5 พ.ค. เวลา 23:00 • ธุรกิจ

อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง ตัวเลขบ่งบอกประสิทธิภาพธุรกิจที่มีคลังสินค้า

สำหรับธุรกิจที่มีสินค้าคงคลัง อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง หรือ Inventory Turnover Ratio ถือเป็นอัตราส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหากคิดจะลงทุนในธุรกิจลักษณะนี้
เนื่องด้วยอัตราส่วนนี้เป็นตัวชี้วัดถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และทำให้เราทราบว่า ธุรกิจสามารถขายและเปลี่ยนสินค้าคงคลังเป็นเงินสดได้เร็วแค่ไหน
คำนวณโดย ต้นทุนสินค้าขาย / สินค้าคงคลังเฉลี่ย = อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง
โดยต้นทุนสินค้าขาย (COGS) หมายถึง ต้นทุนของสินค้าทั้งหมดที่ขายออกไปในช่วงระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 1 ปี)
และสินค้าคงคลังเฉลี่ย (Average inventory) หมายถึง มูลค่าเฉลี่ยของสินค้าคงคลังทั้งหมดในช่วงระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 1 ปี)
โดยปกติแล้ว หากอัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลังสูง จะบ่งบอกว่าสินค้าคงคลังของเราหมุนเวียนเร็ว สินค้าไม่ค้างคลังนาน ประหยัดต้นทุนการถือครองสินค้า สินค้าคงคลังเปลี่ยนเป็นเงินสดเร็ว และธุรกิจมีสภาพคล่องสูง
ในทางกลับกันหากอัตราการหมุนเวียนต่ำ ก็บ่งบอกว่าสินค้าคงคลังค้างคลังนาน เสี่ยงต่อสินค้าเสื่อมสภาพ สูญเสีย ต้นทุนการถือครองสินค้าสูงขึ้น สินค้าคงคลังเปลี่ยนเป็นเงินสดช้า รวมถึงธุรกิจอาจเสี่ยงเผชิญปัญหาด้านสภาพคล่อง
เพื่อให้มองเห็นภาพมาดูตัวอย่างสมมุติกัน
บริษัทขายอาหารสัตว์เลี้ยง ชื่อว่า "ฟุกุ" มีต้นทุนสินค้าขายปี 2023 ที่ 50 ล้านบาท และมีสินค้าคงคลังเฉลี่ยปี 2023 อยู่ 10 ล้านบาท
อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลังจะเท่ากับ 100 ล้านบาท / 20 ล้านบาท = 5 เท่า
หมายความว่า บริษัทขายอาหารสัตว์เลี้ยงฟุกุ สามารถขายสินค้าคงคลังทั้งหมดได้ 5 รอบต่อปี นั่นเอง
อย่างไรก็ดี ในบางกรณีสินค้าคงคลังที่หมุนเวียนเร็วเกินไป อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่สินค้าคงคลังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีความต้องการสูงหรือมีการสั่งซื้อแบบฉับพลัน
หรือในบางกรณีสินค้าคงคลังมีการหมุนเวียนที่ต่ำ ก็ไม่ได้หมายความว่าสินค้าคงคลังค้างคลังนานหรือสินค้าขายไม่ออก
เช่น หากธุรกิจมีการจัดเตรียมสินค้าคงคลังไว้พอดีกับความต้องการของลูกค้าตลอดทั้งปี อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลังของพวกเขาจึงอาจไม่ได้สูงนั่นเอง
ดังนั้นอัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลังที่เหมาะสมของธุรกิจที่มีคลังสินค้า แต่ละประเภทอาจไม่เท่ากัน
ตัวอย่างเช่น อัตราการหมุนเวียนสินค้าคงคลังที่เหมาะสมของธุรกิจร้านอาหารอาจจะสูง เนื่องด้วยสินค้าคงคลังของร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาเสื่อมสภาพหรือวันหมดอายุนั่นเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา