29 ก.ค. เวลา 23:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Lululemon เจอแรงขายหนัก มูลค่าต่ำสุดรอบทศวรรษ

เชื่อว่านักลงทุนสายสุขภาพโดยเฉพาะคุณผู้หญิง คงไม่มีใครไม่รู้จักเสื้อผ้าออกกำลังกายโยคะแบรนด์ Lululemon
1
Lululemon หรือ Lululemon Athletica เป็นบริษัทสัญชาติแคนาดาที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาสำหรับการออกกำลังกาย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าสำหรับโยคะ วิ่ง และฟิตเนส
เป็นอีกหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตที่ดีในช่วงสองสามที่ผ่านมา
  • รายได้ (Revenue) และกำไรต้อหุ้น (EPS)
ที่มา Earningshub
โดยบริษัทได้ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ไปที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และราคาหุ้นได้พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 516.39 ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 4 ปี 2023
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของ Lululemon Athletica ได้ร่วงลงอย่างต่อเนื่องแม้ว่าในไตรมาสแรก ปี 2024 บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าก็ตาม
 
ปฏิกิริยานี้สะท้อนความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อแนวโน้มการเติบโตในอนาคตของบริษัท
Lululemon Athletica เหมือนกับบริษัทสินค้าฟุ่มเฟื่อยอื่นๆที่กำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง ผู้บริโภคต่างชะลอกำลังการใช้จ่ายในสินค้าที่ไม่จำเป็น
อีกทั้งในตลาดเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาสำหรับการออกกำลังกาย Lululemon เองก็กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากผู้มาใหม่อย่าง Alo Yoga และ Vuori ซึ่งส่งผลต่อความต้องการในสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดโดยมีสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของธุรกิจทั้งหมดของ Lululemon
ตรงนี้ทำให้เกิดคำถามและความกังวลเกี่ยวกับความได้เปรียบเทียบทางธุรกิจของ Lululemon เนื่องด้วยผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาสำหรับการออกกำลังกายนั้นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน และไม่ได้มีคุณสมบัติที่ต่างกันมากนักสามารถทดแทนกันได้
หากเป็นปู่วอร์เรนบัฟเฟตต์ ก็คงพูดว่า บริษัทนี้มีคูน้ำคูเมืองที่ยังไม่แข็งแรง ทำให้พวกเขายังไม่มีข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่พอเพียงที่จะแข่งขันกับคู่แข่ง
ความกังวลทั้งหมดที่กล่าวมานำมาซึ่งการเทขายหุ้นของ Lululemon จนทำให้การประเมินมูลค่าแบบ EV/EBIT ที่ใช้ในการประเมินมูลค่าของบริษัท โดยการหารมูลค่ารวมของบริษัท (EV) ด้วยกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)
เป็นอัตราส่วนที่นักลงทุนนิยมใช้ในการประเมินมูลค่าของบริษัทเมื่อเทียบกับผลประกอบการของบริษัท ซึ่งกำลังเข้าใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 10 ปี แล้ว
ที่มา FinChat
ซึ่งตรงกันข้ามกับผลประกาศทางการเงินของบริษัทในไตรมาสแรกที่เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 35% ซึ่งรวมถึงเพิ่มขึ้นเกือบ 50% ในจีน เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ยอดขายในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 3% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของตลาดรองของ Lululemon อย่างจีนก็ยังคงเป็นที่น่ากังวล เพราะแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยของจีนจะมีการปรับตัวลดลง แต่โดยรวมผู้บริโภคชาวจีนก็ยังคงชะลอการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเหมือนกัน
นอกจากนี้หากในอนาคตผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค ก็สามารถส่งผลต่อผลดำเนินงานของบริษัทได้เช่นกัน จึงทำให้เป็นเรื่องยากหากจะคาดเดาแนวโน้มในอนาคตของ Lululemon เนื่องด้วยแนวโน้มเชิงบวกหลายอย่างของบริษัทถูกตั้งคำถามและยังคงขาดความเชื่อมั่นจากนักลงทุน แม้ผลประกาศทางการเงินของบริษัทจะออกมาดีก็ตาม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา