29 มิ.ย. เวลา 10:59 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 134

ม้าห่วงโซ่ปราบเหลียงซาน (5) มือทวนทองต้องอุบาย
ยามสี่เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งคู่ออกติดตามต่อ พอเห็นที่ไหนมีวงกลมขาว ทังหลงก็หาเรื่องแวะกินดื่มและสอบถาม ทุกแห่งตอบเหมือนๆ กัน สวีหนิงร้อนใจอยากได้ชุดเกราะคืนจึงเอาแต่ตามทังหลงไป จนเย็นใกล้ค่ำ มาถึงศาลเจ้าเก่าแห่งหนึ่ง มีคนนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้หน้าศาล ทังหลงเห็นแล้วตะโกนบอกว่า “ใต้ต้นไม้ข้างหน้านั่น ใช่หีบใส่เกราะของพี่ท่านหรือเปล่า”
สวีหนิงปราดเข้าไปคว้าตัวสือเชียนไว้ตะคอกถามว่า “เจ้ากล้าดีอย่างไร มาขโมยชุดเกราะของข้า”
สือเชียนว่า “เดี๋ยว เดี๋ยว ไม่ต้องโวยวาย ข้าขโมยชุดเกราะของท่านมา แล้วจะเอาอย่างไร”
สวีหนิงตวาดว่า “เดรัจฉาน กลับมาย้อนถามข้า”
สือเชียนว่า “ท่านดูเอาเองว่าในหีบมีชุดเกราะไหม”
ทังหลงเปิดหีบดู เห็นแต่หีบเปล่า
สวีหนิงว่า “ไอ้หมอนี่ เอาชุดเกราะของข้าไปไว้ไหน”
สือเชียนว่า “ท่านฟังนะ ผู้น้อยแซ่จาง 张 บุตรคนหัวปี เป็นชาวเมืองไท่อัน 泰安 มีเศรษฐีเมืองนั้นอยากตีสนิทนายท่านฉงจิงเลวี่ยผู้เฒ่า รู้ว่าท่านมีเกราะห่วงโซ่ขนห่านป่าแต่ไม่ยอมขาย จึงให้ข้ากับหลี่ซาน 李三 มาลักเอาด้วยค่าจ้างหนึ่งหมื่นก้วน ข้ากลับพลัดตกเสาเจ็บขาต้องเดินกะเผลกไปเร็วไม่ได้ จึงเอาชุดเกราะให้หลี่ซานล่วงหน้าไปก่อน เหลือไว้แต่หีบเปล่าข้าค่อยตามมา ถ้าท่านจะจับข้าส่งทางการ เป็นตายข้าก็ไม่รับ และไม่ชี้ตัวใคร แต่ถ้าท่านไม่เอาความกับข้า ข้าจะพาท่านไปตามชุดเกราะคืน”
สวีหนิงลังเลอยู่พักใหญ่ ตัดสินใจไม่ถูก
ทังหลงว่า “ไม่ต้องกลัวมันเหาะหนีไป ให้พาไปตามเกราะคืน ถ้าไม่มี ค่อยจับส่งทางการ”
สวีหนิงว่า “น้องเราพูดถูก”
ทั้งสามเดินทางต่อจนพบโรงเตี๊ยมที่พักจึงเข้าพักแรมโดยแออัดอยู่ในห้องเดียวกัน สือเชียนนั้นแกล้งเอาผ้าผูกขาทำเป็นกะเผลก สวีหนิงจึงไม่กลัวว่าจะหนีทัน กระนั้นก็ไม่วางใจ วันรุ่งขึ้นเดินทางต่อกันอีกวันแล้วเข้าพักแรม ยังไม่ได้ความกระไร
วันถัดมา สวีหนิงร้อนใจ เดินทางติดตามไปใจก็ใคร่รู้ว่าจะได้เกราะคืนหรือไม่ ระหว่างทางพบคนสี่คนเข็นรถเปล่าคันหนึ่งมีคนนั่งมาเพียงคนเดียว คนบนรถเห็นทังหลงก็มาคำนับคารวะ
ทังหลงจึงทักว่า “น้องเรา จะไปไหนกัน”
คนผู้นั้นตอบว่า “ไปค้าขายที่เจิ้งโจว กำลังจะกลับเมืองไท่อัน”
ทังหลงว่า “ดีเลย พวกเราสามคนขอติดรถไปด้วย กำลังจะไปไท่อันอยู่พอดี”
คนผู้นั้นว่า “อย่าว่าแต่สามคนเลย มากกว่านี้ก็ไปได้”
ทังหลงชอบใจ พาคนผู้นั้นมารู้จักกับสวีหนิง
สวีหนิงถามว่า “ท่านผู้นี้เป็นใคร”
ทังหลงว่า “ปีที่แล้วข้าไปไหว้พระที่เมืองไท่อัน ได้รู้จักกับน้องชายท่านนี้ แซ่หลี่ 李 ชื่อหยง 荣 เป็นคนมีน้ำใจ”
สวึหนิงว่า “เช่นนี้เอง จางอีก็ขาเป๋เดินไม่สะดวก ขึ้นรถไปก็ดี”
ทั่งสี่จึงขึ้นโดยสารรถ บอกให้คนรถออกเดินทางต่อ
สวีหนิงถามสือเชียนว่า “จางอี เจ้าบอกมาว่าเศรษฐีนั่นชื่ออะไร”
สือเชียนทำเป็นปฏิเสธไปหลายรอบ แต่ทนรบเร้าไม่ได้แกล้งตอบส่งไปว่า “เขาเรียกกันว่าท่านขุนนางใหญ่กวอ 郭大官人”
สวีหนิงจึงถามหลี่หยงว่า “ที่เมืองไท่อันมีท่านขุนนางใหญ่กวอไหม”
หลี่หยงตอบว่า “ท่านขุนนางใหญ่กวอเป็นเศรษฐีใหญ่ในเมืองไท่อัน ชอบคบหาพวกขุนนาง และเลี้ยงดูพวกปังเสียนไว้เยอะ”
สวีหนิงได้ฟังจึงคิดในใจว่า “งานนี้มีเจ้าภาพ คงไม่เสียเรื่อง”
ระหว่างนั่งรถ หลี่หยงก็คุยถึงเรื่องกระบี่กระบองบ้าง ร้องเพลงบ้าง ผ่านไปอีกหนึ่งวัน
เพื่อไม่ต้องเยิ่นเย้อ ทั้งกลุ่มเดินทางใกล้ถึงเขาเหลียงซาน หลี่หยงให้คนรถนำน้ำเต้าไปซื้อเหล้าซื้อเนื้อมากินบนรถ หลี่หยงนำกระบวยออกมาบอกให้เทเหล้าใส่กระบวย แล้วส่งให้สวีหนิง สวีหนิงรับกระบวยมาแล้วดื่มรวดเดียวหมด หลี่หยงส่งกระบวยบอกให้คนรถเทมาอีก คนรถทำน้ำเต้าพลัดมือตกพื้นเหล้าหกหมด หลี่หยงตะโกนด่าแล้วบอกให้ไปซื้อเหล้ามาใหม่ สวีหนิงน้ำลายย้อยออกมุมปาก ล้มกองลงบนรถ
หลี่หยงที่แท้คือนกหวีดเหล็กเยว่เหอ ทั้งสามเร่งนำตัวสวีหนิงมายังร้านของตะเข้ดอนจูกุ้ย ลงเรือมาขึ้นฝั่งที่หาดทรายทอง ซ่งเจียงได้รับรายงานล่วงหน้าจึงพาเหล่าหัวหน้าลงเขามารอรับ ให้กรอกยาแก้ทั้งที่ไม่ต้องให้ยาก็ใกล้หมดฤทธิ์ สวีหนิงฟื้นขึ้นมา ลืมตาเห็นแล้วตกใจ ถามทังหลงว่า “น้องเรา ทำไมพาข้ามาที่นี่”
ทังหลงว่า “พี่ท่านฟังข้าชี้แจง ผู้น้องเห็นว่าท่านซ่งกงหมิงรวบรวมเหล่าผู้กล้าทั่วหล้า เมื่อครั้งอยู่ที่ตำบลอู่กังผู้น้องได้กราบท่านพี่พายุหมุนดำหลี่ขุยเป็นพี่ร่วมสาบาน และติดตามมาเข้าพวก มาบัดนี้เจอกลยุทธม้าห่วงโซ่ของฮูหยันจว๋อ มิอาจทำลายได้ ผู้น้องจึงเสนอให้ใช้ทวนตะขอซึ่งก็มีแต่พี่ท่านที่ใช้อาวุธชนิดนี้ได้ จึงได้วางอุบายให้สือเชียนลักเกราะของพี่ท่าน แล้วผู้น้องก็ล่อให้ท่านติดตาม เยว่เหอนั้นปลอมเป็นหลี่หยง พอข้ามเขามาก็วางยาสลบ ใคร่จะขอเชิญพี่ท่านมาร่วมเป็นพี่น้องหัวหน้าค่าย”
สวีหนิงว่า “น้องเรา ขายข้าเสียแล้ว”
ซ่งเจียงถือจอกเหล้าเข้ามาขอขมาว่า “ซ่งเจียงพำนักอยู่ที่หนองน้ำทุกวันนี้นับเป็นการชั่วคราวเพื่อรอนิรโทษกรรม และหวนรับใช้แผ่นดิน มิใช่ละโมบช่วงชิงทรัพย์หรือนิยมการเข่นฆ่า กระทำเรื่องชั่วช้าผิดทำนองคลองธรรม ขอท่านผู้ตรวจการโปรดรับรู้ความจริงใจ และร่วมผดุงธรรมแทนฟ้าด้วยกัน”
หลินชงก็ถือจอกขอขมาว่า “ผู้น้องกล่าวตลอดมาว่า พี่ท่านมีคุณธรรมสูงส่ง ขออย่าได้บ่ายเบี่ยงอีกเลย”
สวีหนิงว่า “ทังหลงน้องเรา ท่านพาข้ามาที่นี่ ลูกเมียทางบ้านคงต้องถูกจับ จะทำเช่นไร”
ซ่งเจียงว่า “ไม่มีปัญหา ท่านผู้ตรวจการโปรดวางใจ ผู้น้อยรับประกันว่าท่านจะได้ครอบครัวมาอยู่ร่วมกันอย่างแน่นอน”
เฉาไก้ อู๋ย่ง กงซุนเสิ้ง ต่างมาร่วมขอขมาต่อสวีหนิง แล้วให้จัดโต๊ะเลี้ยงรับรอง
จากนั้น ด้านหนึ่งก็ให้คัดตัวลิ่วล้อที่จะมาฝึกหัดใช้ทวนตะขอ อีกด้านใช้ให้ไต้จงและทังหลงไปรับครอบครัวของสวีหนิงมา
ภายในกำหนดเวลาสิบวัน ปฏิบัติการรับครอบครัวก็เรียบร้อย หยางหลินรับครอบครัวของเผิงฉี่จากอิ่งโจว เซวียหย่งรับครอบครัวของหลิงเจิ้นจากตงจิง หลี่หยุนซื้อของจำเป็นงานปืนไฟ ไต้จงกับทังหลงรับครอบครัวของสวีหนิง
สวีหนิงเห็นภรรยามาได้จริงก็ตกใจ ภรรยาเล่าให้ฟังว่า “พี่ท่านขาดงานหลายวัน ข้าจึงต้องใช้เงินทองเครื่องประดับวิ่งเต้นว่าท่านป่วยนอนซมอยู่บนเตียง จึงยังไม่มีใครมาตาม แล้วท่านอาทังก็นำเสื้อเกราะขนห่านป่ามาให้ข้าดูบอกว่า พี่ท่านตามชุดเกราะพบแล้ว แต่เกิดเหตุเจ็บหนักระหว่างทางใกล้สิ้นใจ ให้ข้ากับลูกมาดูใจ ข้าก็ไม่รู้จักทางจึงถูกพามาที่นี่”
สวีหนิงว่า “น้องเรา เจ้าทำดีอยู่ แต่กลับเอาชุดเกราะของข้ากลับไปทิ้งไว้ที่เมืองหลวง”
ทังหลงหัวเราะแล้วว่า “ขอบอกให้พี่ท่านดีใจ พออาซ้อขึ้นรถมา ข้าก็กลับเข้าไปเอาขุดเกราะ แล้วหลอกให้สองสาวใช้เก็บทรัพย์สิ่งของที่เคลื่อนย้ายได้ใส่ห่อหาบมาด้วย”
สวีหนิงว่า “เช่นนั้น พวกเราก็กลับเมืองหลวงไม่ได้แล้วสิ”
ทังหลงว่า “ยังมีอีกเรื่องที่พี่ท่านควรรู้ ระหว่างทางมานี่เจอพ่อค้ากลุ่มหนึ่ง ข้าจึงนำชุดเกราะของท่านมาใส่ ทาอำพรางใบหน้า อ้างชื่อพี่ท่านชิงทรัพย์พ่อค้ากลุ่มนั้นมา ป่านนี้คงมีประกาศจับพี่ท่านแล้ว”
สวีหนิงว่า “น้องเรา เจ้าทำแสบมาก”
เฉาไก้ ซ่งเจียงจึงช่วยพูดว่า “ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ท่านอาจไม่ยอมอยู่บนเขา”
臂健开弓有准,身轻上马如飞。
弯弯两道卧蚕眉,凤翥鸾翔子弟。
战铠细穿柳叶,乌巾斜带花枝。
常随宝驾侍丹墀,枪手徐宁无对。
แขนแกร่งแผลงธนูแม่นฉมัง
เหินบนหลังอาชาท่าพลิ้วไหว
คิ้วทั้งสองโก่งงอนดังหนอนไหม
ทะยานไปได้ดังน้องหงสา
ชุดเกราะงานใบหลิ่วพลิ้วละเอียด
ประเจียดดำเสียบแซมกิ่งบุปผา
องครักษ์คอยพิทักษ์องค์ราชา
ไร้อัปราสวีหนิงมือทวนทอง
 
(丹墀 ขั้นบันไดสีแดงทอดสู่พระราชวังต้องห้ามของฮ่องเต้)
เหลยเหิงผู้กำกับการตีทวนตะขอตามแบบของทังหลงได้ครบตามจำนวนแล้ว ซ่งเจียง อู๋ย่งก็เชิญสวีหนิงมาฝึกการใช้ให้ทหาร สวีหนิงคัดเลือกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาฝึกโดยสวีหนิงรำทวนให้ดูเป็นตัวอย่าง สอนเคล็ดการใช้จากบนหลังม้าและเดินเท้า ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ฝึกทหารชำนาญทวนได้เจ็ดร้อยคน พร้อมที่จะใช้ทำลายม้าห่วงโซ่ของฮูหยันจว๋อ
ตอนก่อนหน้า : หมัดหน้ากลองลักเกราะ
ตอนถัดไป : ปืนทวนประสานทำลายม้าห่วงโซ่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา