13 มี.ค. เวลา 13:17 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 90

บทกวีขบถ (5) จับพิรุธ
อู๋ย่งส่งไต้จงเดินทางไปแล้ว ก็กลับมากินเลี้ยงกับเหล่าหัวหน้าในค่าย แล้วพลันฉุกคิดขึ้นได้ร้องว่าแย่แล้ว ทำเอางงกันทั้งวงถามว่าอะไรแย่
อู๋ย่งว่า “หนังสือฉบับนั้น กลับจะส่งไต้ย่วนจ่างและซ่งกงหมิงไปตาย”
เหล่าหัวหน้าพากันอึ้ง ถามว่า “หนังสือของท่านเสธ.ผิดพลาดอย่างไร”
อู๋เสวียจิวว่า “ข้ามัวแต่ห่วงหน้า ลืมพะวงหลัง จึงเกิดเรื่องไม่ลงรอยข้อใหญ่”
เซียวย่างว่า “แบบอักษรที่ผู้น้อยใช้เป็นแบบอักษรเดียวกับของราชครูไฉ้ สำนวนที่ใช้ก็ไม่แตกต่าง เรียนถามท่านเสธ. ไม่ลงรอยข้อไหน”
จินต้าเจียนว่า “ภาพอักษรตราที่ผู้น้อยแกะ ก็ไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย ไยจึงไม่ลงรอย”
1
อู๋ย่งว่า “เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบจึงใช้ตราประทับแบบอักษรตะเกียบหยก 玉箸篆文 ว่า ‘หานหลินไฉ้จิง 翰林蔡京’ สี่อักษร ตราประทับนี้จะทำให้ไต้จงต้องรับโทษ”
จินต้าเจียนว่า “ผู้น้องเคยเห็นหนังสือหรือบทความของราชครูไฉ้ ล้วนใช้ตราประทับภาพอักษรนี้ จึงแกะตามไม่ผิดเพี้ยน เหตุใดจึงกลายเป็นช่องโหว่”
2
อู๋ย่งว่า “พวกท่านไม่รู้ ไฉ้จิ่วเจ้าเมืองเจียงโจวเป็นบุตรของราชครูไฉ้ หนังสือของบิดาเขียนถึงบุตร แต่ใช้ตราประจำตำแหน่ง นี่คือข้อผิดพลาด ข้าไม่รอบคอบ เมื่อไต้จงไปถึงเจียงโจว คงถูกสอบซักค้าน ความคงแตก”
เฉาไก้ว่า “รีบส่งคนไปตามกลับมา แก้หนังสือเสีย”
อู๋เสวียจิวว่า “ใครจะไปตามทันเล่า เขาใช้คาถาเทพเดินหน ป่านนี้คงไปได้ห้าร้อยลี้แล้ว เรื่องนี้ชักช้าไม่ได้ ต้องหาทางช่วยสองคนนั่น”
เฉาไก้ถามว่า “ช่วยอย่างไร ท่านมีแผนการหรือ”
อู๋เสวียจิวกระซิบแผนการให้เฉาไก้ฟังข้างหู ผู้ที่ต้องไปปฏิบัติตามแผนก็ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติตามเวลาที่กำหนด
ทางด้านไต้จงเร่งกลับมาเจียงโจวได้ทันกำหนดเวลา นำหนังสือตอบไปมอบแก่ไฉ้จิ่ว ไฉ้จิ่วมอบเหล้าสามจอกเป็นรางวัลแล้วถามว่า “ได้พบท่านราชครูหรือไม่”
ไต้จงตอบว่า “ผู้น้อยพำนักเพียงคืนเดียวก็กลับ จึงไม่ได้พบพระคุณท่าน”
1
ไฉ้จิ่วเปิดหนังสือออกอ่าน ตอนต้นพูดถึงเรื่องอื่นๆ หน้าหลังเขียนถึงพ่อมดซ่งเจียงว่า ต้องการพบด้วยตนเอง ให้ใส่รถขังส่งมาเป็นการลับมายังเมืองหลวง ใช้คนกำกับมาโดยดีอย่าให้หนีระหว่างทาง ท้ายจดหมายยังกล่าวถึงหวงเหวินปิ่งว่าจะถวายรายงานให้ทรงทราบและคงมีรางวัลในไม่ช้า
ไฉ้จิ่วอ่านจบแล้วชอบใจ มอบเงินรางวัลให้ไต้จงยี่สิบห้าตำลึง และหารือเรื่องการจัดเตรียมรถนักโทษ และคนที่จะไปส่ง แล้วไต้จงก็กลับที่พัก ซื้อเนื้อและสุรานำไปเยี่ยมซ่งเจียง
ล่วงเข้าวันที่สอง ไฉ้จิ่วจัดเตรียมรถนักโทษแล้ว พร้อมที่จะออกเดินทาง ทหารเฝ้าประตูมารายงานว่า ทงพั่นเมืองอู๋เหวยจวินมาขอเข้าพบ
1
หวงเหวินปิ่งนำของกำนัลมาประจบเช่นเคย หลังจากทักทายตามธรรมเนียมแล้ว เจ้าเมืองก็บอกว่า “ยินดีกับท่านด้วย อีกไม่นานคงจะมีข่าวดี”
หวงเหวินปิ่งถามว่า “พระคุณท่านทราบได้อย่างไร”
“เมื่อวานมีหนังสือตอบมาว่าให้ส่งตัวพ่อมดซ่งเจียงไปยังเมืองหลวง ความชอบของทงพั่นจะกราบทูลในไม่ช้า คงได้กลับเข้ารับราชการมีตำแหน่ง หนังสือท่านพ่อกล่าวไว้เช่นนั้น”
หวงเหวินปิ่งว่า “เป็นพระคุณของพระคุณท่านที่ส่งเสริม ผู้ที่เดินสาส์น นับเป็นเทพเดินหนโดยแท้”
2
เจ้าเมืองว่า “หากทงพั่นไม่เชื่อ ข้าจะให้ดูหนังสือจากทางบ้านว่าข้าไม่ได้หลอก”
หวงเหวินปิ่งว่า “ผู้น้อยเกรงว่าเป็นหนังสือจากทางบ้านจึงไม่กล้าดูโดยพลการ แต่เมื่อพระคุณท่านอนุญาต ก็ใคร่ขอดูสักหน”
“ทงพั่นเป็นผู้รู้ใจ ดูไปจะเป็นไร” แล้วจึงนำหนังสือส่งให้หวงเหวินปิ่ง
2
หวงเหวินปิ่งรับหนังสือมาอ่านจากต้นจนปลายรอบหนึ่ง พลิกดูซองและตราประทับ แล้วส่ายหัวว่า “หนังสือฉบับนี้ไม่ใช่ของจริง”
เจ้าเมืองว่า “ทงพั่นผิดแล้ว นี่เป็นลายมือของท่านพ่อ แบบอักษรถูกต้อง ไยจึงว่าปลอม”
หวงเหวินปิ่งว่า “ขอตอบพระคุณท่าน ปกติเวลามีหนังสือจากทางบ้าน เคยมีตราประทับลักษณะนี้หรือไม่”
“ปกติแล้วก็ไม่เคยมีตราประทับลักษณะนี้ เพียงแต่เขียนมาตามสะดวกเท่านั้น คราวนี้อาจเป็นเพราะกล่องใส่ตราอยู่ใกล้มือ จึงหยิบประทับมาบนซอง”
1
“พระคุณท่านอย่าหาว่าผู้น้อยมากความ หนังสือฉบับนี้มีผู้จงใจทำปลอมมาหลอกพระคุณท่าน ทุกวันนี้แบบอักษรสี่สำนัก ซู หวง หมี่ ไฉ้แพร่หลายในใต้หล้า ผู้หัดคัดได้มีจำนวนมาก แม้แต่ตราประทับนี้ ก็เป็นตราที่พระคุณท่านผู้บิดาใช้อยู่สมัยดำรงตำแหน่งหานหลิน 翰林 มีผู้เคยเห็นจำนวนมาก ปัจจุบันเลื่อนตำแหน่งเป็นท่านราชครูแล้ว เหตุใดจึงยังคงใช้ตราประทับหานหลิน ยิ่งเป็นหนังสือจากบิดาถึงบุตรแล้ว ไม่ควรมีตราประจำตำแหน่ง พระคุณท่านผู้บิดาเป็นที่รู้จักทั่วปฐพี เป็นผู้มีสายตายาวไกล เหตุใดจึงรีบร้อนหยิบใช้ผิด
1
หากพระคุณท่านยังไม่เชื่อ ลองสอบซักผู้เดินสาส์นอย่างละเอียด ผู้ที่เคยไปในจวนมาได้เห็นสิ่งใด หากตอบไม่ถูก หนังสือนี้ย่อมเป็นของปลอม”
เจ้าเมืองไฉ้จิ่วว่า “ไม่ยาก เคยไปถึงตงจิงหรือไม่ สอบดูก็รู้จริงเท็จ” เจ้าเมืองจึงให้หวงเหวินปิ่งหลบหลังฉากกั้น แล้วให้คนไปตามไต้จงมา
反诗假信事相牵,为与梁山盗结连。
不是黄蜂针痛处,蔡龟虽大总徒然。
 
กลอนขบถจดหมายปลอมเกี่ยวพันกัน
ต่างสัมพันธ์กับชุมโจรเหลียงซานป๋อ
แม้มิได้คำแถลงไขเหล็กไนต่อ
ถึงเรืองยศก็โง่เขลา เต่าตุ่นไฉ้
 
(黄蜂针 เหล็กไนต่อ เป็นฉายาของ หวงเหวินปิ่ง)
ไต้จงพอกลับมาถึงเจียงโจวก็ไปเยี่ยมซ่งเจียงและแอบกระซิบบอกเรื่องที่ผ่านมา ซ่งเจียงก็แอบดีใจ
วันรุ่งขึ้น ทางเจ้าเมืองใช้คนมาตามไปพบยังที่ว่าการ เจ้าเมืองว่า “วันก่อนงานข้ายุ่งเลยไม่ได้ถามรายละเอียด เมื่อตอนที่ท่านไปเมืองหลวงนั้นเข้าทางประตูไหน”
ไต้จงว่า “ผู้น้อยไปถึงตงจิงฟ้ามืดแล้วจึงไม่รู้ว่าประตูอะไร”
“ท่านไปถึงหน้าจวนบ้านข้า ใครออกมารับ แล้วท่านพักอยู่ที่ไหน”
“ผู้น้อยไปถึงหน้าจวน มีคนเฝ้าประตูมารับหนังสือไป สักพักก็ออกมารับกล่องของขวัญเข้าไป แล้วบอกให้ผู้น้อยไปหาโรงเตี๊ยมพักแรม ยามห้าเช้าวันรุ่งขึ้นผู้น้อยไปรออยู่หน้าจวน คนเฝ้าประตูนำหนังสือตอบออกมาให้ ผู้น้อยเกรงว่าจะผิดเวลา จึงไม่ได้ถามรายละเอียด รีบเดินทางกลับ”
“คนเฝ้าประตูที่ท่านพบหน้าจวน อายุประมาณเท่าไร ผอมดำหรืออ้วนขาว สูงใหญ่หรือเตี้ยเล็ก มีเคราหรือไร้เครา”
“ตอนที่ผู้น้อยไปถึงจวนนั้นฟ้ามืดแล้ว วันรุ่งขึ้นก็เป็นยามห้าฟ้ายังไม่สว่าง จึงมองเห็นไม่ชัดเจน ดูเหมือนจะไม่สูงนัก สูงปานกลาง และดูเหมือนจะมีเครา”
ท่านเจ้าเมืองโกรธจัด ตวาดว่า “จับตัวไว้” ราชมัลสิบกว่านายจากด้านข้างออกมาควบคุมตัวไต้จง ไต้จงว่า “ผู้น้อยไม่ผิด”
เจ้าเมืองว่า “เจ้าสมควรตาย คนเฝ้าประตูคนเก่าที่จวนของข้า หวางกง 王公 ตายไปหลายปีแล้ว ตอนนี้เป็นเสี่ยวหวาง 小王 เจ้ากลับบอกว่าอายุมากและมีเครา อีกอย่างเสี่ยวหวางไม่สามารถเข้าไปยังห้องโถงของจวนได้ มีหนังสือจากที่ใดมาต้องผ่านจางกั้นปั้น 张干办 ที่ห้องโถง จากนั้นจึงไปผ่านพ่อบ้านหลี่ 李都管 แล้วก็ไปแจ้งด้านใน จึงจะรับของกำนัลได้ หากจะมีหนังสือตอบ ต้องรอสามวัน กล่องของขวัญของข้าสองกล่อง เหตุใดจึงไม่มีคนสนิทออกมาถามรายละเอียดก็หลับหูหลับตารับเข้าไป
1
เมื่อวานข้ารีบร้อนไปหน่อยจึงถูกเจ้าตบตาเอา ตอนนี้ก็สารภาพมาโดยดีว่าจดหมายฉบับนี้มาจากไหน”
ไต้จงว่า “ผู้น้อยเพียงแต่กังวลว่าจะผิดเวลาจึงไม่ได้ดูให้ละเอียด”
ไฉ้จิ่วว่า “เหลวไหล” แล้วสั่งให้โบยจนเนื้อแตก เลือดไหล ไต้จงทนไม่ไหวจึงยอมรับว่าหนังสือนั้นปลอม เจ้าเมืองถามว่า “เจ้าได้หนังสือปลอมมาจากไหน”
ไต้จงว่า “ผู้น้อยเดินทางผ่านเขาเหลียงซาน มีพวกโจรออกมาดักจับผู้น้อยมัดขึ้นเขาไปจะคว้านท้องควักหัวใจ พอค้นตัวผู้น้อยพบหนังสือ จึงเอาไปพร้อมกล่องของขวัญ ได้ไปแล้วจึงไว้ชีวิตผู้น้อย แต่ผู้น้อยรู้ดีว่าคงกลับมาไม่ได้ จึงขอยอมตายบนเขา พวกนั้นจึงทำหนังสือปลอมนี้ขึ้นมาส่งให้ผู้น้อยกลับมาใช้เป็นข้ออ้าง ผู้น้อยเกรงว่าจะโดนอาญาจึงจำต้องปิดบังพระคุณท่าน”
เจ้าเมืองว่า “นั่นก็ใช่อยู่ แต่เจ้ายังพูดออกมาไม่หมด เจ้าสมคบกับพวกโจรเขาเหลียงซานชิงเอากล่องของขวัญไป โบยมันอีก”
แต่ไต้จงไม่ยอมรับว่าสมคบพวกโจร จึงถูกทัณฑ์ทรมานอีกรอบให้สารภาพ ไต้จงยังคงยืนกรานไม่รับเช่นเดิม ไฉ้จิ่วจึงให้เอาคาใหญ่ใส่คอแล้วนำไปขังคุกไว้
เจ้าเมืองเลิกว่าการแล้วมาหารือกับหวงเหวินปิ่ง “หากไม่ใช่ทงพั่นออกความเห็น ข้าคงพลาดครั้งใหญ่”
หวงเหวินปิ่งว่า “เห็นชัดว่าคนผู้นี้สมคบโจรเขาเหลียงซาน หากไม่กำจัดเสีย จะเป็นภัยในภายหลัง”
ไฉ้จิ่วว่า “เช่นนั้นก็เอาสองคนนั้นมาทำหนังสือสารภาพ ตั้งคดีขึ้นมาแล้วส่งไปตัดหัวเสียกลางตลาด แล้วค่อยถวายรายงานยังราชสำนัก”
หวงเหวินปิ่งว่า “พระคุณท่านฉลาดล้ำยิ่งนัก หนึ่งได้สร้างความชอบให้ราชสำนักพอพระทัย สองได้ตัดไฟเสียก่อนที่พวกโจรเหลียงซานจะมาปล้นคุก”
วันนั้น หวงเหวินปิ่งก็ลากลับอู๋เหวยจวิน
วันรุ่งขึ้น ไฉ้จิ่วขึ้นว่าการให้เรียกข่งมู่ 孔目(ตุลาการ) ผู้รับผิดชอบคดีมาให้นำตัวซ่งเจียง ไต้จง มาทำหนังสือรับสารภาพ แล้วให้ออกประกาศโทษ นำตัวไปลงโทษตัดหัวประหารเสียที่กลางตลาดในวันรุ่งขึ้น
1
ข่งมู่ผู้รับผิดชอบคดีนี้แซ่หวง 黄 คบหาคุ้นเคยกับไต้จงอยู่ จึงมีเจตนาจะช่วย หวงข่งมู่ 黄孔目 จึงหาทางถ่วงเวลา โดยกล่าวว่า “พรุ่งนี้เป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติ 国家忌日 มะรืนเป็นวันที่สิบห้าเดือนเจ็ดตรงกับวันสารทจีน 中元节 ไม่อาจลงโทษประหาร มะเรื่องนี้เป็นวันเถลิงราชย์ 国家景命 เบ็ดเสร็จต้องรอห้าวัน จึงทำการประหารได้”
ซ่งเจียง ไต้จงจึงรอดประหารไปห้าวัน รอประหารในวันที่หก ทั้งนี้ก็เพราะ หนึ่ง เป็นลิขิตฟ้า สอง ตัวช่วยจากเหลียงซานยังมาไม่ถึง
ตอนก่อนหน้า : อู๋ย่งแปลงสาส์น
ตอนถัดไป : ปล้นแดนประหาร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา