10 มิ.ย. เวลา 07:39 • ประวัติศาสตร์

คนและปรัชญา EP.2 เม่งจื๊อ (Mencius)

ในยุคราชวงศ์โจว เป็นแม้จะเป็นยุคที่มีแต่ความวุ่นวาย ทั้งความอ่อนแอของราชสำนักที่เมืองหลวงจนก่อให้เกิดยุคชุนชิวและยุคจั้นกั๋ว แต่ในขณะเดียวกันในช่วงเวลาราชวงศ์โจวนั้นก็ยังเนยุครุ่งเรืองยุคแรกของความรู้และภูมิปัญญา โดยเฉพาะปรัชญาและลัทธิต่างๆซึ่งรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก นักปรัชญาที่เรารู้จักกันซึ่งอยู่ในยุคราชวงศ์โจวนั้น เช่น ขงจื้อ เล่าจื้อ ซุนวู แต่กระนั้นก็ตามก็ยังมีนักปรัชญาชื่อดังคนหนึ่งที่มีแนวคิดเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง บุคคลนั้นมีว่า เม่งจื้อ
เม่งจื้อ นั้นเราไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเขานั้นเกิดมีชีวิตอยู่ในช่วงใด แต่จากหลักฐานและจากการค้นคว้ากัน เป็นไปได้ว่า เม่งจื้อมีชีวิตประมาณช่วง 372-289 ปีก่อนคริสตกาล บริเวณมณฑลซานตงโดยที่เขานั้นเป็นชาวเมืองจู เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวของเขาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถทราบถึงเรื่องราวชีวิตของเม่งจื้อในช่วงเกิดและวัยเด็กของเขา
แต่เมื่อเราพอจะสามารถคาดเดาช่วงเวลาที่เขาเกิดได้ ทำให้เราพอที่จะรู้ว่าเม่งจื้อเกิดในช่วงชุนชิว ซึ่งเป็นยุคแห่งความวุ่นวายเป็นช่วงเวลาที่บรรดาเจ้าเมืองต่างๆช่วงชิงพื้นที่กันด้วยไหวพริบ สติปัญญาและพละกำลัง เนื่องจากราชสำนักราชวงศ์โจวนั้นเกิดความอ่อนแอจนไม่สามารถควบคุมหัวเมืองต่างๆเอาไว้ได้ ถือเป็นช่วงเวลาที่มีแต่ความโกลาหล ซึ่งต่อมายุคชุนชิวจะก่อนให้เกิดยุคจั้นกั๋วหรือยุคแห่งวามแตกแยก ก่อนจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในยุคของปฐมจักรพรรดิฉินซื่อหวัง
โดยหลักฐานเกี่ยวกับตัวเขานั้นส่วนใหญ่เริ่มกล่าวถึงเขาในช่วงที่เขานั้นได้เข้าเป็นศิษย์ในสำนักของขงจื้อ โดยมีการกล่าวว่า เม่งจื้อในช่วงต้นนั้นมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการเผยแพร่แนวความคิดของขงจื้อซึ่งรับแนวคิดมาจากหลานชายของขงจื้อ ทำให้เม่งจื้อกลายเป็นศิษย์ของขงจื้อโดยปริยาย แต่กระนั้นก็ตามภายหลังเม่งจื้อก็ได้เปลี่ยนจากการถ่ายทอดแนวคิดของขงจื้อมาเป็นนักปราชญ์ผู้เผยแพร่แนวความคิดของตัวเอง
ซึ่งแนวคิดของขงจื้อนั้นมีอิทธิพลทางความคิดของเม่งจื้อเป็นอย่างมาก โดยแนวความคิดของเม่งจื้อถือเป็นหนึ่งในแนวคิดที่สำคัญเป็นอย่างมากในลัทธิขงจื้อ
แนวคิดของเม่งจื้อนั้นกล่าวถึงแนวคิดธรรมชาติของมนุษย์ เม่งจื้อกล่าวว่า มนุษย์โดยธรรมชาตินั้นมีความดีอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีความประพฤติที่ไม่ดีอยู่บ้าง แต่ธรรมชาติโดยแท้จริงของมนุษย์ประกอบไปด้วยคุณธรรม 4 ประการ นั่นคือ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือความกรุณา การกระทำที่ชอบธรรมหรือความยุติธรรม ความละอายใจต่อความประพฤติที่ไม่ดีของตนหรือความละอายใจ และการรู้จักแยกแยะถูก-ผิดหรือปัญญา
นอกจากเรื่องของธรรมชาติของมนุษย์แล้ว เนื่องจากเม่งจื้อเกิดในยุคแห่งความโกลาหล แนวคิดเรื่องการเมืองการปกครองจึงเข้ามามีอิทธิพลทางความคิดของเม่งจื้อด้วยเช่นกันโดยเม่งจื้อกล่าวว่า คุณธรรมและความกรุณาเป็นคุณสมบัติของผู้ปกครองที่ดี หากผู้ปกครองมีคุณธรรม ประชาชนใต้ปกครองจะเชื่อฟังและปฏิบัติตาม ประเทศชาติก็ย่อมจะเจริญรุ่งเรือง เม่งจื้อมองว่า ผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครองต้องมีความสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ประเทศได้รับการพัฒนาโดยการร่วมไม้ร่วมมือกันจากทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้เม่งจื้อยังให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่า นอกจากความดีและคุณธรรมที่มีความสำคัญในการสร้างศิลปะวิทยากรต่างๆแล้ว การศึกษาก็มีผลเป็นอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากประชาชน แต่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองที่ขาดซึ่งความรู้และความสามารถ หรือไม่กระทั่งขาดซึ่งคุณธรรม เม่งจื้อมองว่า ผู้ปกครองความเป็นนักปราชญ์ผู้มากความสามารถและความรู้เพื่อพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรือง
แนวคิดของเม่งจื้อนั้นถือว่ามีความแตกต่างจาก ซุนจื้อ ศิษย์ของขงจื้ออีกคน ซึ่งกล่าวว่า โดยธรรมชาติของมนุษย์มีความชั่วร้ายเป็นพื้นฐาน จึงต้องมีการอบรมและขัดเกลาตนเองและสร้างคุณธรรมในตัวเองเพื่อขจัดและลบล้างความชั่วร้ายในตัวเอง ผลงานชิ้นสำคัญเพียงชิ้นเดียวที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันนั้นคือ Mengzi ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมแนวคิดของเขาเอาไว้ ในปัจจุบันถือเป็นตำราชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของจีนที่มีอิทธิพลในด้านความคิด การศึกษาและการปกครองในยุคปัจจุบัน
ในการใช้ชีวิตของเม่งจื้อนั้นเราแทบจะไม่ทราบเลย โดยทราบเพียงแค่ว่า เม่งจื้อนั้นมีความสุขกับเดินทางออกสั่งสอนหลักความคิดของเขาและก่อนที่เขาจะลาออกจากราชการ โดยในช่วงบั้นปลายชีวิตของเม่งจื้อนั้น เขาได้ถอนตัวจากบทบาททางการเมืองและมุ่งเน้นความสนใจไปในด้านการศึกษาและเผยแพร่แนวความคิดของตนเอง โดยเขาได้หันมาใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบและเรียบง่าย ซึ่งมีเพียงลูกศิษย์ของเขาเป็นผู้ติดตาม พร้อมกันนี้เขายังใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายในการเขียนหนังสือ ชื่อ Mengzi
เม่งจื้อเสียชีวิตลงในช่วงปี 289 ก่อนคริสตกาล ที่เมืองจู รัฐซง ซึ่งเขาได้เสียชีวิตลงในระหว่างยุคชุนชิวและยุคจั้นกั๋ว โดยที่แนวคิดของเม่งจื้อกลายเป็นมรดกตกทอดที่ได้รับการยอมรับและมีการศึกษาอย่างแพร่หลายในช่วงราชวงศ์ฮั่นและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่แนวคิดทางปรัชญายุคคลาสสิคที่สำคัญของลัทธิขงจื้อ และในปัจจุบันก็ยังถูกหยิบยกมาใช้อยู่เสมอมา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา