Just In Time กลยุทธ์สร้างสมดุลทางธุรกิจของโตโยต้า เป็นกลยุทธ์การบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่มุ่งเน้นไปที่การผลิตหรือจัดส่งสินค้า "ในปริมาณที่ต้องการ ในเวลาที่ต้องการ และด้วยจำนวนที่ต้องการ" โดยต้องไม่มีสินค้าคงคลังไว้มากเกินไป
ซึ่งจะตรงกับหลัก Just in Time ที่ระบบการผลิตจะถูกกระตุ้นโดยความต้องการของลูกค้าเท่านั้น ไม่มีการผลิตสินค้าล่วงหน้าเพื่อรอการขาย และสินค้าคงคลังระหว่างกระบวนการผลิตจะถูกควบคุมให้น้อยที่สุด เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานต่างๆ
เช่น บริษัท Tesla Motors เพื่อจัดหาและพัฒนาระบบส่งกำลังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง RAV4 EV, Bridgestone Americas จะจัดหายางที่เหมาะสมสำหรับรุ่น Toyota FJ Cruiser และ Cypress Semiconductor เพื่อจัดหาและพัฒนาหน้าจอสัมผัสสำหรับ Toyota Avalon เป็นต้น
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าโตโยต้านั้นสามารถดำเนินธุรกิจได้ตรงตามหลักของกลยุทธ์ Just In Time ทุกประการอย่างไร้ที่ติ จึงไม่แปลกเลยหากเราจะเห็นว่าโตโยต้าสามารถควมคุมต้นทุนขาย (COGS) ได้ในเกณฑ์ที่ดีและสอดคล้องกับการเติบโตของรายได้มาตลอด
ด้วยกลยุทธ์ Just in Time ทำให้โตโยต้าได้ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำในการประเมินความต้องการของลูกค้า ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถดำเนินงานได้สอดคล้องกับความต้องการเหล่านั้นได้อย่างดีเสมอมา
ดังนั้นกลยุทธ์ Just in Time ของโตโยต้า จึงเป็นกรณีศึกษาที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจต่างๆ สามารถนำกลยุทธ์นี้มาช่วยในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร ธุรกิจจึงจะประสบความสำเร็จนั่นเอง