แต่เพราะแบบนั้น ฉันเลยเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น
จากประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวในสังคม Social media ผมคิดว่าพวกเราให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า "ฉันคือใคร" มากพอสมควร ผมว่าบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ดีในการรู้จักตัวเอง แต่บางครั้ง มันคือแรงกดดันของสังคมที่บอกให้เราต้องดีกว่าเดิม
ผมผ่านประสบการณ์การออกตามหาตัวเองมาแล้วครับ โดนคนด่า โดนคนว่า หลงทางกับความคิดของตัวเอง ทิ้งความฝันที่เชื่อว่าตัวเองจะดีขึ้น และสุดท้ายก็เก็บมันขึ้นมาเดินต่อ ชีวิตตลอด 23 ปีของผม คือการเดินทางที่ไม่สิ้นสุด ตลอดการเดินทาง คนเรียกผมแตกต่างกันออกไป บ้างก็บอกผมว่า "นายคือเนิร์ด" บ้างก็บอกผมว่า "นายคือนักวาด" บ้างก็บอกว่า "นายคือนักเขียน" แต่ในตอนนั้นไม่มีคำพูดจากผมว่า " นายคือ... " เลย
ผมไม่รู้ว่าชีวิตตอนที่ผู้อ่านอายุ 19 ปี เป็นยังไง แต่ผมตอนอายุ 19 ปี ออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน เพราะมีปัญหาสุขภาพจิต จริง ๆ ปัญหามาจากการที่ลึก ๆ ผมไม่อยากกลับไปเรียนที่นั่นอีกแล้ว ไม่ใช่เพราะเรียนหนัก แต่เป็นเพราะ มันทรมาณที่อยู่ในสังคมแห่งนั้น
ผมอยากบอกว่า เพื่อนร่วมรุ่นของผม ไม่ได้เป็นคนที่แย่ พวกเขาเป็นพวกเขา ในตอนนั้น พวกเขาก็เป็นเด็กไม่ต่างจากผม เมื่อผมโตขึ้น ผมกลับมาคิดได้ว่า ทำไมเราต้องคาดหวังให้คนอื่นโตกว่าเราและแบกตัวเราขึ้นบ่าเขาด้วย? ผมยอมรับว่า สาเหตุที่ผมเลือกไม่เรียนต่อ เพราะผมติด Toxic filter ที่เคลือบไปแล้วว่า สังคมที่นั่นมันห่วยแตก และผมเกลียดที่นั่น
การตามหาตัวเองจึงเป็นเรื่องที่ผมต้องทำ ไม่งั้นผมจะอดตาย อดตายเพราะไม่มีเงินก็ยังพอเข้าใจได้ แต่อดตายเพราะไม่มีอาหารให้จิตวิญญาณ มันทรมาณมากกว่าสำหรับผม ถ้าจิตวิญญาณเราเต็มอิ่ม ต่อให้ตอนนี้ไม่มีเงิน มันก็จะมีแรงออกไปเรียนรู้ แต่ถ้าจิตวิญญาณเราท้องพร่องอยู่ ต่อให้เรากินข้าวจนท้องตึง เราก็จะเลือกนอนราบกับพื้น และไม่คิดจะออกไปเรียนรู้
ผมได้เจอกับทางของตัวเอง ผ่านการเจอกับคนอื่น ผ่านเรื่องดีและเรื่องแย่ ปริญญาบัตรเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นปริญญาบัตรชั้นยอดของผม ถึงจะไม่ได้มีเหมือนกับคนอื่น แต่ตอนนี้ผมกลับได้สิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมแล้ว
แต่ก่อน ผมไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น สิ่งที่สำคัญในการเลือกว่าจะเป็นอะไร คือเลือกด้วยการยอมรับผลที่ตามมา ผมไม่รู้ว่าเส้นทางของการเป็นนักเขียนบทความจะไปต่อยังไง แต่ผมชอบเขียนบทความและนั่งเรียนอะไรหลายอย่างในเน็ตหรือในหนังสือจริง ๆ ครับ ผมได้รู้ว่า "ผมคือ ธันวาที่เป็นคนคิดมาก" ไม่ใช่ ธันวาในแบบอื่น
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
