19 ก.ค. เวลา 10:50 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 141

สยบมารเขาหมางตั้ง (1) สามจอมมาร
อยู่มาวันหนึ่ง ตะเข้ดอนจูกุ้ยขึ้นเขามารายงานว่า “ที่เขาหมางตั้ง อำเภอเพ่ยเสี้ยน เมืองสวีโจว 徐州沛县芒砀山 มีโจรพวกหนึ่งส้องสุมกำลังอยู่ราวสามพันคน ตัวนายใหญ่แซ่ฝาน 樊 ชื่อยุ่ย 瑞 ฉายาจอมมารป่วนโลกา 混世魔王 รู้เรียกลมฝน ใช้พลดั่งเทพ มีขุนพลนายรองสองคน คนหนึ่งแซ่เซี่ยง 项 ชื่อชง 充 ฉายานาจาแปดแขน 八臂哪吒 ใช้โล่กลม บนโล่ปักมีดบินยี่สิบสี่เล่ม มือถือหอกซัดเหล็ก อีกคนแซ่หลี่ 李 ชื่อกุ่น 衮 ฉายา ต้าเสิ้งเหินฟ้า 飞天大圣 ใช้โล่กลมเช่นกันปักหอกซัดยี่สิบสี่เล่ม อีกมือใช้กระบี่อาคม
ทั้งสามร่วมสาบานเป็นพี่น้องกัน ตั้งค่ายอยู่บนเขาหมางตั้ง ออกเที่ยวปล้นชิงทรัพย์ ทั้งสามหารือกันว่าจะมาตีเขาเหลียงซานเราเพื่อผนวกเป็นของตน ผู้น้องได้ข่าวมาเช่นนี้ มิอาจไม่รายงาน”
ซ่งเจียงฟังแล้วโมโหว่า “โจรพวกนี้บังอาจ ข้าจะลงเขาไปสักหน”
มังกรเก้าลายสื่อจิ้นลุกขึ้นกล่าวว่า “พวกผู้น้องทั้งสี่เพิ่งขึ้นเขามา ยังไร้ผลงาน จึงใคร่ขออาสานำคนของเราออกปราบโจรพวกนี้”
ซ่งเจียงชอบใจยิ่งนัก สื่อจิ้นคัดลูกน้องที่เคยอยู่กับตน และจูอู่ เฉินต๋า หยางชุน อำลาซ่งเจียงลงเขามาข้ามเรือที่หาดทรายทองมุ่งมายังเขาหมางตั้ง ใช้เวลาสามวันก็เดินทางมาถึง เขาหมางตั้งนี้เป็นสถานที่ที่พระเจ้าฮั่นเกาจู่ 汉高祖 สังหารงูใหญ่แล้วก่อการกอบกู้แผ่นดิน ทัพของสื่อจิ้นยกมาถึงเชิงเขา ลิ่วล้อก็รายงานไปยังฝานยุ่ย
สื่อจิ้นให้ทัพที่มาถึงตั้งค่ายพยุหะ ตัวสื่อจิ้นขี่อาชาคู่ใจเป็นม้าสีแดงถ่านเพลิง 火炭赤马
久在华州城外住,出身原是庄农,学成武艺惯心胸。
三尖刀似雪,浑赤马如龙。
体挂连环镔铁铠,战袍风飐猩红,雕青镌玉更玲珑。
江湖称史进,绰号九纹龙。
เกิดเป็นชาวนาฮว่าโจวอยู่นอกเมือง
ปราดเปรื่องเลื่องลือชาชาญเชิงยุทธ
ทวนสามปลายหิมะวาวขาวผ่องผุด
อาชาดุจมังกรแดงถ่านไฟ
สวมชุดเกราะห่วงโซ่เหล็กกล้าแกร่ง
ชุดศึกสีแดงสดปลิวลมไสว
ห้อยหยกกระทบดังระฆังกังวานไกล
วงในลือสื่อจิ้นมังกรเก้าลาย
สื่อจิ้นยืนม้าอยู่หน้าสุด ด้านหลังเป็นแถวสามสหายศึก คนกลางคือ เสธ.เทวะจูอู่ ชาวอำเภอติ้งหย่วน 定远县 เชี่ยวชาญค่ายกลพยุหะ ใช้ดาบคู่เป็นอาวุธ
道服裁棕叶,云冠剪鹿皮。  
脸红双眼俊,面目细髯垂。  
智可张良比,才将范蠡欺。  
今堪副吴用,朱武号神机。
สวมชุดพรตใบจ้ง
หมวกทรงเมฆจากหนังกวาง
หน้าแดงเนตรกระจ่าง
ไว้เครายาวมีราศี
ปัญญาเปรียบจางเหลียง
สามารถเทียบเคียงฟ่านหลี่
รองอู๋ย่งลำดับที่
จูอู่นี้เสธ.เทวะ
 
(จางเหลียง 张良 เสนาธิการยุคบุกเบิกราชวงศ์ฮั่น
ฟ่านหลี่ 范蠡 เสนาธิการยุคชุนชิว ผู้วางแผนสาวงามล้มอู๋อ๋อง)
หัวแถวคือ เสือโจนห้วยเฉินต๋า ชาวเมืองเย่เฉิง 邺城 ใช้ทวนเตี่ยนกังสีขาวเป็นอาวุธ
每见力人能虎跳,亦知猛虎跳山溪。
果然陈达人中虎,跃马腾枪奋鼓鼙。
เห็นคนมีกำลังโดดได้ดังเสือ
เสือร้ายโจนเหนือลำธารละหานห้วย
เฉินต๋าพยัคฆ์ในฝูงชนโดยแท้ด้วย
ลั่นกลองช่วยโผนม้าคะนองทวน
ท้ายแถวคือ งูร้อยก้าวหยางชุน ชาวอำเภอเจี่ยเหลียงเมืองผูเฉิง 解良县蒲城 ใช้ดาบใหญ่สองมือเป็นอาวุธ
杨春名姓亦奢遮,劫客多年在少华。
伸臂展腰长有力,能吞巨象白花蛇。
หยางชุนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้
ปล้นชิงอยู่นานปีที่เส่าฮั่ว
แขนขายาวเอวแกร่งแรงใช่ชั่ว
ช้างทั้งตัวยังกลืนได้งูร้อยก้าว
 
(白花蛇 งูดอกขาว คล้ายงูกะปะแต่ใหญ่กว่าไม่มีในเมืองไทย มีอีกหลายชื่อเรียกเช่น 百步蛇 งูร้อยก้าว ; 百花蛇 งูร้อยดอก 七步蛇 งูเจ็ดก้าว)
ทั้งสี่ยืนม้าอยู่หน้าค่ายพยุหะ ไม่นานนักก็มีกองกำลังลงมาจากเขาหมางตั้ง ตัวนายสองคน คนหนึ่งเป็นชาวอำเภอเพ่ยเสี้ยนเมืองสวีโจว 徐州沛县 นาจาแปดแขนเซี่ยงชง 八臂哪吒项充 มือซ้ายถือโล่ปักมีดบินยี่สิบสี่เล่ม ในหนึ่งร้อยก้าวไม่มีพลาดเป้า มือขวาถือหอกซัด หลังปักธงนายทัพเขียนอักษร “นาจาแปดแขนเ 八臂哪吒” เดินเท้าลงมาจากเขา
铁帽深遮顶,铜环半掩腮。  
傍牌悬兽面,飞刃插龙胎。  
脚到如风火,身先降祸灾。  
哪吒号八臂,此是项充来。
หมวกเหล็กครอบหัวมิด
ห่วงสำริดบังครึ่งหน้า
โล่หน้าสิงสารา
มีดบินคาท้องมังกร
 
ก้าวย่างเพลิงประลัย
กายกรายใกล้ร้ายหลอกหลอน
นาจามีแปดกร
เซี่ยงชงตอนปรากฎตัว
อีกคนหนึ่งเป็นชาวอำเภอพีเสี้ยน 邳县 ต้าเสิ้งเหินฟ้าหลีกุ่น 飞天大圣李衮 มือซ้ายถือโล่ปักหอกซัดยี่สิบสี่เล่ม ในหนึ่งร้อยก้าวไม่มีพลาดเป้า มือขวาถือกระบี่ หลังปักธงนายทัพเขียนอักษร “ต้าเสิ้งเหินฟ้า 飞天大圣”
缨盖盔兜顶,袍遮铁掩襟。  
胸藏拖地胆,毛盖杀人心。  
飞刃齐攒玉,蛮牌满画金。  
飞天号大圣,李衮众人钦。
หมวกศึกรัดคางไว้
ชุดรบใส่เกราะเหล็กปรก
ขย่มขวัญเต็มหัวอก
จิตสังหารขนลุกพอง
 
หอกซัดจัดเรียงราย
บนโล่หวายวาดลายทอง
ต้าเสิ้งเหินฟ้าผยอง
หลีกุ่นผองชนยำเยง
ทั้งสองเดินเท้าลงเขามา เห็นสื่อจิ้น จูอู่ เฉินต๋า หยางชุนยืนม้าอยู่หน้าค่ายพยุหะ ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ให้ลิ่วล้อลั่นม้าล่อแล้วชูโล่ตลุยเข้าสู่ค่ายพยุหะ พวกสื่อจิ้นต้านไม่อยู่ ทัพหลังชิงหนีก่อน ทัพหน้าสื่อจิ้นพยายามตั้งรับไว้ จูอู่ให้ร้องเรียกขวัญทัพกลาง คนหยุดม้าไม่หยุด ทัพถอยร่นไปสามสี่สิบลี้ สื่อจิ้นหวุดหวิดถูกมีดบิน หยางชุนกลับตัวช้า ถูกมีดซัดใส่ม้าล้ม หยางชุนต้องลงม้าวิ่งหัวซุกหัวซุน
พอมานับจำนวนทหาร สูญหายไปเสียครึ่ง สื่อจิ้นปรึกษากับพวกจูอู่ว่าจะให้คนกลับเขาเหลียงซานไปขอกำลังมาช่วย ไม่ทันไร ทหารมารายงานว่า “มีฝุ่นตลบบนทางหลวงทิศเหนือ มีทัพยกมาราวสองพันคน”
สื่อจิ้นรอจนใกล้เข้ามาจึงเห็นธงเขาเหลียงซาน นายทัพที่นำหน้าสองคนคือ หลีกว่างน้อยฮวาหยง และมือทวนทองสวีหนิง สื่อจิ้นรอรับแล้วเล่าการศึกให้ฟังถึงการใช้โล่หวายของเซี่ยงชง หลีกุ่น จนไม่มีใครรับมือได้
ฮวาหยงว่า “หลังจากพี่ท่านยกทัพมา ท่านพี่ซ่งกงหมิงไม่วางใจ จึงให้ข้าสองคนตามมาช่วย” พวกสื่อจิ้นต่างยินดี รวมทัพแล้วตั้งค่ายด้วยกัน
วันรุ่งขึ้น ขณะเตรียมทัพจะออกรบ ทหารมารายงานว่า “บนทางหลวงสายเหนือมีทัพยกมา” ฮวาหยง สวีหนิง สื่อจิ้นขึ้นม้าไปรับ จึงเห็นว่าซ่งเจียงนำทัพมาเองกับ อู๋เสวียจิว กงซุนเสิ้ง ไฉจิ้น จูถง ฮูหยันจว๋อ มู่หง ซุนลี่ หวงซิ่น หลวี่ฟาง กวอเสิ้ง และทหารสามพันคน สื่อจิ้นจึงเล่าให้ฟังถึงมีดบิน หอกซัด และโล่หมุนจนเข้าใกล้ตัวไม่ได้ของเซี่ยงชง หลีกุ่น ทำให้เสียทหารไปเสียครึ่ง ซ่งเจียงฟังแล้วก็ตกใจ
อู๋ย่งว่า “ให้พวกทหารตั้งค่ายก่อนแล้วค่อยหารือ”
ซ่งเจียงร้อนใจใคร่เผด็จศึก จึงให้เดินทัพมายังตีนเขา
ฟ้าเริ่มค่ำแล้ว เห็นแสงโคมบนเขาหมางตั้งเป็นสีเขียวเรืองรอง กงซุนเสิ้งจึงว่า “โคมเขียวในค่ายเช่นนี้ ย่อมมีผู้ชำนาญไสยเวทอยู่ด้วยเป็นแน่ พวกเราควรถอยทัพก่อน พรุ่งนี้ พรตผู้ยากจะเสนอกลพยุหะเพื่อจับตัวสองคนนั้น”
ซ่งเจียงจึงให้ถอยทัพมายี่สิบลี้ ค่อยตั้งค่าย
ตอนก่อนหน้า : ระฆังทองนมัสการ
ตอนถัดไป : จอมมารสู่เหลียงซาน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา