24 ก.ค. เวลา 10:20 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 143

ตลาดใหม่ตระกูลเจิง (1) ธงแม่ทัพหัก
ห้าวันต่อมา ไต้จงเดินทางกลับมารายงานเรื่องที่ให้ไปสืบถามเกี่ยวกับเจิงโถวสื้อ 曾头市 (ตลาดใหม่ตระกูลเจิง)
“ในตลาดเจิงโถวสื้อมีผู้อาศัยอยู่ราวสามพันกว่าครัวเรือน ในนั้นมีอยู่บ้านหนึ่งเรียกบ้านตระกูลเจิง ผู้เฒ่าบ้านนี้เดิมเป็นชาวต้าจิน 大金 ชื่อว่า เจิงน่ง 曾弄 มีบุตรชายห้าคนเรียกกันว่า ห้าเสือตระกูลเจิง 曾家五虎 คนโตชื่อว่า เจิงถู 曾涂 คนที่สองชื่อ เจิงมี่ 曾密 คนที่สาม เจิงสว่อ 曾索 คนที่สี่ เจิงขุย 曾魁 คนที่ห้า เจิงเซิง 曾升 มีครูฝึกผู้หนึ่งชื่อว่า สื่อเหวินกง 史文恭 รองครูฝึกชื่อว่า ซูติ้ง 苏定
รวบรวมกำลังตั้งค่ายมีทหารราวเจ็ดพันนาย ต่อรถนักโทษไว้ห้าสิบกว่าคัน ปฏิญาณขอเป็นปรปักษ์กับเหลียงซานเรา จะจับตัวพวกหัวหน้าให้หมดค่าย ม้าสิงห์หยกตัวนั้นให้ครูฝึกสื่อเหวินกงขี่อยู่ ที่น่าเกลียดคือ ทำเพลงกล่าวหาให้เด็กร้องกันในตลาดว่า
摇动铁镮铃,神鬼尽皆惊。
铁车并铁锁,上下有尖钉。
扫荡梁山清水泊,剿除晁盖上东京!
生擒及时雨,活捉智多星!
曾家生五虎,天下尽闻名!
เขย่าข้อโซ่เหล็กที  เทพหรือผีกลัวหัวหด
เหล็กทำกลอนและรถ  บนล่างมีคมตะปู
กวาดเกลี้ยง เขาเหลียงซาน ล้างหนองน้ำ
นำเฉาไก้ ส่งตงจิง ให้เขาดู
จับเป็น ฝนยามแล้ง ดาวรอบรู้
ห้าเสืออยู่ บ้านเจิง ลือก้องหล้า”
เฉาได้ได้ฟังแล้วโกรธจัด “เดรัจฉานพวกนี้กล้าเสียมารยาท ข้าจะลงไปจัดการด้วยตัวเองสักหน จับเจ้าพวกนี้ไม่ได้ข้าสาบานจะไม่กลับขึ้นเขา”
ซ่งเจียงว่า “พี่ท่านเป็นประมุขของค่าย ไม่ควรไปไหนโดยง่าย ผู้น้องขอไปเอง”
เฉาไก้ว่า “ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะแย่งความชอบจากท่าน แต่ท่านลงเขาไปหลายรอบแล้ว ออกรบเหน็ดเหนื่อย เที่ยวนี้ข้าก็ไปแทนท่านสักครา เที่ยวหน้าน้องเราค่อยไป”
ซ่งเจียงจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่ฟัง ด้วยว่าเฉาไก้กำลังโมโห สั่งให้เตรียมทัพทหารห้าพันนาย นายทัพยี่สิบเตรียมลงเขา ที่เหลือให้อยู่รักษาค่ายกับซ่งกงหมิง
ยี่สิบนายทัพมี หลินชง ฮูหยันจว๋อ สวีหนิง มู่หง หลิวถัง จางเหิง หยวนเสี่ยวเอ้อ หยวนเสียวอู่ หยวนเสี่ยวชี หยางสยง สือสิ้ว ซุนลี่ หวงซิ่น ตู้เชียน ซ่งว่าน เอี้ยนซุ่น เติ้งเฟย โอวเผิง หยางหลิน ไป๋เสิ้ง
เฉาไก้นำทัพลงเขาจะมาข้ามฟากที่หาดทรายทอง ซ่งเจียง อู๋ย่ง กงซุนเสิ้ง และเหล่าหัวหน้าตามมาส่ง ขณะกำลังดื่มเหล้าเลี้ยงส่งอยู่นั้น พลันเกิดลมบ้าหมูพัดเอาธงประจำตัวของเฉาไก้หักกลาง ทุกคนหน้าถอดสี
อู๋เสวียจิวเสนอว่า “นี่เป็นลางไม่ดี พี่ท่านเลื่อนวันเคลื่อนทัพเป็นวันหลังเถิด”
ซ่งเจียงก็เสริมว่า “พี่ท่านกำลังจะเคลื่อนทัพ ธงมาหักเช่นนี้ เสียขวัญทหาร มิสู้เลื่อนไปสักระยะ แล้วค่อยไปจัดการกับพวกนั้น”
เฉาไก้ว่า “ลมฟ้าอากาศ หาใช่เรื่องแปลกอันใด อาศัยว่าอากาศฤดูใบไม้ผลินี้อุ่นอยู่ หากไม่ฉวยโอกาสนี้ รอจนฝ่ายนั้นตระเตรียมแข็งขัน ก็สายเกินไป พวกท่านอย่าห้ามเลย อย่างไรข้าก็จะไปสักเที่ยว”
เฉาไก้นำทัพข้ามน้ำไป ซ่งเจียงพอกลับขึ้นมาบนค่ายก็ไม่สบายใจ จึงให้ไต้จงติดตามไปคอยฟังข่าว
เจิงโถวสื้อ 曾头市 หรือ ตลาดใหม่ตระกูลเจิง เป็นเพียงตลาดแต่มีประชากรหลายพันครัวเรือน ค่ายคูหอรบแข็งแรง มีทหารประจำการนับพัน มีผู้ก่อตั้งเป็นชาวต่างชาติ คือ เจิงน่ง เป็นชาวต้าจิน 大金 เข้ามาค้าขายกับต้าซ่งแล้วการค้ารุ่งเรืองจึงเปิดตลาดขึ้นเอง ดังชื่อเรียกว่า 头市 โถวสื้อ หรือ ตลาดแรก ในเมืองไทยจะเรียก แห่งแรก ว่า ใหม่ เช่นถนนสายแรกว่า ถนนใหม่ บ้านใหม่ ตลาดใหม่ ทั้งที่เก่าก่อนใครชื่อก็ยังใหม่เสมอ
พอการค้าขายดี คนก็พากันมาอาศัยกลายเป็นชุมชนใหญ่ เหมือนเขตอิทธิพลของตนเอง มีกำลังเข้มแข็งแต่ยังส่งส่วยภาษีให้ต้าซ่ง มิเช่นนั้นก็ไม่ต่างจากส้องโจร ยิ่งเหล่าหัวหน้าผู้ก่อตั้งตลาดเป็นชาวต้าจินมาอาศัยบนแผ่นดินซ่ง หากคิดแข็งข้อต่อส่วนกลางก็อาจยากรับมือ ด้วยว่าในสมัยนั้นต้าจินเข้มแข็งกว่าต้าซ่ง อาจหาเหตุรุกรานได้
เฉาไก้นำทัพมาถึงตลาดใหม่ตระกูลเจิง ก็ให้ตั้งค่ายลงฝั่งตรงข้าม วันรุ่งขึ้นก็ขึ้นม้าพาเหล่าหัวหน้าออกสำรวจชัยภูมิ
周回一遭野水,四围三面高冈,
堑边河港似蛇盘,濠下柳林如雨密。
凭高远望,绿阴浓不见人家;
附近潜窥,青影乱深藏寨栅。
村中壮汉,出来的勇似金刚;
田野小儿,生下地便如鬼子。
果然是铁壁铜墙,端的尽人强马壮。
ธารน้ำล้อมโดยรอบ
สามขอบขัณฑ์เนินสูงหมด
คลองคูดังงูขด
ดังดงฝนหลิ่วในร่อง
จากที่สูงแลไกล
เขียวขจีไร้บ้านช่อง
จากที่ใกล้แลมอง
ล้วนป้อมค่ายใต้เงาไม้
หนุ่มเหน้าในหมู่บ้าน
ดูห้าวหาญปานเหล็กไหล
ผีน้อยในท้องไร่
เล่นซุกซนประสาเด็ก
 
ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก   เข้มแข็งเป็นเอก
แกร่งทั้งคนกล้าทั้งม้า
ขณะที่เฉาไก้และพวกยืนมองอยู่นั้น มีคนกลุ่มหนึ่งหลายร้อยคนควบม้าออกมาจากดงหลิ่ว คนนำสวมเกราะห่วงโซ่และหมวกศึก ถือทวนเตี่ยนกัง ขี่ม้าชงเจิ้น คือคุณชายสี่สกุลเจิง เจิงขุย 曾魁 ตวาดลั่นมาว่า “ไอ้พวกโจรเหลียงซานป๋อ ข้าว่าจะไปจับส่งทางการขึ้นรางวัลอยู่ ฟ้าก็ช่วยส่งมาให้ ลงม้ามาให้มัดดีๆ มัวรออะไร”
เฉาไก้โกรธจัด หันไปดูก็เห็นหัวเสือดาวหลินชงควบม้าออกรบเจิงขุย สู้กันได้ยี่สิบกว่าเพลงยังไม่ทันรู้ผลแพ้ชนะ แต่เจิงชุยรู้ตัวว่าหากสู้ต่อคงเพลี่ยงพล้ำจึงชักม้าหนีเข้าดงหลิ่ว หลินชงก็ไม่ไล่ตาม
พวกเฉาไก้พากันกลับค่าย หารือแผนเข้าโจมตีเจิงโถวสื้อ หลินชงว่า “พรุ่งนี้ไปท้ารบที่หน้าตลาด ดูดีร้ายก่อน ค่อยปรึกษากันใหม่”
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉาไก้นำทหารไปยังทุ่งโล่งหน้าตลาดตั้งค่ายพยุหะ แล้วรัวกลองโห่ร้องท้ารบ มีเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นจากในตลาดใหม่ ทัพใหญ่ยกออกมา นายทัพเจ็ดคนเข้าแถวเรียงหนึ่งอยู่ด้านหน้า นายทัพกลางสามนาย ตรงกลางคือครูฝึกสื่อเหวินกง หัวแถวรองครูฝึกซูติ้ง ท้ายแถวคุณชายใหญ่เจิงถู ปีกซ้าย เจิงมี่ เจิงขุย ปีกขวา เจิงเซิง เจิงสว่อ ม้าของสื่อเหวินกงก็คือม้าสิงห์หยก 玉狮子马 ที่วิ่งได้พันลี้ตัวนั้น
ทหารตระกูลเจิงเข็นรถนักโทษหลายคันออกมาเรียงอยู่หน้าแถว เจิงถูชี้นิ้วข้ามมาตะโกนด่าว่า
“ไอ้พวกโจรขบถ เห็นรถนักโทษพวกนี้ไหม พวกข้าบ้านตระกูลเจิงถ้าฆ่าพวกเจ้าตายก็ไม่นับเป็นลูกผู้ชาย ข้าจะจับตัวพวกเจ้าเป็นๆ ทีละคนยัดใส่รถส่งไปตงจิงสับเป็นหมื่นชิ้น ให้ดียอมแพ้เสีย ค่อยมาคุยด้วย”
เฉาไก้ฟังแล้วโมโห ชูทวนควบม้าเข้าหาเจิงถู เหล่านายทัพกลัวเฉาไก้จะเพลี่ยงพล้ำ จึงกรูกันตามไป ได้เข้ารบกันชุลมุน ทหารตระกูลเจิงจึงค่อยๆ รบถอยกลับเข้าหมู่บ้าน หลินชง ฮูหยันจว๋อคอยประกบคุ้มกันเฉาไก้ หลินชงเห็นท่าไม่ค่อยดี จึงให้ถอยทัพ ทั้งสองฝ่ายต่างเสียทหารไปบางส่วน
พอกลับถึงค่าย เฉาไก้ก็ยังหงุดหงิด เหล่านายทัพจึงช่วยกันพูดว่า “พี่ท่านทำใจให้สบาย อย่าได้วิตกจนเสียสุขภาพ ก่อนหน้านี้ ท่านพี่ซ่งกงหมิงออกรบ ก็แพ้บ้าง ชนะบ้างกลับค่ายมา วันนี้รบกันชุลมุนเสียทหารกันไปบ้าง ก็ยังไม่ได้แพ้แก่เขา จะกังวลไปไย”
เฉาไก้ได้แต่งุ่นง่านอึดอัดอยู่แต่ในค่ายถึงสามวันติดต่อกัน ด้วยว่าส่งทหารไปท้ารบทุกวัน แต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมออกมารบ
ตอนก่อนหน้า : จอมมารสู่เหลียงซาน
ตอนถัดไป : โลกบาลล้ม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา