าไปรายงานท่านไท่กงก่อน ท่านคงให้พักอยู่” หายไปสักพักก็กลับมาบอกว่า “ท่านไท่กงขอเชิญ”
พอไปพบไท่กงที่โถงมุงหญ้า ไท่กงก็ให้จัดที่พักให้ที่ห้องใกล้ประตู แลัวให้จัดอาหารมาให้ พอกินเสร็จบ่าวเก็บถ้วยชามไปแล้ว สองผู้คุมก็ถอดคาซ่งเจียงออกให้จะได้หลับสบายหน่อย แล้วทั้งสามก็ออกมาเข้าห้องน้ำก่อนจะเข้านอน ซ่งเกียงสังเกตเห็นมีเส้นทางเล็กอยู่หลังห้องจึงจดจำไว้
1
พอกลับเข้าห้องปิดประตูแล้ว ก็เห็นมีแสงคบไฟสว่างอยู่ที่ลานนวดข้าว ซ่งเจียงมองลอดช่องประตู เห็นไท่กงนำบ่าวสามคนเที่ยวเดินตรวจตราอยู่
ซ่งเจียงจึงกล่าวกับผู้คุมว่า “ไท่กงนี้เหมือนกับพ่อของข้า ต้องตรวจตราทุกอย่างด้วยตัวเองก่อนแล้วจึงยอมเข้านอน”
คุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงตะโกนมาจากหน้าประตูใหญ่ บ่าวรีบไปเปิดประตู มีคนเดินเข้ามาเจ็ดคน คนนำหน้าถือดาบ ส่วนพวกที่ตามหลังถือสามง่ามหรือไม้พลอง กลางแสงคบไฟสว่าง ซ่งเจียงเห็นชัดว่าคนที่ถือดาบคือชายคนที่มีเรื่องกับตนที่ตำบลเจียหยาง
ไท่กงถามไปว่า “ชายน้อย 小郎 ไปไหนมา ไปตีกับใคร ดึกแล้วยังถืออาวุธไปไหน”
ชายผู้นั้นว่า “พ่อไม่รู้หรอก แล้วนี่พี่อยู่ไหม”
ไท่กงว่า “พี่ชายเจ้า เมาหลับอยู่ที่ศาลาด้านหลัง”
“ข้าจะไปปลุก ให้ไปไล่คนด้วยกัน”
“จะไปหาเรื่องใครอีกล่ะ ปลุกพี่ชายเจ้าขึ้นมา เขาก็ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เจ้าเล่ามาให้ข้าฟังก่อน”
1
“ท่านพ่อไม่รู้อะไร วันนี้ที่ตลาดมีคนมาตีกระบองขายยาไม่มาขอพวกข้าก่อน ข้าเลยกำชับเอาไว้ว่าห้ามตบรางวัลโดยเด็ดขาด ก็มีไอ้นักโทษจากไหนไม่รู้ แหลมมาอวดเก่ง ตบรางวัลให้ไปห้าตำลึง ลบหลู่ศักดิ์ศรีข้าที่เจียหยาง ข้าจะทุบมัน ไอ้คนขายยาก็ทุ่มข้าล้ม แถมถูกเตะอีกที นี่ยังปวดเอวอยู่เลย
ข้าจึงสั่งไว้ตามร้านห้ามขายอาหารหรือให้ที่พักพวกมัน แล้วไปตามพวกที่บ่อนไปโรงแรมที่ไอ้คนขายยาอยู่ อัดมันแล้วจับตัวมันแขวนอยู่ที่บ้านนายกอง พรุ่งนี้จะเอาไปถ่วงน้ำที่แม่น้ำให้หายแค้น ส่วนไอ้สองผู้คุมกับนักโทษนั่นหาไม่เจอ ไม่รู้ไปอยู่ไหน ข้างหน้าก็ไม่มีโรงแรมที่พักให้ค้างแรม นี่จะไปตามพี่เขาให้แยกกันหา จับมาสั่งสอน”
ไท่กงว่า “ลูกข้านี่หาแต่เรื่องอายุสั้น เขามีเงินจะให้รางวัลคนขายยาแล้วมันเรื่องอะไรของเจ้า ไปตีเขาทำไม ถึงเจ้าถูกตีมาก็ไม่เห็นเจ็บหนัก เชื่อข้า อย่าให้พี่เจ้ารู้ ถ้าเขารู้ว่าเจ้าถูกตีมามีหรือจะยอมอยู่เฉย คงได้ไปฆ่าใครอีก เชื่อข้า ไปนอนเสีย ไม่ใช่ดึกดื่นค่อนคืนไปเที่ยวเคาะประตูรบกวนขาวบ้านเขา”
ชายผู้นั้นไม่สนใจฟังไท่กง คว้าดาบตรงไปยังหลังบ้าน ไท่กงก็รีบตามไป
ซ่งเจียงหันมาหาสองผู้คุมว่า “อะไรจะบังเอิญอย่างนี้ ตำตอมาพักบ้านเขา พวกเราต้องหนีแล้ว ถ้าหมอนั่นรู้คงเอาเราตายแน่ ถึงไท่กงไม่พูด แต่พวกบ่าวคงบอก”
สองผู้คุมว่า “ใช่แล้ว รอช้าไม่ได้”
ซ่งเจียงว่า “อย่าไปทางใหญ่ ออกหลังห้อง”
แล้วรีบเก็บข้าวของกัน เจาะหลังกระท่อมหญ้า อาศัยแสงจันทร์หนีไปตามทางน้อย
ตอนก่อนหน้า : สันเบิกตะวัน
ตอนถัดไป : หนีเสือปะจระเข้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา