Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
11 มี.ค. เวลา 12:25 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 89
บทกวีขบถ (4) อู๋ย่งแปลงสาส์น
จูกุ้ยอ่านจดหมายแล้วอึ้งไปครึ่งวัน ลูกน้องมาแบกไต้จงเข้าไปยังโรงเชือด จึงเห็นเข็มขัดไถ้ตาป๋อ 搭膞 ของไต้จงที่ข้างม้านั่งนั้นมีป้ายชื่อห้อยติดอยู่ จูกุ้ยหยิบมาดูเห็นบนป้ายมีอักษรเงินสลักอยู่ว่า “พัสดีอาวุโสสองที่ว่าการเมืองเจียงโจวไต้จง 江州两院押牢节级戴宗”
พอเห็นป้าย จูกุ้ยจึงสั่งว่า “อย่าเพิ่งลงมือ ข้าเคยได้ยินท่านเสธ.พูดบ่อยครั้งว่ามีคนรู้จักสนิทสนมกันอยู่ที่เจียงโจว จอมเวทเทพเดินหนไต้จง ดูท่าจะเป็นคนผู้นี้ แต่เหตุใดจึงมาเดินหนังสือให้ร้ายซ่งเจียง นี่ยังดีว่ามาเจอข้าเสียก่อน” จึงบอกลูกน้องให้แก้ไขให้ฟื้นจะได้ถามดูให้รู้ต้นสายปลายเหตุ
ลูกน้องจึงผสมยาแก้กรอกปากให้ไต้จง ชั่วครู่ก็ฟื้น พอลุกขึ้นมาเห็นจูกุ้ยฉีกหนังสือออกอ่านแล้ว จึงตวาดว่า “เจ้าเป็นใคร บังอาจวางยาข้า แล้วนี่ยังฉีกหนังสือของจวนท่านราชครูอีก รู้ผิดหรือไม่”
จูกุ้ยหัวเราะว่า “หนังสือนกเขานี่จะมีไร อย่าว่าแต่หนังสือจวนราชครู พวกข้าที่นี่จงใจเป็นปฏิปักษ์กับฮ่องเต้ต้าซ่ง”
ไต้จงฟังแล้วถึงกับอึ้ง ถามว่า “ผู้กล้า ท่านเป็นใคร ขอทราบนาม”
จูกุ้ยตอบว่า “กูนี่เดินไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนแซ่ คือผู้กล้าเขาเหลียงซาน ตะเข้ดอนจูกุ้ย”
ไต้จงว่า “ที่แท้ก็หัวหน้าเขาเหลียงซาน คงรู้จักอาจารย์อู๋เสวียจิว”
จูกุ้ยว่า “อู๋เสวียจิวเป็นเสนาธิการกุมอำนาจทหารที่ค่ายใหญ่เรา ใต้เท้าใยจึงรู้จักท่าน”
“เขากับผู้น้อยคบหากันสนิท”
“พี่ท่านคงเป็นคนที่ท่านเสธ.พูดถึงอยู่บ่อย จอมเวทเทพเดินหนไต้ย่วนจ่างเมืองเจียงโจว”
“คือผู้น้อยเอง”
จูกุ้ยถามอีกว่า “เมื่อคราวซ่งกงหมิงถูกเนรเทศ ได้เดินทางผ่านค่ายเรา ท่านเสธ.อู๋ได้ฝากหนังสือถึงใต้เท้าฉบับหนึ่ง แล้ววันนี้เหตุใดจึงกลับมาให้ร้ายหมายชีวิตพี่สามซ่ง”
ไต้จงว่า “ซ่งกงหมิงกับข้ารักกันดังพี่น้อง เขามีผิดข้อหาแต่งบทกวีขบถ ข้าช่วยไม่ได้ นี่ข้าก็กำลังเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อหาทางช่วย ทำไมจึงว่าให้ร้ายหมายชีวิต”
จูกุ้ยว่า “หากไม่เชื่อ ก็เชิญดูหนังสือของเจ้าเมืองไฉ้จิ่ว”
ไต้จงรับหนังสือมาอ่านดูแล้วตกตะลึง จึงเล่าเรื่องราวที่ได้รับหนังสือของอู๋เสวียจิว ได้พบกับซ่งกงหมิง รวมทั้งเรื่องที่ซ่งเจียงเมาแล้วเขียนบทกวีขบถบนหอสวินหยาง ให้ฟังอย่างละเอียด
จูกุ้ยว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอเชิญท่านย่วนจ่างขึ้นเขาด้วยตนเอง หารือกับเหล่าหัวหน้าถึงแผนการช่วยเหลือซ่งกงหมิง”
จูกุ้ยรีบจัดอาหารให้ไต้จง เสร็จแล้วก็มายังริมน้ำยิงศรสัญญานข้ามฝั่งไป สักครู่ลิ่วล้อก็พายเรือมารับจูกุ้ยกับไต้จงพร้อมกล่องของขวัญและหนังสือข้ามน้ำไปยังหาดทรายทอง อู๋ย่งได้รับแจ้งจึงลงมารับ
“ไม่ได้พบกันเสียนาน วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงนี่ เชิญขึ้นไปบนค่ายใหญ่พบกับเหล่าหัวหน้าเถิด”
จูกุ้ยเกริ่นนำถึงเหตุที่ไต้จงมาถึงที่นี่ และเรื่องที่ซ่งกงหมิงถูกจับขังคุกอยู่ เฉาไก้ฟังแล้วจึงเชิญไต้จงนั่งลงแล้วสอบถาม ไต้จงจึงเล่าเรื่องที่ซ่งเจียงเขียนบทกวีให้ฟังอีกรอบ เฉาไก้ฟังจบก็จะสั่งการให้เตรียมกำลังยกไปช่วยซ่งเจียง
อู๋ย่งทัดทานว่า “พี่ท่านอย่าได้รีบร้อน เจียงโจวห่างจากที่นี่ไกลอยู่ ยกกองกำลังไปกลับส่งผลร้าย แหวกหญ้าให้งูตื่น กลับเร่งให้ซ่งกงหมิงต้องตายไวขึ้น เรื่องนี้ใช้กำลังไม่ได้ ต้องใช้ปัญญา อู๋ย่งมีอุบาย แต่ต้องอาศัยท่านย่วนจ่างจึงจะช่วยชีวิตพี่สามซ่งได้”
เฉาไก้ว่า “ท่านเสธ.มีแผนการอย่างไร”
อู๋ย่งว่า “ตอนนี้ไฉ้จิ่วให้ย่วนจ่างท่านถือหนังสือไปยังตงจิง และให้รอหนังสือตอบ อาศัยหนังสือฉบับนี้ใช้แผนซ้อนแผน ปลอมหนังสือตอบให้ย่วนจ่างถือกลับไป ในหนังสือจะมีข้อความว่า “อย่าได้ประหารนักโทษซ่งเจียง ให้นำส่งตัวเป็นการลับมายังตงจิง สอบสวนโดยละเอียด ลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ลบล้างคำทำนายตามเพลงกล่อมเด็ก” รอจนส่งตัวมาใกล้แถวนี้ ข้าจะส่งคนลงเขาไปชิงตัวมา แผนนี้เป็นเช่นไร”
เฉาไก้ว่า “หากไม่ผ่านมาทางนี้ มิเสียการดอกหรือ”
กงซุนเสิ้งว่า “นี่ไม่ยาก ให้คนแยกย้ายไปเฝ้าดูทั้งใกล้และไกลไม่ว่าเส้นทางไหนที่ต้องผ่าน แล้วค่อยไปดักชิงตัว ไม่กลัวว่าจะไม่ได้”
เฉาไก้ว่า “ดีอยู่หรอก แต่ไม่มีใครเขียนลายพู่กันของไฉ้จิง 蔡京 ได้น่ะสิ”
อู๋เสวียจิวว่า “อู๋ย่งได้คิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว ทุกวันนี้มีแบบอักษรที่นิยมกันแพร่หลายอยู่สี่แบบ คือของ ซูตงพอ 苏东坡 หวงหลู่จื๋อ 黄鲁直 หมี่หยวนจาง 米元章 ไฉ้จิง 蔡京
1
แบบอักษรสี่สำนัก 四家字体
ซู หวง หมี่ ไฉ้ จัดเป็นสี่อัตลักษณ์สมัยซ่ง
苏、黄、米、蔡,宋朝‘四绝’
ผู้น้อยได้รู้จักบัณฑิตท่านหนึ่งที่จี้โจว 济州 แซ่เซียว 萧 ชื่อย่าง 让 คัดแบบอักษรได้ทุกแบบ จึงมีฉายาว่า บัณฑิตหัตถ์เทวะ 圣手书生 ทั้งยังสามารถตีกระบี่กระบอง อู๋ย่งรู้ว่าเขาคัดแบบอักษรไฉ้จิงได้ คงต้องวานไต้ย่วนจ่างไปทำทีว่าจ้างว่า “ศาลเจ้าเยว่เมืองไท่อาน 泰安州岳庙 ขอให้เขียนป้าย มีค่าว่าจ้างจ่ายให้ล่วงหน้าห้าสิบตำลึง” พอเขาตามมา ก็ส่งคนไปเชิญคนในครอบครัวของเขาขึ้นเขามา แล้วเกลี้ยกล่อมเขาให้เข้ามาเป็นพวก”
เฉาไก้ว่า “หนังสือมีผู้เขียนได้แล้ว แต่ยังต้องมีตราประทับ”
อู๋เสวียจิวว่า “ผู้น้อยยังรู้จักคนอีกผู้หนึ่ง คิดเอาไว้ก่อนแล้วเช่นกัน ขณะนี้อยู่ในเมืองจี้โจว แซ่จิน 金 ชื่อต้าเจียน 大坚 มีฝีมือแกะป้ายและตรา สลักหินและหยก ทั้งยังสามารถใช้อาวุธ มีฉายาประติมากรแขนหยก 玉臂匠 ก็จะมอบเงินให้เขาห้าสิบตำลึงเช่นกัน ว่าจ้างมาสลักอักษรป้าย พอมาระหว่างทาง ก็ทำเช่นเดียวกัน คนทั้งสองนี้จะมีประโยชน์สำหรับงานต่างๆ บนเขา”
เฉาไก้ว่า “วิเศษ”
เช้าวันรุ่งขึ้น ไต้จงแต่งตัวเป็นหมอพิธีกรรม 太保 (ยิ่งย้ำให้เห็นว่า 太保 ในฉายาของไต้จง คือ ผู้สามารถใช้เวทมนต์) นำเงินติดตัวไปหนึ่งร้อยตำลึง ผูกผ้ายันต์ม้าเสกคาถาเดินหน ตรงมายังเมืองจี้โจว ยังไม่ถึงสองชั่วยามก็มาถึง ถามหาที่อยู่ของบัณฑิตหัตถ์เทวะเซียวย่าง 圣手书生萧让 มีผู้ชี้บอกว่าอยู่หน้าศาลขงจื่อ 文庙 ทางตะวันออกของศาลากลาง 州衙东
ไต้จงมาถึงหน้าประตูกระแอมไอแล้วถามว่า “อาจารย์เซียวอยู่หรือไม่”
บัณฑิตผู้หนึ่งเดินออกมามองดูไต้จง แต่ไม่รู้จักจึงถามว่า “ไท่เป่า 太保 มาจากที่ใด มีอันใดชี้แนะ”
ไต้จงว่า “ผู้น้อยเป็นหมอพิธีกรรม 打供太保 อยู่ที่ศาลเจ้าเยว่เมืองไท่อาน ทางศาลเจ้าจะทำการบูรณะหอห้าขุนเขา (อู่เยว่) 五岳楼 มีเศรษฐีในเมืองบริจาคสร้างป้ายศิลา จึงให้ผู้น้อยนำเงินค่าว่าจ้างจ่ายให้ล่วงหน้าห้าสิบตำลึงมาเชิญท่านบัณฑิตเดินทางไปเขียนอักษร ฤกษ์ยามได้กำหนดไว้แล้ว มิอาจชักช้า”
เซียวย่างว่า “ผู้น้อยแม้จะเขียนอักษรได้ แต่ไม่มีประโยชน์ การสร้างป้ายศิลาจำเป็นต้องมีช่างแกะสลัก”
ไต้จงว่า “ผู้น้อยยังมีเงินอีกห้าสิบตำลึงสำหรับเชิญท่านประติมากรแขนหยกจินต้าเจียน 玉臂匠金大坚 ไปสลักศิลา เลือกวันดีได้แล้ว ข้าจะนำทางไปพร้อมกัน”
เซียวย่างรับเงินห้าสิบตำลึงแล้วก็พาไต้จงมาหาจินต้าเจียน เพียงเดินผ่านหน้าศาลขงจื่อไป เซียวย่างก็ชี้บอกว่า “ที่เดินมานั่นไง ประติมากรแขนหยกจินต้าเจียน”
เซียวย่างเรียกจินต้าเจียนไว้ให้มาพบกับไต้จง และบอกเรื่องที่ทางศาลเจ้าเยว่เมืองไท่อาน จะว่าจ้างให้ไปสร้างป้ายศิลา มีเงินว่าจ้างห้าสิบตำลึงสำหรับจินต้าเจียน จินต้าเจียนฟังว่ามีเงินก็ชอบใจยิ่งนัก ทั้งสองเชิญไต้จงรับประทานอาหารมังสวิรัติที่ร้านในตลาด ไต้จงมอบเงินห้าสิบตำลึงให้จินต้าเจียน แล้วว่า “ฤกษ์ยามกำหนดไว้แล้ว ท่านทั้งสองเดินทางกันวันนี้เลย”
เซียวย่างว่า “อากาศร้อนนัก วันนี้เดินทางได้ไม่เท่าไรก็ต้องพักแล้ว มิสู้ออกเดินทางพรุ่งนี้ตั้งแต่ยามห้า อากาศยังเย็นอยู่จะดีกว่า” จินต้าเจียนก็เห็นด้วย จึงแยกย้ายไปเก็บของ เซียวย่างให้ไต้จงพักที่บ้านของตนในคืนนั้น
ยามห้าเช้าวันรุ่งขึ้น จินต้าเจียนนำสัมภาระมาสมทบกับเซียวย่างและไต้จงออกเดินทางจากเมืองจี้โจวมุ่งหน้าไปเมืองไท่อาน เดินทางมาได้ไม่ถึงสิบลี้ ไต้จงก็บอกว่า “ท่านทั้งสองค่อยๆ เดินทาง ส่วนข้าจะล่วงหน้าไปก่อนเพื่อไปบอกพวกคหบดีให้เตรียมต้อนรับพวกท่าน” แล้วไต้จงก็แยกทางมา
เซียวย่างกับจินต้าเจียนเดินทางตามหลังมาจนถึงยามเว่ย 未牌 (14:00 น.) ระยะทางราวแปดสิบลี้ ได้ยินเสียงเป่าปาก แล้วมีโจรราวห้าสิบคนลงมาจากลาดเขา หัวหน้าคือ เสือเตี้ยหวาง ตวาดว่า “เจ้าสองคนจะไปไหน เด็กๆ จับสองคนนี่ควักเอาหัวใจไปแกล้มเหล้า”
เซียวย่างว่า “ผู้น้อยทั้งสองกำลังเดินทางไปสร้างป้ายศิลาที่เมืองไท่อาน ไม่มีทรัพย์สินเงินทองติดตัว มีแต่เสื้อผ้าไม่กี่ชุด”
เสือเตี้ยหวางว่า “ข้าไม่เอาหรอกเงินทองเสื้อผ้า จะเอาหัวใจคนมีปัญญาไปแกล้มเหล้า”
เซียวย่างกับจินต้าเจียนจึงต่างใช้ไม้พลองต่อสู้กับดาบของเสือเตี้ยหวาง สู้กันไปได้เจ็ดเพลง เสือเตี้ยหวางก็หันหลังหนี ทั้งสองกำลังจะไล่ตามไป ก็ได้ยินเสียงม้าล่อดังขึ้น ด้านซ้ายปักหลั่นดั้นเมฆซ่งว่านวิ่งออกมา
ด้านขวาลูบคลำฟ้าตู้เชียน ด้านหลังหนุ่มหน้ามนเจิ้งเทียนโซ่ว แต่ละคนนำลูกน้องมาสามสิบคน พากันเข้ามาล้อมจับเซียวย่างและจินต้าเจียน แล้วพาเข้าไปในดง
หัวหน้าโจรทั้งสี่บอกว่า “ท่านทั้งสองวางใจ พวกเรารับคำสั่งมาจากโลกบาลเฉาให้มาเชิญพวกท่านขึ้นเขาเข้าพวก”
เซียวย่างว่า “ทางค่ายจะให้พวกเราไปทำอะไร พวกเราจับไก่ยังไม่ไหว ได้แต่กินข้าว”
ตู้เชียนว่า “ท่านเสธ.อู๋อยากรู้จักท่านและรู้ว่าพวกท่านพอมีฝีมืออยู่ จึงให้ไต้จงมาเชิญพวกท่าน”
1
พอดีมาถึงร้านอาหารของตะเข้ดอนจูกุ้ยจึงจัดอาหารเลี้ยงดู แล้วก็เรียกเรือมารับข้ามฝั่งเลย พอมาถึงค่ายใหญ่ เฉาไก้ อู๋ย่งก็นำเหล่าหัวหน้ามาทำความรู้จัก จัดสุราอาหารเลี้ยงรับรองแล้วเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่จะปลอมหนังสือตอบของไฉ้จิง
“ดังนั้นจึงใคร่ขอเชิญท่านทั้งสองมาเข้าร่วมอุดมการณ์ด้วยกัน”
1
ทั้งสองพอได้ฟังก็คว้ามืออู๋เสวียจิวไว้แล้วว่า “จะให้พวกเราร่วมงานด้วยไม่เป็นปัญหา แต่พวกเรามีครอบครัวอยู่ หากทางการรู้คงได้รับอันตราย”
อู๋ย่งว่า “น้องท่านทั้งสองอย่าได้กังวล พรุ่งนี้จะได้รู้เอง”
เช้าวันรุ่งขึ้นลิ่วล้อมารายงานว่า “มากันหมดแล้ว”
อู๋ย่งจึงว่า “เชิญน้องท่านทั้งสองไปพบกับครอบครัว”
เซียวย่าง จินต้าเจียน พอได้ฟังยังไม่ค่อยเชื่อ พากันลงเขามาได้ครึ่งทางก็พบขบวนเกี้ยวพาครอบครัวพวกตนขึ้นเขามา ภรรยาก็บอกว่า “เมื่อวานพอท่านออกเดินทางมา ก็มีคนนำเกี้ยวไปรับบอกว่าท่านเป็นลมแดดแวะพักอยู่โรงเตี๊ยมนอกเมืองให้มาช่วยดู พอออกนอกเมือง ก็ไม่ยอมให้ลงเกี้ยว พามาถึงที่นี่” เซียวย่าง จินต้าเจียนจึงจำต้องกลับขึ้นเขามาเข้าเป็นพวกแต่โดยดี
อู๋ย่งจึงหารือกับเซียวย่าง จินต้าเจียน ถึงข้อความที่จะเขียนปลอมหนังสือ และแกะตราประทับ เสร็จแล้วก็มอบให้ไต้จงนำกลับไป ไต้จงข้ามน้ำกลับมาถึงร้านของจูกุ้ยแล้วก็ผูกผ้ายันต์เสกคาถาเร่งเดินทางกลับเจียงโจว
ตอนก่อนหน้า : ไต้จงเดินสาส์น
https://www.blockdit.com/posts/65eb02cb89b2f97893f6ca20
ตอนถัดไป : จับพิรุธ
https://www.blockdit.com/posts/65f1a7519548d4c40d4cbbe5
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย