7 ก.ย. เวลา 04:00 • นิยาย เรื่องสั้น

หนูชื่อส้มค่ะ

คุณส้ม พี่ส้ม อีส้ม นังส้ม หรืออีห่าส้ม
แล้วแต่จะเรียกขานตามอารมณ์ในตอนนั้น
ยามมาขอกู้เงินก็สุภาพสรรพนาม
ยามไปทวงร้อยละยี่สรรพนามก็เปลี่ยนปุปปับอย่างที่เห็น
แต่ส้มหาแคร์ไม่
พวกเอ็งจ่ายมาไวๆโว้ย
ส้มทำงานกับเจ้าของโรงสีที่ท่าน้ำ เดิมส้มชื่ออะไรก็ไม่มีใครในโรงสีจำได้เพราะเถ้าแก่กับเจ๊เรียกชื่อมาแบบนี้
ส้มอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ยังไม่ยี่สิบ ตอนมาก็ตัวนิดเดียวผอมบอบบางอย่างไม่น่าเขื่อว่าจะทำงานไหว แต่ด้วยความฮึดและอึดของส้มทำให้คนในโรงสีต้องซูฮก
ส้มอยู่มานานทำงานสารพัดจัดเจนชนิดที่เรียกว่ามองหน้าก็รู้ใจและไว้ใจได้จนเถ้าแก่กับเจ๊ยกให้เป็นแม่บ้านใหญ่ประจำโรงสี
ลูกน้องกลัวกันหัวหดเพราะความเฮี้ยบของส้ม
เถ้าแก่กับเจ๊เขาสอนส้มมาแบบนี้ ส้มก็ทำตามที่สอนน่ะ
ส้มพูดด้วยสำเนียงต่างด้าวแต่ใครๆก็ฟังรู้เรื่อง
ส้มเป็นแม่บ้านใหญ่ได้หลายปีก็ไปตามน้องสาวมาเป็นแม่บ้านแทน ส่วนตัวเองออกไปแต่งงานกับคนบ้านเดียวกันที่ทำงานโรงงานละแวกนั้น
พอว่างก็หางานทำไปด้วยตามประสาคนขยันกับแก้เหงา โดยมากก็รับดูแลเด็กเล็กลูกหลานคนงานที่โรงงานเพราะทั้งคู่ไม่มีลูก ส่วนรายได้นั้นพอมีนิดหน่อยตามประสาช่วยเพื่อนคนงานด้วยกัน
ส้มเอ็นดูเด็กทุกคน และเด็กทุกคนแทบจะเรียกส้มว่าแม่เสียด้วย
ไม่ช้าไม่นานส้มก็มีอันต้องกลับไปที่โรงสีเพราะเถ้าแก่เรียกให้กลับมาเป็นพี่เลี้ยงหลานแกที่เพิ่งคลอด เมื่อกลับมา แฟนส้มจึงเปลี่ยนงานไปทำที่โรงสีด้วย
ครั้นหลานแกโตพอ ส้มก็กลับไปเป็นแม่บ้านใหญ่อีกครั้ง
เข้านอกออกในเสมือนคนในครอบครัวเหมือนเดิม
มีอะไรก็ไปหาอีส้มมันก็แล้วกัน เดี๋ยวมันก็มาซื้อของ
ปากต่อปากบอกกล่าวกันให้แซ่ด
จะเรื่องอะไรได้อีกถ้าไม่ใช่เรื่องร้อยละยี่
คนในตลาดหยุดยืนคุยกับส้มอย่างกริ่งเกรงทั้งที่ส้มก็ไม่ได้วางตนข่มท่านแต่ประการใด
ใครให้เงินส้มตรงเวลา ส้มจะว่าอะไร มีแต่จะขอบคุณเสียด้วยซ้ำ
แต่ในยามที่คนบิดพริ้ว ส้มก็พร้อมกลายร่างเป็นอีห่าส้ม นางมารร้ายจิกกัดปากจัดไม่แพ้ใครในตลาดเช่นกัน
วันๆบรรดาผู้ต้องการเงินของส้มจะมายืนออรอกันอยู่ที่แผงผักของยายจ่อยกับหลานสาวในตลาด
ทำไมต้องที่นี่ บางคนถาม
ส้มเขาซี้กับยายจ่อยไง
ตอนที่ส้มมาที่นี่ใหม่ๆก็มียายจ่อยนี่ล่ะที่ส้มรู้จักเป็นคนแรกๆ ยายจ่อยใจดี เอ็นดูและคอยช่วยเหลือส้มอยู่เสมอเหมือนลูกหลานทั้งที่ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ส้มจึงเคารพรักยายจ่อยมาก ทั้งยายจ่อยก็มิได้ทวงบุญคุณหรือเอาเปรียบแต่อย่างใดแม้ในยามที่ต้องใช้เงินแล้วมาขอกู้ด้วย
มีก็ให้ ไม่มีก็ผัดผ่อนบ้าง แต่ข้าจ่ายครบทั้งต้นทั้งดอก ยายจ่อยว่า
ผิดกับอีกหลายคนที่หลีกลี้หนีหน้าในยามที่มาทวงเงิน แถมยังก่นว่าด่าทอให้เจ็บใจทั้งต่อหน้าและลับหลัง
แต่ส้มหาแคร์ไม่
จ่ายมาไวๆโว้ย
สำเนียงแปร่งๆว่าสำทับ
หมู่นี้อีส้มมันอารมณ์ดีจริงว่ะ เขาว่ายกหนี้ให้ไปแล้วหลายคน
จิงดิ
เออสิ
ทำไมวะ?
เขาว่ามันท้อง มันก็ว่ามันรอมานานแล้วสมหวัง เลยยกหนี้ให้บ้างเอาบุญให้ลูกในท้อง
งั้นก็ดีสิวะ
ส้มกลับมาทำงานที่โรงสีอีกหลายปีก็ขอลาไปช่วยดูแลแม่ยายจ่อยเพราะยายจ่อยขอให้มาช่วยดูแลแม่ของแกที่อายุมากแล้ว สุขภาพไม่ค่อยดี โดยมีหลานสาวยายจ่อยไปอยู่ด้วยเพราะโควิดโรงเรียนสอนออนไลน์
ส้มให้น้องสาวที่เป็นมวยรองอยู่แล้วมาเป็นแม่บ้านมวยหลักแทนในยามที่ลาไป
แฟนส้มเทียวไปเทียวมาระหว่างโรงสีกับบ้านแม่ยายจ่อยสม่ำเสมอ
เทียวไปมาได้ไม่นานก็มีข่าวว่าส้มตั้งท้องลูกคนแรก
เมื่อข่าวแพร่ออกไป ส้มก็บอกกล่าวเถ้าแก่กับเจ๊ว่าหลังคลอดจะขอลาออกพาลูกกลับบ้านไปเลย ไม่กลับมาอีก
เถ้าแก่กับเจ๊ก็ตอบรับเพราะสุดจะรั้งเอาไว้
ครบกำหนด เด็กน้อยหน้าตาน่ารักก็ลืมตาดูโลก
พอได้สักหลายเดือนหลังคลอด ส้มก็ลาออกกลับบ้านพร้อมแฟนกับลูกตามที่บอกกล่าวไว้ล่วงหน้า ทั้งยังยกหนี้ให้บรรดาลูกหนี้ทุกคนด้วย
ส้มพอแล้ว บ้านช่องที่โน้นก็มี ไร่นาก็มี ไม่กลับมาแล้ว แต่น้องสาวหนูจะอยู่ทำงานให้เฮียกับเจ๊ต่อค่ะ หนูฝากน้องสาวหนูด้วยนะคะเจ๊
ส้มว่าซื่อๆแล้วลากลับไปพร้อมแฟนกับลูกเล็ก
เถ้าแก่ให้คนงานขับรถไปส่งถึงชายแดนโดยที่ส้มไม่ได้ร้องขอ
ลื้อมีน้ำใจ เฮียกับเจ๊ก็ต้องมีน้ำใจให้ลื้อด้วย
ส้มกับแฟนยกมือไหว้ขอบคุณ
เด็กน้อยยิ้ม หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ
ทุกคนก็พลอยยิ้มไปด้วย
สภาพของบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา15 วรรค1
...สภาพของบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก...
เด็กสาวน้ำตาไหลเมื่ออ่านข้อความนี้จากตำราเรียน
ลมพัดเบาๆที่หลังบ้านแม่ยายจ่อยเหมือนจะปลอบโยนเด็กสาว...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา