7 ก.ย. เวลา 02:02 • ประวัติศาสตร์

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่ชาวต่างชาติเริ่มท่องเที่ยวไปยัง “เกาหลี”

ช่วงนี้กระแสแบนเที่ยวเกาหลีใต้ค่อนข้างมาแรงเหลือเกิน ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวเกาหลีใต้ ต่างคนก็มีต่างเหตุผลที่หลากหลายว่าทำไมถึงอยากไป บางคนอาจจะไปตามรอยละคร บางคนอาจจะไปคอนเสิร์ตศิลปินที่ชื่อนชอบ แต่เคยสงสัยไหมว่า ผู้คนในอดีตที่ไม่ใช่แค่ไทย แต่เป็นทั่วทั้งโลก เขาเริ่มเดินทางไปเกาหลีตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วเริ่มจากวัตถุประสงค์อะไร? แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เกาหลีก่อร่างสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขึ้นมาจนดึงดูดผู้คนให้ไปเที่ยวได้ด้วยวัฒนธรรม K-pop?
วันนี้ Bnomics จึงจะขอพาย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งแรกที่ชาวต่างวัฒนธรรมอันไกลโพ้นอย่างตะวันตกได้เดินทางมาเหยียบดินแดนเกาหลีแห่งนี้กัน
⭐ เมื่อแรก “ยุโรป” รู้จัก “โชซอน”
แน่นอนว่าเกาหลี หรือโชซอนในอดีตนั้นเป็นที่รู้จักของบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างจีนหรือญี่ปุ่นกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีในสายตาตะวันตกเพิ่งจะมารู้จักในช่วงศตวรรษที่ 16 นี้เอง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะในช่วงศตวรรษที่ 16 นี้ยังคงอยู่ในช่วงยุคสมัยแห่งการสำรวจ(Age of discovery) ที่เหล่าชาติผู้มีอิทธิพลทางทะเลเริ่มเดินทางไปยังดินแดนต่าง ๆ เพื่อการค้า การเผยแพร่ศาสนา รวมไปถึงการตั้งอาณานิคม
ชาวตะวันตกคนแรกเลยที่เคยเดินทางมาเหยียบแผ่นดินโชซอนเป็นบาทหลวงเยซูอิตนาม “เกรโกริโอ เซสเปเดส” (Gregorio Cespedes) ซึ่งเป็นบาทหลวงที่เดินทางตามกองทัพญี่ปุ่นของไดเมียวชาวคริสต์อย่าง “ยูกินากะ” (Konishi Yukinaka) มาในช่วงการรุกรานโชซอนครั้งแรกของญี่ปุ่น โดยทำหน้าที่เหมือนกับเป็นพระผู้ยึดหนี่ยวจิตใจให้แก่ทหารญี่ปุ่นผู้เข้ารีต ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวของบาทหลวงเองไม่ได้อยู่ในโชซอนถาวร และไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวของโชซอนให้ชาวตะวันตกได้รับรู้สักเท่าไหร่
1
กว่าชาวยุโรปจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของโชซอนก็เข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 17 โดยมีกะลาสีเรือผู้หนึ่งนาม “ฮาเมล” (Hendrik Hamel) ซึ่งเป็นลูกเรือของบริษัทดัตช์อีสอินเดีย โดยระหว่างที่เรือของเขาเดินทางไปญี่ปุ่นก็เกิดเรือล่มขึ้นมา โดยเขาได้รอดชีวิตและไปเกยฝั่งของโชซอน ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวโดยทางการ เมื่อเขาได้ไปถึงก็ได้พบกับชาวดัตช์หลายคนที่เรือล่มแล้วมาเกยฝั่งอยู่ที่นี่ แต่ไม่สามารถออกไปได้เนื่องจากนโยบายปิดประเทศของโชซอน
1
ตัวของฮาเมลได้อาศัยช่องทางหลบหนีออกจากโชซอนไปยังเมืองท่านางาซากิ แล้วเขียนบันทึกเรื่องราวการผจญภัยในโชซอนกว่า 13 ปีของเขา แล้วเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนโดยลูกเรือของเขาที่เดินทางกลับมายังเนเธอร์แลนด์ และนั่นทำให้เรื่องราวของโชซอน (ที่ในบันทึกเรียกว่าโคเรีย) เป็นที่รู้จักของชาวตะวันตกหมู่มากเป็นครั้งแรก
1
⭐ เปิดประตูสู่ชาวโลก
โชซอนมีนโยบายปิดประเทศและไม่ได้เปิดรับชาวต่างชาติ(ยกเว้นแต่ว่าคนจะเรือแตกแล้วมาเกยฝั่ง) แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการส่งทูตไปยังปักกิ่งบ้าง โดยทูตที่ส่งไปนั้นก็ได้พบกับชาวตะวันตกอย่างกลุ่มบาทหลวงเยซูอิต ทำใหพวกเขาได้รับความเป็นตะวันตกแล้วเอามาเผยแพร่ในโชซอน หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของศาสนา ซึ่งเฟื่องฟูในโชซอนช่วงศตวรรษที่ 18 เป็นอย่างมาก โดยต่อมา โชซอนก็ได้รู้จักกับเพื่อนบ้านชาวตะวันตกอย่างรัสเซียที่เพิ่งได้ท่าเรือในทางฝั่งตะวันออกมา
โชซอนค่อนข้างไม่ชอบชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ผ่านการโจมตีเรือต่างชาติที่รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำของโชซอน อย่างไรก็ดี เมื่อโชซอนเกิดผลัดแผ่นดินมาสู่รัชสมัยของพระเจ้าโคจง ก็ได้เกิดการเปิดประเทศขึ้นมา(แบบบีบบังคับ) โดยการทูตเรือปืนและเซ็นตสนธิสัญญากับญี่ปุ่น
⭐ การค้า/การทูต/การเมือง
การเดินทางของเพื่อนบ้านและชาติตะวันตกเริ่มหลังไหลเข้ามาทั้งในเรื่องของการค้าและการทูต โดยโชซอนได้เซ็นสนธิสัญญากับอเมริกาเป็นชาติตะวันตกชาติแรก เพื่อนำมาคานอำนาจกับรัสเซียซึ่งก็แอบหวังที่จะยึดครองดินแดนของเกาหลีอยู่
ชาวต่างชาติที่เดินทางมายังโชซอนช่วงนี้ล้วนแต่เป็นการเดินทางมาเพื่อการค้า การทูต การศาสนา และการเมืองเป็นส่วนมาก ซึ่งก็ค่อย ๆ มีส่วนร่วมในการพัฒนาเรื่องต่าง ๆ ในโชซอนให้เข้าสู่สมัยใหม่มากยิ่งขึ้น ยังไม่ค่อยมีผู้คนที่เดินทางมาเพื่อพักผ่อนหรือสันทนาการอย่างการท่องเที่ยวในปัจจุบันมากนัก
1
⭐ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังการสร้างชาติ
ช่วงหนึ่งไม่นานนัก เกาหลีก็ตกมาอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นในฐานะของประเทศราช ซึ่งกว่าจะประกาศอิสรภาพได้ก็เป็นช่วงหลังจากที่ญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถึงอย่างนั้นก็พบกับปัญหาภายในอย่างสงครามเกาหลีในช่วงสงครามเย็น ทำให้เกาหลีค่อนข้างทรุดโทรมและไม่ได้เป็นเป้าหมายของการท่องเที่ยวทั่วไป หากแต่เป็นจุดหมายของการเดินทางมาเพื่อการทหาร จากเหล่าชาติพันธมิตรเช่นอเมริกา หรือไทย
หลังสงครามเกาหลีสิ้นสุดลง เกาหลีใต้ก็ได้พยายามฟื้นฟูประเทศขึ้นมาใหม่ หนึ่งในนั้นก็คือการพยายามทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติผ่านการจัดตั้ง KTO หรือองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ขึ้นมาในปี 1962 ซึ่งเข้ามาจัดการพวกโรงแรม, การขนส่งสาธารณะอย่างรถแท็กซี่, ไปจนถึงการจัดการพวกเอเจนซี่บริษัททัวร์ต่าง ๆ พร้อมกับการโปรโมทเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเข้ามายังเกาหลีใต้ให้มากขึ้น
โดยในปี 1968 ก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาหลีใต้ทะลุถึง 100,000 คน ก่อนที่จะมีมีนักท่องเที่ยวต่อปีแตะถึง 1 ล้านคนได้สำเร็จในปี 1978
⭐วัฒนธรรมเกาหลีกับการท่องเที่ยวสากล
ในตอนแรก เกาหลีพยายามโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเป็นพิเศษ เช่นที่เขาคึมกังซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จับมือกันพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงปี 1998 ด้วย ก่อนที่เส้นทางเที่ยวดังกล่าวจะปิดตัวลงจากการที่ทหารเกาหลีเหนือยิงนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่เดินออกนอกเส้นทางล่วงล้ำเข้ามา
ในช่วงปี 2003 เกาหลีใต้เริ่มมีการพยายามโปรโมทประเทศให้ผู้คนมาท่องเที่ยวผ่านการส่งออกวัฒนธรรม K-pop ที่ค่อย ๆ เข้าไปมีชื่อเสียงในโลกตะวันตก ทำให้การท่องเที่ยวในระยะหลังตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพราะกระแส K-pop เป็นจำนวนมาก ทำให้การท่องเที่ยวของเกาหลีเป็นที่นิยมขึ้นมาได้ และดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลให้เดินทางเข้ามา
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ไทยเคยส่งทหารไปร่วมรบในช่วงสงครามเกาหลี ทำให้คนไทยไปเกาหลีได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านาน 90 วัน แต่ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเกาหลีไม่ค่อยจะสู้ดีนักเนื่องจากการอาศัยช่องโหว่จุดนี้ เข้าไปทำงานอย่างผิดกฏหมายในเกาหลีใต้
ทำให้มุมมองที่มีต่อคนไทยเปลี่ยนไปจนเกิดกระแสการเหยียดคนไทยโดยชาวเกาหลีบางกลุ่ม ตลอดจนมีความเข้มงวดในการตรวจคนเข้าเมืองเป็นพิเศษ ทำให้คนไทยบางส่วนโต้กลับด้วยการแบนเกาหลีกลับเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้น การที่จะผ่านตม.เกาหลีได้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่การเตรียมตัว ถ้าเราไม่ใช่ผีน้อยและเตรียมตัวเพื่อไปเที่ยวจริง ๆ แล้วมีหลักฐานรองรับชัดเจนตรวจสอบได้ การผ่านด่านตม.เกาหลีก็คงจะไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรมากมายนัก…

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา