10 ส.ค. เวลา 04:00 • ความคิดเห็น

เมื่อต้องไปเป็นพยาน

เห็นคนสมัยนี้ขึ้นโรงขึ้นศาลกันเป็นว่าเล่น ฟ้องร้องคดีกันให้วุ่นวายเยอะแยะกันไปหมดก็รู้สึกสงสัยว่าเดี๋ยวนี้เขาฟ้องร้องกันจนดูเหมือนเรื่องขนมหวานเลยหรือ?
บางรายเป็นฝ่ายถูกก็ฟ้องไปตามเรื่องตามคดีความ
แต่บางรายทั้งที่ผิดก็ยังดันทุรังจะเดินหน้าต่อทั้งที่รู้ว่าอาจจบไม่สวย
หรือว่าการขึ้นศาลสมัยนี้เป็นเรื่องปกติของชีวิตไปแล้ว?
คนเราปกติทั่วไปถ้าไม่ใช่ผู้พิพากษา อัยการ ทนาย โจทก์หรือจำเลยก็ไม่มีใครไปขึ้นศาลกันบ่อยๆหรอก
โบราณท่านว่ากินขี้ดีกว่าค้าความครับ
แต่สักวันเราเองก็อาจต้องขึ้นศาลเหมือนกันก็ได้ ใครจะไปรู้
แล้วก็นึกได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลกับเขาด้วย
โชคยังดีที่ไปขึ้นศาลในฐานะพยานครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมกับเฮียข้างบ้านไปซื้อของที่ร้านขายของเก่าแถวบ้านที่รู้จักกัน ตอนกำลังเลือกดูอยู่ก็มีคนเอาของมาขาย ร้านค้ารับซื้อไว้แล้วลงบัญชีเรียบร้อยตามระเบียบ
หลายวันต่อมาตำรวจมาที่ร้านต้นเรื่องแล้วบอกว่าของที่ร้านรับซื้อไว้เมื่อหลายวันก่อนเป็นของที่ถูกขโมยมา ตำรวจจับผู้ต้องหาได้แล้วและมีการรับสารภาพว่ามาขายให้ที่ร้าน ร้านค้าตรวจสอบรายละเอียดพบว่ามีจริงและลงบัญชีถูกต้องทางตำรวจจึงกันไว้เป็นพยาน แล้วก็สอบปากคำพร้อมหาพยานเพิ่มเติม
เฮียข้างบ้านกับร้านต้นเรื่องเลยมาขอให้ผมมาเป็นพยานเพิ่มเติมกันสักหน่อย
ตอนแรกก็ไม่ตกลงครับ
พยานน่าจะพอแล้วนี่ อีกอย่างใครอยากจะขึ้นโรงขึ้นศาลกันล่ะ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด
เฮียแกกับที่ร้านก็มาคุยกับผมอีกรอบ ผมเลยสอบถามกับทนายกับตำรวจที่รู้จักกันว่าควรไปเป็นพยานหรือไม่ เมื่อพบว่าไปเป็นพยานได้ ไม่มีปัญหาใดๆ ผมเลยรับปากมาเป็นพยานดูสักที ทั้งที่ใจก็เต้นโครมคราม
ใครกันอยากขึ้นศาลกันล่ะ
ถึงจะแค่เป็นพยานก็เหอะ
กลัวจะเลยเถิดไปไกลกันครับ
รายละเอียดคดีเต็มๆขอข้ามนะครับ บอกได้แค่ว่าจำเลยเป็นเยาวชนและรับสารภาพแล้ว แต่ทางโจทก์ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตำรวจจึงต้องไปตามร้านค้ากับพวกเรามาเป็นพยานขึ้นศาลกันให้วุ่น
มาว่ากันที่พยานครับ
อัยการศาลเยาวชนบอกข้อมูลว่าจำเลยยังเป็นเยาวชนอยู่ต้องขึ้นศาลเยาวชนก่อนจะไปที่ศาลอาญา(อันนี้ผมไม่ทราบตัวกฏหมายที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร)
อัยการท่านก็ซักซ้อมพยานที่มาอีก2-3คนแล้วทั้งหมดเซ็นชื่อลงในคำให้การแล้วรอขึ้นเบิกความ
เรียบร้อยแล้วทางอัยการแจ้งว่าให้ไปที่ศาลอาญาตามวันเวลาที่จะนัดต่อไป
กลับมาก็ตุ๊มๆต่อมๆ
ตื่นเต้นจริงเว้ยกู
รอจนถึงวันเบิกความที่ศาลอาญา
หนังสือตราครุฑส่งมาถึงมือเรียบร้อย มือสั่นนิดๆตอนเห็น
พอถึงเวลาเฮียแกก็ขับรถมารับไปที่ศาลด้วยกัน
มีหลายคนไปค่อยอุ่นใจหน่อย แกว่า
คราวนี้ก็ของจริงล่ะครับ
ทางอัยการศาลอาญาซักซ้อมกับพยานที่มากัน ทางจำเลยก็มีทนายกับผู้ปกครองมาด้วย
อัยการเข้าไปคุยกับทนายแล้วรอเบิกความต่อศาล
ผู้พิพากษาขึ้นบัลลังก์พร้อมผู้พิพากษาศาลสมทบ อ้อ ผู้พิพากษาหลักท่านนี้เป็นผู้หญิงครับ ท่าทางยังอายุน้อยแต่คงมีความสามารถมากกว่าอายุ
พอถึงเวลาผมขึ้นเป็นพยานเบิกความ ความตื่นเต้นก็บังเกิด
เพราะก่อนจะเบิกความเขาจะมีการให้ถ้อยคำสาบานว่าจะพูดแต่ความจริง ถ้าเบิกความเท็จจะโดนคำสาปแช่งที่ เอ่อ แบบน่ากลัวจริงเว้ยในตอนนั้น
พอให้ถ้อยคำสาบานเสร็จผมก็คิดขึ้นมาว่าคนที่กล้าโกหกต่อหน้าศาลนี่ต้องกล้ามากนะถึงทำแบบนั้นได้เพราะถ้อยคำสาปแช่งรุนแรงจริงๆ
เขาไม่นึกกลัวกันบ้างหรือไงวะ?
cr. Absolute Law คำสาบานตามแต่ศาสนาในศาลไทย
เบิกความเรียบร้อย ศาลท่านก็ให้จ่าศาลอ่านถ้อยคำที่เบิกความว่ามีอะไรจะแก้ไขไหม มีข้อผิดพลาดหรือเปล่า
เรียบร้อยแล้วผมและเฮียข้างบ้านกับพยานคนอื่นๆก็ออกจากห้องพิจารณาหลังจากนั่งรอได้สักพัก จำได้ว่ายังไม่ได้ตัดสินอะไร น่าจะมีการเลื่อนพิจารณาออกไปหรืออะไรนี่ล่ะครับ แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพยานแล้ว
อัยการว่าพยานขึ้นเบิกความรอบนี้รอบเดียวน่าจะพอ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องมาอีกนะ
แหม คุณอัยการครับ รอบเดียวก็เกินพอแล้ว
ก่อนจะกลับจ่าศาลมาตามตัวให้ไปห้องธุรการเพื่อไปรับเงินค่าเสียเวลาที่มาศาล
ผมกับเฮียบอกว่าไม่ต้องหรอกครับ แต่จ่าศาลว่ามันเป็นระเบียบค่ะ แล้วก็ได้รับเงินจริงๆ
ผมกลับถึงบ้านก็เอาเงินที่ได้มาซื้อของถวายพระถวายเจ้าในบ้านเอาฤกษ์เอาชัยพร้อมอธิษฐานว่าอย่าได้มีเรื่องมีราวต้องมาขึ้นศาลอีกเลย เหนื่อยใจจริงๆ
โพสท์มานี่ไม่มีอะไรมากหรอกครับ โม้ไปตามประสาเรื่องขึ้นศาลตามที่เคยไปมา
แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่คงไม่มีใครอยากไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรอก แต่ในเมื่อจำเป็นก็ต้องไป ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม
ถ้าเป็นเรื่องที่เราเป็นฝ่ายถูกต้องก็ไม่ต้องกลัวไปขึ้นศาล แต่ถ้าไม่ใช่ก็ควรสารภาพเสีย ศาลท่านมักจะใจดีกับคนยอมรับผิดเสมอ
แต่จะว่าไปลึกๆแล้วคนก็ยังรู้สึกแบบ เอ่อ กลัวๆอยู่เหมือนกัน
ตอนแรกที่ผมรับปากจะไปเป็นพยานที่ศาลก็ไม่ได้นึกอะไรมาก คิดว่าคงคล้ายกับในหนังนี่ล่ะ น่าจะง่ายๆสบายๆ
พอเอาเข้าจริง บรรยากาศของจริงนี่เงียบสงบแบบข่มขวัญกันในทีทั้งที่ก็ห้องธรรมดานี่ล่ะ ยิ่งตอนเบิกความยิ่งแล้วใหญ่
ใครจะกล้าโกหกต่อหน้าศาลกันล่ะครับ
ถึงการให้ถ้อยคำสาบานจะเป็นแค่คำพูดที่เอาไว้ข่มขวัญทั้งโจทก์,จำเลยหรือพยานก็เถอะ แต่สำหรับผมมันน่าขนลุกจริงๆในตอนนั้น
ดังนั้น ถ้าทำผิดจริงอะไรจริงก็พูดความจริงไปเถิดครับ อย่าคิดโกหกกันเลย
และที่ดีที่สุดคืออย่าหาเรื่องใส่ตัวกระทำความผิดน่าจะดีกว่าด้วยประการทั้งปวง
ต้องถึงกับขึ้นโรงขึ้นศาลมันไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยสักนิดไม่ว่าในฐานะใด
ถึงผมจะคิดว่าคำสาบานที่เอ่ยในศาลนั้นเป็นเพียงคำข่มขวัญก็ตามที แต่อดคิดขึ้นมาไม่ได้เหมือนกันว่า เออ ชะรอยคำสาบานนั้นอาจจะเป็นจริงก็เป็นไปได้กระมังเพราะเคยได้ยินข่าวว่ามีจำเลยหลายคนต้องมาบาดเจ็บหลังไปขึ้นศาลเพราะให้การเท็จทั้งในชั้นตำรวจและในชั้นศาล
ดูน่าหวั่นๆนะครับ
อย่ากระนั้นเลย
อย่าได้ทำผิดคิดมิชอบ
จริงๆนะ การขึ้นศาลไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยสักนิด
ไม่ว่าจะไปในฐานะอะไรก็ตาม
บอกกล่าวกันไว้เลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา