20 มิ.ย. เวลา 06:25 • ประวัติศาสตร์

สร้าง Landmark EP.3 หอไอเฟล

ฝรั่งเศส ประเทศที่เป็นศูนย์รวมของคำว่า เลิศหรู เป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปกรรม สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ทั้งเรื่องแฟชั่น ภาษา ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ตึกรามบ้านช่องมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ หากพูดถึงอาคารหรือสถานที่ที่แสดงถึงความเป็นฝรั่งเศสคงจะนึกถึงได้หลากหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น พระราชวังแวร์ซาย ซึ่งเป็นตัวแทนของระบอบสมบูรณญาสิทธิราชย์อันยิ่งใหญ่ในสมัยสุริยกษัตริย์อย่าง พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้มีวลีประจำตัวว่า L’Etat, c’est moi หรือ ข้าคือรัฐ
หรือแม้แต่ตัวแทนของความยิ่งใหญ่ของกองทัพฝรั่งเศสในอดีตอย่าง ประตูชัย หรือ Arc de triomphe แต่หนึ่งในสถานที่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงปารีส เมืองหลวงอันสวยงานของฝรั่งเศส อันเป็นสถานที่ที่เป็นเหมือนตัวแทนของการเข้าสู่ยุคใหม่ของโลก นั่นคือ หอไอเฟล
ในปี 1889 ฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานแสดงสินค้าโลก หรือ ปัจจุบันคือ งานนิทรรศการโลก (World Expo) ซึ่งในการจัดงานครั้งนั้นก็ตรงกับวาระครบรอบ 100 ปีการปฏิวัติฝรั่งเศส ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสได้มีมติที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างอันเป็นสัญลักษณ์ของงานและแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยรัฐบาลได้จัดประกวดแบบแปลนสิ่งก่อสร้างที่คู่ควรจะมาตั้งตะหง่านใจกลางกรุงปารีสอันจะเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสยุคใหม่อันรุ่งโรจน์
และแบบแปลนที่ได้รับเลือก คือ หอคอยเหล็กกล้าขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างจากในลักษณะการถัก สูง 984 ฟุต หรือ 300 เมตรในเวลานั้น ซึ่งออกแบบโดยนายกุสตาฟ ไอเฟล รัฐบาลได้ทำสัญญาการก่อสร้างเมื่อวันที่ 8 มกราคม ปี 1887
นายกุสตาฟ ไอเฟล ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง
หอไอเฟลเริ่มการก่อสร้างเมื่อวันที่ 26 มกราคม ปี 1887 หอไอเฟลใช้เวลา 2 ปี 2 เดือน 5 วัน โดยสร้างเสร็จในวันที่ 15 มีนาคม 1889 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม 1889 ในการก่อสร้างหอไอเฟลนี้ถูกต่อต้านอย่างหนักเป็นอย่างมากตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง และถูกวิจารณ์อย่างหนักจากศิลปินและนักเขียนชาวฝรั่งเศส โดยเหล่าศิลปินและนักเขียนได้วิจารณ์หอไอเฟลว่า แท่งเหล็กขนาดใหญ่นี้จะทำลายทัศนียภาพอันงดงามของกรุงปารีสและมันเป็นแท่งเหล็กที่ไม่สวยงามเอาเสียเลย
นอกจากนี้พวกศิลปินและนักเขียนยังได้เขียนจดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชนเพื่อต่อต้านการสร้างหอไอเฟลและพวกเขาก็คัดค้านแบบหัวชนฝา จนหมายฉบับนี้ต่อมาถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Le Temps โดยบรรดาผู้ต่อต้านและเป็นแกนนำในการลงนามในจดหมายฉบับนี้เช่น ชาร์ลส์ กูนอด กีย์ เดอ โมปัสซอง และอเล็กซองดร์ ดูมาส์ ซึ่งพวกเขาได้อ้างว่า สิ่งก่อสร้างนี้ไม่คู่ควรที่จะตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีสและไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมในปารีสที่หรูหราและคลาสสิค
ภาพการก่อสร้างหอไอเฟล
ในฝั่งของสาธารณชนทั่วไปนั้นก็มีความกังวลและมีเสียงคัดค้านอยู่เช่นกัน โดยพวกเขากังวลในความปลอดภัยเนื่องจากหอไอเฟลสูงถึง 984 ฟุต ซึ่งจะกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกในขณะนั้น ที่สร้างจากเหล็กกล้าซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคย พวกเขากังวลหอไอเฟลจะพังทลายลง และมันจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและอาคารต่างๆในบริเวณโดยรอบ และมันอาจจะกระทบกับการดำเนินชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้พวกเขามองว่า หอไอเฟลจะทำให้ทัศนียภาพของกรุงปารีสถูกบดบังและทำให้บรรยากาศที่สวยงามถูกทำลายลง
แต่หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของหอไอเฟลในวันที่ 31 มีนาคม ปี 1889 นั้นได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในงานแสดงสินค้าโลก 1889 หอไอเฟลได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกรุงปารีสมากถึง 2 ล้านคน หอไอเฟลกลายเป็นจุดเด่นสำคัญของงานครั้งนี้ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสยุคใหม่ และสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและนวัตกรรมของยุคใหม่ หอไอเฟลกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่หลังการปฏิวัติอุสาหกรรม
ภายหลังงานจัดแสดงสินค้าในครั้งนั้น ทำให้ประชาชนในกรุงปารีสเริ่มที่จะยอมรับและเห็นถึงประโยชน์ของหอไอเฟลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากหอไอเฟลได้ดึงดูดผู้คนมาท่องเที่ยวมากขึ้นและสร้างรายได้ให้กับกรุงปารีสอย่างมหาศาล กระตุ้นให้ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม ห้างร้านในกรุงปารีสเติบโตมากขึ้น ทำให้ผู้คนในกรุงปารีสชื่นชอบในหอไอเฟลมากยิ่งขึ้น
หอไอเฟลกลายเป็นสัญลักษณ์อันเป็นตัวแทนของกรุงปารีส และภาพของหอไอเฟลถูกนำขึ้นบนภาพโฆษณาเชิญชวนให้ผู้คนมาท่องเที่ยวในกรุงปารีส นอกจากการเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว หอไอเฟลยังเป็นจุดติดตั้งเสาส่งสัญญาณวิทยุและเสาโทรคมนาคมอีกด้วย ซึ่งทำให้หอไอเฟลมีความสูงที่มากขึ้นจาก 984 ฟุตหรือ 300 เมตร เป็น 1,063 ฟุตหรือ 324 เมตร
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะห่างจากปีที่หอไอเฟลเปิดตัวในปี 1889 กว่า 135 ปี แต่หอไอเฟลยังดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและนานวันหอไอเฟลก็จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น โดยในปี 2023 หอไอเฟลได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากถึง 6.3 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากปี 2022 และแซงหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงก่อนโควิดในปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ 6.2 ล้านคน แต่กระนั้นก็ตามที หอไอเฟลก็ผ่านอุปสรรคที่ท้าทายการคงอยู่ของมันมาหลายครั้ง ซึ่งอันที่จริงแล้วหอไอเฟลได้เผชิญกับอุปสรรคมาตั้งแต่เริ่มก่อนสร้าง
และถึงแม้ภายหลังหอไอเฟลจะได้รับการยอมรับ แต่หอไอเฟลก็ยังเผชิญอุปสรรคอย่างเนืองๆทั้งสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง เหตุก่อการร้ายหลายต่อหลายครั้ง แต่กระนั้นหอไอเฟลยังคงยั้งยืนยงอยู่ได้ แต่ดูเหมือนว่าในยุคปัจจุบันนี้หอไอเฟลจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใหม่ที่มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยอายุของมัน เหล็กอันแข็งกล้าผ่านลมฝนและการกัดเซาะจากสนิมจะทำให้มันส่อเค้าลางว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้อาจจะเป็นจุดจบของสิ่งก่อสร้างที่เคยสูงที่สุดในโลก
ภาพสนิมที่เกาะบนหอไอเฟล ซึ่งดูเหมือนนับวันจะเริ่มกัดเซาะเนื้อของเหล็กมากขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามทุกวิถีทางก็ตามที

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา