11 ส.ค. เวลา 12:00 • หนังสือ

สรุปหนังสือ The Blues Cheaters เจ้าชายผู้โกงทุกข์

หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวการพิสูจน์ความศรัทธา การค้นหาความหมายของชีวิต และการเยียวยาบาดแผลในใจของ “อันเช ลิบอนสกี” ชายชาวโปแลนด์ผู้หนีทุกข์มายังประเทศไทยและตัดสินใจจะจบชีวิต ก่อนจะได้เจอกับเด็กชายลึกลับผู้อ้างว่าตัวเองคือพระเจ้า... และร่วมผจญสามค่ำคืนที่มีทั้งปาฏิหาริย์ ความจริง ความเชื่อ ศรัทธา บาดแผล และดนตรีบลูส์
ผู้เขียน รัศม์ ชาญสงคราม (นามปากกา) เกิดที่กรุงปารีส เข้ารับราชการที่กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ.2527 ที่กรมการเมืองจนเกษียณอายุราชการ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือนวนิยายเรื่องแรกของเขา เคยเขียนครั้งแรก ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ประมาณ พ.ศ.2551-2553 แต่ก็ได้ล้มเลิกไป จนพ.ศ.2563 ปีของโควิด-19 ช่วงล็อกดาวน์อยู่บ้านจึงมีโอกาสเขียนต่อจนจบ
***เนื้อหาบางส่วนพาดพิงถึงความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาต่างๆ อาจเกิดความไม่พอใจ *** ผู้เขียนจึงขออภัยไว้ ณ ที่นี้
สำหรับความรู้หรือข้อมูลศาสนาต่างๆ ได้รับอิทธิพลมาจากหนังสือเรื่อง Buddha ของ Karen Armstrong หนังสือ Living With the Gods โดย Neil MacGregor และหนังสือ A Little History of Religion ของ Richard Holloway
ในปฐมบท ผู้เขียนได้เล่าว่า หลายปีมาแล้วที่กรุงวอร์ซอ ในคาเฟ่เล็กๆ อันเช ลิบอนสกี ชายหนุ่มผู้ที่เป็นเพื่อนชาวโปแลนด์คนแรกๆของผู้เขียน วัยสามสิบต้นๆ เป็นคนที่มีความกระตือรือร้น มีพลัง สนใจดนตรี ปรัชญา และศาสนาต่างๆ ได้มาเล่าเรื่องราวอันแปลกประหลาดให้ฟัง เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่อันเชอยู่ที่ประเทศไทย
ก่อนที่จะได้ฟังเรื่องราวอันน่าประหลาด อันเช ได้เล่าเรื่องของเพื่อนที่เคยเดินทางไปทิเบต ว่ายามใดที่เดินอยู่ตามถนนของกรุงลาซา ชาวทิเบตจะคอยเตือนห้ามไม่ให้เหยียบพวกหอยทาก เพราะหอยทากเหล่านั้นอาจเคยเป็นคนมาก่อนในชาติที่แล้ว เพราะศาสนาพุทธในทิเบตจะเน้นเรื่องการกลับชาติมาเกิด
ผู้เขียนไม่ค่อยประหลาดใจเท่าไหร่เพราะหากนึกในมุมวิทยาศาสตร์ เมื่อคนตายร่างกายเน่าสลาย กำเนิดจุลินทรีย์ หนอน แมลงต่างๆ ซึ่งกลายเป็นอาหารของสัตว์ต่อไปกลายเป็นห่วงโซ่อาหาร นี่จึงเป็นการกลับชาติมาเกิดในอีกรูปแบบหนึ่ง
คำสอนนี้จึงมีใจความสำคัญคือ การสอนให้เคารพซึ่งกันและกัน ให้ความสำคัญแก่ทุกชีวิตบนโลก เพื่อความสงบสุข เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
...เรื่องราวของอันเช ลิบอนสกี...
บทแรกพบกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติสองเหตุการณ์ที่พัทยา นั่นก็คือ ณ โบสถ์เซนต์ฟรังซิส ถนนสุขุมวิท พัทยาเหนือ รูปปั้นพระเยซูบนกางเขนมีรอยเส้นเล็กๆสีแดงเข้ม ผู้คนต่างเชื่อว่าเป็นโลหิตของพระเยซูหลั่งออกมาทั้งพระหัตถ์และพระบาทของรูปปั้น
อีกเหตุการณ์เกิดที่พัทยากลาง วัดหนองฟ้ามหาพฤฒามงคลหรือที่คนเก่าแกเรียกว่าวัดยายแล่ม ภายในวัดมีบ่อน้ำโบราณ ในคืนนั้นเองมีปรากฏการณ์แสงสีฟ้าส่องขึ้นมาจากก้นบ่อเป็นลูกไฟประหลาดสีฟ้าพุ่งขึ้นมาและลอยหายเข้าไปในร่างของเด็กวัดที่ชื่อง่อย เด็กที่ทุกคนบอกว่าเป็นใบ้ แขนขาพิการ ไม่สามารถลุกขึ้นยืนและก้าวเดินได้ วันต่อมาพบว่าง่อยหายไปจากวัด ซึ่งเด็กวัดที่ชื่อง่อยคนนี้จะเป็นตัวละครสำคัญในหนังสือต่อไป
อันเช ตัดสินใจไปวัดป่าสหชาติ สถานปฏิบัติธรรมชาวต่างชาติ โดยมีพระเทพมุนินโท เจ้าอาวาสวัดป่าสหชาติ ภิกษุสงฆ์ชาวแคนาดา คอยสั่งสอนหลักธรรม สิ่งแรกที่ได้เรียนรู้คือ ศาสนาพุทธไม่ได้บังคับให้ทุกคนมาศรัทธา ไม่มีบทลงโทษของผู้ที่ไม่ยอมรับนับถือ แต่ต้องเกิดจากการใคร่ครวญคิดได้ด้วยตนเองและจึงเข้านับถือ เป้าหมายอันสูงสุดคือการหลุดพ้นจากสภาพการเวียนว่ายตายเกิด แต่สุดท้ายอันเช ก็ทนต่อบาดแผลในใจไม่ไหวเขาจึงได้กราบลาพระเทพมุนินโท
พระเทพมุนินโท ได้กล่าวว่า Once a Catholic เมื่อครั้งหนึ่งเป็นคาทอลิก ก็ย่อมเป็นคาทอลิกตลอดไป แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็ขอให้พบกับความสงบสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์
อันเช เดินทางกลับไปกรุงเทพฯ ทำงานสอนพิเศษภาษาอังกฤษเพียงช่วงเวลาสั้นๆ และสุดท้ายได้มาเป็นนักข่าวภาคภาษาอังกฤษของหนังสือพิมพ์เล็กๆ สำหรับผู้อ่านชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองพัทยา
ชีวิตของอันเชก่อนที่จะมาถึง ณ จุดนี้ เขาเคยเป็นคนที่มีความสุข ประสบความสำเร็จในด้านการงานและครอบครัว จนกระทั่งวันหนึ่งเขาต้องเจ็บปวดทรมานมากที่สุดในชีวิต เมื่อตอนที่โซฟีลูกสาวของเขาได้เสียชีวิตลง ทุกอย่างที่เคยมีในชีวิตหายไปพร้อมกับลูกสาวตัวน้อย ฮันนาผู้เป็นภรรยาก็ขอจบความสัมพันธ์
อันเชโทษทุกอย่าง โทษชะตา โทษพระเจ้า เขาอุทานในใจว่า “ฉันเกลียดเพราะเจ้า” อยู่อยู่ก็มีเสียงแทรกเข้ามาในหัวว่า “อ้อ เจ้าเกลียดพระเจ้า” เขาเริ่มมองหาที่มาของเสียง จึงได้พบที่มานั้นนั้นก็คือเป็นเด็กผอมใส่ชุดเหมือนผ้าขี้ริ้ว อยู่ที่ข้างข้างโต๊ะของเขา อายุประมาณ 13 ปี ลักษณะผมยาวประบ่าสีเหมือนเหมือนทรายเปียกน้ำ ดวงตาสุขสกาวเป็นประกายและดูมีพลังลึกลับ
เด็กคนนั้นบอกกับอันเชว่า “ฉันนี่แหละ พระเจ้า”
เมื่อทั้งสองได้พบกันก็จะเป็นเรื่องราวของอันเชกับเด็กชายผมสีทรายเปียกน้ำ ซึ่งเด็กชายแทนตัวเองว่า “ง่อย” ต่อจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวสามคืนที่น่าประหลาด
ในคืนแรกง่อย ตั้งใจว่าจะหาเงินโดยมีแผนคือไปหาเงินจากบ่อนที่กลางทะเล เป็นบ่อนการพนันผิดกฎหมายที่มีอิทธิพล อยู่บนเรือสำราญขนาดใหญ่กลางทะเล มีลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ ง่อยจะไปเล่นพนันให้ได้มากที่สุดโดยใช้เวลาน้อยที่สุดและจากไป
แผนการของง่อยสำเร็จได้เงินมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงเหมารถสองแถวไปยังฟู้ดเวิลด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่เปิด 24 ชั่วโมง ง่อยเดินไปยังโซนขายเนื้อและหยิบชิ้นเนื้อสเต็กชั้นดี ไส้กรอกและแฮมต่างๆอมาจนหมด รวมไปถึงเนื้อแซลมอนมาอีกเป็นจำนวนมาก
ปลายทางของพวกเขาก็คือมูลนิธิไลต์ฟอร์สเตรย์ส เมื่อมาถึงที่นี่ทำให้ได้รู้ว่าเต็มไปด้วยสุนัขนับร้อยนับพัน รวมไปถึงแมวและสัตว์ ประเภทอื่นๆ เมื่อให้อาหารเราสัตว์ทั้งหลายเสร็จง่อยก็ทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ลุงบิลกับป้าซินเธียร์ ผู้ดูแลมูลนิธิ
คืนที่สองง่อยนัดเจออันเชในบาร์ที่เดิม ด้วยอิทธิฤทธิ์ของง่อยเด็กชายที่บอกว่าเป็นพระเจ้าก็ได้พาอันเช ไปที่ด็อกเคอรีฟาร์ม มิสซิสซิปปี อเมริกา และเล่าที่มาของนักดนตรีและการแสดงดนตรีบลูส์
หลังจากฟังเพลงเสร็จง่อยก็ได้พาอันเชไปที่สวนแห่งอีเดน เป็นดินแดนกว้างใหญ่มีทุ่งหญ้ามีต้นไม้มีเสียงบรรดาสัตว์หลากหลายมีฝูงนกหลากหลายพันธุ์ ง่อยได้เล่าว่าจากคัมภีร์ไบเบิลเล่มของเจเนซิส
พระเจ้าสร้างโลกในเจ็ดวัน วันแรกสร้างสวรรค์และโลก วันที่สองสร้างพื้นผิวน้ำและท้องฟ้า วันที่สามสร้างแผ่นดินและพืชพันธุ์ วันที่สี่มีฤดูกาล กลางวันกลางคืน วันที่ห้าสร้างสัตว์น้ำและบรรดาสัตว์ปีก วันที่หกสร้างสรรพสัตว์ที่อยู่บนบกและมนุษย์ วันที่เจ็ดพระเจ้าจึงหยุดพักผ่อน
หนังสือดิออริจิน อ๊อฟสปีชีส์ ของชาร์ลส์ ดาร์วิน มนุษย์สืบเชื้อสายมาจากลิง มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ มีหลายเผ่าพันธุ์ เช่น โฮโมฮาบิลิส สร้างเครื่องมือใช้เองเริ่มกลายเป็นนักล่า โฮโมอิเรคตัส ควบคุมควบคุมการใช้ไฟ เป็นพวกแรกที่ออกจากสวนแห่งอีเดน โฮโมไฮเดลเบอร์เกนสิส มีความแข็งแรง โครงสร้างสูงใหญ่ โฮโมฟลอเรเซียนสิส ตัวเล็กดังนั้นจึงใช้ทรัพยากรไม่เปลือง
ง่อยเล่าว่าเผ่าพันธุ์พวกนี้เขาเป็นคนสร้างขึ้นมา ปรับปรุงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้เป็น โฮโมเซเปียนส์ ที่สามารถแพร่พันธุ์จนครองโลกได้ เคล็ดลับของเผ่าพันธุ์นี้ก็คือ มีพัฒนาการสมองที่ดีมีการกินที่สมบูรณ์แม้โครงสร้างจะอ่อนแอลงแต่เป็นผลดีก็คือหันมาร่วมมือพึ่งพากันและกันอยู่กันเป็นหมู่ แต่สิ่งที่เป็นแรงผลักดันนั้นก็คือกองกิเลส การเอาตัวรอด
ง่อยได้มีการตอบคำถามว่าทำไมถ้าพระเจ้ามีจริง ทุกคนบนโลกจึงไม่สามารถมีความสุขได้ ง่อยตอบว่าเพราะแรงผลักดัน กิเลสทั้งหลาย ทำให้เกิดการอยู่รอดถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าก็จะหายไปเหมือนกับเผ่าอื่นๆ
พระเจ้าสร้างโปรแกรมขึ้นมา โดยมีหน้าที่อยู่สองประการนั้นก็คือ หนึ่งตรวจสอบว่าที่ใดมีระดับความสุขสูงมาก สองเมื่อตรวจพบจะเกิดเงื่อนไขที่ทำให้มนุษย์คนนั้นเกิดความทุกข์เพื่อสร้างความสมดุล ขอเรียกโปรแกรมนี้ว่าเครื่องผลิตความทุกข์ของมวลมนุษย์ หรือ “เดอะบลูส์มาชีน”
แต่เมื่อด้านลบของมนุษย์มีมากจนเกินไป พระเจ้าจึงกำเนิดสิ่งหนึ่งเพื่อให้เกิดระเบียบมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือการกำเนิดศาสนา เริ่มตั้งแต่การแสดงนิมิตแก่มนุษย์ยุคแรกซึ่งก็คือปฐมโยคี ให้ความรู้เกี่ยวกับจักรวาล จิตวิญญาณ กฎของกรรม แนวทางคำสอนเหล่านั้นพัฒนาจนกลายเป็นศาสนาฮินดู หลังจากนั้นพระเจ้าก็มอบคุณสมบัติสติปัญญามากขึ้น ก่อเกิดเป็น ปรัชญาและลัทธิต่างๆ เช่น เล่าจื๊อ ขงจื๊อ สโตอิก เป็นต้น
ง่อยพาอันเชไปยังดินแดนชมพูทวีป แคว้นมคธ ประมาณสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้ว ในยุคนั้นบรรดาโยคี ปฏิเสธการใช้ชีวิตตามสังคมออกไปค้นหาความหมายและคำตอบของชีวิตซึ่งจะนำ ความสุขและการหลุดพ้นอย่างแท้จริง ณ ที่แห่งนี้เราจะได้รู้จักเรื่องราวของศาสนาพุทธ จากเจ้าชายกลายมาเป็นพระพุทธเจ้า ผู้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด การบรรลุถึงนิพพาน พระเจ้าจึงเรียกว่าเป็น “เจ้าชายผู้โกงทุกข์”
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะโกงทุกข์สำเร็จ ได้หลุดออกจากโปรแกรมที่พระเจ้าสร้างไว้ได้ ทำให้ทูตสวรรค์เกิดความไม่พอใจ เพราะหากไม่มีการกลับมาเกิดอีก ย่อมส่งผลต่อวงจรของโลกที่ถูกออกแบบไว้อย่างแน่นอน จึงเกิดสงครามและได้ข้อสรุปว่าจะต้องมีคำสอนใหม่ในมวลมนุษย์คิดถึงพระเจ้า นี่จึงทำให้พระเจ้าอย่างง่อยต้องจุติไปเกิดในร่างของหญิงสาวพรหมจรรย์ชาวยิวที่ชื่อว่ามารี
ง่อยพาอันเชไปที่เยรูซาเล็ม เมื่อมีความดีย่อมมีความชั่ว ง่อยได้เล่าว่าแท้จริงแล้วหลังจากที่พระเยซูสิ้นลมหายใจ ลุค จอมบงการหรือเรียกได้ว่าเป็นซาตานผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ทั้งหมด ลุค ตั้งใจใส่ร้ายพระเยซู หลังจากพระเยซูสิ้นพระชนม์ ลุคปลอมตัวเองเป็นพระเจ้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สิ่งที่เรานับถืออยู่ทุกวันนี้คือลุคไม่ใช่พระเจ้าตัวจริง ลองสังเกตเหตุการณ์ทุกวันนี้ดู ไม่ว่าจะเป็นสงคราม เศรษฐกิจ สิ่งเลวร้ายที่ทุกวันนี้เริ่มทวีคูณมากขึ้น นั่นก็เป็นเพราะซาตานกำลังครองโลกอยู่
ในเรื่องของความรัก ง่อยเล่าว่า มันคือสิ่งที่พระเจ้ามอบให้มนุษย์โดยเฉพาะ แต่กลับกลายเป็นคำสาปไป มนุษย์พร่ำเพ้อหาแต่รักแท้ ทั้งๆที่ความรักมีอยู่ทุกที่ เริ่มสับสนระหว่าง ความรัก การมีคู่ และเรื่องของกาม ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ความรักไม่ได้มีกฎตายตัวว่าคนสองคนจะอยู่คู่กันไปจนตาย
หากเรารักใครจริงเมื่อเขาเปลี่ยนใจเราก็ควรปล่อยวางปล่อยเขาไปแล้วยินยินดีกับความสุขของเขา การที่บอกว่าให้ซื่อสัตย์ต่อกันห้ามนอกใจกันจริงๆแล้วมันคือความไม่มั่นใจความหวาดการถูกทิ้ง สุดท้ายมันก็คือการเห็นแก่ตัวอย่างหนึ่ง มนุษย์มีสัญชาตญาณของความเป็นอิสระอยู่ในตัว สรุปได้ว่าความรัก ความสุข ความเศร้า ความเจ็บปวด ความสูญเสีย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์
เหตุการณ์ย้อนกลับไปวันที่โซฟีลูกสาววัยห้าขวบไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนของเธอ หลังจากส่งโซฟีเสร็จ อันเชก็ขับรถไปทำงานที่คั่งค้างจนเสร็จ เพื่อที่จะหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส และในวันนั้นเองก็เกิดเรื่องน่ายินดีคือ พวกเขาจะได้โบนัสก้อนโตและอันเชก็จะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่าย พวกเขาดื่มฉลองกันเล็กน้อย เมื่องานเลี้ยงเลิกราทุกคนกลับบ้านเหลือเพียงอันเชกับนาตาเลียเด็กฝึกงาน สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น ทั้งคู่ร่วมรักกันจนในที่สุดก็เลยเวลาไปจนถึงบ่ายโมงกว่าซึ่งเลยเวลานัดที่จะไปรับโซฟี
แต่ถึงอย่างนั้นโซฟีก็ได้มีเวลาเล่นกับเพื่อนมากขึ้นไม่ถือว่ามารับช้า ระหว่างทางกลับอันเชก็อดคิดไม่ได้ว่าตน เป็นคนที่โชคดีมากๆ งานก็กำลังก้าวหน้า ได้ร่วมรักกับหญิงสาวที่ชายหลายคนใฝ่หา มีลูกที่น่ารัก แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุมีรถบรรทุกพุ่งชนรถของอันเช ทำให้โซฟีเสียชีวิตก่อนวันคริสต์มาสเพียงหนึ่งวัน เหตุการณ์นี้ทำให้อันเชไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้
ในคืนสุดท้าย การต่อสู้ระหว่างง่อยกับลุคกำลังจะเกิดขึ้น ง่อยให้อันเชกลับเข้าฝั่งพร้อมมอบของขวัญนั่นก็คือการให้ได้พบกับโซฟี ลูกสาวที่จากไปทั้งที่ยังไม่ได้ร่ำลา บัดนี้โซฟีและอันเชได้โอบกอดกัน ความรู้สึกผิดของอันเชก็ได้หายไป
ในวันรุ่งขึ้นอันเชตามหาร่างของง่อยที่แท้จริง ก็ได้พบว่าร่างกายของง่อยมีรอยบอบช้ำ การต่อสู้ไม่มีใครรู้ได้ว่าฝ่ายไหนจะชนะ แต่คงมีการต่อสู้แบบนี้ไม่มีวันจบสิ้นไปง่ายๆ
<<<สรุปประเด็นสำคัญ>>>
1. การมีเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
2. คำสอนของศาสนาพุทธ การบรรลุนิพพาน
3. ตระหนักถึงศาสนาที่ตนเองนับถือ ให้เข้าใจถึงแก่นจริงๆ
4. เคารพการนับถือและไม่ดูหมิ่นศาสนาอื่น

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา