15 พ.ค. เวลา 11:15 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 117

ล้างบางสามหมู่บ้าน (1) ไส้ศึก
ทางด้านซุนลี่กลับไปเปลี่ยนธงเขียนว่า “ซุนลี่ถีเสียบัญชาการทหารเติงโจว 登州兵马提辖孙立” ทำทีเป็นนำขบวนทหารผ่านทางมาถึงประตูหลังบ้านสกุลจู้ คนบนกำแพงเห็นเป็นธงเมืองเติงโจวจึงรายการไปยังเจ้าบ้านสกุลจู้ หลวนถิงวี่ฟังว่าเป็นซุนถีเสียเมืองเติงโจวมาเยือน จึงบอกสามผู้กล้าสกุลจู้ว่า “ซุนถีเสียผู้นี้เป็นพี่น้องของข้า เรียนวิชากับอาจารย์เดียวกันมาตั้งแต่เล็ก ไม่รู้ว่าเหตุใดมาถึงที่นี่วันนี้” ว่าแล้วก็นำทหารยี่สิบคนขึ้นม้าเปิดประตูทอดสะพานลง ออกมาพบ
พวกซุนลี่ต่างลงจากหลังม้าคารวะกันตามธรรมเนียมแล้วหลวนถิงวี่ก็ถามว่า “น้องเราอยู่รักษาเมืองเติงโจว เหตุใดจึงมาถึงที่นี่”
ซุนลี่ว่า “ทางส่วนกลางโยกย้ายข้าไปรักษาเมืองวิ่นโจว เตรียมรับมือพวกโจรเขาเหลียงซาน จึงต้องผ่านมาทางนี้ ฟังว่าพี่ท่านอยู่ที่บ้านสกุลจู้จึงตั้งใจแวะมาเยี่ยม แรกก็ว่าจะมาทางประตูหน้าแต่เห็นมีทหารตั้งค่ายอยู่จำนวนมาก ไม่อาจบุ่มบ่าม จึงถามทางชาวบ้านมาทางด้านหลังมาเยี่ยมพี่ท่าน”
หลวนถิงวี่ว่า “หลายวันมานี้ก็รบกับทางเขาเหลียงซานอยู่ จับตัวพวกหัวหน้าได้หลายคนขังเอาไว้ รอจับตัวซ่งเจียงได้จะนำส่งทางการเสียพร้อมกัน สวรรค์ส่งน้องเรามาได้จังหวะเหมาะ เหมือนเติมลายดอกบนผ้าไหม หรือต้นกล้าได้ฝน”
ซุนลี่หัวเราะว่า “ผู้น้องด้อยฝีมือ ได้แต่ช่วยพี่ท่านจับหมอนี่สร้างผลงาน”
หลวนถิงวี่ชอบใจยิ่ง นำพวกซุนลี่เข้าคฤหาสน์ ชักสะพานปิดประตู ให้พวกซุนลี่พักผัดเสื้อผ้าแล้ว พามาพบจู้เฉาเฟิ่ง จู้หลง จู้หู่ จู้เปียวที่ห้องโถง
หลวนถิงวี่แนะนำว่า “น้องชายผู้นี้ชื่อซุนลี่ มีฉายาว่าวี่ฉืออมโรค เป็นถีเสียบัญชาการทหารเมืองเติงโจว บัดนี้ได้รับบัญชาให้โยกย้ายมารักษาการที่เมืองวิ่นโจวของเรานี่”
จู้เฉาเฟิ่งว่า “ผู้เฒ่าก็อยู่ในเขตบังคับบัญชาของท่าน”
ซุนลี่ว่า “เป็นเพียงหน้าที่ของผู้น้อย ไยต้องกล่าวถึง ช้าเร็วยังต้องขอคำชี้แนะจากท่านเฉาเฟิ่ง”
สามผู้กล้าสกุลจู้เชิญพวกซุนลี่นั่งลง แล้วซุนลี่ก็ถามว่า “รบรามาหลายวัน คงตึงเครียดไม่น้อย”
จู้หลงว่า “ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ เหล่าพี่น้องย่อมเครียดอยู่ไม่น้อย”
ซุนลี่ให้กู้ต้าเส่านำเยว่ต้าเหนียงไปแนะนำตัวกับฝ่ายสตรีด้านใน แล้วเรียกซุนซิน เซี่ยเจิน เซี่ยเป่ามาแนะนำว่า “สามคนนี้คือพี่น้องของข้า”
แล้วชี้มายังเยว่เหอบอกว่า “ท่านผู้นี้คือข้าราชการทางเมืองวิ่นโจวที่ให้มารับตัวข้า”
แล้วชี้มายังโจวยวน โจวยุ่นว่า “สองคนนี้คือทหารเมืองเติงโจวที่ส่งมาพร้อมกับข้า”
จู้เฉาเฟิ่งกับบุตรชายทั้งสามแม้จะมิใช่คนโง่ แต่เมื่อเห็นซุนลี่มากับครอบครัวขนข้าวของเครื่องใช้มาด้วย อีกทั้งยังเป็นศิษย์ร่วมสำนักของหลวนถิงวี่ก็คลายความสงสัย ให้ล้มวัวและม้าจัดอาหารรับรองเลี้ยงดู
ผ่านไปสองวัน เข้าสู่วันที่สามทหารมารายงานว่า “ซ่งเจียงนำกำลังเข้าโจมตีบ้านสกุลจู้เราอีกแล้ว”
จู้เปียวว่า “ข้าจะไปจับเจ้าโจรนี่เอง” แล้วให้ทอดสะพานลง นำทหารม้าร้อยกว่านายบุกออกไปรับศึกทัพที่เข้าตีราวห้าร้อยนำโดยหลีกว่างน้อยฮวาหยง
จู้เปียวถือทวนโผนม้าเข้ารบกับฮวาหยงหน้าเนินตู๋หลงได้หลายสิบเพลงไม่รู้แพ้ชนะ ฮวาหยงอาศัยช่องโหว่ชักม้าหนีล่อให้ไล่ตาม จู้เปียวจะควบม้าไล่ ก็มีคนเตือนให้ระวังกับดักด้วยว่าฮวาหยงเป็นผู้ชำนาญธนู จู้เปียวจึงนำทหารกลับเข้าหมู่บ้านแล้วชักสะพานขึ้นเสีย ด้านฮวาหยงนั้นถอยทัพกลับไปเลย
จู้เปียวกลับเข้ามานั่งดื่มในห้องโถง ซุนลี่ถามว่า “ขุนพลน้อยวันนี้จับโจรได้หรือไม่”
จู้เปียวตอบว่า “พวกมันมีคนที่เรียกกันว่าหลีกว่างน้อยฮวาหยง ฝีมือทวนดี สู้กันได้สักห้าสิบเพลงแล้วชักม้าหนี ข้าจะไล่ตาม มีทหารเตือนให้ระวังธนู เลยต่างคนต่างเลิกทัพ”
ซุนลี่ว่า “วันหลัง ผู้น้องไร้ความสามารถ ขออาสาไปจับตัวพวกมันบ้าง”
วันนั้นก็กินดื่มร้องรำทำเพลงกันต่อไป
รุ่งขึ้นย่างเข้าวันที่สี่เวลาราวเที่ยง ทหารมารายงานว่า “ทหารของซ่งเจียงยกกันมาหน้าหมู่บ้านอีกแล้ว”
จู้หลง จู้หู่ จู้เปียวสวมเกราะออกไปดูหน้าประตูกำแพง จู้เฉาเฟิ่งนั่งดูอยู่บนกำแพง ด้านซ้ายเป็นหลวนถิงวี่ ด้านขวาซุนลี่ คนของบ้านสกุลจู้และคนของซุนลี่นั่งเรียงรายไปทั้งสองข้าง ได้ยินเสียงกลองและม้าล่อแต่ไกล ธงทิวโบกสะบัด มีค่ายกลตั้งอยู่ หัวเสือดาวหลินชงออกมายืนด่าอยู่ด้านหน้า จู้หลงขุ่นเคืองสั่งให้ทอดสะพานชักแล้วถือทวนควบม้านำทหารราวสองร้อยโห่ร้องทะยานเข้าหาหลินชง บนกำแพงรัวกลองรบ จู้หลงรบกับหลินชงได้สามสิบกว่าเพลง ไม่รู้แพ้ขนะ ทั้งสองฝ่ายต่างตีม้าล่อแยกย้ายกันกลับค่าย
จู้หู่โมโหฉวยดาบขึ้นม้าควบมายืนด่าซ่งเจียงหน้าค่ายท้าให้ออกมารบ จอมบุ่มบ่ามมู่หงออกมารบกับจู้หู่ได้สามสิบกว่าเพลง ยังไม่รู้ผล จู้เปียวโกรธควบม้าถือทวนนำทหารสองร้อยออกมาช่วย ซ่งเจียงให้กวนสว่ออมโรคหยางสยงออกไปช่วยรับมือจู้เปียว
ซุนลี่อยู่บนกำแพงเห็นแล้วอดรนทนไม่ได้ บอกให้ซุนซินนำอาวุธและชุดเกราะของตนมา และไปจัดแจงผูกอานม้าดำอูจุยของตน (乌骓马 เป็นชื่อม้าศึกของฉู่ป้าหวาง 楚霸王 ซุนลี่ตั้งชื่อตาม) พอสวมเกราะติดอาวุธ ขึ้นม้าแล้ว ก็ให้ตีม้าล่อขึ้น ซุนลี่ควบม้าออกมาหน้าค่าย ตะโกนบอกว่า “คอยดูข้าจับเจ้าพวกนี้”
หลินชง มู่หง หยางสยง ชักม้ากลับไปยืนหน้าค่าย ซุนลี่ตะโกนถามว่า “ไอ้พวกโจร ในค่ายใครมีฝีมือก็ส่งออกมาสู้กับข้า” ในค่ายซ่งเจียงมีเสียงระฆังดัง คนผู้หนึ่งขี่ม้าถือทวนออกมา คือ เจ้าสามเสี่ยงตายสือสิ้ว
สือสิ้วโผนม้าเข้าประทวนรบกับซุนลี่ได้ห้าสิบเพลง ซุนลี่เห็นช่องโหว่ปล่อยให้สือสิ้วแทงทวนมาแล้วฉากหลบ เอื้อมมือไปคว้าหิ้วสือสิ้วข้ามม้ามา ควบกลับมาจับโยนลงหน้าประตูคฤหาสน์ ตะโกนสั่งว่า “จับมัดไว้”
สามหนุ่มสกุลจู้และซ่งเจียงต่างแยกย้ายกลับค่ายตน
สามหนุ่มกลับมาถึงหน้าหอก็คารวะแสดงความนับถือซุนลี่ ซุนลี่ถามว่า “ทั้งหมดจับโจรได้กี่คนแล้ว”
จู้เฉาเฟิ่งว่า “แรกสุดจับได้สือเชียน ต่อมาก็หยางหลินที่ปลอมตัวมาสอดแนม แล้วก็หวงซิ่น ทางบ้านสกุลหู้ อีจ้างชิงจับได้เสือเตี้ยหวาง ในสนามรบได้อีกสอง ฉินหมิง เติ้งเฟย มาบัดนี้ ท่านขุนพลได้ตัวสือสิ้ว หมอนี่เป็นคนเผาร้านของเราด้วย รวมแล้วได้เจ็ดคน”
ซุนลี่ว่า “เราก็จะไม่ปล่อยกลับไปสักคนเดียว รีบต่อรถเจ็ดคันขังเอาไว้ เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำไว้ให้ดีอย่าให้ดูโทรมหรืออดตาย วันหลังจับตัวซ่งเจียงได้ก็จัดส่งเข้าเมืองหลวงเสียทีเดียว ให้ชื่อเสียงของสามผู้กล้าสกุลจู้เป็นที่เลืองลือไปทั่วหล้า”
จู้เฉาเฟิ่งกล่าวขอบคุณว่า “เป็นโชคดีอย่างยิ่งที่ได้ท่านถีเสียช่วยเหลือ พวกเขาเหลียงซานถึงคราวจบสิ้นครานี้” แล้วก็เชิญซุนลี่ไปกินเลี้ยงที่ห้องโถงหลัง
สือสิ้วถูกขังในรถนักโทษ แน่นอนว่าที่ถูกจับมาเป็นการจัดฉากเพื่อมาส่งข่าวและเตรียมประสานงานด้านใน ซุนลี่แอบให้โจวยวน โจวยุ่น เยว่เหอ เข้าออกตัวบ้านชั้นในและบันทึกทางหนีทีไล่ไว้ หยางหลิน เติ้งเฟยเมื่อเห็นโจวยวน โจวยุ่นก็แอบดีใจ เยว่เหอพอเห็นว่าปลอดคนก็แจ้งข่าวให้รู้ กู้ต้าเส่า กับเยว่ต้าเหนียงก็แอบบันทึกเส้นทางในตัวบ้านชั้นในสุด
เข้าสู่วันที่ห้า ยามเฉิน 辰牌 (8:00 น.) ทหารเข้ามารายงานว่า “พวกซ่งเจียงส่งทัพบุกเข้ามาเป็นสี่สาย”
ซุนลี่ว่า “ต่อให้มากันสิบสายจะเป็นไรไป พวกท่านไม่ต้องเป็นกังวลให้คนเตรียมตัวไว้เป็นดี จัดเตรียมตะขอและเชือกเอาไว้ สำคัญต้องจับเป็น จับตายไม่นับเป็นผลงาน” พวกทหารต่างสวมเกราะตระเตรียมไว้
จู้เฉาเฟิ่งขึ้นบนเชิงเทินประตูหน้าสังเกตการณ์ เห็นทัพทางตะวันออกราวห้าร้อยนำโดยหัวเสือดาวหลินชง ตามมาด้วยหลี่จวิ้น หยวนเสี่ยวเอ้อ  ทัพทางตะวันตกราวห้าร้อยนำโดยหลีกว่างน้อยฮวาหยง ตามมาด้วยจางเหิง จางซุ่น พอมาเชิงเทินประตูหลัง เห็นทัพทางใต้ราวห้าร้อยนำโดยจอมบุ่มบ่ามมู่หง กวนสว่ออมโรคหยางสยง และพายุหมุนดำหลี่ขุย ทัพล้อมมารอบทิศ รัวกลองรบพร้อมกัน โห่ร้องกันดังก้อง
หลวนถิงวี่ว่า “เจ้าพวกที่ยกกันมาวันนี้ อย่าได้ดูเบา ข้าจะนำทหารออกประตูหลังไปตั้งรับทัพทางตะวันตกเฉียงเหนือ”
จู้หลงว่า “ข้าจะออกประตูหน้าไปตั้งรับทัพทางตะวันออก”
จู้หู่ว่า “ข้าจะออกทางประตูหลัง ตั้งรับทัพทางตะวันตกเฉียงใต้”
จู้เปียวว่า “ข้าจะออกประตูหน้า จับเจ้าซ่งเจียงหัวหน้าโจรตัวสำคัญ”
จู้เฉาเฟิ่งยินดียิ่ง แจกเหล้าดื่มเอาชัย ทหารม้าทั้งหมดยกออกไปสามร้อยกว่า ที่เหลือคงอยู่ในบ้าน
โจวยวน โจวยุ่น ซ่อนขวานเฝ้าอยู่แถวประตูห้องขัง เซี่ยเจิน เซี่ยเป่าซ่อนอาวุธเฝ้าอยู่แถวประตูหลัง ซุนซิน เยว่เหอเฝ้าประตูหน้าซ้ายและขวา กู้ต้าเส่าใช้มีดคู่คุ้มกันเยว่ต้าเหนียงเฝ้าอยู่ข้างห้องโถง รอฟังสัญญานให้ลงมือพร้อมกัน
บ้านสกุลจู้รัวกลองรบเปิดประตูทอดสะพานชักให้ทัพทั้งสี่ยกออกไปแล้ว ซุนลี่นำทหารสิบกว่านายยืนม้าอยู่บนสะพานประตูหน้า ซุนซินอยู่ด้านในนำธงของตนขึ้นไปปักบนเชิงเทิน
เยว่เหอถือทวนร้องเพลงขึ้น โจวยวนโจวยุ่นได้ยินเสียงเพลงก็ผิวปากแล้วเอาขวานจามทหารยามสิบกว่าคน แล้วจามรถขังนักโทษปล่อยเจ็ดเสือร้ายออกมา ต่างคนต่างฉวยอาวุธใกล้มือที่หาได้ กู้ต้าเส่าใช้มีดคู่บุกเข้าด้านในสังหารเหล่าสตรีคนละมีดจนตายสิ้น จู้เฉาเฟิ่งเห็นท่าไม่ดีจะกระโดดบ่อแต่สือสิ้วมาถึงฟันด้วยดาบตายเสียก่อน พวกทั้งสิบกว่าคนเที่ยวไล่ฆ่าทหารและบ่าวไพร่ที่อยู่ในคฤหาสน์ เซี่ยเจิน เซี่ยเป่าเข้าไปเผาโรงฟางหญ้าม้าจนควันไฟพลุ่งดำคละคลุ้ง
ทัพสกุลจู้ที่ยกออกไปทั้งสี่สายนั้น จู้หู่เห็นไฟไหม้จึงยกกลับมาก่อน มาถึงสะพานชักพบซุนลี่ยืนม้าขวางอยู่ตวาดมาว่า “เจ้าจะไปไหน”
จู้หู่ชักม้ากลับหนีไปทางค่ายซ่งเจียง ปะเข้ากับหลวี่ฟาง กวอเสิ้งรุมรบเข้ามาจนจู้หู่พลัดตกม้า พวกทหารกรูเข้ามารุมสับจนกลายเป็นเนื้อสับ เหล่าทหารของจู้หู่หนีกระจัดกระจายไปคนละทิศ ซุนลี่ ซุนซิน ออกมารับซ่งเจียงเข้าไปในคฤหาสน์
ด้านทัพสกุลจู้ทางตะวันออก จู้หลงรบกันหลินชง สู้ไม่ได้จึงหนีกลับมายังประตูหลัง เห็นเซี่ยเจิน เซี่ยเป่ากำลังนำศพพวกของตนโยนเข้าไปในกองเพลิง จึงชักม้าหนีไปทางเหนือปะเข้ากับพายุหมุนดำกระโจนมาถึงใช้ขวานคู่จามใส่ขาม้าขาด จู้หลงตกจากหลังม้า หลี่ขุยตามเข้ามาเอาขวานจามใส่หัวตายคาที่
ด้านจู้เปียวเห็นไม่อาจหวนกลับบ้านจึงควบม้าหนีไปทางบ้านสกุลหู้ หู้เฉิงให้คนจับตัวมัดเอาไว้แล้วกุมตัวจะมาส่งให้ซ่งเจียง ระหว่างทางพบหลี่ขุยเข้า หลี่ขุยใช้ขวานตัดเอามาแต่หัว ทหารเห็นหลี่ขุยมาดุดันจึงแตกฮือ หลี่ขุยมองเห็นหู้เฉิงจึงควงสองขวานตรงมาหา หู้เฉิงเห็นท่าไม่ดีจึงหนีไปยังเมืองหยันอัน 延安 ที่ซึ่งต่อมาหู้เฉิงได้เข้ารับราชการเป็นนายทหารอยู่ที่นั่น
ทางด้านหลี่ขุยพอได้ฆ่าคนแล้วติดลม ลุยมาถึงบ้านสกุลหู้ก็สังหารหู้ไท่กงและคนในครอบครัวทั้งใหญ่น้อยตายสิ้นไม่เหลือไว้สักคนเดียว เอาม้าในบ้านบรรทุกทรัพย์สมบัติบ้านสกุลหู้ได้ถึงห้าสิบม้า เผาบ้านสกุลหู้ทิ้งแล้วกลับมาอวดผลงาน
ตอนก่อนหน้า : ปล้นคุกเติงโจว
ตอนถัดไป : เป็นโจรก็ต้องปล้น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา