23 พ.ย. เวลา 16:44 • ศิลปะ & ออกแบบ

นักบุญเจอโรม ผู้ยังไม่แล้วเสร็จ : Saint Jerome in the Wilderness

นี่ก็คือภาพเขียนสำคัญอีกภาพของนักบุญเจอโรม นักบุญชราผู้ที่ถูกวาดไว้ในงานจิตรกรรมหลายต่อหลายชิ้น
ดูแล้วชอบไหมฮะ
หลายคนอาจสงสัยว่านี่รูปนักบุญหรือปิศาจกันแน่ ภาพก็ดูทึมทึบ แถมยังวาดไม่เสร็จ แบบนี้มันสวยตรงไหน
ขอเฉลยว่า มันสำคัญก็เพราะเป็นภาพของจิตรกรระดับยักษ์ของโลกคือ ลีโอนาร์โด ดาวินชี ผู้วาด โมนาลิซ่านั่นเอง แต่ก็เป็นภาพร่างที่ยังไม่เสร็จ ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าเหตุใดจึงเขียนไว้เพียงแค่นี้ ก็เลยทำให้เป็นภาพลึกลับภาพหนึ่งในโลก เพราะมันถูกวาดทิ้งไว้แล้วก็ไม่มีใครได้พบเห็น ไม่มีใครพูดถึง หายสาปสูญไปนาน จนวันดีคืนดีก็ถูกพบมาโดยบังเอิญ
มีเรื่องเล่าว่า ภาพนี้ถูกฉีกออกเป็นหลายส่วน ถูกพบทีละส่วน ส่วนแรกกลายไปเป็นชิ้นส่วนบนโต๊ะตัวหนึ่ง ชิ้นสองไปอยู่บนม้านั่งของช่างทำรองเท้าอีกคน เป็นต้น แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้ตอแหลเปล่า มันดูลึกลับเกินไป และไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดภาพนี้ก็มาถึงมือของพิพิธภัณฑ์ โดยมีผู้นำชิ้นส่วนที่ประกอบกันมาแล้วขายต่อให้กับโป๊ปปาปิอุสที่ 9 จนตกทอดมาให้เราได้มาชื่นชมกัน
นักบุญเจอโรมเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้มีคนเขียนภาพไว้หลายคน หลายภาพก็ดังอยู่ นักบุญผู้นี้เป็นบุคคลสำคัญเพราะได้ทำการแปลพระคัมภีร์ไบเบิลจากภาษาฮิบรูเป็นภาษาละติน จึงทำให้ศิลปินมักวาดรูปท่านกำลังเขียนหนังสืออยู่
สัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอันคือ มักจะมีรูปหัวกะโหลกวางไว้ข้างตัว หรือบางทีก็มีสิงโตอยู่ และรูปนี้ก็มีสิงโตหมอบอยู่ข้างๆด้วย เพราะมีเรื่องเล่ากันว่า มีอยู่วันหนึ่งท่านได้ไปเจอสิงโตบาดเจ็บเพราะมีหนามตำเท้า ก็เลยช่วยดึงหนามออก สิงโตก็รู้บุญคุณเลยกลายมาเป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์อยู่เคียงข้าง เป็นเพื่อนรักสัตว์โลกต่างสปีซีส์กันไป
ภาพที่ท่านเห็นนี้มีชื่อว่า Saint Jerome in the Wilderness ลักษณะกิริยาอาการของท่านเจอโรมเป็นสิ่งที่ชวนสะเทือนใจ มือขวาถือหินและกำลังนำมาทุบหน้าอกตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แสดงการลงโทษตนเพื่อไถ่บาปตามความเชื่อของคนยุคนั้น ในขณะที่สายตากำลังจ้องมองไปยังไม้กางเขนด้านขวาบน (อาจมองไม่เห็นจากรูป เพราะมันเลือนรางมาก) ด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยม แม้จะทุกข์ทนเพียงใด
ถึงจะเป็นภาพร่างที่ยังไม่เสร็จ แต่เราเห็นได้ว่าดาวินชียังคงไว้ลายศิลปินเอกไว้ รูปคุณตาเจอโรมหนังหุ้มกระดูกนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการแสดงความรู้ด้านกายวิภาคของศิลปินเอกผู้นี้ ลองสังเกตร่างกายใบหน้าท่าทางจะพบว่าลักษณะกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูกมีความสมจริงมาก เช่นเดียวกับใบหน้าที่ชวนเวทนาของชายชราผู้โหยหาความศรัทธาท่ามกลางความผิดบาปได้อย่างชวนสังเวชใจ เห็นไหมว่าศิลปินต้องศึกษากล้ามเนื้อบนใบหน้าอย่างถี่ถ้วนมากเพียงใดเพื่อให้ได้อารมณ์ชัดเจนล้นเหลือขนาดนี้
มาดูใบหน้ากันแบบชัดๆ เห็นกล้ามเนื้อชัดเจน สายตาท่านมองไปยังกางเขน ซึ่งรางเลือนไปแล้ว ตรงใกล้กันนั้นมีภาพร่างโบสถ์น้อยอยู่ https://www.museivaticani.va/content/museivaticani/en/collezioni/musei/la-pinacoteca/sala-ix---secolo-xv-xvi/leonardo-da-vinci--s--girolamo.html
นอกจากนี้แล้วลองสังเกตพื้นหลังของภาพนี้ดู มองใกล้ๆราวกับว่าท่านเจอโรมกำลังอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารหรือทะเลทราย แต่พอมองไปไกลด้านซ้ายก็พบว่าด้านหลังก็เป็นทิวทัศน์สวยงาม เป็นทะเลสาบกับภูเขาแบบเดียวกับพื้นหลังของโมนาลิซ่าเลย นอกจากนั้นถ้ามองไปด้านขวาจะเห็นโบสถ์น้อยน่ารัก
อันที่จริงภาพเขียนที่วาดยังไม่เสร็จของศิลปินดังนั้น มีคุณค่าสำคัญประการหนึ่ง คือใช้สำหรับศึกษาเทคนิควิธีการหรือเคล็ดลับการสร้างงานของศิลปินผู้นั้นได้อย่างดี เพราะจะยังคงทิ้งร่องรอยของกระบวนการ (Process) ในการวาดไว้ ซึ่งเราอาจไม่พบเจอในงานที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ลืมบอกไป ว่าเขาได้พบว่าในระหว่างการวาด ดาวินชีได้ใช้เทคนิคของการใช้นิ้วปาดวาดลงไปแทนพู่กันในบางส่วนของภาพ ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้พบลายมือตรงนั้นอยู่ อันนี้เป็นหลักฐานที่มีคุณค่าสำคัญ
1
ลองจินตนาการดูว่านี่ยังเป็นภาพร่างอยู่ หากวาดเสร็จจะสวยงามเพียงไร บุรุษชราหนังหุ้มกระดูกผู้นี้จะหล่อเหลาแค่ไหน
ยังไม่จบ เรื่องจิตรกรรมนักบุญเจอโรมที่วาติกันยังมีให้เล่ากันต่อ เพราะนอกจากภาพของดาวินซีแล้วยังมีภาพนักบุญเจอโรมอีกรูปที่เสร็จสมบูรณ์แต่ไม่ค่อยดังอยู่ในพิพิธภัณฑ์อีก เป็นจิตรกรรมท่านเจอโรมในวัยไม้ใกล้ฝั่ง (อันที่จริงทุกรูปของเขาก็เป็นไม้ใกล้ฝั่งทั้งนั้นแหละแต่รูปนี้ใกล้ฝั่งมากที่สุดแล้ว)
Communion of St Jerome วาดโดย Domenico Zampieri https://www.museivaticani.va/content/museivaticani/en/collezioni/musei/la-pinacoteca/sala-xii---secolo-xvii/domenichino--comunione-di-s--girolamo.html
ภาพนี้มีชื่อว่า Communion of St Jerome วาดโดย Domenico Zampieri โดยท่านเจอโรมอยู่ในสภาพที่จิตใกล้จะหลุดอยู่แล้ว กำลังถูกหามมา (แต่ก็ดูเหมือนลอยมาได้เหมือนกัน) เพื่อทำพิธีศีลมหาสนิทเป็นครั้งสุดท้าย โดยด้านหน้าของท่านคือนักบุญเปาโลในชุดสีส้มหัวเหม่งเป็นผู้ประกอบพิธี หากสังเกตดูจะพบว่าสิงโตผู้ซื่อสัตย์ยังคงติดตามมาจนถึงภาพนี้ด้วย
อารมณ์ของภาพแม้ว่าดูเศร้าสะเทือนใจต่อวาระที่กำลังจะมาถึง แต่ในขณะเดี่ยวกันก็แสดงถึงความศรัทธาอย่างมั่นคงจนกระทั่งช่วงสุดท้ายของชีวิต อบอุ่นไปด้วยการห้อมล้อมด้วยบุคคลซึ่งเคารพรัก
องค์ประกอบภาพให้พื้นที่กับส่วนบนไว้มาก เราจะได้เห็นท้องฟ้าสว่างผ่านช่องโค้งของประตู ซึ่งมีทูตสวรรค์ตัวน้อยๆโบยบินรอรับ นี่คือสารสำคัญที่ผู้วาดแสดงให้เห็นว่าท่านเจอโรมจะได้รับรางวัลสำคัญหลังจากนี้อีกไม่นาน นั่นคือการถูกรับไปสถิตอยู่กับพระเจ้าชั่วนิรันดร์
ภาพนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย เพราะเป็นหนึ่งในงานศิลปะชิ้นสำคัญที่ถูกนโปเลียนปล้นไปสมัยที่พระองค์บุกยึดอิตาลีและได้นำไปไว้ที่ปารีส แต่ในที่สุดก็ต้องคืนมาให้เมื่อเขาหมดอำนาจลง
นอกจากสองภาพนี้แล้ว ถ้าท่านอยากจะเห็นนักบุญเจอโรมอีก ก็มีภาพอื่นๆให้เห็นได้มาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพชายชราโทรมๆผู้น่าสงสารซึ่งมักจะเขียนหนังสือหรือถือกระโหลกให้เห็นอยู่ประจำ เห็นแล้วก็มักจะเดาไม่ยากว่านี่คือใคร ตัวอย่างสำคัญคืองานของคาราวัจโจซึ่งได้วาดคุณตาหัวล้านคนนี้ไว้งดงาม ฝากมีฝีมือขั้นสูงไว้ไม่แพ้ผู้ใด ซึ่งผมก็ได้เขียนถึงแล้วในตอนที่ไปชมหอศิลป์ Borgese ใครยังไม่ได้ไปอ่านก็แวะไปดูลิงก์ด้านล่างนี้ได้นะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา