24 พ.ย. เวลา 13:37 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ อัจฉริยะเรียนสนุก

”ไม่มีอะไรมาแทนที่การทบทวนเป็นประจำสม่ำเสมอได้แน่นอน ดังนั้น หากเราเรียนรู้ข้อมูลใดข้อมูลหนึ่งแล้วเราไม่เคยกลับมาทบทวนข้อมูลนั้นอีกเลย โอกาสที่เราจะจำและทำความเข้าใจได้นั้นมีต่ำมาก…สิ่งที่มีคุณค่าที่สุด คือ การย้อนกลับมาอ่านทวนข้อมูลเป็นประจำเสมอจนกว่าจะสามารถพูดให้คนอื่นฟังได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยภาษาของเราเอง เพราะถึงเรามีเทคนิคการจำดีแค่ไหนมีสมาธิแค่ไหนตอนรับข้อมูลแต่หากเราไม่ทบทวนบ่อยบ่อยเป็นประจำโอกาสลืมย่อมมีแน่นอน“
หนูดี วนิษา เรซ
ผู้เขียนได้ไปเรียนปริญญาโทด้านสมองและการเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพื่อเรียนรู้ในการใช้สมองให้เป็น และได้รวบรวมเอาเทคนิคต่างๆ ที่ผู้เขียนใช้สมัยเรียนทั้งที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาแบ่งปันให้เราทราบ
ผู้เขียนอธิบายว่าโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของสมองขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ 1.เราเข้าใจสมองของเราอย่างถูกต้องแท้จริง 2.มีความตั้งใจและพยายามในการพัฒนาอย่างแน่วแน่
ซึ่งผู้เขียนก็บอกไว้ว่าความฉลาดและความเป็นอัจฉริยภาพนั้นอยู่ในตัวของทุกคนมาตั้งแต่เกิดแล้วเราแค่ต้องรู้จักวิธีใช้มันให้ถูกต้อง การฝึกฝนและการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอสามารถทำให้สมองของเรามีประสิทธิภาพดีขึ้นได้อย่างมาก
เล่มที่ 42
ผู้เขียนบอกว่า “ระบบบันทึกความทรงจำระยะยาวของมนุษย์เกิดที่สมองส่วนที่เรียกว่า ฮิปโปแคมพัส (Hippocampus) โดยจะเปลี่ยนความทรงจำระยะสั้นให้เป็นความทรงจำระยะยาว ซึ่งจะทำงานในตอนที่เราหลับ ดังนั้นต่อให้เราเรียนเยอะท่องเยอะแค่ไหนระหว่างวัน หากเรานอนไม่เพียงพอในตอนกลางคืน ก็เท่ากับความพยายามสูญเปล่า เพราะเราจะจำได้น้อยมาก”
และผู้เขียนยังมีเทคนิคทำให้จำแม่นมาบอกด้วยว่า หากอยากจำเรื่องใดให้เราพุ่งความสนใจของเราทั้งหมดไปที่ข้อมูลนั้น และต้องสร้างประสบการณ์ทำซ้ำอย่างน้อยเจ็ดถึงสามสิบครั้งเพื่อสร้างเส้นใยในสมอง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านซ้ำหรือฟังซ้ำก็สามารถช่วยให้สมองจำได้นานขึ้น
และยังบอกอีกว่าสมองของเราทำงานได้ดีในช่วงสั้นๆ ประมาณ 50 ถึง 90 นาที ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของแต่ละคน หากครบแล้วให้เราพักไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแล้วมาอ่านต่อจะทำให้เราเรียนดีขึ้น
สำหรับการออกแบบรูปเล่ม ตัวอักษรภายในเล่มจะมีทั้งเล็กและใหญ่สลับกันไป แล้วแต่ว่าผู้เขียนอยากเน้นให้เราสนใจกับเรื่องใดเป็นพิเศษ ช่วงที่ตัวอักษรใหญ่รู้สึกอ่านง่ายสบายตาดีมาก แต่ก็แอบคิดว่ากินพื้นที่หน้าไปเยอะเนื้อหาก็จะมีน้อยลงนะ ส่วนช่วงที่ตัวอักษรเล็กก็เล็กเกินไปต้องเพ่งมอง
การพูดถึงประเด็นต่างๆ ของผู้เขียนที่เกี่ยวกับเทคนิคการเรียนรู้ก็ยังมีแบบแตะๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังสือที่ดี ให้ความรู้เหมาะสำหรับการพัฒนาตนเองได้ดี
เนื้อหาโดยรวมสามารถนำไปปรับใช้กับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นการเรียนในมหาวิทยาลัย ได้แง่คิดดี ๆ ที่ผู้เขียนสอดแทรกมาในบทต่าง ๆ ทั้งธรรมะและการวาวตัวที่ดี ทำให้รู้ว่าการเป็นคนเรียนดี ไม่จำเป็นจะต้องเรียนอย่างเดียวสามารถพักผ่อนสนุกสนานไปได้ด้วย
หากมีการวางแผนที่ดีเราก็สามารถใช้ชีวิตแบบที่ตนเองต้องการไปพร้อมกับการเรียนได้ ไม่ว่าจะท่องเที่ยวหรือทำสิ่งที่ตัวเองชอบไปพร้อมๆ กัน
ท้ายเล่มมีรีวิวของคนที่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ของผู้เขียนมาบอกเล่าความดีงามของหนังสือ 1 ในนั้นเป็นนักศึกษากฎหมายชั้นปีที่ 4 ที่นำเทคนิคของผู้เขียนไปใช้อ่านหนังสือแล้วมารีวิวว่าอ่านเล่มนี้แล้วทำให้ได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ในปีสุดท้าย ทำให้ได้เกียรตินิยมในปีที่จบการศึกษา และเรียนปริญญาโทก็ได้ A ทุกวิชา
ซึ่งหนังสือนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งที่ 3 มาตั้งแต่ปี 2556 ผมก็เลยอยากรู้ว่าปัจจุบันคนที่มารีวิวนั้นทำอะไรอยู่แล้ว เมื่อไป search ข้อมูลก็ทำให้รู้ว่าท่านสอบได้เป็นพนักงานอัยการไปแล้วครับ
ส่วนตัวคิดว่าหากได้อ่านเล่มนี้ตอนเรียนมันธยมหรือตอนมหาลัยจะเป็นประโยชน์มาก แต่พอมาอ่านเวลานี้หลังจากที่ได้อ่านหนังสือพัฒนาตนเองหรือเทคนิคการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ให้จำได้ดีจากเล่มอื่นมาเยอะเลยทำให้คิดว่าเล่มอื่นให้ข้อมูลเยอะกว่านี้ และคาดหวังว่าผู้เขียนจะให้ความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของสมองมากกว่านี้
แต่ผมก็จะนำเทคนิคการเขียนความเรียงแบบอเมริกันที่ผู้เขียนแนะนำไปปรับใช้ เช่น การเขียนประเด็นแล้วตามด้วย ข้อมูลสนับสนุนประเด็น และจะต้องมีการอธิบายพิสูจน์ให้เห็น ต้องมีการเริ่มต้นและสรุปอย่างเป็นทางการ และในย่อหน้าสุดท้ายต้องพูดและสรุปสิ่งที่เกริ่นไว้ในย่อหน้าแรก “tie the story together” (ผูกเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน)
ผมก็ติดตามผู้เขียนในช่อง youtube ตลอดนะครับ ให้ความรู้ด้านสุขภาพได้ดี เป็นประโยชน์กับการใช้ชีวิตมาก
สรุปให้ 3 ดาว ⭐️⭐️⭐️
ผู้เขียน : หนูดี วนิษา เรซ
เนื้อในพิมพ์ : 4 สี
จำนวนหน้า : ประมาณ 200 กว่าหน้า
ISBN : 9786169164500
หนังสือราคา 285 บาท

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา