22 พ.ค. เวลา 10:51 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 120

จากวิ่นเฉิงสู่เกาถัง (2) เสี่ยวหยาเน่ย
เหลยเหิงสังหารไป๋สิ้วอิง จึงถูกคุมตัวกลับมายังที่ว่าการแจ้งความต่อนายอำเภอ นายอำเภอให้เจ้าหน้าที่คุมตัวกลับมาพร้อมเรียกผู้ใหญ่บ้าน พยานผู้เห็นเหตุการณ์ บ้านใกล้เรือนเคียง ตรวจสถานที่เกิดเหตุและสภาพศพแล้วกลับมารายงาน เหลยเหิงรับสารภาพตามข้อหา จึงให้ปล่อยมารดากลับบ้านไปรอฟังคำสั่งต่อไป ส่วนเหลยเหิงให้ใส่คาจำคุกไว้
พัศดีคือเจ้าเครางามจูถง 美髯公朱仝 คนกันเอง รับตัวมาแล้วก็ให้จัดสุราอาหารเลี้ยงดู ให้ลูกน้องปัดกวาดห้องขังให้สะอาดสะอ้านให้เหลยเหิงพัก สักพักมารดาของเหลยเหิงก็นำอาหารมาส่ง ร่ำไห้กล่าวกับจูถงว่า “ยายเฒ่าอายุหกสิบกว่าแล้วต้องมาเห็นลูกรับทุกข์กับตา วอนท่านพัศดีเห็นแก่หน้าพี่น้องในยามปกติ โปรดเมตตาช่วยดูแลลูกชายคนนี้ด้วยเถิด”
จูถงว่า “แม่เฒ่าโปรดวางใจกลับไปพักผ่อนเถิด ต่อจากนี้เรื่องอาหารการกิน ผู้น้อยจะเป็นคนดูแลเอง หากมีโอกาสก็จะหาหนทางช่วย”
มารดาเหลยเหิงว่า “ได้พี่ชายช่วยดังนี้ ดังได้บุพการีให้ชีวิตใหม่ หากลูกชายเป็นอะไรไป ยายเฒ่าคงไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
จูถงว่า “ผู้น้อยจะจำใส่ใจไว้ แม่เฒ่าอย่าได้วิตกเลย”
แม่เฒ่าจึงคารวะขอบคุณแล้วลากลับไป
จูถงใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวหาคนช่วยวิ่งเต้นช่วยเหลือทางด้านนายอำเภอ แม้นายอำเภอจะนิยมรักใคร่ในจูถง แต่ก็พยาบาทเหลยเหิงที่มาฆ่าไป๋สิ้วอิงตาย อีกทั้งไป๋วี่เฉียวก็คอยรบเร้าให้ปิดคดี ประหารใช้หนี้ชีวิต เหลยเหิงจึงถูกจำขังจนครบกำหนดหกสิบวัน แล้วต้องส่งตัวไปรับคำตัดสินที่เมืองจี้โจว 济州  ยาซือผู้รับผิดชอบคดีนำสำนวนคดีไปก่อน จูถงเป็นผู้รับผิดชอบกุมตัวเหลยเหิงไปส่งยังเมืองจี้โจว
จูถงกับลูกน้องสิบกว่าคนพาเหลยเหิงเดินทางออกจากวิ่นเฉิงมาได้สิบกว่าลี้ถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง จูถงว่า “พวกเราแวะดื่มเหล้ากันสักหน่อยเถอะ”
ทั้งหมดพากันเข้าไปนั่งดื่มในร้าน จูถงฉวยโอกาสพาเหลยเหิงหลบมุมมายังที่ปลอดคนถอดคาออกปล่อยตัวเหลยเหิง กำชับว่า
“น้องเรารีบกลับไปรับแม่เฒ่าที่บ้านแล้วหนีให้ไว ทางนี้ข้าจะรับคดีแทนเอง”
เหลยเหิงว่า “ผู้น้องหนีได้ไม่ลำบาก แต่เดือดร้อนพี่ท่าน”
จูถงว่า “น้องเรา ท่านยังไม่รู้ นายอำเภอหมายหัวท่านไว้ว่าฆ่านางบำเรอ 表子 ของเขา แทงคดีนี้ไว้แล้วว่าต้องตาย ท่านไปถึงจี้โจวก็จะมีคำตัดสินให้ประหาร ข้าปล่อยท่านไปโทษก็ไม่ถึงตาย อีกทั้งข้าก็ไม่มีพ่อแม่ให้ต้องคอยห่วง ส่วนสมบัติจะริบก็ริบไป ท่านห่วงแต่หนีให้พ้นก็พอ”
เหลยเหิงคารวะขอบคุณ แล้วหนีออกทางหลังร้านกลับบ้านเก็บทรัพย์สินที่ติดตัวได้ใส่ห่อผ้า พาแม่เฒ่า เร่งหนีไปสมทบเป็นพวกเขาเหลียงซาน
ทางด้านจูถงเอาคาที่ถอดออกโยนเข้าพงหญ้าไป เดินออกมาหาพวกลูกน้องว่า “เหลยเหิงหนีไปแล้ว ทำอย่างไรดี”
พวกลูกน้องว่า “พวกเรารีบไปดักจับเขาที่บ้าน”
จูถงถ่วงเวลาเอาไว้ครึ่งค่อนวัน คะเนว่าเหลยเหิงหนีไปไกลแล้ว จึงพาคนกลับมารายงานยังอำเภอ
“ผู้น้อยไม่ทันระวัง ทำให้เหลยเหิงหลบหนีไปได้ระหว่างทาง ตามจับไม่ได้ ยินดีรับโทษ”
นายอำเภอนั้นชอบพอจูถงจึงคิดจะผ่อนผันให้ แต่ไป๋วี่เฉียวยื่นคำฟ้องว่าจูถงเจตนาปล่อยให้เหลยเหิงหลบหนี นายอำเภอจึงจำต้องคุมตัวจูถงไว้แล้วทำคดีส่งไปยังจี้โจว ทางบ้านจูถงก็ไปวิ่งเต้นติดสินบนช่วยเหลือที่จี้โจว
จูถงถูกนำตัวมาฟังคำตัดสินที่จี้โจว มีคำตัดสินให้ลงโทษโบยหลังยี่สิบที สักตราหน้าเนรเทศยังแดนจำชางโจว 沧州牢城 จูถงถูกจับใส่คา ให้ผู้คุมสองนายคุมตัวมาส่ง ทางบ้านจูถงมอบเงินค่าใช้จ่ายรายทางให้ ผู้คุมคุมตัวเดินทางโดยราบรื่นมาส่งตัวที่ เหิงไห่เมืองชางโจว 沧州横海郡
เจ้าเมืองชางโจวออกว่าการ เห็นจูถงบุคลิกไม่ธรรดา หน้าแดงพุทราเครายาวถึงท้อง ก็นึกนิยมอยู่แล้วแปดส่วน จึงไม่ส่งตัวเข้าค่ายในแดนจำ แต่ให้อยู่เรียกใช้สอยในจวนเจ้าเมือง ทำหนังสือตอบรับมอบตัวให้ผู้คุมถือกลับมารายงาน
จูถงอยู่ในจวนเจ้าเมือง เนื่องจากเป็นคนมีน้ำใจและอัธยาศัยดี ข้าราชการในจวนเจ้าเมือง ไม่ว่าจะเป็น ยาฟาน หวีโห้ว พัศดี ถึงคนเฝ้าประตู จูถงก็มอบของกำนัลผูกมิตรไมตรี จึงเป็นที่นิยมชมชอบของคนทั้งปวง
มาวันหนึ่ง ท่านเจ้าเมืองนั่งอยู่ยังที่ว่าการ จูถงยืนอยู่ข้างยกพื้น ท่านเจ้าเมืองเรียกจูถงขึ้นมาแล้วถามว่า “เหตุใดท่านจึงปล่อยเหลยเหิง แล้วยอมรับโทษเนรเทศมาอยู่ที่นี่”
จูถงตอบว่า “ผู้น้อยจะแสร้งปล่อยเหลยเหิงได้อย่างไร เพียงแต่ไม่ทันระวัง เขาจึงหนีไปได้”
เจ้าเมืองถามว่า “แล้วเหตุใดจึงได้รับโทษหนัก”
“โจทก์เดิมยืนกรานว่าผู้น้อยจงใจปล่อยตัวนักโทษ จึงขอให้ลงโทษหนัก”
“เหตุใดเหลยเหิงจึงสังหารนางคณิกา”
จูถงจึงเล่าเรื่องของเหลยเหิงให้ฟังโดยละเอียด
เจ้าเมืองจึงถามว่า “ท่านเห็นแก่ความกตัญญู จึงปล่อยเขาด้วยคุณธรรมกระนั้นหรือ”
จูถงว่า “ผู้น้อยจะกล้าฝ่าฝืนกฎหมายเช่นนั้นได้อย่างไร”
ขณะสอบถามอยู่นั้น เด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งออกมาจากฉากกั้นด้านหลัง เป็นบุตรของท่านเจ้าเมือง  อายุราวสี่ขวบ หน้าตาน่ารัก ท่านเจ้าเมืองรักดังแก้วตาดวงใจ คุณชายน้อย 小衙内 (เสี่ยวหยาเน่ย) เห็นจูถงจึงวิ่งเข้ามาหาจะให้อุ้ม จูถงจึงอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมอก คุณชายน้อยเอามือจับเคราของจูถงแล้วว่า “ข้าจะให้ท่านเครานี้อุ้ม”
เจ้าเมืองว่า “ปล่อยมือสิลูก อย่าซน”
คุณชายน้อยว่า “ข้าจะให้ท่านเครานี้อุ้มและเล่นกับข้า”
จูถงว่า “ผู้น้อยอุ้มคุณชายไปเดินเล่นหน้าจวนสักรอบแล้วค่อยกลับเข้ามา”
เจ้าเมืองว่า “เมื่อลูกข้าอยากให้ท่านอุ้ม ก็พาไปเล่นสักพักเถิด”
จูถงอุ้มคุณชายน้อยไปหน้าจวน ซื้อขนมและผลไม้ให้กินแล้วพาเดินเที่ยวรอบหนึ่งก่อนจะกลับเข้ามา เจ้าเมืองเห็นกลับมาจึงถามว่า “ไปที่ไหนมาลูก”
เสี่ยวหยาเน่ยตอบว่า “ท่านเคราพาข้าไปเดินที่ถนน แล้วซื้อขนมกับผลไม้ให้ข้ากิน”
เจ้าเมืองว่า “ท่านเอาเงินที่ไหนมาซื้อขนมให้ลูกข้ากิน”
จูถงว่า “เป็นการแสดงความภักดีของผู้น้อย หาจำต้องใส่ใจ”
เจ้าเมืองจึงให้นำเหล้ามาให้จูถงดื่ม และให้บ่าวนำผลไม้ใส่กล่องเงินมาให้กินแกล้มเหล้าด้วย จูถงดื่มไปสามจอก
เจ้าเมืองว่า “หากลูกข้าอยากเล่นกับท่านเมื่อใด ท่านก็อุ้มเขาไปเล่นด้วยเถิด”
จูถงว่า “นายท่านผู้มีพระคุณมีบัญชา ย่อมมิอาจขัด”
นับแต่วันนั้น จูถงก็พาคุณชายน้อยไปเที่ยวเล่นทุกวัน
ล่วงไปครึ่งเดือนถึงวันที่สิบห้าเดือนเจ็ดเป็นวันเทศกาลอุลลัมพน 盂兰盆 หรือวันสารทจีน มีการลอยโคมประทีป หรือลอยกระทงของจีน เย็นวันนั้น แม่นมมาบอกจูถงว่า “จูตูโถว เย็นนี้คุณชายน้อยอยากไปดูลอยประทีป ฮูหยินบอกว่าให้ท่านอุ้มไปเที่ยวดูด้วย”
จูถงว่า “ผู้น้อยพาไปเอง”
คุณชายน้อยแต่งชุดเขียว หมวกมีสร้อยมุกห้อยมาสองสายซ้ายขวา จูถงให้ขี่หลังพามายังวัดพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ 地藏寺 (ตี้จ้างสื้อ) เพื่อชมลอยประทีป 河灯
钟声杳霭,幡影招摇。
炉中焚百和名香,盘内贮诸般素食。
僧持金杵,诵真言荐拔幽魂;
人列银钱,挂孝服超升滞魄。
合堂功德,画阴司八难三涂;
绕寺庄严,列地狱四生六道。
杨柳枝头分净水,莲花池内放明灯。
ระฆังวิเวกวังเวง   เหง่งหง่างบรรเลง
โบกธงธวัชสะบัดเงา
ร้อยสุคนธ์ปนในเตา   ระรื่นชื่นเผา
สรรพาหารพิสุทธิ์ในจาน
สงฆ์เคาะไม้ทองคำคาน   ท่องมนต์ขับขาน
ยุดฉุดยกเหล่าดวงวิญญา
ผู้คนอุทิศเงินตรา   ไว้ทุกข์ขมา
ปลดปล่อยสัมภเวสี
ทำบุญร่วมโบสถ์เป็นพลี   หลุดสามวิถี
พ้นแปดวิบากพรากพบ
เวียนรอบวัดส่งประสบ   สัมปารยภพ
โยนิสี่กามภูมิหก
ยอดหยางหลิ่วเสกอุทก   พ้นสิ่งสกปรก
ลอยประทีปกลางบึงบัว
(กามภูมิ 11 นั้น หากนับฉกามาพจรภูมิ หรือสวรค์หกชั้นเหลือเพียงหนึ่งคือสวรรคภูมิ 天道 จะเหลือเพียงกามภูมิ 6 六道)
จูถงให้คุณชายน้อยขี่หลังเดินเวียนรอบวัดหนึ่งรอบมาถึงหน้าหอสุ่ยลู่ 水陆堂 (หอประกอบพิธีทิ้งกระจาด) ดูเขาลอยประทีปในบึงปล่อยทาน คุณชายน้อยปีนรั้วขึ้นไปดูแล้วหัวเราะชอบใจ
ด้านหลังมีคนกระตุกแขนเสื้อจูถงกล่าวว่า “ท่านพี่ ขอคุยด้วยหน่อย”
จูถงหันกลับมาดูเห็นว่าเป็นเหลยเหิงจึงรีบบอกคุณชายน้อยว่า “เสี่ยวหยาเน่ย ท่านลงมานั่งตรงนี้สักครู่ ข้าจะไปซื้อขนมมาให้กิน”
คุณชายน้อยว่า “ท่านรีบกลับมา ข้าจะไปดูโคมตรงสะพาน”
จูถงว่า “ข้าไปเดี๋ยวเดียวก็มา” แล้วก็หันกลับมาคุยกับเหลยเหิง
จูถงว่า “น้องเราทำไมมาอยู่ที่นี่”
เหลยเหิงฉุดจูถงหลบมายังมุมสงบ กระทำคารวะแล้วว่า “ตั้งแต่พี่ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ ข้ากับแม่เฒ่าไม่มีที่ไป ได้แต่ไปพึ่งเขาเหลียงซานขอเข้าร่วมเป็นพวกท่านซ่งกงหมิง ผู้น้องเล่าให้ฟังถึงบุญคุณของพี่ท่าน ซ่งกงหมิงจึงรำลึกถึงวันเก่าที่ท่านเคยช่วยเหลือไว้ ท่านโลกบาลเฉาและเหล่าหัวหน้าต่างยังตระหนักอยู่ไม่น้อย จึงให้ท่านเสธ.อู๋และผู้น้องมาเยี่ยมเยียน”
จูถงว่า “ท่านอาจารย์อู๋ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
อู๋ย่งโผล่มาจากด้านหลังว่า “อู๋ย่งอยู่นี่” กล่าวจบก็กระทำคารวะ
จูถงรีบตอบรับแล้วว่า “ไม่พบกันนาน ท่านอาจารย์สุขสบายดี”
อู๋เสวียจิวว่า “เหล่าพี่น้องบนเขาต่างส่งความระลึกถึงมา และเที่ยวนี้ให้ข้ากับเหลยตูโถวมาเชิญใต้เท้าขึ้นเขาไปร่วมอุดมการณ์ด้วยกัน พวกเรามาถึงหลายวันแล้วไม่กล้ามาพบ รอจนวันนี้โอกาสเหมาะ จึงมาขอเชิญท่านกลับขึ้นเขาไปด้วยกันสมปณิธานท่านเฉาและซ่ง”
จูถงฟังแล้วนิ่งไปพักใหญ่แล้วว่า “ท่านอาจารย์ผิดแล้ว อย่าพูดเรื่องนี้เลย เดี๋ยวคนอื่นได้ยินเข้าจะไม่ดี น้องเหลยเหิงทำความผิดมีโทษถึงประหาร ข้าปล่อยไปด้วยคุณธรรม แต่ก็ไม่มีที่ยืนจึงต้องขึ้นเขาไป ส่วนข้าแม้จะถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่ แต่หากฟ้าเมตตา เพียงปีกว่าก็ยังอาจกลับบ้านไปใช้ชีวิตปกติได้ เหตุใดข้าจะต้องขึ้นเขาด้วย ท่านทั้งสองเชิญกลับไปเถิด อย่ารีรอเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีกเลย”
เหลยเหิงว่า “พี่ท่านอยู่ที่นี่ก็ได้แต่คอยรับใช้ผู้อื่น หาใช่วิถีชายชาตรี ไม่ใช่ผู้น้องจะบังคับท่านขึ้นเขาหรอก แต่ท่านเฉา ซ่งทั้งสองชื่นชมท่านมานานแล้ว อย่ามัวรีรออยู่เลย”
จูถงว่า “น้องเรากล่าวเช่นนี้ได้อย่างไร ข้าเห็นแก่แม่เฒ่าของท่านปล่อยท่านไป ท่านกลับมาต่อว่าข้าไม่เห็นแก่คุณธรรม”
อู๋เสวียจิวว่า “เอาเถิด เมื่อตูโถวท่านไม่ยินยอมไป พวกเราก็ขออำลาก็แล้วกัน”
จูถงว่า “ฝากบอกเหล่าหัวหน้าว่าผู้น้อยรำลึกถึง”
แล้วก็พากันเดินกลับมายังข้างสะพาน แต่คุณชายน้อยหายตัวไปเสียแล้ว
ตอนก่อนหน้า : ไป๋สิ้วอิง
ตอนถัดไป : พายุหมุนน้อยพายุหมุนดำ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา