17 พ.ค. เวลา 11:26 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 118

ล้างบางสามหมู่บ้าน (2) เป็นโจรก็ต้องปล้น
ทางด้านซ่งเจียงอยู่ที่ห้องโถงบ้านสกุลจู้ เหล่าหัวหน้าทยอยกลับมารายงาน จับเป็นเชลยได้ราวห้าร้อยคน ม้าราวห้าร้อยตัว ปศุสัตว์เหลือจะนับ ซ่งเจียงชอบใจยิ่งกล่าวว่า “เสียดายแต่หลวนถิงวี่คนมีฝีมือต้องถูกสังหารไปด้วย” ไม่ทันขาดคำ ทหารมารายงานว่า “พายุหมุนดำเผาบ้านสกุลหู้ ตัดหัวคนมาเป็นผลงาน”
ซ่งเจียงว่า “วันก่อนหู้เฉิงเพิ่งมาสามิภักดิ์ ใครใช้ให้ไปฆ่าพวกเขา แล้วยังเผาบ้านเขาอีก”
พายุหมุนดำคราบเลือดเต็มตัว เสียบขวานคู่ที่เอวเดินมาร้องขานคารวะต่อหน้าซ่งเจียง แล้วว่า “จู้หลงผู้น้องฆ่าแล้ว จู้เปียวผู้น้องตัดหัวมาส่ง หู้เฉิงหนีไปได้ หู้ไท่กงทั้งบ้าน ผู้น้องฆ่าไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ผู้น้องกลับมารายงานความชอบ”
ซ่งเจียงตวาดใส่ว่า “จู้หลงนั่นมีคนเห็นว่าเจ้าฆ่า ส่วนคนอื่นเจ้าฆ่าเขาทำไม”
พายุหมุนดำว่า “ข้าฆ่าคนแล้วมันมือ จึงลุยไปทางบ้านสกุลหู้ พบพี่ชายอีจ้างชิงกุมตัวจู้เปียวมาจึงเอาขวานตัดหัวมา เสียดายเจ้าหู้เฉิงหนีไปได้ ส่วนที่บ้านเขา ข้าฆ่าเกลี้ยงไม่เหลือสักคนเดียว”
1
ซ่งเจียงตวาดว่า “เจ้าหมอนี่ ใครใช้ให้เจ้าไป เจ้าเองก็เห็นว่าวันก่อนหู้เฉิงจูงวัวนำสุรามาสามิภักดิ์ ทำไมไม่ถามข้า ถือวิสาสะไปฆ่าเขาตายทั้งบ้าน ขัดบัญชาทัพ”
หลี่ขุยว่า “ท่านลืมแล้วแต่ข้าไม่ลืม วันก่อนนางนกเขานั่นยังไล่ฆ่าพี่ท่านอยู่ วันนี้ท่านกลับจะมามีน้ำใจ น้องสาวเขาก็ยังไม่ได้มาเป็นเมีย กลับจะมาห่วงพี่เมียกับพ่อตา”
ซ่งเจียงถูกแทงใจดำตวาดว่า “เจ้าควายเหล็ก พูดจาเหลวไหล ข้านี่หรือจะรับนางเป็นภรรยา ข้ามีวิธีจัดการของข้า แล้วนี่เจ้ามืดจับเป็นมาได้กี่คน”
หลี่ขุยตอบว่า “ใครจะไปสนใจ เจอก็เป็นสับ”
ซ่งเจียงว่า “เจ้านี่ขัดบัญชาทัพข้าสมควรถูกตัดหัว ให้เอาความชอบที่สังหารจู้หลง จู้เปียวได้ หักกลบลบเสีย หากมีครั้งหน้าอีกจะไม่ละเว้น”
หลี่ขุยหัวเราะแล้วว่า “ไม่ได้ความชอบก็ไม่เป็นไร ได้ฆ่าคนข้าก็สนุกแล้ว”
อู๋ย่งนำคนเข้าคฤหาสน์มาแล้วร่วมดื่มแสดงความยินดีกับซ่งเจียง ซ่งเจียงจึงหารือเรื่องการล้างบางสกุลจู้ สือสิ้วจึงกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่าจงหลีเป็นผู้มีคุณธรรมทั้งยังได้ชี้ทางให้พวกเรา ในหมู่บ้านยังคงมีคนดีอีกมาก ไม่ควรทำอันตรายพวกเขา”
ซ่งเจียงให้สือสิ้วไปตามผู้เฒ่ามาพบแล้วมอบทรัพย์สินให้แล้วว่า “หากมิใช่เห็นแก่ท่านผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้คงถูกกวาดล้างไม่เหลือไว้แม้บ้านเดียว แต่บ้านท่านมีคุณธรรมจึงละเว้นไว้”
ผู้เฒ่าจงหลีกราบคารวะ
ซ่งเจียงกล่าวต่อว่า “ข้ามารบกวนพวกชาวบ้านอยู่หลายวัน วันนี้ตีบ้านสกุลจู้แตกนับเป็นการกำจัดเภทภัยให้ชาวบ้าน ให้มอบข้าวสารบ้านละหนึ่งสือ 一石 เป็นการแสดงน้ำใจ”
ผู้เฒ่าจงหลีจึงลากลับไป
ซ่งเจียงตีบ้านสกุลจู้แตกครั้งนี้ได้ข้าวสารถึงห้าหมื่นสือ ปศุสัตว์จำนวนมาก ได้พี่น้องใหม่มี ซุนลี่ ซุนซิน เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า โจวยวน โจวยุ่น เยว่เหอ กู้ต้าเส่า และช่วยพี่น้องทั้งเจ็ดที่ถูกจับ ซ่งเจียงให้แบ่งเป็นสามขบวนเดินทางกลับ ขบวนแรกประโคมฆ้องกลอง ขบวนหลังขับร้องเพลงชัย ชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียนมาคารวะขอบคุณสองข้างทาง
盗可盗,非常盗;
强可强,真能强。
只因灭恶除凶,聊作打家劫舍。
地方恨土豪欺压,乡村喜义士济施。
众虎有情,为救偷鸡钓狗;
独龙无助,难留飞虎扑雕。
谨具上万资粮,填平水泊;
更赔许多人畜,踏破梁山。
เป็นโจรก็ต้องปล้น
หาใช่โจรธรรมดา
แข็งแกร่งต้องแกร่งกล้า
จึงแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
เพื่อขจัดเหตุเภทภัย
จึงอ้างไปว่าปล้นชิง
ทางการเกลียดชังยิ่ง
ชาวบ้านชอบที่จุนเจือ
เป็นเสือมีน้ำใจ
เพื่อนลักไก่ไปช่วยเหลือ
มังกรตัดใยเยื่อ
ไม่เหลือเสือหรืออินทรี
เสบียงตุนนับหมื่นหาบ
ถมราบสุ่ยป๋อชลธี
ปศุสัตว์ที่มี
เดินเหยียบเรียบเขาเหลียงซาน
กล่าวถึงอินทรีโฉบฟ้าหลี่อิ้งที่พักรักษาแผลจากธนู แม้ปิดบ้านไม่พบใครทั้งสิ้น แต่ให้คนไปสืบข่าวความเคลื่อนไหวของบ้านสกุลจู้ จึงรู้ว่าถูกซ่งเจียงกวาดล้างไปแล้ว ทั้งดีใจและหวาดกลัวระคนกัน บ่าวเข้ามารายงานว่าท่านเจ้าเมืองพาผู้ติดตามมาราวห้าสิบคนมาขอพบ เพื่อสอบถามเรื่องบ้านสกุลจู้ หลี่อิ้งรีบบอกให้ตู้ซิงเปิดประตูทอดสะพานรับเข้ามาในบ้าน หลี่อิ้งนำผ้ามาคล้องแขนไว้กับไหล่ทำทีว่ายังไม่หายดีจากแผลธนูออกมาต้อนรับ
ท่านเจ้าเมืองลงม้าเดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมผู้ติดตามมีทั้งตุลาการและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นั่งลงแล้วถามว่า “เรื่องบ้านสกุลจู้ถูกสังหารนั้นเป็นอย่างไร”
หลี่อิ้งตอบว่า “ผู้น้อยถูกธนูของจู้เปียวจนแขนซ้ายบาดเจ็บ ก็ปิดบ้านมาตลอด ไม่กล้าออกไปไหนจึงไม่ทราบความ”
เจ้าเมืองว่า “เหลวไหล ทางบ้านสกุลจู้ฟ้องร้องว่าท่านสมคบกับพวกโจรเขาเหลียงซาน ชักนำมาโจมตีบ้านสกุลจู้ วันก่อนยังรับของกำนัลเป็นอานม้า สุราแพะ เงินทองและแพรพรรณ ยังจะมาบ่ายเบี่ยงหรือ”
หลึ่อิ้งว่า “ผู้น้อยนั้นรู้ข้อกฎหมาย จะกล้ารับของเหล่านั้นได้อย่างไร”
เจ้าเมืองว่า “ยากที่จะเชื่อ คงต้องกุมตัวท่านไปที่ว่าการ ชำระความกันซึ่งหน้ากับทางฝ่ายนั้น”
แล้วก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จับกุมตัวไปยังที่ว่าการ
เจ้าหน้าที่จับหลี่อิ้งมัดนำขึ้นม้าจะมายังที่ว่าการก็แลเห็นตู้ซิง เจ้าเมืองถามว่า “ท่านคือพ่อบ้านตู้ซิง”
ตู้ซิงตอบ “คือผู้น้อยเอง”
เจ้าเมืองว่า “ในคำฟ้องมีชื่อของท่านเช่นกัน นำตัวไปที่ว่าการด้วย”
หลี่อิ้งและตู้ซิงจึงถูกกุมตัวจากบ้านสกุลหลี่เดินทางมาได้สามสิบกว่าลี้ มาถึงชายป่าละเมาะแห่งหนึ่ง พบเข้ากับพวกซ่งเจียง หลินชง ฮวาหยง หยางสยง สือสิ้ว สกัดทางอยู่ หลินชงตวาดว่า “ผู้กล้าเขาเหลียงซานชุมนุมอยู่ที่นี่”
พวกเจ้าเมืองไม่กล้าต่อกรด้วย ทิ้งหลี่อิ้งและตู้ซิงไว้แล้วหนีไม่คิดชีวิต ซ่งเจียงสั่งให้ไล่ตาม พวกที่ไล่ตามไปได้ระยะหนึ่งก็กลับมารายงานว่าไล่ไม่ทัน หนีไปไม่รู้หนไหนแล้ว
เมื่อแก้มัดให้หลี่อิ้ง ตู้ซิง และนำม้าสองตัวมาให้ขี่แล้ว ซ่งเจียงก็ว่า “ขอเชิญท่านขุนนางใหญ่ขึ้นไปหลบภัยบนเขาเหลียงซานสักพัก ดีหรือไม่”
หลี่อิ้งว่า “คงไม่ได้ ท่านเป็นผู้ไล่ฆ่าพวกเจ้าเมือง ไม่เกี่ยวกับข้า”
ซ่งเจียงหัวเราะแล้วว่า “คดีของท่านคงไม่แยกแยะรายละเอียดเช่นนี้กระมัง หลังจากพวกเราไปแล้ว ทางการก็ยังคงมารบกวนท่านไม่หยุดหย่อน ถึงท่านขุนนางใหญ่ไม่ยอมเป็นโจร ก็ไปอาศัยหลบภัยสักพักจนเรื่องเงียบแล้วค่อยกลับลงเขามายังไม่สาย”
แล้วก็ไม่รอคำตอบหลี่อิ้ง ขบวนใหญ่ของซ่งเจียงเดินทางกลับกระหนาบตัวหลี่อิ้งไว้กลางขบวนลัดเลาะกลับขึ้นเขามาด้วย พอมาถึงเฉาไก้ก็ให้ลั่นกลองประโคมมโหรีต้อนรับการกลับมาด้วยชัยชนะแล้วจัดเลี้ยงฉลอง  เหล่าหัวหน้าชุมนุมพร้อมหน้าที่โถงร่วมธรรม แล้วเชิญหลี่อิ้งมาทำความรู้จักกันตามธรรมเนียมแล้ว หลี่อิ้งก็กล่าวกับซ่งเจียงว่า
“ผู้น้อยทั้งสองส่งท่านขุนพลกลับค่ายใหญ่แล้ว เหล่าหัวหน้าทั้งหลายต่างได้พบทำความรู้จักกันแล้ว จะให้ผู้น้อยอยู่รับใช้ก็ไม่เป็นไร กลัวแต่ที่บ้านยังมีครอบครัวอยู่ ไม่ทราบเกิดเรื่องอันใดบ้าง จำต้องขอตัวลงเขาไปดู”
อู๋เสวียจิวหัวเราะแล้วว่า “ท่านขุนนางใหญ่พลาดแล้ว ครอบครัวของท่านขึ้นมาบนเขานี้แล้ว ส่วนคฤหาสน์ของท่านคบไฟอันเดียวก็เผาเกลี้ยงเหลือแต่ที่รกร้าง ท่านจะกลับไปที่ใด”
หลี่อิ้งยังไม่ยอมเชื่อ แต่เห็นมีขบวนรถกำลังขึ้นเขามา พอมองดูก็เห็นว่าเป็นครอบครัวและคนในบ้านตน จึงรีบไปถามไถ่
ภรรยาตอบว่า  “หลังจากท่านเจ้าเมืองจับตัวท่านมาแล้ว สักพักก็มีนายตรวจสองท่านนำตูโถวมาสี่ท่าน ทหารอีกสักสามร้อยมาตรวจบันทึกทรัพย์สินในบ้าน ให้พวกเราทั้งหมดขึ้นรถ เก็บทรัพย์สินข้าวของใส่หีบ ม้าลาและปศุสัตว์ริบมาหมด แล้วจุดไฟเผาบ้านจนไหม้หมดไปแล้ว” หลี่อิ้งฟังจบก็สิ้นท่า
เฉาไก้กับซ่งเจียงลงจากห้องโถงมาขอขมาว่า “พวกเราพี่น้องได้ยินชื่อเสียงของท่านมานาน จึงได้วางแผนนี้ ขอให้ท่านขุนนางใหญ่โปรดอภัยให้ด้วย”
หลี่อิ้งได้ฟังดังนั้น มีแต่ต้องเลยตามเลย
ซ่งเจียงว่า “เชิญครอบครัวของท่านที่โถงหลังเถิด”
หลี่อิ้งเห็นครอบครัวเหล่าหัวหน้าที่มีต่างพร้อมกันอยู่ที่ห้องโถงหลัง จึงกล่าวกับภรรยาว่า “คงต้องยินยอมตามนี้”
ซ่งเจียงจึงเชิญหลี่อิ้งกลับมาสนทนากันต่อที่โถงหน้า เหล่าผู้กล้าต่างยินดี ซ่งเจียงตัวแสบกระเซ้าต่อว่า “ท่านขุนนางใหญ่ ข้าจะให้ท่านพบกับท่านเจ้าเมืองและเหล่ามือปราบ”
คนที่ปลอมเป็นเจ้าเมืองคือ เซียวย่าง สองนายตรวจคือ ไต้จง หยางหลิน ตุลาการคือ เผยเซวียน สองหวีโห้ว คือ จินต้าเจียน โหวเจี้ยน สี่ตูโถวคือ หลี่จวิ้น จางซุ่น หม่าหลิน และไป๋เสิ้ง
หลี่จิ้นเห็นก็อึ้งแล้วอึ้งอีก พูดอะไรไม่ออก
ซ่งเจียงสั่งให้ลูกน้องล้มม้าล้มวัวจัดสุราอาหารเลี้ยงรับรองนายหัวใหม่ทั้งสิบสองคน คือ หลี่อิ้ง ซุนลี่ ซุนซิน เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า โจวยวน โจวยุ่น ตู้ซิง เยว่เหอ สือเชียน หู้ซานเหนียง กู้ต้าเส่า และรับรองเยว่ต้าเหนียงด้วย
เป็นอันว่าซ่งเจียงเจ้าอุบายลงเขาครั้งนี้กวาดล้างสามหมู่บ้าน กวาดทรัพย์สินขึ้นเขาอย่างมากมาย สกุลจู้นั้นพออ้างได้ว่ามีเรื่องผิดใจกัน เคยปรามาสเขาเหลียงซานไว้ แต่บ้านสกุลหู้ กับบ้านสกุลหลี่ พลอยถูกกวาดล้างไปด้วย โดยไม่มีข้อแก้ตัวเรื่องคุณธรรมได้เลย
วันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่ง จึงเชิญเหล่าหัวหน้ามาชุมนุมเป็นสักขีพยาน แล้วเรียกเสือเตี้ยหวางมากล่าวว่า
“เมื่อครั้งอยู่ที่เขาชิงเฟิง ข้าเคยรับปากเรื่องคู่ครองของท่าน ยังค้างคาใจข้ามาตลอดว่ายังไม่ได้บรรลุความตั้งใจ วันนี้บิดาข้ามีบุตรสาวพร้อมรับท่านเป็นเขย”
ซ่งเจียงจึงเข้าไปด้านในเชิญซ่งไท่กงออกมาด้วยตัวเอง นำอีจ้างชิงหู้ซานเหนียงออกมาด้วย
ซ่งเจียงเป็นพ่อสื่อให้เองว่า “หวางอิงน้องชายของข้าผู้นี้แม้จะมีฝีมือสู้น้องสาวไม่ได้ แต่ข้าได้เคยรับปากเรื่องคู่ครองเอาไว้แต่ต้นยังไม่ได้บรรลุความตั้งใจ ในวันนี้น้องได้มาเป็นบุตรีบุญธรรมของบิดาแล้ว เหล่าหัวหน้าทั้งหลายร่วมกันเป็นพ่อสื่ออาศัยฤกษ์มงคลเช้าวันนี้ ขอให้น้องได้ครองคู่สมสองกับหวางอิงเป็นสามีภรรยา”
อีจ้างชิงเห็นซ่งเจียงเปี่ยมคุณธรรมเช่นนั้น ไม่มีทางบ่ายเบี่ยง ได้แต่คารวะขอบคุณเพียงสองคำ พวกเฉาไก้ต่างยินดีปรีดาเอ่ยชมว่าซ่งกงหมิงทรงคุณธรรมยิ่งนัก วันนั้นจึงจัดเลี้ยงฉลองกันทั้งวัน
ปิ่นงามอีจ้างชิงหู้ซานเหนียงเป็นสาวงามผู้มีความสามารถแต่อาภัพนัก บ้านสกุลหู้ถูกฆ่าล้างบางเหลือเพียงพี่ชายหนีรอดไปได้เพียงคนเดียว สมบัติถูกขนขึ้นเขาเหลียงซานเสียสิ้น ซ่งเจียงนั้นเป็นคนขี้ระแวง ย่อมไม่วางใจที่จะมีหู้ซานเหนียงอยู่ข้างกาย จึงรับนางเป็นน้องสาวแล้วใช้ฐานะพี่บุญธรรมยกนางให้แก่คู่ครองที่ไม่เหมาะสมโดยอ้างว่าเคยรับปากเอาไว้ ทว่าตอนที่ยกน้องสาวฮวาหยงให้อสนีบาตฉินหมิงก็ไม่ได้นึกถึงคำรับปากที่เคยมีต่อเสือเตี้ยหวาง
หลินชงเป็นผู้จับเป็นหู้ซานเหนียงได้ก็สูญเสียภรรยาไปแล้ว แต่หลินชงจัดเป็นพวกเฉาไก้ สาวงามผู้อาภัพจึงถูกจับคู่ให้เสือเตี้ยหวางผู้มักมาก ช่างเป็นคู่ที่ไม่เหมาะสม
ทว่า ซ่งเจียงได้รับคำสรรเสริญว่าทรงคุณธรรมไม่ลืมสัญญาที่เคยให้ไว้
ตอนก่อนหน้า : ไส้ศึก
ตอนถัดไป : ไป๋สิ้วอิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา