Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
10 เม.ย. เวลา 13:09 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 102
กวนสว่ออมโรค (2) เจ้าสามเสี่ยงตาย
ไต้จงและหยางหลินเดินทางมาถึงนอกเมืองจี้โจว 蓟州 หยางหลินว่า “พี่ท่าน ท่านอาจารย์กงซุนเสิ้งเป็นผู้ออกบวช ควรจะพำนักตามป่าเขาหรือหมู่บ้านชนบทมากกว่าที่จะอยู่ในเมือง”
ทั้งสองหาที่พักนอกเมือง แล้วในวันแรกก็สอบถามดูรอบบริเวณแต่ไม่มีใครรู้จักกงซุนเสิ้ง วันรุ่งขึ้น ก็ออกสอบถามยังหมู่บ้านที่ไกลออกไป แต่ไม่ได้ความเช่นกัน วันที่สาม ไต้จงว่า “ลองดูในเมือง เผื่อมีคนรู้จัก” กระนั้นก็ยังไม่มีโชคได้ความคืบหน้า
ขณะเดินอยู่บนถนน มีเสียงกลองประโคมแว่วมาแต่ไกล พอใกล้เข้ามาก็เห็นเจ้าพนักงานคุกชั้นผู้น้อย 小牢子 สองคน คนหนึ่งแบกเครื่องพิธีกรรมดอกไม้แดง อีกคนถือผ้าต่วนหลากสีหลายชิ้น กางร่มเขียวตามหลังมาเป็น 押狱刽子 พัสดีพ่วงเพชฌฆาต
คนผู้นี้ลม้าย กวนสว่อ 关索 ในตำนาน มีลายสักตามตัว
(กวนสว่อ เป็นบุตรในตำนานคนที่สามของ กวนอู ไม่ปรากฎบันทึกประวัติศาสตร์ว่ามีตัวตนจริง แต่ชาวบ้านนับถือกันมาก กวนอูให้กำเนิดสมัยที่หนีคดีฆ่าคนตาย จึงมีคนนำไปเลี้ยงดู และกลับมารักษาเมืองเกงจิ๋วร่วมกับบิดา จนเสียเมืองเกงจิ๋ว ได้รับบาดเจ็บหนีไป ภายหลังได้ร่วมทัพจูกัดเหลียงพิชิตแดนใต้)
คนผู้นี้เป็นชาวเหอหนาน 河南 แซ่หยาง 杨 ชื่อสยง 雄 ลูกพี่ลูกน้องผู้พี่มารับตำแหน่งเจ้าเมืองจี้โจว หยางสยงจึงติดตามมาอยู่ที่จี้โจวด้วย ภายหลังเปลี่ยนเจ้าเมืองใหม่ ซึ่งรู้จักหยางสยง จึงให้มารับราชการในตำแหน่งพัศดีสองที่ว่าการ 两院押狱 (เหลี่ยงย่วนยาวี่) และเพชฌฆาต 行刑刽子 เป็นผู้ที่มีฝีมือเข้มแข็ง ลม้ายกวนสว่อแต่ใบหน้าซีดเหลืองจึงมีฉายาว่า กวนสว่ออมโรคหยางสยง 病关索杨雄
两臂雕青镌嫩玉,头巾环眼嵌玲珑。
鬓边爱插翠芙蓉。
背心书刽字,衫串染猩红。
问事厅前逞手段,行刑刀利如风。
微黄面色细眉浓。
人称病关索,好汉是杨雄。
สองแขนหยกสลักเนื้อดี ผ้าโพกกระดิ่งมี
สองขมับทัดหยกพุดตาน
เสื้อไร้แขนอักษรจาร เพชฌฆาต“กุ้ย 刽”อ่าน
สวมเสื้อนอกสีแดงสด
สอบสวนทวนความหมดจด ดาบไวลมกรด
ขนคิ้วละเอียดดกหนา
เหลืองซีดเซียวสีใบหน้า จึงมีฉายา
กวนสว่ออมโรคหยางสยง
ตามหลังหยางสยงยังมีเจ้าพนักงานคุกชั้นผู้น้อยอีกหนึ่งนายเชิญดาบด้ามกระโหลกผี หยางสยงเพิ่งทำการประหารนักโทษกลับมา พวกชาวบ้านที่รู้จักแต่งชุดแดงมารอดื่มต้อนรับ บ้างก็นำของขวัญมามอบให้
ชายฉกรรจ์ในชุดทหารแปดคนเดินออกมาจากซอย หัวหน้าที่นำมามีฉายา เตะแพะตายจางเป่า 踢杀羊张保 เป็นทหารเมืองจี้โจวนี้ แต่ชอบเที่ยวหาเรื่องรีดไถชาวบ้าน โดนคดีอยู่บ่อยครั้งแต่ไม่หลาบจำ อิจฉาตาร้อนที่หยางสยงเป็นคนต่างถิ่นกลับมีคนนับถือยำเกรง มาวันนี้มานั่งดื่มกันจนเมาเห็นหยางสยงได้แพรพรรณเป็นของขวัญมากยิ่งไม่ชอบใจ ตั้งใจเดินมาหาเรื่อง
จางเป่าผลักเบียดพวกที่นำสุรามาดื่มแสดงความยินดีมาเผชิญหน้าหยางสยงกล่าวว่า “คารวะท่านพัศดี”
หยางสยงว่า “พี่ท่าน มาดื่มเหล้ากัน”
จางเป่าว่า “ข้าไม่ดื่มเหล้า จะขอยืมเงินเจ้าใช้สักร้อยก้วน”
หยางสยงว่า “ถึงข้าจะรู้จักท่าน แต่ไม่สนิทถึงขั้นหยิบยืมเงินทอง ทำไมจึงมายืมเงินข้า”
จางเป่าว่า “วันนี้เจ้าหลอกเงินชาวบ้านมาได้ตั้งเยอะ ทำไมไม่ให้ข้ายืม”
หยางสยงว่า “ชาวบ้านพึงพอใจจึงให้รางวัลข้า จะกล่าวหาว่าหลอกได้อย่างไร ท่านจงใจมาหาเรื่อง ข้าไม่เกี่ยวข้องกับท่านที่เป็นทหาร เราต่างมีหน้าที่ คนละสายงานกัน”
จางเป่าไม่ตอบ ส่งสัญญาณให้พวกเข้าไปชิงผ้าแพรแดง หยางสยงตะโกนว่า “เจ้านี่เสียมารยาท”แล้วจะลงมือกับคนที่มาชิงของ จางเป่าขวางหน้าคว้าอกเสื้อไว้ อีกสองคนเข้าจับแขนจากด้านหลัง พอเห็นเช่นนั้น พวกเจ้าพนักงานคุกชั้นผู้น้อยต่างพากันหนี
หยางสยงถูกรุมจับตัวไว้ ขยับไม่ได้ เคืองยิ่งนัก ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งหาบฟืนผ่านมาเห็นเหตุการณ์ว่าเป็นการรุมข่มเหงกัน จึงวางหาบฟืนลงแหวกฝูงจีนมุงเข้ามาถามว่า “ทำไมพวกท่านจึงมาทำร้ายท่านพัศดี”
จางเป่าถลึงตาตวาดว่า “เจ้าขอทานเดนตาย กล้ามาเสือก”
ชายผู้นั้นโกรธ ลงมือจับจางเป่าทุ่มลงกับพื้น พวกปังเสียน 帮闲 ที่มาด้วยแห่เข้ามาช่วยรุม ชายผู้นั้นวาดซ้ายป่ายขวา พวกปังเสียนกระเด็นกระดอนคนละทิศละทาง หยางสยงแก้หลุดออกมาจากสองคนที่จับตนไว้ได้ก็เข้าช่วยด้วย จางเป่าเห็นท่าไม่ดี ลุกขึ้นได้ก็คว้าห่อผ้าวิ่งหนี หยางสยงกวดตามติดเข้าซอยไป ชายผู้นั้นสกัดอยู่ปากทางจัดการกับพวกปังเสียนจนระเนระนาด ไต้จงกับหยางหลิน เห็นแล้วแอบชื่นชมว่า “เป็นชายชาตรีที่แท้ “พบเรื่องอยุติธรรม กำดาบเข้าช่วยเหลือ” สมเป็นผู้กล้า”
匣里龙泉争欲出,只因世有不平人。
旁观能辨非和是,相助安知疏与亲。
กระบี่หลงเฉวียนในหีบใคร่รีบออก
โลกภายนอกยังมีคนคิดคด
ผู้ชมรู้แยกแยะจริงหรือปด
ทดแรงช่วยรู้ควรคบใกล้หรือห่าง
(หลงเฉวียนในหีบ 匣里龙泉 มาจากบทกวี 三尺龙泉剑,匣里无人见。 กระบี่หลงเฉวียนสามฉื่อเก็บอยู่ในหีบไร้คนเห็น เปรียบเทียบความกล้าของขุนพลที่เก็บงำอยู่
กระบี่หลงเฉวียน 龙泉剑 เป็นกระบี่วิเศษในตำนานว่าใช้น้ำจากอำเภอหลงเฉวียน 龙泉県 ในการตีกระบี่ พอตีเสร็จ กระบี่กลายร่างเป็นมังกรเหินขึ้นฟ้าไป)
ไต้จงกับหยางหลินจึงเดินเข้าไปขอว่า “ท่านผู้กล้า โปรดเห็นแก่หน้าข้าทั้งสอง ปล่อยพวกเขาไปเถิด”
หยางหลินช่วยหาบฟืน ไต้จงจูงมือเดินไปยังร้านอาหาร พอถึงหยางหลินก็วางหาบฟืนแล้วเดินเข้าไปหาที่นั่งในร้าน
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นประสานมือกล่าวว่า “ขอบคุณพี่ท่านทั้งสองที่ช่วยปรามผู้น้อย”
ไต้จงว่า “พวกเราทั้งสองก็เป็นคนต่างถิ่นเช่นกัน เห็นผู้กล้าท่านเป็นคนมีน้ำใจ เกรงว่าจะพลั้งมือไปทำอันตรายคนจนถึงแก่ชีวิต จึงออกหน้ามาปราม เชิญร่วมดื่มทำความรู้จักกันเถิด”
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นว่า “พี่ท่านมาช่วยเหลือ แล้วยังพามาเลี้ยงสุรา ดูท่าจะไม่เหมาะ”
หยางหลินว่า “ในสี่ห้วงสมุทร ล้วนดุจพี่น้อง 四海之内,皆兄弟也 จะเป็นไรไป เชิญนั่งเถิด”
หยางหลินควักเงินหนึ่งตำลึงส่งให้บริกร “ไม่ต้องถาม มีกับแกล้มอะไรก็ยกมา แล้วคิดเงินไป”
ทั้งสามดื่มกันไปหลายจอกแล้ว ไต้จงก็ถามว่า “ท่านผู้กล้ามีนามใด บ้านเดิมอยู่ที่ไหน”
ชายผู้นั้นตอบว่า “ผู้น้อยแซ่สือ 石 ชื่อสิ้ว 秀 เป็นชาวจินหลินเมืองเจี้ยนคัง 金陵建康府 รักฝึกเพลงอาวุธมาแต่เล็ก ทั้งเป็นคนรั้น เห็นเรื่องผิดทำนอง เป็นต้องออกหน้า จึงมีฉายาเจ้าสามเสี่ยงตาย 拚命三郎 เดิมติดตามอามาค้าแพะและม้ายังต่างถิ่น มิคาดท่านอาเสียชีวิตระหว่างทาง ค้าขายขาดทุนกลับบ้านไม่ได้ จึงมาตัดฟืนขายอยู่ที่จี้โจว”
ไต้จงว่า “ผู้น้อยทั้งสองมาทำธุระที่นี่จึงได้พบท่าน ผู้กล้าหาญเช่นท่านมาตัดฟืนเช่นนี้ จะก้าวหน้าได้อย่างไร มิสู้เข้าสู่วงนักเลง อีกครึ่งชีวิตเสพสุขได้ดีกว่า”
สือสิ้วว่า “ผู้น้อยพอรู้ใช้ทวนกระบอง ไม่รู้เรื่องอื่น จะก้าวหน้าอย่างไร”
ไต้จงว่า “ยุคสมัยนี้เอาจริงจังไม่ได้ก็เพราะราชสำนักเลอะเลือน ขุนนางขี้ฉ้อปิดกั้นลู่ทาง หากท่านเข้าร่วมกับซ่งกงหมิงเขาเหลียงซาน มีเงินทองเสื้อผ้าแบ่งกันใช้และสวมใส่ สร้างชื่อให้ปรากฎ วันหน้าหากสามิภักดิ์ราชสำนัก ย่อมมีโอกาสได้เป็นขุนนาง”
สือสิ้วถอนหายใจว่า “ถึงผู้น้อยอยากไป ก็คงเข้าไปไม่ได้”
ไต้จงว่า “หากท่านยอมไป ผู้น้อยจะแนะนำให้”
สือสิ้วว่า “ผู้น้อยขอบังอาจถามนามท่านทั้งสอง”
ไต้จงว่า “ผู้น้อยแซ่ไต้ ชื่อจง ส่วนพี่น้องท่านนี้แซ่หยาง ชื่อหลิน”
สือสิ้วว่า “เคยได้ยินในวงนักเลงกล่าวถึงจอมเวทเทพเดินหนแห่งเจียงโจว คือใต้เท้าหรอกหรือ”
ไต้จงว่า “คือผู้น้อยเอง” แล้วก็บอกให้หยางหลินนำเงินแท่งจากห่อผ้ามาสิบตำลึงมอบให้สือสิ้วไว้ทำทุน
สือสิ้วบ่ายเบี่ยงเป็นพิธีก่อนจะรับไว้ และก่อนที่จะถามอะไรต่อ ก็ได้ยินคนเรียก พอหันไปก็เห็นหยางสยงนำเจ้าหน้าที่มายี่สิบกว่าคน ไต้จง หยางหลินเห็นคนมากันเยอะ จึงขอตัวหลบไปก่อน
สือสิ้วลุกขึ้นกล่าวว่า “ท่านพัศดีไปไหนมา”
หยางสยงว่า “พี่ใหญ่ ข้าหาท่านจนทั่ว มาดื่มเหล้าอยู่ที่นี่เอง เมื่อครู่ข้าถูกพวกหมอนั่นจับเอาไว้ ขยับไม่ได้ ดีที่ได้ท่านช่วยเอาไว้ เมื่อครู่ข้าไล่ตามไปจะชิงห่อผ้าคืนจึงทิ้งท่านไว้ข้างหลัง พี่น้องพวกนี้รู้ว่าข้าถูกรุมตีจึงพากันมาช่วย พอชิงเอาผ้าต่วนกลับมาได้ ก็ไม่เห็นท่านเสียแล้ว มีคนบอกว่า แขกสองท่านชวนท่านมาดื่มเหล้า จึงตามมาถูก”
สือสิ้วว่า “แขกสองท่านนั้นเป็นคนต่างถิ่น ชวนกันมาดื่ม เลยไม่ได้ยินพัศดีท่านเรียก”
หยางสยงว่า “มิทราบท่านมีนามใด เป็นคนที่ไหน เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่”
สือสิ้วว่า “ผู้น้อยแซ่สือ ชื่อสิ้ว เป็นชาวจินหลินเมืองเจี้ยนคัง นิสัยเถรตรง เห็นเรื่องไม่ถูกต้อง เป็นต้องเข้าช่วยสุดชีวิต จึงมีฉายาเจ้าสามเสี่ยงตาย เดิมมาค้าแพะและม้ากับอา แต่ท่านอาเสียชีวิตระหว่างทาง เงินทุนก็หมด จึงมาตัดฟืนหาเลี้ยงตัวอยู่ที่จี้โจวนี่”
身似山中猛虎,性如火上浇油。
心雄胆大有机谋,到处逢人搭救。
全仗一条杆棒,只凭两个拳头。
掀天声价满皇州,拚命三郎石秀。
รูปกายดังพยัคฆ์ร้ายแห่งพงไพร
นิสัยดังกองไฟน้ำมันราด
จิตใจหาญขวัญกล้าปัญญาฉลาด
พบเรื่องคลาดครรลองต้องยื่นมือ
ล้วนอาศัยได้แต่เพียงกระบอง
กับอีกสองกำปั้นมั่นเชื่อถือ
ขย่มเวหาสราชบุรีให้เลื่องลือ
ว่าข้าคือสือสิ้วเจ้าสามเสี่ยงตาย
หยางสยงถามว่า “เมื่อครู่เห็นท่านร่วมดื่มกับแขกสองท่าน ไปไหนเสียแล้ว”
สือสิ้วว่า “ทั้งสองคนนั่นเห็นพัศดีท่านพาคนมาเยอะ จึงขอตัวกลับไปก่อน”
“เช่นนั้นเอง” แล้วหยางสยงก็สั่งสุรามาเลี้ยงพวกเพื่อนร่วมงานที่มาช่วยเหลือกันคนละสามชาม แล้วต่างอำลาว่าไว้พบกันใหม่วันพรุ่งนี้
ส่วนหยางสยงกับสือสิ้วยังอยู่สนทนากันต่อ หยางสยงกล่าวว่า “พี่สามสือสิ้ว ท่านอย่าคิดมาก ข้าเห็นว่าท่านคงไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่นี่ ข้าใคร่ขอร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับท่าน ท่านคิดเห็นเช่นไร”
สือสิ้วย่อมยินดี ถามว่า “ขอบังอาจถามท่านพัศดีปีนี้อายุเท่าไร”
หยางสยงว่า “ปีนี้ข้าอายุยี่สิบเก้า”
สือสิ้วว่า “ปีนี้ผู้น้องอายุยี่สิบแปด เชิญท่านพี่นั่งรับการคารวะจากผู้น้อง” สือสิ้วคุกเข่ากราบคารวะสี่กราบ
หยางสยงยินดียิ่งนัก เรียกบริกรจัดสุราอาหารมาเพิ่ม แล้วว่า “วันนี้ข้าดื่มกับน้องเรา ไม่เมาไม่เลิก”
ทางด้านไต้จงกับหยางหลินเห็นหยางสยงพาเจ้าหน้าที่มากันมาก จึงกลับกันก่อนมายังที่พักนอกเมือง วันรุ่งขึ้นออกตามหากงซุนเสิ้งอีกสองวัน ยังคงไร้วี่แวว จึงเห็นว่าควรกลับกันก่อน จึงพากันมายังค่ายธารให้น้ำม้าสมทบกับพวกเผยเซวียน เติ้งเฟย เมิ่งคัง แต่งตัวเป็นทหารหลวงเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ไต้จงนำกลับไปเข้าร่วมเป็นพวกเขาเหลียงซาน
ตอนก่อนหน้า : ตุลาการหน้าเหล็ก
https://www.blockdit.com/posts/6613ed3f0c76c95e3976c1ce
ตอนถัดไป : พานเฉี่ยวหยุน
https://www.blockdit.com/posts/66192e5e2d3440924b3bc241
บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย