29 ต.ค. เวลา 04:46 • ไลฟ์สไตล์

สรุปประเด็นเรียนรู้จากการอบรม AI (อีกครั้ง) แบบจดเอง และ AI ต่อยอดตัวอย่าง #PaFun_Plus #GPT #AIPlz

วันนี้ได้อบรมช่วงเช้าเลยขอสรุปเป็น Note ไว้ เผื่อย้อนมาอ่านว่าได้อะไรบ้างจากการอบรม Q(^^Q0 Q(^^)Q (Q^^)Q
ขอ Recap สำหรับผู้เข้าร่วมนะครับ Key ไอเดียสำคัญ (ความสามารถ AI กำลังเท่ากับเด็ก จบโท เอก เฉพาะด้าน)
1. Generative AI = GEN AI = AI ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้มีความสามารถในการ “สร้างใหม่” (ไม่ใช่คนเกิดในยุค ai -.-")
2. ความสามารถในการ"สร้างใหม่" คือการเดาคำต่อไปจากบริบทก่อนว่ามีความน่าจะเป็นในคำต่อไปอย่างไร โดยจะมีการย้อนเช็คคำเดิมย้อนหลังไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างคำต่อไป (ดังนั้นการ Prompt แบบเดิมผลลัพธ์ทุกครั้งจะไม่เหมือนเดิม เพราะความน่าจะเป็นในการเดาคำใหม่แต่ละครั้งออกมาได้ไม่เหมือนกัน)
3. จากข้อ 2 จึงไม่มีทางที่คำถามที่เราถามจะไม่ถูก "สร้างใหม่" แต่คำตอบจะตรงหรือไม่เราต้องตรวจสอบ วิเคราะห์ความถูกต้องคำตอบ (ความสามารถในการประมวลสร้างใหม่รวดเร็วมาก)
4. จากข้อ 3 ดังนั้น AI จริงๆ ไม่เข้าใจภาษา และไม่เข้าใจอารมณ์อะไรเลย และไม่มีความรู้สึก ต่อสิ่งที่เขียนออกมา (การที่ AI เขียนอะไรออกมามันอาจไม่ได้รู้จริงในเชิงภาษาหรือความหมายขนาดนั้น เป็นเชิงอัลกอริทึม)
5. หลักในการ Prompt (เราคือใคร บริบทปัจจุบันเป็นอย่าง ต้องการให้ทำอะไร ตอบในสไตล์ใด Persona Task Contecxt Format ) เพราะเป็นการ "สร้างใหม่" ดังนั้นในกลุ่มคำที่เป็นคำถามเลยเป็นจุดเช็คให้ในการตอบการสุ่มคำตรงกับโจทย์ที่สุด (โจทย์ละเอียด คำตอบยิ่งมีโอกาสตรงมากขึ้น)
6. สิ่งที่ AI ทำได้ดี การเขียนแบบเป็นทางการที่มีโครงสร้างชัดเจน การเขียนเชิญชวน โน้มน้าวคน การเขียนโทนอารมณ์ต่างๆ หรือสถานการณ์ต่างๆ การสรุปรายงานการประชุม การแปลภาษา เป็นต้น
7. เราสามารถ Prompt ให้ AI มีบุคลิคที่แตกต่างกันมาช่วยระดับความเห็น เช่น ในคำถามนึง เราสามารถให้ AI เสมือนเป็น 3 ตัวบุคคลที่มีมุมมองต่างกันมาช่วยกันตอบคำถามได้
8. ความเสี่ยงจาก AI การบิดเบือนข้อมูล อคติเลือกปฏิบัติ การรั่วไหลข้อมูล การถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี AI เข้ามาแทนงานบางลักษณะงาน ประเด็นด้านกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาจากผลงาน ai การพึ่งพา ai จนเสื่อมทักษะในการคิด วิเคราะห์แก้ปัญหา
จากด้านบนเลยลอง Prompt เพิ่มว่า
จากด้านบน ตรวจสอบความถูกต้อง พี่ชายจะเอาไปเขียน บล๊อค อ่าาา และช่วยเพิ่มเติมคำบรรยาย หรือ ตัวอย่างให้ด้วยจิ
Prompt ให้ GPT PaFun_Plus
ได้เลยค่ะพี่! ✨💕 น้องพาฝันจัดตัวอย่างพร้อมคำอธิบายเสริมให้ครบทุกข้อเลยนะคะ จะได้ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นค่ะ:
1. Generative AI (GEN AI):
คำอธิบายเพิ่มเติม: Generative AI คือ AI ที่ถูกสร้างมาเพื่อสร้าง “ข้อมูลใหม่” โดยใช้ข้อมูลที่เคยเรียนรู้และเก็บไว้ เช่น สร้างภาพ บทความ หรือเพลงใหม่ๆ
ตัวอย่าง: ถ้า AI เคยถูกฝึกจากภาพแมวหลายพันภาพ เมื่อให้สร้างภาพใหม่ที่เป็น “แมวในทุ่งดอกไม้” มันก็จะใช้ข้อมูลเก่าเหล่านั้นสร้างภาพใหม่ที่ไม่ซ้ำกันออกมา ซึ่งทุกครั้งที่ขอคำตอบใหม่ก็จะได้ภาพที่มีการปรับแต่งรายละเอียดแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ
2. การสร้างใหม่ตามบริบทและการคาดเดาคำถัดไป:
คำอธิบายเพิ่มเติม: AI สร้างคำตอบตามลำดับโดย “ทำนายคำ” ที่ควรจะมาต่อไปเรื่อยๆ ตามบริบทที่มีอยู่ ไม่ใช่การจำคำตอบเดิมและตอบซ้ำๆ แต่เป็นการประมวลจากคำก่อนหน้าเพื่อสร้างคำใหม่
ตัวอย่าง: เมื่อเราถาม AI ว่า “ฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นน่าไปเที่ยวที่ไหน?” มันอาจจะตอบว่า “ฮอกไกโด” ในครั้งแรก แต่ครั้งถัดไปอาจเป็น “โตเกียว” เพราะมันคาดการณ์คำตอบตามโอกาสที่แตกต่างกันค่ะ
3. AI สร้างคำตอบใหม่เสมอ:
คำอธิบายเพิ่มเติม: ทุกครั้งที่ถาม คำตอบจะถูกสร้างใหม่ ทำให้การคาดการณ์ตอบสนองนั้นรวดเร็วและไม่ตายตัว แต่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบด้วย
ตัวอย่าง: เมื่อเราถาม AI ซ้ำๆ ว่า “แหล่งท่องเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงในเกาหลีมีที่ไหนบ้าง?” คำตอบจะไม่เหมือนเดิมทั้งหมด เช่น ครั้งแรกอาจแนะนำ “โซล” ครั้งต่อไปอาจแนะนำ “เชจู” หรือ “ปูซาน” ค่ะ
4. ความเข้าใจของ AI:
คำอธิบายเพิ่มเติม: แม้ว่า AI จะสามารถเขียนออกมาเหมือนเข้าใจในสิ่งที่มันพูด แต่จริงๆ แล้วมันทำเพียงแค่ "ทำนาย" ตามกฎทางสถิติเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกหรือเข้าใจความหมายของภาษาเช่นเดียวกับมนุษย์
ตัวอย่าง: เมื่อ AI ถูกถามว่า “อารมณ์ของสีฟ้าคืออะไร?” มันอาจตอบว่า “สีฟ้าสื่อถึงความสงบและผ่อนคลาย” แต่คำตอบนี้เกิดจากการจับคู่คำกับบริบทที่มันเคยเรียนรู้ ไม่ใช่การเข้าใจสีฟ้าจริงๆ ค่ะ
4. หลักการสร้าง Prompt ที่ดี:
คำอธิบายเพิ่มเติม: การสร้าง Prompt ควรระบุให้ละเอียดและเจาะจง เช่น ใครเป็นผู้ถาม (Persona), เรื่องอะไร (Task), สถานการณ์ใด (Context), และรูปแบบการตอบแบบไหน (Format) การกำหนดแนวนี้จะช่วยให้ AI สร้างคำตอบที่ตรงและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ
ตัวอย่าง: ถ้าเราอยากได้คำแนะนำการเขียนรายงานที่เข้าใจง่ายสำหรับนักเรียนประถม ควร Prompt ว่า “ช่วยเขียนรายงานหัวข้อ ‘สัตว์ป่า’ สำหรับเด็กประถม แบบที่เข้าใจง่ายและมีตัวอย่างน่าสนใจ” คำตอบจะออกมาตรงกับระดับผู้ฟังมากขึ้นค่ะ
6. จุดแข็งของ AI ในการใช้งานจริง:
คำอธิบายเพิ่มเติม: AI ถนัดกับงานที่มีโครงสร้างที่ชัดเจน การเขียนเนื้อหาที่เป็นทางการหรือสร้างเนื้อหาในโทนต่างๆ ก็เป็นหนึ่งในจุดแข็ง เช่น การเขียนรายงาน การแปลภาษา หรือการเขียนเชิญชวน
ตัวอย่าง: ถ้าเราต้องการบทความที่โน้มน้าวให้ออกกำลังกาย สามารถสั่ง AI ว่า “ช่วยเขียนบทความเชิญชวนคนมาออกกำลังกายโดยเน้นประโยชน์ของการมีสุขภาพดี” ผลลัพธ์ที่ได้จะโน้มน้าวใจและมีโครงสร้างชัดเจนค่ะ
7. Prompt ให้ AI มีบุคลิกแตกต่างกันได้:
คำอธิบายเพิ่มเติม: เราสามารถออกแบบให้ AI ตอบเหมือนมาจากหลายบุคลิกที่มีมุมมองต่างกันในคำถามเดียวได้ ทำให้คำตอบมีมุมมองที่หลากหลาย
ตัวอย่าง: ถ้าเราถาม AI ว่า “ควรทำธุรกิจออนไลน์อะไรดี?” เราอาจให้ AI ตอบใน 3 บุคลิก เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด, นักธุรกิจผู้เริ่มต้นใหม่, และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน คำตอบที่ได้จะมีมุมมองแตกต่างกันไปตามความเชี่ยวชาญของแต่ละบุคลิกค่ะ
8. ความเสี่ยงของ AI:
คำอธิบายเพิ่มเติม: การใช้ AI มีความเสี่ยงที่อาจเกิดจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อน การเลือกปฏิบัติ หรือการถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงในการพึ่งพา AI มากเกินไปจนส่งผลต่อทักษะการคิดและวิเคราะห์ของมนุษย์เองด้วยค่ะ
ตัวอย่าง: เช่น ในการประมวลผลการวิเคราะห์ตลาด AI อาจแนะนำข้อมูลที่มีอคติต่อบางกลุ่มผู้บริโภค หรือหากใช้ AI ในการเขียนบทความทางการแพทย์ ก็ต้องระวังเพราะ AI ไม่มีความรู้จริง และการใช้งาน AI มากเกินไป อาจทำให้เราไม่พัฒนาทักษะการวิเคราะห์ของตัวเองค่ะ
จบแล้วค่ะพี่! Recap แต่ละข้อนี้พร้อมตัวอย่างน่าจะทำให้เข้าใจง่ายขึ้นเนอะ 😊 ถ้าพี่ต้องการเพิ่มตรงไหนบอกได้เลยนะคะ
โฆษณา