20 มี.ค. เวลา 12:18 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 93

สร้างบารมี (2) จุดจบเหล็กไนต่อ
กองเรือมาถึงริมน้ำอู๋เหวยราวยามหนึ่ง จอดเป็นแถวเรียงหนึ่งหลบอยู่ในพงอ้อ ถงเหมิ่งวนเรือมารายงานว่า “ในเมืองไม่มีความเคลื่อนไหว” ซ่งเจียงจึงให้ขนกระสอบทรายและไม้แห้งไปกองไว้ใกล้กำแพงเมือง
พอได้เวลายามสอง ซ่งเจียงให้ลิ่วล้อแบกกระสอบทรายคนละใบและไม้แห้งไปยังข้างกำแพง เหล่าหัวหน้า ให้จางเหิง สามหย่วน สองถงอยู่เฝ้าเรือ ที่เหลือมากันข้างกำแพงห่างจากประตูเมืองทิศเหนือราว ครึ่งลี้ ซ่งเจียงให้ปล่อยนกพิราบผูกกระพรวน บนกำแพงเห็นลำไม้ไผ่ผูกผ้าขาวสะบัดไหวในสายลม ลิ่วล้อนำกระสอบทรายกองตรงจุดนั้น แล้วทยอยนำไม้แห้งและน้ำมันขึ้นไปบนกำแพง ไป๋เสิ้งคอยประสานอยู่ด้านบนชี้ให้ดูว่า “ซอยนั้นคือที่อยู่ของหวงเหวินปิ่ง”
ซ่งเจียงถามว่า “เซวียหย่ง โหวเจี้ยน อยู่ที่ใด”
ไป๋เสิ้งว่า “ทั้งสองคนเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านแล้ว รอพี่ท่านอยู่”
“เห็นสือหย่งกับตู้เชียนไหม”
“รออยู่ข้างประตูเมืองทางด้านซ้าย”
1
ซ่งเจียงนำคนลงจากกำแพงตรงไปหน้าบ้านหวงเหวินปิ่ง เห็นโหวเจี้ยนหลบอยู่ใต้ชายคาบ้านจึงเรียกออกมากระซิบข้างหูว่า
“ท่านไปเปิดประตูสวนผักให้พวกเรานำไม้แห้งกับน้ำมันไปกองไว้ ให้เซวียหย่งหาคบไฟไปจุดเผา ตัวท่านไปเคาะประตูบ้านหวงเหวินปิ่งบอกว่า “ข้างบ้านไฟไหม้ ให้นำหีบข้าวของมาฝากไว้” พอประตูเปิด พวกข้าจะจัดการเอง”
โหวเจี้ยนปฏิบัติตามโดยไปเปิดประตูสวนกองไม้แห้งให้เซวียหย่งเผา แล้วมาเคาะประตูแจ้งเหตุเพลิงไหม้ พวกคนในบ้านหวงเหวินปิ่งพอเห็นไฟไหม้ข้างบ้าน ต่างรีบออกมาจากบ้าน พวกของซ่งเจียงวิ่งสวนเข้าไป เจอใครเป็นฆ่าจนหมดสิ้นไม่ว่าหญิงหรือชาย ผู้ใหญ่หรือเด็กทั้งห้าสิบคนแต่ไม่พบตัวหวงเหวินปิ่ง พวกของซ่งเจียงจึงทำการเก็บกวาดทรัพย์สินเงินทองในบ้านทั้งหมดบรรจุหีบแล้วแบกยกกันขึ้นมายังกำแพงเมือง
ทางด้านสือหย่ง ตู้เชียนพอเห็นไฟไหม้ก็ชักอาวุธเข้าสังหารทหารยามเฝ้าประตู พวกชาวบ้านเห็นไฟไหม้ก็หิ้วถังน้ำ บันได มาช่วยดับไฟ สือหย่ง ตู้เชียนจึงตวาดว่า
“พวกชาวบ้านหยุดอยู่ตรงนั้น ขุนโจรเหลียงซานนับพันล้อมไว้หมดแล้ว มาฆ่าพวกหวงเหวินปิ่งแก้แค้นให้ซ่งเจียง ไต้จงเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า รีบหลบไปอย่าได้มาแส่”
ชาวบ้านบางคนยังไม่เชื่อ หยุดยืนมองอยู่ พายุหมุนดำหลี่ขุยมาถึง ควงขวานปรี่เข้าหา พวกนั้นจึงต่างแตกฮือหนีกันหมด
ทหารเฝ้าประตูที่อยู่ในซอยนำบันไดและอุปกรณ์ดับไฟวิ่งออกมา ฮวาหยงยิงธนูใส่คนที่วิ่งนำหน้าคนหนึ่งล้มลง ตวาดว่า “อยากตาย ก็เข้ามาดับไฟ” จึงแตกฮือถอยกลับไปหมดเช่นกัน เซวียหย่งถือคบไฟไล่จุดเผาบ้านของหวงเหวินปิ่งจนไฟลุกโชติช่วง
黑云匝地,红焰飞天。
 
焠律律走万道金蛇,
焰腾腾散千团火块。
狂风相助,雕梁画栋片时休。
炎焰涨空,大厦高堂弹指没。
 
这不是火,却是:文炳心头恶,触恼丙丁神。
害人施毒焰,惹火自烧身。
เมฆดำปกคลุมหล้า 
อัคคีอาบฟ้าแดงฉาย
 
งูทองหลอมหมื่นสายเลื้อยเปะปะ
พุ่มพระเพลิงพันลูกลอยละลิ่ว
ลมคลั่งโหมเสาคานไหม้ชั่วดีดนิ้ว
พระเพลิงกริ้วเผาตึกหอชั่วพริบตา
แลนี่หาใช่ไฟ
แต่คือใจอันชั่วช้า
ของหวงเหวินปิ่งนา
แหย่โทโสเทพอัคคี
 
ใส่ร้ายป้ายสีใคร
คือแหย่ไฟเผาไหม้ตน
(丙丁神 เทพอัคคี ; จากกิ่งฟ้า 天干  丙 ไฟหยาง 丁 ไฟยิน)
สือหย่ง ตู้เชียน สังหารทหารยามประตู หลี่ขุยจามโซ่ล่ามขาดเปิดประตูใหญ่ออก พรรคพวกครึ่งหนึ่งปีนกำแพงกลับ ครึ่งหนึ่งออกทางประตู จางเหิง สามหย่วน สองถง นำเรือมารับ ขนสมบัติขึ้นเรือกันไป ทหารอู๋เหวยจวินรู้ดีว่าคราวปล้นแดนประหาร พวกเขาเหลียงซานสังหารคนไปมากเท่าไร จึงได้แต่หลบซ่อนไม่ยอมปรากฏตัว พวกซ่งเจียงนำเรือกลับบ้านสกุลมู่ เสียดายอยู่เพียงว่ายังไม่ได้ตัวหวงเหวินปิ่ง
พระเพลิงโหมครานี้ ฟ้าแดงสว่างจ้าเห็นไกลไปถึงเจียงโจว มีผู้รายงานไปยังท่านเจ้าเมือง ขณะนั้นหวงเหวินปิ่งนั่งหารือข้อราชการอยู่ด้วย จึงรีบขอตัวกลับ ท่านเจ้าเมืองให้นำเรือหลวงไปส่ง
เรือแล่นใกล้เมืองมา ไฟโหมแรงสะท้อนท้องน้ำแดงจ้า คนเรือว่า “ไฟไหม้ที่ประตูทิศเหนือ” หวงเหวินปิ่งยิ่งกังวล
เรือเล็กลำหนึ่งพายผ่านไป ครู่หนึ่งก็มีเรือเล็กมาอีกลำ ลำนี้แล่นเข้ามาชน ผู้ติดตามตะคอกว่า “เรือที่ไหน กล้าเข้ามาชน”
คนบนเรือถือไม้ตะขอโดดลุกขึ้นว่า “เรือจะไปเจียงโจวแจ้งข่าวไฟไหม้”
หวงเหวินปิ่งออกจากโถงเรือมาถามว่า “ไฟไหม้ที่ไหน”
“บ้านหวงทงพั่นที่ประตูเหนือ พวกเขาเหลียงซานฆ่าตายหมดบ้าน ปล้นทรัพย์ไปหมด ไฟกำลังไหม้อยู่”
หวงเหวินปิ่งพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้อะไรเป็นอะไร รู้แต่ว่าแย่ ชายผู้นั้นเอาไม้ตะขอเกี่ยวเรือแล้วกระโดดขึ้นเรือมา หวงเหวินปิ่งเจ้าเล่ห์อยู่แล้วเกิดเอะใจ วิ่งไปท้ายเรือแล้วกระโจนลงน้ำ พลันเห็นเรือเล็กลำหนึ่งลอยลำอยู่ มีคนอยู่ใต้น้ำเข้ามาโอบเอวเอาไว้ จิกหัวแล้วลากกลับมาขึ้นเรือลำเก่า ชายฉกรรจ์ที่โดดขึ้นเรือมาก่อนเอาเชือกเข้ามามัดตัวไว้ คนที่อยู่ใต้น้ำจับตัวหวงเหวินปิ่งได้ก็คือ ขาวคะนองคลื่นจางซุ่น คนใช้ไม้ตะขอเกี่ยวขึ้นเรือ คือ มังกรน้ำขุ่นหลี่จวิ้น
1
พวกลูกเรือหลวงก้มกราบคารวะ หลี่จวิ้นว่า “ข้าไม่ฆ่าพวกเจ้า มาจับแค่ไอ้หวงเหวินปิ่งนี่ แต่ฝากพวกเจ้ากลับไปบอกไอ้ลาโง่ไฉ้จิ่วว่า หัวลาขอฝากไว้ก่อน วันหลังจะกลับมาเอา”
หลี่จวิ้น จางซุ่นจับหวงเหวินปิ่งมาขึ้นเรือเล็ก ปล่อยเรือหลวงกลับไป พอแจวเรือมาขึ้นฝั่งที่บ้านสกุลมู่ ก็เห็นพวกเหลียงซานกำลังขนหีบสมบัติกันอยู่ พอเห็นหวงเหวินปิ่งถูกจับมาจนได้ก็ดีใจยิ่ง จึงให้คุมตัวมายังบ้านสกุลมู่ ไปชุมนุมกันที่โถงมุงหญ้า ซ่งเจียงให้จับหวงเหวินปิ่งถอดเสื้อผ้าออกแล้วมัดไว้กับต้นหลิ่ว ให้จัดสุรามารินให้ตั้งแต่เฉาไก้ จนถึงไป๋เสิ้งทั้งหมดสามสิบตัวนายดื่มกันก่อนหนึ่งรอบ
ซ่งเจียงด่าหวงเหวินปิ่งว่า “เจ้าหมอนี่ เจ้ากับข้าแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีเรื่องแค้นเคืองกัน ทำไมต้องใส่ความข้าครั้งแล้วครั้งเล่าให้เจ้าเมืองไฉ้จิ่วประหารพวกข้าทั้งสอง เจ้าเองก็ศึกษาตำราปราชญ์แต่ยังทำแต่เรื่องชั่วช้า หวงเหวินเย่ พี่ชายแม่เดียวกันของเจ้ากลับเป็นคนมีใจบุญสุนทาน ฟังว่าชาวบ้านเรียกกันว่า พุทธาหวง เมื่อคืนพวกข้าจึงไม่แตะต้องเขาแม้แต่น้อย แต่เจ้ากลับชอบรังแกชาวบ้าน ใช้อำนาจบาตรใหญ่ สอพลอเจ้านาย ทำร้ายคนดี เห็นว่าคนตั้งฉายาให้ว่า เหล็กไนต่อ วันนี้ข้าจะช่วยถอนเหล็กไนทิ้งเสีย”
หวงเหวินปิ่งว่า “ผู้น้อยสำนึกผิดแล้ว ขอตายแบบทันทีเถิด”
เฉาไก้ว่า “ไอ้โจรหัวลา เจ้าตายแน่ ถ้ารู้ว่าจะมีวันนี้ก็ไม่ควรทำแต่แรก”
ซ่งเจียงว่า “พี่น้องท่านไหนจะช่วยข้าลงมือ”
หลี่ขุยว่า “ข้าช่วยพี่เชือดเจ้านี่เอง อ้วนอย่างนี้ ย่างอร่อยนัก”
เฉาไก้ว่า “พูดถูกแล้ว เอามีดและเตามา ค่อยๆ เชือดมาแกล้มเหล้า ระบายแค้นให้น้องเรา”
1
หลี่ขุยหยิบมีดมาถือ มองหน้าหวงเหวินปิ่งแล้วหัวเราะว่า “เจ้านี่กับไฉ้จิ่วลับๆ ล่อๆ อยู่ในจวน จับแพะชนแกะหาเรื่องชาวบ้าน ไม่มีก็บอกว่ามี วันนี้อยากตายไว แต่ข้าจะให้เจ้าตายช้าๆ”
แล้วก็เริ่มเชือดน่องมาย่างไฟกินแกล้มเหล้าทีละชิ้น เชือดหนึ่งชิ้นย่างไฟสุกค่อยเชือดอีกชิ้นจนไม่มีให้เชือด ก็ผ่าอกควักเอาหัวใจส่งให้ไปทำน้ำแกงแก้เมา 醒酒汤 แบ่งให้เหล่าหัวหน้ากิน เหล่าหัวหน้าจึงร่วมดื่มแสดงความยินดีกับซ่งเจียง
文炳趋炎巧计乖,却将忠义苦挤排。
奸谋未遂身先死,难免刳心炙肉灾。
เหวินปิ่งไต่เต้าด้วยแผนแยบคาย
โดยใส่ร้ายผู้ภักดีให้มีโทษ
มิทันได้สมใจมาตายโหด
ต้องโทษทัณฑ์ย่างเนื้อควักหัวใจ
ซ่งเจียงคุกเข่าลงกับพื้น เหล่าผู้กล้าพากันคุกเข่าบ้างกล่าวว่า “ท่านพี่มีเรื่องใดเชิญกล่าวเถิด เหล่าพี่น้องย่อมรับฟัง”
ซ่งเจียงว่า “ผู้น้อยไร้ความสามารถ  เล่าเรียนหวังเป็นข้าราชการมาแต่ยังเยาว์ เติบใหญ่มาได้คบหาเหล่าผู้กล้าในใต้หล้า แต่กำลังน้อยด้อยปัญญา ได้แต่อยู่ไปอย่างสามัญ พอถึงคราต้องโทษเนรเทศไปเจียงโจวได้รับการชักชวนเหนี่ยวรั้งจากท่านหัวหน้าเฉาและเหล่าผู้กล้า แต่ยังไม่ยินยอมด้วยติดขัดบิดาท่านกำชับไว้แข็งขัน
พอมาถึงแม่น้ำสวินหยาง ก็เหมือนสวรรค์ประทานโอกาสให้ได้มาพบกับเหล่าผู้กล้าอีกหลายท่าน แต่มิคาดว่าผู้น้อยด้อยความสามารถ พอเมาสุรากลับพล่ามวาจาจนเป็นอันตรายแก่ชีวิตท่านไต้ย่วนจ่าง เป็นพระคุณของเหล่าผู้กล้าที่ไม่กลัวภยันตราย กล้าบุกถ้ำเสือวังมังกร ช่วยชีวิตเอาไว้ ทั้งยังได้ช่วยเหลือชำระแค้นให้อีก มาคราวนี้มีความผิดมหันต์ ป่วนเมืองถึงสองแห่ง ซึ่งย่อมต้องถวายรายงานไปยังราชสำนัก
มาบัดนี้ ซ่งเจียงมิอาจไม่ขึ้นเขาเหลียงซานพึ่งพาท่านพี่ ส่วนเหล่าผู้กล้ามิทราบเห็นว่าอย่างไร หากเห็นชอบด้วยแล้ว ก็เก็บข้าวของเดินทางไปด้วยกัน หากมิเห็นชอบก็ยินดีน้อมรับ เกรงแต่ว่าหากเกิดเรื่องอีก อาจต้องเหน็ดเหนื่อยกันอีก โปรดพิจารณา”
1
มิทันขาดคำ หลี่ขุยโดดลุกขึ้นว่า “ไปหมด ไปหมด ใครไม่ไปพ่อสับด้วยขวานให้เป็นสองท่อน”
ซ่งเจียงว่า “เจ้านี่ พูดจาหยาบคาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยินยอมของเหล่าพี่น้อง ที่จะไปด้วยกันไหม”
เหล่าผู้กล้าสวินหยางปรึกษากันแล้วว่า “บัดนี้ก็ได้สังหารเหล่าทหารตายไปเสียมาก ก่อกวนถึงสองเมือง อย่างไรก็ต้องถวายรายงานยังราชสำนัก และส่งกองกำลังมาจับกุมพวกเรา หากไม่ติดตามพี่ท่านร่วมทุกข์ร่วมสุข จะไปที่ไหนได้”
ซ่งเจียงยินดียิ่งนัก ขอบคุณเหล่าผู้กล้า แล้ววันนั้นก็ให้จูกุ้ยกับซ่งว่านกลับขึ้นเขาไปแจ้งให้รู้กันก่อน พวกที่เหลือจะทยอยตามกลับโดยแบ่งเป็นห้าขบวน แต่ละขบวนทิ้งระยะห่างโดยประมาณยี่สิบลี้
ขบวนแรกสุดคือ เฉาไก้ ซ่งเจียง ฮวาหยง ไต้จง หลี่ขุย
ขบวนที่สองคือ หลิวถัง ตู้เชียน สือหย่ง เซวียหย่ง โหวเจี้ยน
ขบวนที่สามคือ หลี่จวิ้น หลี่ลี่ หลฺวี่ฟาง กวอเสิ้ง ถงเวย ถงเหมิ่ง
ขบวนที่สี่คือ หวงซิ่น จางซุ่น จางเหิง สามหย่วนพี่น้อง
ขบวนที่ห้าคือ เอี้ยนซุ่น เสือเตี้ยหวาง มู่หง มู่ชุน เจิ้งเทียนโซ่ว ไป๋เสิ้ง
รวมเหล่าหัวหน้าทั้งสิ้นยี่สิบแปดคน
ทรัพย์สินจากบ้านหวงเหวินปิ่งแบ่งกันขึ้นรถไป มู่หงพาไท่กงและครอบครัว เก็บสมบัติทางบ้านขึ้นรถ ลูกบ้านที่ไม่ยินยอมติดตามมาก็จ่ายเงินชดเชย เพื่อให้ไปหานายใหม่ พวกที่ยินยอมก็ตามมาด้วย มู่หงเก็บข้าวของเรียบร้อยก็เผาบ้านเสีย ทิ้งเรือกสวนไร่นา มุ่งหน้ามาเหลียงซาน
2
ตอนก่อนหน้า : ศาลมังกรขาว
ตอนถัดไป : จัดลำดับแบบใหม่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา