ท่อง Grand Canyon ดินแดนมหัศจรรย์
Chapter 71/5: The Nature's Majesty, Grand Canyon
Grand Canyon แผ่นดินที่ถูกธรรมชาติและกาลเวลาสรรค์สร้างจนกลายเป็นดินแดนแห่งหุบเขาที่ทั้งสูงสง่าและน่าเกรงขาม อีกหนึ่ง highlight ของ Road Trip นี้ที่เราจะไม่ยอมพลาดแน่นอน
มาถึงอีกหนึ่งที่เที่ยวที่เรารอคอย Grand Canyon ค่ะ วันนี้แพลนคือจะไปแค่ที่นี่ที่เดียวเพราะมันกว้างใหญ่มากคิดว่าคงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เสร็จแล้วตอนเย็นจะกลับมาเดินเล่นใน Flagstaff ซักหน่อยเพราะวันรุ่งขึ้นเราก็จะออกเดินทางต่อไปยังรัฐ Nevada แล้ว
เช้านี้ออกจากบ้านที่ Flagstaff ประมาณ 9.30 เพราะ Grand Canyon อยู่ไม่ไกลมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. ค่ะ
ภูเขา Humphreys เมือง Flagstaff
แวะถ่ายรูปกับภูเขาหน้าบ้านอีกแล้ว วันนี้ดูสวยกว่าเมื่อวานอีกนะเนี่ย
นั่งรถเพลินๆ ก็ถึง Grand Canyon National Park (อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน) ค่ะ พวกเราเลือกมาเที่ยวฝั่ง South Rim เพราะใกล้ที่สุด แต่ก่อนอื่นต้องเสียค่าเข้าอุทยานก่อน สำหรับ Private Vehicle (รถยนต์ส่วนตัวรวมถึงรถ van) ค่าเข้าอยู่ที่คันละ 35 USD สามารถเข้ามาเที่ยวได้ตั้ง 7 วันแน่ะ เสียดายเรามากันแค่ครึ่งวันเอง
ได้แผนที่มา 1 ใบ
มารู้จักความยิ่งใหญ่ของ Grand Canyon ก่อนเริ่มเที่ยวกันซักนิด 🤓
Grand Canyon คือหุบเขาลึกและหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำ Colorado เป็นเวลาถึง 990 ล้านปีมาแล้ว มีระยะทางยาวกว่า 450 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐ Arizona
เดิมพื้นที่บริเวณ Grand Canyon เป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ที่มีแม่น้ำ Colorado ไหลผ่าน ซึ่งในอดีตแม่น้ำ Colorado เป็นเพียงแค่ลำธารเล็กๆ ที่ไหลคดเคี้ยวไปมาเท่านั้น
ต่อมาพื้นที่บริเวณนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาครั้งใหญ่จากการที่แผ่นเปลือกโลกยกตัวสูงขึ้น ทำให้ที่ราบสูงแห่งนี้เกิดการยกตัวแล้วกลายสภาพเป็นแนวเทือกเขาขนาดใหญ่ และการยกตัวนี้ส่งผลให้แม่น้ำ Colorado เกิดการไหลที่เร็วและแรงขึ้นจากความลาดชันที่เปลี่ยนไป
และจากการที่ชั้นดินถูกยกตัวขึ้นส่งผลให้มันถูกแสงแดดแผดเผาจนแห้งแล้งและไม่สามารถดูดซับน้ำได้ เมื่อเกิดฝนตกลงมาปริมาณน้ำบวกกับกระแสลมก็ค่อยๆ กัดกร่อนชั้นดินเหล่านี้ต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายล้านปี จนทำให้มันกลายสภาพเป็นหุบเขาลึกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
Grand Canyon ถูกค้นพบเมื่อปี 1869 โดยนักสำรวจชาวอเมริกัน John Wesley Powell (จอห์น เวสลีย์ พาวเวลล์) ที่เข้าไปทำการสำรวจหุบเขาตามเส้นทางของแม่น้ำ Colorado โดยใช้คนเพียง 9 คนกับเรือไม้เล็กเพียง 4 ลำเท่านั้น
Grand Canyon นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1979
ภายในอุทยานแห่งชาติ Grand Canyon จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ North Rim, South Rim และ West Rim
North Rim หรือขอบผาด้านเหนือ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ Grand Canyon และเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยาน พื้นที่บริเวณนี้จะมีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากที่สุด มีป่าสนสีเขียวปกคลุมทำให้ไม่แห้งแล้งเหมือนพื้นที่ส่วนอื่น แต่ในฤดูหนาว North Rim จะมีหิมะตกหนักจนไม่สามารถเที่ยวได้ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเที่ยวที่นี่ในช่วงฤดูร้อนมากที่สุด
South Rim หรือขอบผาด้านใต้ พื้นที่ส่วนนี้จะมีป่าน้อยกว่า North Rim แต่ก็มีวิวทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่มากกว่า เป็นบริเวณที่มีอากาศอบอุ่นและเป็นส่วนที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด
และ West Rim หรือขอบผาด้านตะวันตก อยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ชนพื้นเมือง พื้นที่บริเวณนี้จะมีความแห้งแล้งมากที่สุด แต่มี highlight ที่เจ๋งมากของที่นี่คือ Skywalk หรือจุดชมวิวที่เป็นพื้นกระจกรูปตัว U ที่มีความสูงที่สุดในโลก (แต่เราไม่ได้ไป เพราะเราเลือกไป South Rim)
เรามาจอดรถที่ Visitor Center ที่นี่มีห้องน้ำให้บริการเยอะและสะอาดพอสมควรเลยค่ะ
ที่ South Rim มี Visitor Center หลายจุดเลย
เดินไปที่จุดชมวิวจุดแรก Mather Point Overlook จากตรงนี้ถ้าใครขี้เกียจขับรถก็สามารถขึ้นรถ Shuttle Bus ไปที่จุดชมวิวอื่นๆ ได้ด้วยนะ
จุดชมวิวแห่งนี้ถูกตั้งตามชื่อของ Stephen Tyng Mather (สตีเฟน เมเทอร์) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการคนแรกของกรมอุทยานแห่งชาติ
Stephen Tyng Mather (ขอโทษที่รูปย้อนแสงมาก)
Stephen Tyng Mather เป็นผู้มีคุณูปการในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและพื้นที่ธรรมชาติเพื่อสาธารณประโยชน์ และเป็นผู้ริเริ่มในการจัดตั้งกรมอุทยานแห่งชาติขึ้นเพื่อปกป้อง ดูแลรักษา และจัดการอุทยานแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพ จนทำให้การท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเป็นที่นิยม
เดินลงมาก็เห็นวิวสุดลูกหูลูกตาแบบนี้
ยิ่งใหญ่มากๆ
มันยิ่งใหญ่เกินคำบรรยายจริงๆ ตอนที่ยืนดูวิวอยู่ตรงนั้นรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กยิ่งกว่ามดอีก
ถ้าสังเกตุดูจะเห็นว่าชั้นหินแต่ละชั้นของ Grand Canyon จะมีสีที่แตกต่างกัน มีทั้งสีส้ม สีแดง สีเขียวอ่อน และสีชมพู ซึ่งแตกต่างกันตามความลึกของชั้นหินนั่นเอง ในส่วนที่ลึกมากๆ จะเป็นสีน้ำตาล สีเทา และสีม่วง
เห็นคนยืนอยู่ตรงหน้าผามั้ย นั่นล่ะ เดี๋ยวเราจะไปตรงนั้นกัน
จากจุด Mather Point เราเดินต่อไปยังหน้าผาอันถัดไปที่เห็นเพราะตรงนั้นไม่มีรั้วกั้น อยากได้วิวแบบเสียวๆ ซักนิด
มีจุดให้ถ่ายรูปตลอดทาง
หุบเหวที่เห็นมีความลึกกว่า 1 ไมล์หรือประมาณ 1,600 เมตร เลยนะ ลึกสุดใจของจริง
เห็นแบบนี้ แต่ของจริงนี่เสียวสุดๆ เลย ตอนเราพยายามไต่ลงไปก็เห็นมีเด็กๆ อายุประมาณ 10 กว่าขวบไต่ผ่านหน้าลงไปข้างล่างซะไวเชียว แม่ๆ ร้องเรียกกันเสียงหลง ต้องระวังกันมากๆ นะ เพราะมันไม่มีรั้วกั้นเลย
ท้องฟ้าสวยสุดๆ
มาได้ไกลสุดเท่านี้แหละไม่ได้ลงไปถึงข้างล่างสุด ขาสั่นละ 😖
การได้นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นประสบการณ์ที่หาอะไรมาเทียบไม่ได้เลยจริงๆ ได้เห็นความยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติใช้เวลาหลายล้านปีในการสร้างสรรค์ และมันอยู่ตรงหน้าเรานี่เอง
สวยจนขอนอนตายแพร๊บ…
หลังจากชื่นชมภาพข้างหน้าจนอิ่มตาอิ่มใจแล้ว ก็ได้เวลาไปหาข้าวเที่ยงกินกันละค่ะ ท้องร้องจ๊อกๆ ละ
เดินกลับรถเจอน้องตัวนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นกวางรึเปล่าดูไม่ออก
สัญลักษณ์จุดจอดรถน่ารักเชียว
ได้มาเป็นร้าน Arizona Steakhouse ซึ่งอยู่ภายใน Canyon Grand National Park Lodge ทางทิศตะวันตกของ South Rim ค่ะ
Arizona Steakhouse
ภายในร้านคนเพียบเลย โชคดีมีโต๊ะว่าง
อาหารร้านนี้ก็อร่อยค่ะ
เสร็จจากมื้อเที่ยงก็ไปจุดชมวิวกันต่อค่ะ แค่เดินออกมาจากร้านอาหารก็มีจุดให้ถ่ายรูปกันอีกเพียบ
พยายามถ่ายจุดเดียวกับในรูป…ก็ตรงกันอยู่นาเดินมาเจอสิ่งก่อสร้างที่สะดุดตาเข้า มันคือ Hopi House ค่ะ
พยายามถ่ายมุมเดียวกันกับป้าย…ก็ตรงกันอยู่นา
Hopi House
Hopi House เป็นอาคารที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Puebloan ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอเมริกันเผ่า Hopi ที่มีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ในรัฐ Arizona ด้านในมีงานศิลปะและงานฝีมือของชนพื้นเมืองอเมริกันขายด้วย
อ้อ !!! เราสามารถนั่งรถไฟ Amtrak มาเที่ยวที่ Grand Canyon ได้ด้วยนะ โดยขึ้นรถไฟที่ McCarran International Airport (สนามบินแมคคาร์แรน) ใน Las Vegas มาลงที่เมือง Williams จากนั้นก็ต่อรถไฟสาย Grand Canyon Railway เข้ามาที่ Grand Canyon Village สถานีจะอยู่ในพื้นที่ของ South Rim
สถานีรถไฟภายใน Grand Canyon
จากตรงนี้เราต้องขับรถไปจุดที่ต่อไปค่ะ
ขอโทษด้วยที่เห็นเงา 😓
จุดนี้ถ้าไม่บอกก็คงดูไม่ออก เห็นน้องเป็ดมั้ยคะ? ต้องใช้จินตนาการในการดูหน่อย
Duck on a Rock
น้องเป็ดเค้าประจำการอยู่ที่ Yaki Point ซึ่งอยู่ใกล้กับ Mather Point ที่เราไปกันเมื่อเช้า
ขับรถไปอีกหน่อยก็ถึง Moran Point
Moran Point
จุดชมวิวนี้ตั้งชื่อตาม Thomas Moran ศิลปินชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงจากการวาดภาพทิวทัศน์ทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา ซึ่งภาพวาดของเขามีส่วนช่วยทำให้อุทยานแห่งชาติหลายๆ แห่งรวมถึง Grand Canyon ได้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติในเวลาต่อมา
ไปจุดต่อไปกันที่ Navajo Point
Navajo Point
จุดนี้เป็นที่นิยมสำหรับการมาชมพระอาทิตย์ตกดิน
เราไปจุดสุดท้ายที่ Desert View Watchtower หรือ หอสังเกตการณ์ค่ะ
Desert View Watchtower
Desert View Watchtower ถือเป็น National Historic Landmark หรือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ
สร้างขึ้นในปี 1932 ออกแบบโดยสถาปนิก Mary Colter's (แมรี โคลเตอร์) ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมของชาว Puebloan เช่นเดียวกับ Hopi House
เหตุการณ์ "การชนกันกลางอากาศ"
ในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 1956 เกิดเหตุการณ์เครื่องบิน 2 ลำชนกันกลางอากาศเหนือ Grand Canyon เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุคือเครื่องบินของสายการบิน United Airlines เที่ยวบินที่ 718 และสายการบิน TWA เที่ยวบินที่ 2 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 128 คน ซึ่งการชนกันเกิดขึ้นในน่านฟ้าที่ไม่มีการควบคุม สะท้อนให้เห็นถึงการควบคุมการจราจรทางอากาศที่ล้าสมัยจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ต่อมาได้เกิดการการปฏิรูปการบินครั้งใหญ่
วิวที่จุดนี้มองเห็นแม่น้ำ Colorado ด้วย
ที่ Desert View สวยมากๆ เลย เพราะได้เห็นทั้ง Grand Canyon, Watchtower และแม่น้ำ Colorado
จากจุดนี้เราก็ขับรถกลับบ้านกันแล้วค่ะ เป็นอันจบการท่องไปใน Grand Canyon สั้นๆ ครึ่งวันของพวกเรา
แต่ Blog นี้ยังไม่จบนะ เดี๋ยวจะพาไปเดินเที่ยวในเมือง Flagstaff กันอีกซักนิดค่ะ
Flagstaff อยู่ทางตอนเหนือของรัฐ Arizona เป็นเมืองที่ผู้คนนิยมมาทำกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งปี
Church of The Nativity of the Blessed Virgin Mary
ในหน้าร้อนที่นี่จะมีอากาศที่เย็นสบาย คนนิยมมาเดินป่า ปีนหน้าผา ตั้งแคมป์ ส่วนในหน้าหนาวก็นิยมมาเล่นสกี และสโนว์บอร์ด เพราะ Flagstaff ตั้งอยู่ที่ความสูงถึง 2,135 เมตร
ในตัวเมืองก็ดูน่ารักดี
และที่สำคัญเมืองนี้อยู่ไม่ไกลจากที่เที่ยวเจ๋งๆ หลายที่ ไม่ว่าจะเป็น Antelope Canyon, Glen Canyon Dam, Horseshoe Bend (ที่เล่าไปใน Blog ที่แล้ว) และ Grand Canyon
เมืองจะดูเงียบๆ หน่อยไม่คึกคักเท่า Phoenix
นอกจากนั้น Flagstaff ยังเป็นส่วนหนึ่งของถนนสายประวัติศาสตร์ที่สำคัญของอเมริกา นั่นก็คือ Route 66 หรือทางหลวงหมายเลข 66 อันโด่งดังนั่นเอง
อ้อ…ที่นี่มีโรงแรมเก่าแก่ดั้งเดิมใจกลางเมืองที่ชื่อ The Weatherford Hotel ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1897 แล้ว และเขาเล่ากันว่าที่โรงแรมแห่งนี้มีผีสิงด้วยล่ะ 👻
The Weatherford Hotel
เป็นประสบการณ์จากแขกที่มาเข้าพักแล้วเคยเห็นวิญญาณ หรือเจอเข้ากับประสบการณ์เหนือธรรมชาติ ก็เลยเล่าต่อๆ กันมา ไม่รู้นะว่าจริงไม่จริงแต่เราไม่ขอพิสูจน์ดีกว่า 🫣 แต่รูปห้องพักใน website ก็ดูใหม่ สะอาด และสวยมากเลยนะ ใครอยากมีประสบการณ์เหนือธรรมชาติที่อเมริกา มาลองพักที่นี่ก็ได้นะ
ก็จบไปแล้วกับ Blog Grand Canyon หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สุดจะยิ่งใหญ่อลังการของโลก
ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวเมืองน่ารักๆ อีกเมือง อย่าลืมมาเจอกันนะคะ สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 😊
- 24
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
