26 เม.ย. เวลา 13:13 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 109

หมัดหน้ากลองก่อคลื่นลม (2) อินทรีโฉบฟ้า
หยางสยง สือสิ้วหนีกันจนฟ้าสว่าง มาถึงร้านอาหารหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สือสิ้วว่า “พี่ท่าน ข้างหน้ามีร้าน หาอะไรกินกันก่อน จะได้ถามทางด้วย”
ทั้งสองเข้าในร้าน พิงดาบไว้ สั่งสุราอาหารมา กำลังจะกินก็เห็นชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งเดินเข้าร้านมา หน้าใหญ่กรามกว้าง ตาสุกใสใบหูกาง รูปร่างอัปลักษณ์ ตะโกนว่า
“ท่านขุนนางใหญ่สั่งให้พวกท่านหาบไปส่งที่บ้าน”
เจ้าของร้านรีบขานตอบ “ใส่หาบเสร็จแล้ว สักครู่จะไปส่งที่บ้าน”
ชายผู้นั้นสั่งงานเสร็จก็หันหลังกลับ กำชับอีกว่า “รีบหาบมาล่ะ”
แล้วเดินผ่านหน้าหยางสยง สือสิ้ว จะออกไปนอกร้าน
หยางสยงจำชายผู้นี้ได้ ร้องทักไปว่า “น้องชาย ทำไมมาอยู่ที่นี่ ไม่หันมามองกันบ้าง”
ชายผู้นั้นหันกลับมามอง พลันจำได้ ร้องทักว่า
“ผู้มีพระคุณ ทำไมมาอยู่ที่นี่” แล้วกระทำคารวะ
หยางสยงพยุงให้ลุกขึ้นแล้วเรียกสือสิ้วให้มาทำความรู้จัก สือสิ้วถามว่า “พี่ชายท่านนี้เป็นใคร”
หยางสยงว่า “น้องชายผู้นี้แซ่ตู้ 杜 ชื่อซิง 兴 เป็นชาวเมืองจงซาน 中山府 เนื่องจากหน้าตาอัปลักษณ์ คนจึงเรียกกันว่า ไอ้หน้าผี 鬼脸儿 ปีก่อนหน้านี้มาค้าขายที่จี้โจว มีปากเสียงกับพวกที่มาด้วยกัน เกิดโทสะฆ่าคนตายจึงต้องคดีถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำเมืองจี้โจว ข้าเห็นเขาคุยเรื่องเพลงอาวุธเห็นว่าช่ำชอง จึงได้ให้ความช่วยเหลือเอาไว้ ไม่คิดว่าจะมาพบกันที่นี่วันนี้”
(ไอ้หน้าผีตู้ซิง 鬼脸儿杜兴 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 53 ลำดับรวมที่ 89 เป็นผู้ดูแลร้านอาหารด้านทิศใต้ของเหลียงซานคู่กันกับ ตะเข้ดอนจูกุ้ย)
ตู้ซิงถามว่า “ท่านผู้มีพระคุณ มีราชการใดจึงมาถึงที่นี่”
หยางสยงกระซิบข้างหูว่า “ข้าฆ่าคนตายที่จี้โจว คิดว่าจะไปขอพึ่งเขาเหลียงซาน เมื่อคืนพักแรมที่ร้านสกุลจู้ เพื่อนที่มาด้วยกันชื่อสือเชียน ขโมยไก่ขันบอกเวลาของทางร้านมากิน เลยเกิดเรื่องทะเลาะกับเสี่ยวเอ้อ อารมณ์โมโหจึงเผาร้านเขาเสียราบ พวกข้าสามคนหนีกันมาทั้งคืน พวกนั้นตามมาถูกพวกข้าสองพี่น้องเล่นงานไปหลายคน ไม่ทันระวัง ในพงหญ้ามีตะขอมาเกี่ยวจับเอาตัวสือเชียนไป พวกเราสองคนหนีกระเซอะกระเซิงมาถึงนี่ ว่าจะถามทาง ก็มาพบน้องท่าน”
ตู้ซิงว่า “ท่านผู้มีพระคุณไม่ต้องวิตก ข้าจะให้เขาปล่อยตัวสือเชียนกลับมา”
หยางสยงว่า “น้องเรานั่งก่อน มาดื่มกันหน่อย”
สามคนนั่งลงร่วมดื่มสนทนากัน ตู้ซิงว่า “ผู้น้องนับแต่ออกจากจี้โจวมาด้วยพระคุณของท่าน ก็มาถึงที่นี่ ได้รับความเมตตาจากท่านขุนนางใหญ่ในที่แห่งนี้รับผู้น้องไว้เป็นพ่อบ้าน แต่ละวันมีเงินทองผ่านมือจำนวนมากท่านก็ให้ความไว้วางใจ ผู้น้องจึงไม่ได้คิดจะกลับบ้านอีก”
หยางสยงถามว่า “ท่านขุนนางใหญ่ที่ว่านี้คือผู้ใด”
ตู้ซิงว่า “ด้านหน้าเนินตู๋หลง มีเนินเขาสามแห่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสามแห่งเรียงกันไป ตรงกลางคือหมู่บ้านสกุลจู้ 祝家庄 ทางตะวันตกคือหมู่บ้านสกุลหู้ 扈家庄 ทางตะวันออกคือหมู่บ้านสกุลหลี่ 李家庄 หมู่บ้านสามแห่งนี้รวมกันแล้วมีกำลังรบหมื่นกว่าสองหมื่นคน
หมู่บ้านสกุลจู้นั้นเข้มแข็งที่สุด ประมุขชื่อว่า จู้เฉาเฟิ่ง 祝朝奉 มีบุตรชายสามคน เรียกกันว่า สามวีรบุรุษสกุลจู้ 祝氏三杰 คนโตจู้หลง 祝龙 คนรองจู้หู่ 祝虎 คนที่สามจู้เปียว 祝彪 มีอาจารย์ยุทธผู้หนึ่งเรียกว่า กระบองเหล็กหลวนถิงวี่ 铁棒栾廷玉 ฝีมือเข้มแข็งห้าวหาญ ในหมู่บ้านมียอดฝีมืออยู่ร่วมสองพันคน
หมู่บ้านสกุลหู้ทางตะวันตก ประมุขคือ หู้ไท่กง 扈太公 มีบุตรชายคือ เสือเหินฟ้าหู้เฉิง 飞天虎扈成 ฝีมือเก่งพอตัว มีบุตรสาวคนเดียวฝีมือเข้มแข็งยิ่ง อีจ้างชิงหู้ซานเหนียง 一丈青扈三娘 ใช้ดาบคู่สุริยันจันทรา 日月双刀 เป็นอาวุธ เชี่ยวชาญการรบบนหลังม้า
ทางหมู่บ้านตะวันออกเรานี้ คือเจ้านายของตู้ซิง แซ่หลี่ 李 ชื่ออิ้ง 应 ใช้ทวนเหล็กเตี่ยนกัง 点钢枪 เป็นอาวุธ บนหลังยังมีมีดบินอีกห้าเล่ม ในร้อยก้าวซัดใส่ใคร ไม่เป็นเทพก็เป็นผี
สามหมู่บ้านนี้ร่วมสัตย์ปฏิญาณ เป็นตายร้ายดีช่วยเหลือเกื้อกูล ต่างกลัวว่าพวกเขาเหลียงซานจะมายืมเสบียง จึงมีการเตรียมพร้อมป้องกัน เดี๋ยวผู้น้องจะพาท่านทั้งสองไปพบท่านขุนนางใหญ่หลี่ 李大官人 ขอให้ท่านทำหนังสือช่วยเหลือสือเชียน”
หยางสยงถามว่า “ท่านขุนนางใหญ่หลี่ผู้นี้ ใช่ผู้ที่วงนักเลงเรียกขานกันว่า อินทรีโฉบฟ้าหลี่อิ้ง 扑天雕李应 หรือไม่”
ตู้ซิงว่า “คือท่านผู้นี้”
สือสิ้วว่า “ฟังคำร่ำลือในวงนักเลงถึงอินทรีโฉบฟ้าหลี่อิ้งว่าเป็นชายชาตรีที่เข้มแข็งองอาจ ที่แท้อยู่ที่นี่ พวกเราไปพบท่านกันเถิด”
ตู้ซิงนำหยางสยงและสือสิ้วมายังบ้านสกุลหลี่ เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ รอบด้านมีคูน้ำกว้างล้อมรอบ กำแพงสูง ตามแนวตลิ่งมีต้นหลิ่วขนาดคนโอบไม่รอบนับร้อยต้นอยู่เรียงราย มีสะพานชักหน้าประตูทางเข้า ผ่านเข้าประตูมาหน้าห้องโถงมีแผงศาสตราวุธตั้งเรียงอยู่ยี่สิบกว่าแผง มีอาวุธปักอยู่แวววาว
ตู้ซิงว่า “พี่ท่านทั้งสอง เชิญรอสักครู่ ผู้น้องไปรายงาน และเรียนเชิญท่านขุนนางใหญ่ออกมาพบ”
ตู้ซิงเข้าไปไม่นาน หลี่อิ้งก็ออกมา
鹘眼鹰睛头似虎,燕颔猿臂狼腰,疏财仗义结英豪。
爱骑雪白马,喜著绛红袍。
背上飞刀藏五把,点钢枪斜嵌银条,性刚谁敢犯分毫。
李应真壮士,名号扑天雕。
ตาอินทรีศีรษะดังเสือสาง
คางนางแอ่นแขนวานรเอวหมาป่า
ทรงคุณธรรมเปี่ยมน้ำใจคบผู้กล้า
ชมชอบขี่ม้าขาวแต่งชุดแดงชาด
 
เหน็บมีดบินห้าเล่มเต็มแผ่นหลัง
ทวนเตี่ยนกังฝังด้วยเส้นเงินคาด
ทรนงหาใครกล้าปรามาส
สมชายชาติอินทรีโฉบฟ้าหลี่อิ้ง
 
หลี่อิ้งออกมายังห้องโถง ตู้ซิงนำหยางสยง สือสิ้วมาคารวะ หลี่อิ้งคารวะตอบตามธรรมเนียมแล้วเชิญนั่งให้คนนำสุรามารับรอง
หยางสยง สือสิ้วคารวะอีกแล้วว่า “ขอท่านขุนนางใหญ่ได้โปรดทำหนังสือไปยังบ้านสกุลจู้ให้ละเว้นชีวิตสือเชียน”
หลี่อิ้งเชิญอาจารย์ประจำบ้าน 门馆先生 มา ให้ทำหนังสือฉบับหนึ่งแล้วลงชื่อประทับตรา ให้ผู้ช่วยพ่อบ้านรีบนำไปยังบ้านสกุลจู้ขอตัวสือเชียนมา
พอผู้ช่วยพ่อบ้านขึ้นม้าไปแล้ว หยางสยง สือสิ้วก็คารวะขอบคุณหลี่อิ้ง หลี่อิ้งบอกอย่างมั่นใจว่า
“ท่านทั้งสองโปรดวางใจ หนังสือของผู้น้อยไปถึงเขาก็จะปล่อยคนมา ตอนนี้ก็เชิญที่ห้องโถงหลัง ร่วมดื่มกันสักสามจอกระหว่างรอ”
ทั้งสองตามไปร่วมทานสุราอาหาร เสร็จแล้วจิบน้ำชาคุยกันถึงเรื่องเพลงอาวุธ หลี่อิ้งเห็นทั้งสองช่ำชอง ใจก็นึกยินดี
ยามสื้อ 巳牌 ผู้ช่วยพ่อบ้านกลับมาถึง หลี่อิ้งถามว่า “คนที่ให้ไปรับตัวมาอยู่ไหนเล่า”
ผู้ช่วยพ่อบ้านว่า “ผู้น้อยมอบหนังสือให้ท่านเฉาเฟิ่งโดยตรง ท่านกำลังจะปล่อยคนมาให้ แต่สามวีรบุรุษสกุลจู้มาถึงกลับเคืองขึ้นมา หนังสือก็ไม่ตอบ คนก็ไม่ปล่อย บอกว่าจะจับส่งทางการ”
หลี่อิ้งว่า “พวกเราสามหมู่บ้านมีพันธะเป็นตายร่วมกัน หนังสือไปถึงย่อมต้องอนุญาต เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร นี่เจ้าคงไปพูดอะไรผิดหูเข้า จึงเป็นเช่นนี้ พ่อบ้านตู้ ท่านไปพบท่านจู้เฉาเฟิ่งด้วยตนเองอีกสักรอบ แจ้งท่านให้ทราบถึงรายละเอียด”
ตู้ซิงว่า “ผู้น้อยจะไป แต่ขอท่านโปรดทำหนังสือลายมือท่านประมุขบูรพา 东人 ให้ผู้น้อยถือไปพบด้วย”
หลี่อิ้งว่า “เจ้าพูดถูก” แล้วจึงเขียนหนังสือด้วยตนเอง เสร็จแล้วผนึกซองประทับตรามอบให้ตู้ซิงขึ้นม้าเร็วไปยังบ้านสกุลจู้ แล้วกล่าวกับหยางสยง สือสิ้วว่า
“ท่านทั้งสองโปรดวางใจ หนังสือฉบับนี้ข้าเขียนด้วยตนเอง สักครู่ต้องปล่อยคนกลับมา”
เวลาล่วงไปจนใกล้ค่ำ ตู้ซิงยังไม่กลับ หลี่อิ้งชักสงสัยจะใช้คนให้ไปตาม ก็พอดีมีรายงานว่า “ท่านพ่อบ้านตู้กลับมาแล้ว”
หลี่อิ้งถามว่า “กลับมากันกี่คน”
“ท่านพ่อบ้านกลับมาลำพังคนเดียว”
หลี่อิ้งส่ายหัวกล่าวว่า “แปลกจริง ปกติเจ้านี่ไม่ใช่คนเหลวไหล วันนี้เกิดอะไรขึ้น”
หยางสยง สือสิ้วตามออกมายังห้องโถงด้านหน้า เห็นตู้ซิงลงม้าเดินเข้ามา หน้าบึ้งตึงแดงก่ำ แยกเขี้ยวยิงฟัน ครึ่งค่อนวันไม่พูดจา
面貌天生本异常,怒时古怪更难当。
三分不像人模样,一似酆都焦面王。
หน้าตาแปลกประหลาดโดยกำเนิด
ยามเกิดกริ้วนิ่วพิลึกเกินนึกไหว
สามส่วนผิดพิกลคนทั่วไป
ดังใบหน้าขุ่นเคืองเจ้าเมืองเฟิงตู
 
(เมืองเฟิงตู 酆都 เมืองผี)
1
หลี่อิ้งถามว่า “ท่านไปชี้แจงแล้วเป็นอย่างไร”
ตู้ซิงสงบอารมณ์แล้วกล่าวว่า
“ผู้น้อยนำหนังสือท่านประมุขบูรพาไปส่งถึงในประตูชั้นที่สาม ได้พบจู้หลง จู้หู่ จู้เปียวสามพี่น้องนั่งอยู่ที่นั่นด้วย ผู้น้อยขานคารวะสามครา จู้เปียวกลับตะคอกใส่ผู้น้อยว่า “เจ้าจะมาทำไมอีก”
ผู้น้อยจีงเรียนว่า “ท่านประมุขบูรพามีหนังสือมาคารวะอยู่ที่นี่”
เจ้าจู้เปียวกลับเปลี่ยนสีหน้าด่ามาว่า “เจ้านายของเจ้าช่างไม่รู้ความเสียเลย เช้านี้ส่งคนไม่เอาไหนถือหนังสือมาขอให้ปล่อยตัวไอ้โจรเหลียงซานสือเชียน แต่เดี๋ยวข้าจะจับส่งทางการ แล้วนี่ยังมากันอีก”
ผู้น้อยจึงว่า “สือเชียนผู้นี้ไม่ใช่พวกเขาเหลียงซาน แต่เป็นแขกมาจากเมืองจี้โจว มาเยี่ยมเยียนท่านประมุขบูรพาที่หมู่บ้าน แต่เกิดเข้าใจกันผิดเผาร้านรวงท่านเสียหาย วันพรุ่งนี้ท่านประมุขบูรพาจะชดใช้ให้คืนเก่า ขอให้เห็นแก่หน้า ขออภัยด้วยเถิด”
พี่น้องสกุลจู้ทั้งสามต่างตะโกนบอกว่า “ไม่คืน ไม่คืน”
ผู้น้อยจึงว่า “มีหนังสือท่านประมุขบูรพาเขียนมาด้วยตนเองอยู่ที่นี่”
เจ้าจู้เปียวรับหนังสือไปแล้ว ไม่แม้แต่จะเปิดอ่าน ฉีกทิ้งเสียละเอียด แล้วตวาดไล่ผู้น้อยให้ออกจากหมู่บ้าน จู้หู่ จู้เปียวยังบอกอีกว่า “ถ้ามาแหย่พ่อให้โมโห ก็จะจับหลี่อิ้งฐานเป็นโจรเหลียงซานส่งไปให้ทางการเสียด้วย”
ผู้น้อยก็ไม่อยากต่อปากต่อคำ แต่เจ้าสามเดรัจฉานนั่นกลับไร้มารยาทด่าท่านประมุขบูรพาเสียๆ หายๆ แล้วยังจะให้พวกบ่าวในบ้านมาจับตัวผู้น้อย จึงได้ขึ้นม้าหนีมานี่ ระหว่างทางผู้น้อยก็หัวเสียมาก นี่มิเสียแรงมีพันธะผูกพันว่าจะร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายปี วันนี้กลับแล้งคุณธรรมน้ำใจสิ้นดี”
徒闻似漆与如胶,利害场中忍便抛。
平日若无真义气,临时休说死生交。
ฟังชัดเจนสัมพันธ์เช่นลงรักกาว
คราวคับขันกลับตระบัดปัดล้มคว่ำ
ยามอยู่เย็นหากสิ้นไร้คุณธรรม
ยามจำเป็นเชื่อได้หรือร่วมเป็นตาย
หลี่อิ้งได้ฟังแล้วเหมือนไฟสุมอกหมกไหม้สุดจะทน ตะโกนสั่งบ่าวไพร่ “เตรียมม้าให้ข้า”
หยางสยง สือสิ้ว กล่อมว่า “ท่านขุนนางใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าให้เรื่องของพวกผู้นัอยทำลายความสัมพันธ์ของพวกท่าน”
หลี่อิ้งไม่ฟังเสียง เข้าไปเปลี่ยนชุดออกศึกสีแดง เกราะเกล็ดทองมีบังอกและหลังเป็นรูปสัตว์ร้าย หลังเสียบแผงมีดบินห้าเล่ม ถือทวนเตี่ยนกัง สวมหมวกศึกทองปีกหงส์ ออกมาหน้าบ้านคัดทหารกล้าสามร้อยนาย ตู้ซิงก็เปลี่ยนเกราะถือทวนขึ้นม้านำหน้าทหารม้ายี่สิบกว่านาย หยางสยง สือสิ้วถือดาบพอเตาเข้าร่วมขบวนด้วย ตามม้าหลี่อิ้งยกกำลังมายังบ้านสกุลจู้
ตอนก่อนหน้า : พายุฝนตั้งเค้า
ตอนถัดไป : น้ำผึ้งหยดเดียว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา