28 พ.ย. 2024 เวลา 01:00 • ปรัชญา

เพราะความเสียใจ ทำให้เราเติบโต

ชีวิตคือความทุกข์ ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ในตอนแรก ชีวิตทุกข์ยังไง? มันคือความคิดของผมตอนที่ผมพึ่งผ่านเรื่องสนุกไปไม่นาน แล้วพึ่งมาเจอกับคำสอนนี้ และในอีกไม่กี่อึดใจ ผมจะรู้สึกทุกข์ตามที่ศากยมุนีได้บอก
เหมือนสังคมในปัจจุบันจะไม่อนุญาตให้เรามีความเสียใจ ไม่อนุญาตให้เรามีความทุกข์ เพราะเรามองว่าความทุกข์คือหนึ่งในบาปยิ่งใหญ่ที่ติดตัวเรา ยิ่งพวกเรารู้ว่าชีวิตนั้นสั้นกว่าที่คิด พวกเราเลยพยายามหาความสุขแทบเป็นแทบตาย
หลังจากที่ผมได้ฟังพอดแคสต์ของ The Secret Sauce เกี่ยวกับผู้บริโภคในอนาคต จากการวิจัยได้เห็นแล้วว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะไม่อยากทำอะไรที่ดูพัฒนาตัวเองเกินไป ผมหมายถึง การพัฒนาตัวเองที่ตัวเองไม่ได้เลือกทำ ผมชอบพัฒนาตัวเอง ผมไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาในการเรียนรู้ แต่คนอื่นอาจไม่คิดอย่างนั้น
ผู้บริโภคเริ่มมีความคิดของตัวเองที่ดูจริงแท้มากขึ้น (More Authentic) เริ่มยอมรับแล้วว่า เราไม่จำเป็นต้องเดินตามค่านิยมแบบเก่า ๆ ที่เรากังขา ค่านิยมที่สอนให้เราพัฒนาตัวเองโดยที่เราไม่ต้องการ จะถูกทำให้หายไปในไม่ช้า ผมว่าก็ฟังดูไม่เลวเหมือนกัน เพราะเราจะพัฒนาตัวเองไปทำไม ถ้าหากเราไม่ได้อยากพัฒนาตัวเองในตอนนี้?
ค่านิยมการพัฒนาตัวเองมันทำให้เราดีขึ้นกว่าเดิมได้ และทำให้เราเสียใจกว่าเดิมได้เช่นกัน ถ้าหากเราไม่ได้มองหรือไม่ได้ทำอย่างมีสติ ค่านิยมการพัฒนาตัวเองจะไม่อนุญาตให้เรามีความทุกข์ เพราะความทุกข์ (ตามแบบค่านิยมสุดโต่งนี้) คือตัวฉุดรั้งไม่ให้เรากลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิม สร้างความกดดันให้ไม่น้อยสำหรับคนที่อยากพัฒนาตัวเอง
จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้ามเลย หากเราอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม เราต้องอนุญาตให้เราเสียใจหรือได้เจอความทุกข์ ชีวิตจะไปมีความหมายอะไร หากเราต้องเจอแต่ความสุข? ความทุกข์กับความสุขเป็นเหมือนกับเหรียญที่มีสองด้าน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เรารู้จักความทุกข์ได้เพราะรู้จักความสุข เรารู้จักความสุขได้เพราะเรารู้จักความทุกข์ การสอนในคัมภีร์ลัทธิเต๋า หรือ เต้าเต๋อจิง ได้สอนเรื่องนี้ให้กับพวกเราเป็นอย่างดี
การอนุญาตให้เราเสียใจคือ การปลอบประโลมจิตใจที่ดีที่สุด เท่าที่ผมเคยทำมา ทุกครั้งที่ผมเสียใจ ผมอยากให้ใครสักคนมาปลอบประโลมผม แต่คนแรกที่ต้องเข้ามาปลอบคือ ตัวของผมเอง ผมกดดันตัวเองว่า เราที่เรียนศาสนาและการพัฒนาตัวเองทางด้านจิตวิญญาณ ควรปล่อยวางความเสียใจได้แล้ว แต่ความคิดนั้นไม่ได้สอนให้ผมปล่อยวาง แต่สอนให้ผมฆ่าความรู้สึกเสียใจที่เกิดขึ้น
การปล่อยวางไม่ได้เป็นการฆ่าความรู้สึกให้หายไป แต่เป็นการที่เราถือมัน, เห็นมัน และยอมรับมัน ความรู้สึกเสียใจไม่ได้หายไป จริง ๆ มันอยู่กับเรามาตลอด มันเป็นเรื่องที่ฟังดูไม่น่ารักเท่าไหร่ ที่เราจะฆ่าสิ่งที่อยู่กับเรามาตลอด การปล่อยวางจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องมากดดันตัวเองให้ปล่อยวาง ถ้าหากเรารู้สึกเสียใจ เราก็แค่ถือมัน, เห็นมัน และยอมรับมัน อย่าได้ปรุงแต่งอะไรไปมากกว่าความรู้สึกเสียใจ เพราะการโทษตัวเองหรือผู้อื่น จะมาจากการปรุงแต่งความเสียใจอีกที
ชีวิตคือความทุกข์ บางทีมันเป็นแบบนั้นมาตลอด และจะเป็นแบบนี้ตลอดไป พวกเราเลือกได้ว่าจะให้ชีวิตเป็นแบบไหน เหมือนกับผมแต่ก่อนที่เลือกว่าชีวิตเราต้องเจอกับความสุขและเป็นยอดนักปราชญ์ ผมในตอนนี้เลือกเป็นเนิร์ดธรรมดา ที่คุยกับคนอื่นรู้เรื่องก็พอ ชีวิตที่ได้เจอกับความสงบสุข คงเป็นชีวิตที่เรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ สำหรับผมที่เป็นคนคิดมาก การที่โดนบอกว่า มันโอเคที่จะรู้สึกเสียใจ มันทำให้ผมได้เป็นมนุษย์อย่างที่ผมควรเป็นจริง ๆ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา