28 พ.ย. 2024 เวลา 04:51 • ปรัชญา

หรือเพราะว่าชีวิตคือความเจ็บปวด

ช่วงหลายวันมานี้ ผมได้เจอเรื่องราวของความเจ็บปวดจากคนอื่นมาครับ บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่สะท้อนความจริงข้างในตัวผม บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ผมไม่เข้าใจมันในตอนนี้ แต่แก่นของเรื่องทั้งหมดนั้นเหมือนกันคือ ชีวิตคือความเจ็บปวด แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ เหรอครับ? นั่นคือสิ่งที่ผมสงสัย
ชีวิตคือความเจ็บปวด มันมีความหมายและหน้าตาเป็นยังไงกันแน่? มันคงเป็นชีวิตที่เมื่อเราตื่นมา เราก็เจอความยุ่งเหยิงทันที ไปทำงานด้วยความงัวเงีย เจ้านายด่าทอว่าทำงานไม่ได้เรื่อง ค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่าย การหลอกลวงของเพื่อนที่เราคิดว่าสนิท สังคมที่มีค่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แต่ฐานเงินเดือนไม่สูงขึ้นตาม วัน ๆ หนึ่งที่เราหายใจเข้าออก มันเหมือนกับมีมีดมาปักหลังอยู่เรื่อย ๆ นี่จึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า ชีวิตคือความเจ็บปวด
สาเหตุที่ทำให้ชีวิตคือความเจ็บปวดคืออะไร? สาเหตุที่ว่าคือ ความผิดหวังซ้ำ ๆ ที่ทับถมในใจ ครับ ถ้าหากว่าเราผิดหวังบ้างเล็กน้อย ชีวิตก็คงดีกว่านี้ ต่อให้เราไม่ได้คาดหวังกับอะไรเลย เราก็ยังคงสร้างความคาดหวังนั้นอยู่ดี หรืออาจพูดได้ว่า สาเหตุที่ทำให้ชีวิตคือความเจ็บปวดคือ การพังทลายของความคาดหวังซ้ำ ๆ ติดต่อกัน ก็ได้ครับ
เป็นไปได้หรือเปล่าที่เราจะไม่ให้เกิดการพังทลายของความคาดหวังซ้ำ ๆ ? ผมศรัทธาว่า เป็นไปได้ครับ รากเดิมของพวกเราคงรู้ดีว่า ในตอนแรกที่เราบอกว่าไม่ได้คาดหวัง แต่เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี มันก็ไม่แปลกหรอกครับที่เราจะคาดหวัง ความรู้สึกที่ทำให้เราคิดว่าทุกอย่างอยู่ในควบคุม มันจะส่งผลให้เกิดการพังทลายของความคาดหวังซ้ำ ๆ
แล้วเราจะใช้วิธีการไหน เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกที่ว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเรา? วิธีการที่ว่าคือ การกลับมายังปัจจุบัน ครับ เราเรียกว่า Mindfulness นี่เป็นวิธีการที่ผมฝึกแล้วได้ผลดีครับ
  • 1.
    ​หาพื้นที่เงียบ ๆ สักที่ ที่ไม่มีผู้คน
  • 2.
    ​นั่งลงให้หลังไม่งอ ขาทั้งสองข้างงอเข้าใกล้ลำตัว (ถ้าหากคุณนั่งพื้น คือนั่งท่าขัดสมาธิ)
  • 3.
    ​มือวางยังไงก็ได้ตามแต่สะดวกตอนนั้น
  • 4.
    ​หลับตา สูดลมหายใจเข้า-ออก
  • 5.
    ​เฝ้ามองลมว่าเข้าและออกเป็นอย่างไร หายใจสั้นหรือหายใจยาว
  • 6.
    ​จดจ่อกับลมที่ผ่านร่างกาย แม้ว่าเราจะมีความคิดแทรกเข้ามา ก็ไม่เป็นไร
มันคือวิธีการที่ผมทำแล้วส่งผลดีกับตัวเองครับ ผมอยากให้ผู้อ่านลองไปปรับใช้ตามแบบของตัวเอง มันมีวิธีการ Mindfulness ที่หลากหลายมาก ขอให้ปรับไปตามความเหมาะสมของตัวเองนะครับ อันที่จริง มันมีวิธีการ Mindfulness แบบของพุทธศาสนาเยอะมากครับ ว่าง ๆ ผมจะลองเขียนดูนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา