23 ก.พ. เวลา 12:53 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 82

เนรเทศเจียงโจว (5) สามอิทธิพลเจียหยาง
หลึ่จวิ้นฟังว่าเป็นซ่งกงหมิงก็โดดขึ้นมาบนเรือแล้วว่า “พี่ท่านคงตกใจแย่ หากผู้น้องมาช้ากว่านี้อาจไม่ทันการ วันนี้เหมือนฟ้าดลใจให้หลี่จวิ้นอยู่ไม่ติดบ้าน ต้องเอาเรือออกมาค้าเกลือเถื่อน คิดไม่ถึงว่าพี่ท่านต้องมาเจอเรื่องยุ่งยาก”
คนแจวเรืออึ้งไปครู่ใหญ่ พูดอะไรไม่ออก จนค่อยถามว่า “พี่หลี่ ท่านมืดนี่คือ ฝนยามแล้งซ่งกงหมิงหรือ”
หลี่จวิ้นว่า “ก็ใช่นะสิ”
คนแจวเรือจึงรีบคารวะแล้วสบถว่า “พ่องเอ๊ย ทำไมท่านไม่บอกชื่อมาเสียก่อน เกือบไปแล้ว ช้าอีกนิดคงทำร้ายพี่ท่านแล้ว”
ซ่งเจียงจึงถามหลี่จวิ้นว่า “ผู้กล้าท่านนี้เป็นใคร ชื่อแซ่ไร”
หลี่จวิ้นว่า “ผู้กล้าท่านนี้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับผู้น้อง พื้นเพเป็นคนเสี่ยวหูซาน 小孤山 แซ่จาง 张 ชื่อเหิง 横 ฉายาชาวเรือ 船火儿 (火儿 ผู้ประกอบอาชีพ) เที่ยวสร้างกุศลผลบุญ 稳善 อยู่แม่น้ำสวินหยางนี้หาเลี้ยงชีพ”
ซ่งเจียงกับสองผู้คุมพากันหัวเราะ
เรือทั้งสองลำแจวมาเกยอยู่ที่ชายหาด พอประคองซ่งเจียงกับสองผู้คุมขึ้นบกแล้ว หลี่จวิ้นกล่าวกับจางเหิงว่า “พี่ ข้าพูดกับท่านอยู่บ่อย ผู้มีคุณธรรมในใต้ฟ้า คือ ฝนยามแล้งซ่งยาซือวิ่นเฉิง ท่านก็ดูเสียให้เต็มตา”
จางเหิงจุดตะเกียงส่องดูหน้าซ่งเจียงแล้วก็คุกเข่าลงคารวะกับพื้นทรายกล่าวว่า “พี่ท่าน โปรดอภัยผู้น้องด้วย”
七尺身躯三角眼,黄髯赤发红睛,浔阳江上有声名。
冲波如水怪,跃浪似飞鲸,
恶水狂风都不惧,蛟龙见处魂惊。
天差列宿害生灵。小孤山下住,船火号张横
กายเจ็ดฉื่อสามเหลี่ยมรูปนัยน์ตา
ม่านตาแดงผมแดงหนวดเคราเหลือง
ทั่วลุ่มน้ำสวินหยางต่างลือเลื่อง
เก่งครบเครื่องเรื่องทางน้ำดังพรายผี
พายุคลุ้มคลื่นคลั่งมิหวั่นไหว
มังกรใหญ่ฤาน้อยพลอยขวัญหนี
ดาวร้ายหล่นจากฟ้ามาโลกนี้
จุติที่เสี่ยวหูซานจางเหิงชาวเรือ
คารวะเสร็จจางเหิงก็ถามว่า “ผู้ทรงธรรม ไปมาอย่างไรจึงถูกเนรเทศมาถึงที่นี่”
หลี่จวิ้นจึงเล่าเรื่องที่ซ่งเจียงต้องโทษจนต้องถูกเนรเทศไปเจียงโจว
จางเหิงจึงว่า “ขอบอกให้พี่ท่านรู้ ผู้น้องมีพี่น้องท้องเดียวกันสองคน ผู้น้องเป็นคนโต มีน้องชายอีกคนเป็นคนเก่ง เนื้อตัวขาวเหมือนหิมะ ดำน้ำว่ายได้ไกลถึงห้าสิบลี้ อยู่ใต้น้ำได้ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน เหมือนปลาไป๋เถียว 白条 มีเพลงยุทธยอดเยี่ยม คนจึงตั้งฉายาให้ว่า ขาวคะนองคลื่นจางซุ่น 浪里白跳张顺 พวกเราสองพี่น้องก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวนี้หากินบนสายน้ำหยางจื่อนี้”
1
ซ่งเจียงว่า “อยากฟังต่อ”
จางเหิงว่า “พวกเราสองพี่น้อง พอเล่นพนันเสียเมื่อไร ข้าก็จะเอาเรือออกมาหาที่เงียบๆ แอบรับส่งคนข้ามฟาก ก็มีพวกที่อยากประหยัดเงินหรืออยากให้ไวมาใช้บริการ
รอจนคนเต็มเรือ จางซุ่นก็จะทำทีเป็นผู้โดยสารมาคนเดียวแบกห่อผ้าห่อใหญ่มาขึ้นเรือด้วย ข้าก็จะแจวเรือออกไปกลางแม่น้ำแล้วจอดทอดสมอเสีย ถือปังตอมาขอค่าโดยสาร ปกติคิดกันคนละห้าร้อยจู๋ 足 ข้าก็เรียกเอาสามก้วน 贯 โดยไปเรียกเก็บกับน้องชายข้าก่อน เขาก็จะไม่ยอมให้ ข้าก็จับโยนลงน้ำไปไม่โผล่ พอเรียกเก็บคนต่อไปก็รีบให้กันทุกคน ข้าจึงหาที่ลับตาค่อยส่งขึ้นฝั่ง จากนั้นค่อยข้ามฟากมารับน้องชายที่ดำไปโผล่อีกฝั่ง แบ่งเงินกันไปเล่นพนันต่อ ก็อาศัยวิธีนี้หาเงินได้ตลอด”
ซ่งเจียงว่า “ข้าว่าริมฝั่งน้ำคงยังมีลูกค้ารอใช้บริการข้ามฟากเถื่อนของท่านอีกเยอะ”
หลี่จวิ้นกับพวกพากันหัวเราะ
จางเหิงเล่าต่อว่า “เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว มีเพียงข้าที่ยังคงค้าขายลับอยู่ที่แม่น้ำสวินหยาง จางซุ่นน้องข้าตอนนี้ไปค้าปลาอยู่ที่เจียงโจว พี่ท่านจะไปที่นั่น ผู้น้องว่าจะฝากจดหมายไปด้วย แต่ข้าไม่รู้หนังสือ เขียนไม่ได้”
หลี่จวิ้นว่า “พวกเราเข้าไปที่หมู่บ้านกัน หาครูสอนหนังสือเขียนให้” ว่าแล้วก็ให้ถงเวย ถงเหมิ่งอยู่เฝ้าเรือ จางเหิงถือตะเกียงนำทางพากันเดินไปยังหมู่บ้าน
เดินมาได้ไม่ถึงครึ่งลี้ เห็นแสงคบเพลิงยังสว่างอยู่แถวพงอ้อ จางเหิงว่า “สองพี่น้องนั่นยังไม่กลับ”
หลี่จวิ้นถามว่า “หมายถึงสองพี่น้องไหน”
จางเหิงว่า “ก็บ้านสกุลมู่ 穆 ในตำบลสองคนนั้นไง”
หลี่จวิ้นว่า “เรียกมาคารวะพี่ท่านสิ”
ซ่งเจียงรีบบอกว่า “ไม่ได้ สองคนนั่นไล่จับข้าอยู่”
หลี่จวิ้นว่า “พี่ท่านวางใจ สองพี่น้องนั่นแค่ยังไม่รู้ว่าเป็นพี่ท่าน เขาเป็นพวกเดียวกับเรา”
หลี่จวิ้นเป่าปากแล้วกวักมือเรียก พวกถือคบไฟก็รีบมากันอย่างว่องไว พอใกล้เข้ามาเห็นหลี่จวิ้น จางเหิง พินอบพิเทาต่อซ่งเจียง สองพี่น้องก็งุนงงใหญ่ถามว่า “พี่ท่านทั้งสองทำไมดูสนิทสนมกับสามคนนี่”
หลี่จวิ้นหัวเราะร่วนถามว่า “ท่านคิดว่าเขาเป็นใคร”
สองพี่น้องว่า “ไม่รู้จัก เห็นให้เงินรางวัลไอ้คนเล่นกระบองหยามหน้าพวกเรา เลยมาตามจับตัวอยู่”
หลี่จวิ้นว่า “เขาก็คือคนที่ข้าพูดถึงกับพวกท่านบ่อยๆ ฝนยามแล้งยาซืออำเภอวิ่นเฉิงท่านพี่ซ่งกงหมิงแห่งซานตง ท่านทั้งสองยังไม่รีบมาคารวะ”
สองพี่น้องทิ้งดาบในมือ ก้มลงคารวะว่า “ได้ยินชื่อเสียงท่านมานาน มิคาดว่าจะได้มาพบในวันนี้ ที่ได้ล่วงเกินทำร้ายพี่ท่าน ได้โปรดเมตตาอภัยให้ด้วย”
ซ่งเจียงประคองสองพี่น้องให้ลุกขึ้นแล้วว่า “ใคร่ขอทราบนามท่านผู้กล้า”
หลี่จวิ้นตอบให้ว่า “สองพี่น้องนี่เขารวย เป็นคนแถวนี้ คนพี่แซ่มู่ 穆 ชื่อหง 弘 ฉายาจอมบุ่มบ่าม 没遮拦 คนน้อง มู่ชุน 穆春 ฉายาบุ่มบ่ามน้อย 小遮拦 ทั้งคู่นับเป็นผู้ทรงอิทธิพลตำบลเจียหยาง ที่นี่เรามีสามกลุ่มอิทธิพล ข้าขอเรียนพี่ท่านให้ทราบ บนและล่างสันเจียหยาง เป็นเขตอิทธิพลของผู้น้องและหลี่ลี่ ตำบลเจียหยางเป็นเขตอิทธิพลสองพี่น้องนี้ ชายน้ำสวินหยางเป็นเขตของจางเหิง จางซุ่น จึงเรียกรวมว่า สามอิทธิพล (สามมาเฟีย) 三霸”
ซ่งเจียงว่า “ในเมื่อเป็นคนกันเอง ก็ขอให้ช่วยปล่อยตัวเซวียหย่งด้วยเถิด”
มู่หงว่า “เจ้าคนใช้กระบองนั่นหรือ พี่ท่านวางใจ เดี๋ยวให้น้องมู่ชุนไปพาตัวมาส่งคืนพี่ท่าน ขอเชิญไปยังบ้านผู้น้อยเป็นการไถ่โทษด้วยเถิด”
หลี่จวิ้นว่า “ดี ดี ไปที่บ้านท่านกัน”
มู่งหงให้บ่าวสองคนไปเฝ้าเรือ แล้วให้เชิญถงเวย ถงเหมิ่งไปยังบ้านด้วย แล้วให้บ่าวอีกคนรีบกลับไปบ้านบอกให้ล้มแพะและหมู จัดเตรียมสุราอาหารไว้รอรับ
面似银盆身似玉,头圆眼细眉单,威风凛凛逼人寒。
灵官离斗府,佑圣下天关。
武艺高强心胆大,阵前不肯空还,攻城野战夺旗幡。
穆弘真壮士,人号没遮拦。
หน้าแลกายดังหยกผ่องยองใย
ศีรษะกลมนัยน์ตาเล็กคิ้วเรียวตั้ง
บารมีข่มขวัญหนีมีพลัง
ดังหลิงกวนฤาอิ้วเสิ้งจากสวรรค์
ฝีมือสูงส่งเข้มแข็งขวัญหาญกล้า
ออกหน้าทัพไม่ยอมกลับหลังหัน
รบกลางแปลงตีเมืองชิงธงกัน
นามดุดันมู่หงจอมบุ่มบ่าม
 
(灵官 หลิงกวน 佑圣 อิ้วเสิ้ง เทพในลัทธิเต๋า)
พอถงเวย ถงเหมิ่งมาถึง ก็ยกขบวนกันกลับมายังบ้านมู่หง เป็นเวลายามห้า เช้าพอดี จึงเชิญมู่ไท่กงมายังโถงหญ้าจัดเลี้ยงสุราอาหาร มู่ชุนกับเซวียหย่งก็กลับมาถึง เลี้ยงกันทั้งวันจนค่ำทั้งหมดก็พักกันที่บ้านมู่หง
วันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงตั้งใจจะเดินทางต่อไปเจียงโจว แต่มู่หงไม่ยินยอมรั้งตัวไว้พาไปตระเวนเที่ยวชมตลาดและทั่วเจียหยางจนผ่านไปอีกสามวัน ซ่งเจียงจึงว่าเกรงจะเกินกำหนดนานไป จำต้องอำลา มู่หงจึงจัดเลี้ยงส่ง เช้าวันออกเดินทาง ซ่งเจียงกล่าวอำลามู่ไท่กง กำชับเซวียหย่งให้พักอยู่กับมู่หงสักระยะแล้วจึงตามไปยังเจียงโจว มู่หงมอบเงินทองให้ซ่งเจียงไว้ใช้จ่าย และมอบเงินให้สองผู้คุมด้วย
จางเหิงวานคนในบ้านให้ช่วยเขียนจดหมายให้ แล้วนำมาฝากซ่งเจียงให้มอบแก่จางซุ่น แล้วทั้งหมดก็พากันไปส่งซ่งเจียงลงเรือที่ริมน้ำสวินหยางเพื่อเดินทางต่อไปยังเจียงโจว
สามอิทธิพลเจียหยาง (สามมาเฟียเจียหยาง) 揭阳三霸
ชื่อ สามมาเฟียเจียหยาง แม้ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่อันที่จริงเป็นผู้ทรงอิทธิพลเพียงในตำบลเจียหยาง 揭阳镇 ตำบล 镇 นั้นมีขนาดเล็กกว่าอำเภอ 県 หรือ เมือง 府 แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ทางการนั้นอ่อนแอ หากมีมือปราบฝีมือระดับหลู่จื้อเซิน หรืออู่ซง ผู้มีอิทธิพลคงถูกปราบลงไม่ยากหากไม่ไปคบหากันเสียเองหรือมีผู้มีตำแหน่งราชการหนุนหลังหาผลประโยชน์
แม้มีเขตเล็กเพียงตำบลยังต้องแบ่งเขตอิทธิพลกันเป็นสามพวก กินกันไม่ลง เรียงตามลำดับอาวุโสของหัวหน้ากลุ่ม ก็จะเป็น หลี่จวิ้น จางเหิง และมู่หง
กลุ่มสันเขาเจียหยาง 揭阳岭 เป็นเขตของ หลี่จวิ้น 李俊 และ หลี่ลี่ 李立 สองคนนี้แม้จะแซ่หลี่เหมือนกันแต่ไม่ได้เป็นพี่น้องหรือเครือญาติกันต่างกับอีกสองกลุ่มที่เป็นพี่น้องกันโดยสายเลือด
แม้จะเรียกกลุ่มสันเขาเจียหยาง แต่เขตอิทธิพลสำคัญไม่ใช่บนสันเขาที่หลี่ลี่ตั้งร้านปล้นชิงอยู่ แต่เป็นเขตชายน้ำหยางจื่อเจียง 扬子江 อันเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่หลี่จวิ้นคุมการค้าข้ามฟากอยู่ จนถงเวย 童威 และถงเหมิ่ง 童猛 สองพี่น้องที่ค้าเกลือเถื่อนอยู่ด้านในแม่น้ำสวินหยาง ยังย้ายมาสังกัด ถงเวยและถงเหมิ่งนี้เป็นเจ้าของเรือหลายลำที่ค้าของเถื่อนบนลำน้ำนี้ กลุ่มนี้จึงนับว่ามีรายได้ดีทีเดียว
1
มังกรน้ำขุ่นหลี่จวิ้น 混江龙李俊 กลุ่มเทพฟ้า เทียนกัง ลำดับที่ 26 เป็นแม่ทัพน้ำหมายเลขหนึ่ง นายค่ายน้ำทิศตะวันออกเฉียงใต้
มังกรทะลวงถ้ำถงเวย 出洞蛟童威 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 32 ลำดับรวมที่ 68 เป็นนายค่ายน้ำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
มังกรตลบน้ำถงเหมิ่ง 翻江蜃童猛 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 33 ลำดับรวมที่ 69 เป็นนายค่ายน้ำทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ตุลาการปลิดชีพหลี่ลี่ 催命判官李立 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 60 ลำดับรวมที่ 96 รับผิดชอบดูแลร้านอาหารทางขึ้นเขาเหลียงซานด้านทิศเหนือ
1
กลุ่มริมฝั่งน้ำสวินหยาง 浔阳江边 เป็นเขตของสองพี่น้อง จางเหิง 张横 และจางซุ่น 张顺
แม่น้ำสวินหยางนี้ไหลผ่านตำบลสวินหยางมาบรรจบแม่น้ำหยางจื่อ หรือ ฉางเจียง เขตของจางเหิง จางซุ่น คุมเส้นทางที่จะขึ้นไปถึงเมืองเจียงโจว จางซุ่นจึงได้แยกไปค้าปลาที่เจียงโจว
ชาวเรือจางเหิง 船火儿张横 กลุ่มเทพฟ้า เทียนกัง ลำดับที่ 28 เป็นแม่ทัพน้ำหมายเลขสองของเหลียงซาน
2
ขาวคะนองคลื่นจางซุ่น 浪里白跳张顺 กลุ่มเทพฟ้า เทียนกัง ลำดับที่ 30 เป็นแม่ทัพน้ำหมายเลขสามของเหลียงซาน
ในบรรดาแม่ทัพน้ำทั้งแปดของเหลียงซานนั้นนับว่า จางซุ่นมีความสามารถสูงสุด แต่อันดับอยู่เกือบท้ายสุดในกลุ่มเทพฟ้าเทียนกังหกคน คืออยู่เหนือเพียง หยวนเสี่ยวชี ส่วนถงเวย ถงเหมิ่งนั้นอยู่ในกลุ่มมารดินตี้ส้า
ฝีมือเป็นอันดับหนึ่ง มีตำแหน่งที่นั่งเป็นอันดับห้าในเหล่านายทัพน้ำ แต่ตำแหน่งแม่ทัพกลับเป็นลำดับสาม
ทั้งนี้เป็นเพราะการจัดลำดับบนเขาเหลียงซานโดยแท้จริงแล้วไม่ได้จัดตามความสามารถที่แท้จริง แต่ผสมกับหลักอาวุโส และที่สำคัญที่สุดคือความสัมพันธ์ส่วนตัวกับซ่งเจียง
กลุ่มตำบลเจียหยาง 揭阳镇 หรือเขตบนบกของตำบลเจียหยาง เป็นเขตอิทธิพลของสองพี่น้อง มู่หง 穆弘 และ มู่ชุน 穆春
จอมบุ่มบ่ามมู่หง 没遮拦穆弘 กลุ่มเทพฟ้า เทียนกัง ลำดับที่ 24 เป็นหนึ่งในแปดขุนพลอัศวินทัพหน้าของเหลียงซาน ลำดับที่แปด และเป็นนายด่านทิศเหนือร่วมกับหลี่ขุย
บุ่มบ่ามน้อยมู่ชุน 小遮拦穆春 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 44 ลำดับรวมที่ 80 เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดรองแม่ทัพราบของเหลียงซาน ลำดับที่เจ็ด
ตอนก่อนหน้า : หนีเสือปะจระเข้
ตอนถัดไป : จอมเวทเทพเดินหน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา