15 มิ.ย. เวลา 16:22 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

หาญท้าชะต้าฟ้า 2 อำนาจต้องถ่วงดุล

ตอนที่ดูหาญท้าชะตาฟ้า ภาคแรก ก็คิดว่าสนุกดี แต่ไม่ถึงกับชอบมากมายอะไรนัก เปรียบเทียบกันแล้วชอบภาคสองมากกว่า
ภาคแรกทิ้งท้ายไว้ว่า ฟ่านเสียนถูกแทง แน่นอนว่าต้องไม่ตาย เพราะเขาเป็นพระเอก (ฮา) อันนี้เดาได้ไม่ยาก
ภาคสองเนื้อเรื่องค่อย ๆ เผยให้เห็นตัวตนของทุกคนที่เกี่ยวพันกับฟ่านเสียนมากขึ้น เขาได้แต่งงานกับหว่านเออร์ รับสืบทอดกรมคลังจากองค์หญิงใหญ่ หลิวอวิ่นรุย ความลับเรื่องฟ่านเสียนเป็นลูกของฮ่องเต้กับเย่ชิงเหมยรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว หลังแต่งงานก็ต้องเดินทางไปเจียงหนานเพื่อจัดการกับทรัพย์สินต่าง ๆ ของกรมคลัง และเรื่องอื่น ๆ ที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งก็ต้องรอภาค 3 ต่อไป
นอกเหนือจากเรื่องราวชิงไหวชิงพริบกันอย่างสนุก ออกแนวฮา ๆ กวน ๆ แล้ว ภาคสองยังมีเรื่องให้ชวนคิดหลายประเด็น
ประเด็นแรก ฮ่องเต้คือลาสบอส ที่เขียนบทให้ทุกคนในเรื่องเดินไปตามทางที่เขากำหนด เพื่อรักษาอำนาจของตนเองเอาไว้ ถ้าเชียร์พระเอกก็คงต้องบอกว่าฮ่องเต้คือผู้ร้ายที่สุดของเรื่องนี้
แต่หากมองจากมุมของฮ่องเต้ การรักษาอำนาจของตนเองเป็นเรื่องปกติ ในฐานะนักปกครองก็ต้องพยายามถ่วงดุลอำนาจของขุนนางต่าง ๆ ให้เหมาะสม ยิ่งเป็นเหล่าพระญาติ พระวงศ์ที่เป็นเสนาบดี ถ้าไม่บริหารอำนาจและถ่วงดุลให้ดีมันก็จะพังกันทั้งหมด เพราะทั้งเสนาอมาตย์ ข้าราชบริพาร ญาติ ลูก ล้วนแต่ไม่ธรรมดาทั้งนั้น มีโอกาสเมื่อไหร่ก็พร้อมแย่งบัลลังก์
อย่างกรณีหลี่อวิ่นรุย ที่ในคุมกรมคลังมาแต่ต้นรัชกาล เพราะให้น้องสาวคุม ย่อมดีกว่าให้ใครไม่รู้มาคุมเงินทองของแผ่นดิน จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ของคนเป็นจำนวนไม่น้อย ตอนไม่มีอำนาจในมือ ก็ดูจะเป็นคนดีเชื่อถือได้ แต่พอเริ่มมีลาภยศสรรเสริญ เงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็มีโอกาสหลงอำนาจ ยิ่งหลี่อวิ่นรุยหนุนหลังองค์ชายรองที่มีเป้าหมายชิงบัลลังก์ ฮ่องเต้ก็ย่อมปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องจัดการเปลี่ยนมือคนคุมกรมคลัง
กระนั้นจะเปลี่ยนมือไปให้ใครสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้ นอกจากต้องเป็นคนที่ฮ่องเต้ไว้ใจได้แล้ว ก็ต้องเป็นคนที่หลี่อวิ่นรุยจำต้องยอมรับ เช่น ลูกเขย ซึ่งก็ต้องหาคนที่เหมาะสมมาเป็นลูกเขยอีก แจ็คพอตนี้ก็มาตกที่ ฟ่านเสียน ซึ่งเป็นลูกของฮ่องเต้กับเย่ชิงเหมย
สรุปรวมความแล้ว ก็แค่เปลี่ยนจาก “น้อง” มาเป็น “ลูก” นั่นแสดงให้เห็นว่าฮ่องเต้ยังคงคุมอำนาจสำคัญคือ การเงินเอาไว้ได้เหมือนเดิม
ส่วนอำนาจทหารนั้น อยู่ในมือองค์ชายใหญ่ ซึ่งต้องเรียกว่าฮ่องเต้โชคดี เพราะลูกชายที่มีกำลังทหารไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่แย่งชิงอำนาจกับใคร แม้จะบอกก็ว่าองค์ชายใหญ่ไม่มีสิทธิเป็นรัชทายาทโดยกำเนิดอยู่แล้ว แต่องค์ชายรองซึ่งไม่มีอำนาจทหารด้วยซ้ำ แค่ฉลาดมากหน่อยแถมด้วยมีอาหนุนหลัง ก็ยังคิดจะแย่งชิงอำนาจเลย
เรื่องที่องค์ชายรองตัดพ้อว่า ฮ่องเต้ใช้ตนเองขัดเกลาองค์รัชทายาทนั้น ก็อาจมีส่วนถูก แต่ในเมื่อองค์ชายรองฉลาดขนาดนั้น มันไม่จำเป็นต้องเล่นตามเกมของฮ่องเต้ก็ได้ แต่อำนาจมันก็ยั่วยวนแหละนะ
จะโทษฮ่องเต้ทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะจะว่าไป ไม่ใช่ว่าฮ่องเต้ไม่รู้ว่าองค์ชายรองพยายามแย่งชิงอยู่ แต่ไม่ว่าจะทำผิดขนาดไหน ฮ่องเต้ก็ยังไม่ลงโทษถึงตายอยู่ดี เพราะอย่างไรเสียนั่นก็ลูก เหมือนกับฟ่านเสียนนั่นแหละ
กรณีจัดฉากให้ฟ่านเสียนกับสำนักตรวจสอบเกลียดกัน มันก็คือการถ่วงดุลอำนาจ เพราะเมื่อฟ่านเสียนมาคุมกรมคลังก็จะกลายเป็นฝ่ายถูกตรวจสอบ ฝ่ายตรวจสอบจึงไม่ควรจะสนิทสนมกับฝ่ายถูกตรวจสอบ
การที่ฮ่องเต้ทำให้ฟ่านเสียนโดดเดี่ยว เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว หากจะทำให้การปกครองดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ละฝ่ายต้องสามารถตรวจสอบกันได้อย่างถึงที่สุด
ประเด็นใหญ่ที่สุดของเรื่อง คือการสอบชุนหยวน เนื้อเรื่องช่วงนี้ว่าด้วยเรื่อง “ความยุติธรรม” ซึ่งอาจเป็นคนละเรื่องกับ “ความเป็นธรรม”
ระหว่างเรียนหนังสือที่คณะนิติศาสตร์ จำได้ว่าอาจารย์เคยบอกว่าคำว่า “ความยุติธรรม” หมายถึง ความยุติธรรมภายใต้ "กฎ" หมายเดียวกัน ดังนั้น การทำตามกฎเกณฑ์เป๊ะ ๆ ทุกอย่าง อาจไม่ใช่ “ความเป็นธรรม” สำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยสถานะทางสังคมย่อมด้อยโอกาสตามไปด้วย
ฟ่านเสียนนั้น ตามนิยายเป็นคนในอนาคต (ของอนาคต) ที่ย้อนอดีตมา เขาพยายามจะเปลี่ยนแปลง ทำให้สังคมที่เขาอยู่ดีขึ้น
คนดูย่อมชื่นชมพระเอกที่เป็นฮีโร่แบบนี้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ฟ่านเสียนเองนั้นก็ไม่ใช่คนธรรมดา การที่เขาสามารถปรับระบบ กำจัดคนทุจริตได้ เพราะเขาเองก็มี “อำนาจบารมี” ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ขนาดที่เรียกได้ว่ามีสารพัด “เส้นสาย” ผู้สนับสนุนเพียบ ไล่ตั้งแต่ฮ่องเต้ลงมา ไหนจะเพื่อนแม่ ลูกน้องแม่ คนที่เคารพนับถือแม่อีกนับไม่ถ้วย ตำแหน่งก็ไม่ใช่ไก่กาอารเร่แม้แต่น้อย ยังไม่นับท่านอาเทอร์มิเนเตอร์อีกคน
ตัวละครที่อยากพูดถึง
รัชทายาท ภาคนี้เปิดตัวมาแล้วว่าไม่ได้ หน่อมแน้ม แต่อย่างใด โหดและเห็นแก่อำนาจเลยทีเดียว ต้องรอดูในภาค 3 ว่าถ้าฟ่านเสียนรู้ความจริง จะเป็นอย่างไร รวมถึงจะฟาดฟันกับองค์ชายรองได้กันหนักขนาดไหน (จริง ๆ ได้อ่านสปอยแล้ว ก็นะ ตาอยู่ชนะตลอด )
รั่วรั่ว ชอบบุคลิกความเป็นอัจฉริยะของนางมาก พี่ชายให้ทำอะไร ทำได้หมด เป็นหมอก็ได้ เป็นสไนเปอร์ก็พร้อม จะว่าไปบ้านฟ่านลูกเก่งทุกคน ฟ่านซือเจ๋อ ลูกชายคนเล็กที่ดูเหมือนจะไม่เอาเรื่องเอาราว แต่ก็เก่งเรื่องค้าขายเสียอย่างนั้น แถมเป็นบ้านที่น่ารักมีความสุขมากที่สุดแล้วในเรื่อง
หว่านเออร์ ฉลาดเข้าใจโลกทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องที่ท่านอาเทอร์มิเตอร์ฆ่าพี่ชายตัวเอง เข้าใจได้ว่ารักพี่ชายมาก แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเป็นสมาชิกของครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับอำนาจการปกครอง แน่นอนว่าชีวิตย่อมสุขสบายกว่าคนทั่วไป แต่ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย และมันก็ไม่ใช่เรื่องใครผิด ใครถูก แต่เป็นเรื่องของใครชนะ ใครแพ้ ถ้าพี่ชายของหว่านเออร์ชนะ คนที่ตายก็อาจเป็นฟ่านเสียน แล้วคนที่ตาย ๆ กันไป ก็ล้วนแต่เป็นญาติ หรือถูกญาติฆ่าตายกันทั้งนั้น จะฆ่าท่านอาไปก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
คนที่เข้าใจเรื่องนี้ดีที่สุดคือ ฮองเฮา แม้จะแค้นฟ่านเสียนเพราะเป็นลูกของเย่ชิงเหมยขนาดไหน ก็ต้องกล้ำกลืนเอาไว้ เพื่ออนาคตของรัชทายาท เพราะคนตายก็ตายไปแล้ว
ว่ากันตามจริง ฮ่องเต้ฉลาดล้ำลึก วางแผนถ่วงดุลได้เทพมาก ( อันนี้ไม่พูดว่าฮ่องเต้ดีหรือไม่ดี) ฮองเฮาได้สถานะ ลูกชายได้เป็นรัชทายาท แต่ไม่มีตระกูลหนุนหลัง เพราะถูกประหารยกบ้าน ดังนั้นไม่มีทางจะชิงอำนาจจากฮ่องเต้ได้เลย
เย่ชิงเหมย จริง ๆ ในภาคนี้ก็มีออกให้เห็นนิดเดียว แต่เป็นตัวละครที่ถูกพูดถึงตลอดเวลา และยังคงเป็นความลับว่านางเป็นใครมาจากไหน และตายเพราะอะไร ฉลาดขนาดนั้นทำไมถึงตาย ( คนอ่านหนังสือคงตอบได้แล้ว)
สำหรับเรื่องราวที่ปรากฏในภาคสอง ดูเหมือนคนรอบตัวฮ่องเต้ และอีกมากมาย จะชื่นชมเย่ชิงเหมยมาก จนทำให้ฮ่องเต้กลายเป็นตัวร้าย
ผู้เขียนมีคำถามว่า เย่ชิงเหมยจะไม่มีข้อเสียเลยหรือ แล้วพลาดถูกฆ่าตายได้อย่างไร คำตอบคงไปหาได้ในภาค 3 ซึ่งทีมงานบอกแล้วว่าคงไม่รอนานเท่าภาคนี้ (กว่าจะถึงเวลานั้นจะเลิกดูละครชุดจีนไปหรือยังก็ไม่รู้)
นักแสดง
ภาคนี้ต้องชมนักแสดงทุกคน โดยเฉพาะเหล่าองค์ชายทั้งหลายที่ลงตัวทั้งชื่อเสียงและฝีมือ เพราะห้าปีที่ผ่านมาได้ปรากฏตัวในละครดังหลายเรื่อง พอกลับมาเล่นหาญฟ้าฯ 2 อีกรอบจึงไม่มีอะไรให้ติเลย รวมทั้งนักแสดงที่เพิ่งปรากฏตัวในภาคนี้ด้วย
ตอนเห็นฮองเฮา รู้สึกคุ้นหน้ามาก พอค้นดู แน่นอนว่าต้องคุ้นสิ เพราะ หยูเฟยหง( 53 ปี ) แสดงภาพยนตร์ เรื่อง The Joy Luck Club ซึ่งผู้เขียนดูไปหลายรอบมาก จนจำบทสนทนาบางประโยคได้มาจนทุกวันนี้
ในเรื่อง The Joy Luck Club เธอเล่นเป็น ying -ying หนึ่งในสี่แม่ ตอนสาว 1 ใน 4 แม่ เป็นสาวเปรี้ยวที่แต่งงานกับหนุ่มเพลย์บอย พอมีลูกก็ทำลูกจมน้ำตาย ประชดพ่อที่เจ้าชู้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา